ผู้รักษาสุดแกร่ง - บทที่ 385 หนึ่งเข็ม
ร่างกายของหยวนเซี่ยวเฉียงถูกเศษกระจกบาด ในตอนที่เขาเห็นฉินจุนนำเข็มเงินไปฝังที่ศีรษะของเฉินตี้หาวเขาก็รู้สึกชาๆบนหนังศีรษะของเขา แต่เขาก็กัดฟันพูดออกมาว่า
“ไอเจ้าลูกหมา คนอย่างแกนะเหรอจะมาฆ่าฉัน! ฉันไม่เชื่อ…”
ควัก!
ไม่ทันรอให้หยวนเซี่ยวเฉียงพูดจบ ฉินจุนก็ปาเข็มที่อยู่ในมือของเขาออกไป เข็มปักเข้าไปที่ตรงกลางหน้าผากของหยวนเซี่ยวเฉียง
จึก!
หยวนเซี่ยวเฉียงกระอีกเลือด ตาลอย และเสียชีวิตในทันที
เหลยหงตกใจเป็นอย่างมาก เธอรีบวิ่งเข้าไปตรวจสอบ จับไปที่คอของหยวนเซี่ยวเฉียงเพื่อวัดชีพจร เป็นอย่างที่คิดเขาตายลงไปแล้ว
เมื่อเธอมองเห็นเข็มเงินที่ปักอยู่ตรงกลางคิ้วของหยวนเซี่ยวเฉียง รูม่านตาของเหลยหงก็หดตัวลง ความรู้สึกหวาดกลัวก็เกิดขึ้นมา
คุณฉิน เขาสุดยอดจริงๆ
ก่อนหน้านี้เหลยหงเคยได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลจากพี่ฉวก เขาเล่าให้ฟังว่าฉินจุนเข้าไปแย่งปืนมาด้วยมือเปล่าและใช้แรงบีบจนปืนผิดรูป นี่เป็นสิ่งที่พี่ฉวกเห็นมากับตาตัวเอง
นี่มันเพียงพอที่จะบอกได้ว่าคุณฉินไม่ใช่คนธรรมดา เขาไม่ใช่แค่หมอธรรมดาทั่วไปเท่านั้น
วันนี้เธอได้มาเห็นฝีมือของฉินจุนด้วยตาของเธอเอง เหลยหงตกใจมาก แค่เข็มเงินอันเล็กๆก็สามารถคร่าชีวิตคนได้ นี่มันสุดยอดจริงๆ
ความเร็ว ความแข็งแกร่ง และความแม่นยำนั้นเหนือกว่าปืนพก
คนแบบนี้ถ้าจะฆ่าใครสักคนมันไม่ง่ายเหมือนการหยิบของออกจากกระเป๋าหรอกเหรอ?
เมื่อเห็นหยวนเซี่ยวเฉียงตายไป เฉินตี้หาวก็เริ่มหวาดกลัวมากขึ้น ขาทั้งสองข้างของเขาอ่อนแรงแทนจะยืนไม่ไหว
เหลยหงพูดออกมาว่า “เฉินตี้หาว นายเห็นชัดแล้วใช่ไหม? ถ้าหากนายคิดที่จะขัดขืนกับคุณฉิน จุดจบของนายมันคงจะอนาถมากกว่านีเ”
เฉินตี้หาวรีบพยักหน้าทันที ตอนแรกเขาก็ไม่ได้คิดเรื่องอะไรกับตุ่มเม็ดเล็กๆที่ขึ้นอยู่บนหน้าผากของเขามากมายอะไร
เขาคิดว่ามันเป็นแค่สิว กลับไปหาหมอจีนสองสามคนเพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ บางทีมันอาจจะดีขึ้นก็ได้
แต่เมื่อสักครู่ในตอนที่เขาเห็นฉินจุนใช้เข็มเงินในการฆ่าคน ฉินจุนคนนี้น่ากลัวจริงๆ และก็ไม่ใช่คนที่จะไปยั่วยุได้
ฉินจุนเดินมาด้านหน้าของเฉินตี้หาว และมองไปที่มือที่ถูกมีดปักอยู่บนโต๊ะ
จับข้อมือด้วยมือซ้าย และดึงมืดออกด้วยมือขวา
ชึก!
เฉินตี้หาวกัดฟันแน่น แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรมากนักแต่รู้สึกหนาวๆเล็กน้อย
และเมื่อเขามองลงไปที่ข้อมือที่ถูกฉินจุนจับเอาไว้ เขาก็เห็นว่าตรงนิ้วชี้และนิ้วกลางของเขามีเข็มฝังอยู่ นั่นเป็นสาเหตุให้เขาไม่รู้สึกอะไร
พูดตามหลักการแล้ว หลังจากที่ดึงมืดออกมาจากหลังมือมันจะต้องมีเลือดพุ่งออกมาเป็นปกติ
แต่ในตอนที่ฉินจุนดึงมืดออกมานั้น เฉินตี้หาวไม่มีความรู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย
แถมฉินจุนยังใช่การฝังเข็มในการห้ามเลือดให้เขาอีกด้วย
“เมื่อออกไปแล้วก็ไปพันแผล แค่นั้นก็ไม่มีปัญหาแล้ว”
เฉินตี้หาวรีบพูดออกมาด้วยความเคารพ “ขอบคุณคุณฉินมาก ขอบคุณพี่หง!”
เหลยหงพยักหน้า จากนั้นเธอก็มองไปที่เจียงนานา “คุณฉิน แล้วเธอหละ?”
สีหน้าของเจียงนานาขาวซีด เธอถอยหลังสองสามก้าว การแสดงออกบนใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“อย่า อย่าฆ่าฉัน หลินหลิน หลินหลินข่วยฉันด้วย!”
จู้หลินหลินขมวดคิ้ว อย่างไรเสียเจียงนานาก็เป็นเพื่อนของเธอ ถึงแม้ว่าวันนี้เธอจะทำร้ายตนเอง แต่ว่าเรื่องราวดีๆที่เคยผ่านมามันก็ยังอยู่
จู้หลินหลินดึงแขนของฉินจุนและพูดออกมาว่า “พี่เสี่ยวจุน ปล่อยเธอไปเถอะ!”
ฉินจุนพยักหน้าและพูดออกมาว่า “รีบไปซะ”
เจียงนานาวิ่งออกไปทันทีโดยไม่คิดอะไรทั้งนั้น การที่เธอถูกไว้ชีวิตในครั้งนี้ ในชีวิตเธอคงไม่มีวันลืมมันอย่างแน่นอน
หลังจากที่เจียงนานาจากไปแล้ว เหลยหงก็ส่งให้คนของเธอพาเฉินตี้หาวไปโรงพยาบาล ฉินจุนเองก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นต่อ เขาพาจู้หลินหลินกลับไปส่งที่บ้าน
ส่วนเรื่องที่จู้หลินหลินขาดงเนทุก เหลยหงก็ได้ช่วยเหลือเธอเรียบร้อยแล้ว
หลังจากที่ออกมาจากร้านคาราโอเกะ เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่มันเหลือเชื่อเกินไป
เธอคนนั้นคือเหลยหงเลยนะ!
ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นคงตงไห่ แต่เธอก็เคยได้ยินชื่อเสียงของเหลยหง เหลยหงคนนี้เป็นผู้มีอิทธิพลในเมืองหลวง
“ทำไมพี่ถึงรู้จักกับเหลยหงหละ?”
เมื่อจู้หลินหลินพูดจบ จู่ๆเสียงของเหลยหงก็ดังมากจากด้านหลัง
“คุณฉินเป็นคนช่วยชีวิตคนช่วยชีวิตฉันไว้”
ทั้งสองคนหันหลังกลับไปพร้อมกัน ที่แท้เหลยหงก็ไล่ตามพวกเขามา หลังจาดที่เธอจัดการเรื่องของเฉินตี้หาวเรียบร้อยแล้ว เธอก็รีบเดินตามมาเพื่อมาส่งฉินจุน
“คุณฉินเขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตฉันในตอนที่ฉันอยู่ที่โรงพยาบาล คุณจู้ ถ้าหลังจากนี้คุณมีเรื่องอะไรเดือดร้อนอีกหละก็สามารถติดต่อฉันได้โดยตรงเลยนะ”
จู้หลินหลินพยักหน้าและตอบกลับไปอย่างสุภาพ “ขอบคุณพี่หงมากเลย”
“พี่เสี่ยวจุน บริษัทของฉันยังมีเรื่องที่ต้องจัดการ ฉันขอตัวกลับก่อนนะ”
เหลยหงเพิ่งจะให้การช่วยเหลือทางด้านเงินทุนกับเธอ ดังนั้นเธอจึงต้องรีบไปจัดการให้เรียบร้อย
หลังจากที่จู้หลินหลินกลับไปแล้ว เหลยหงก็ยังคงเดินตามฉินจุนมา “คุณฉิน คุณจะไปไหร ฉันไปส่งคุณเอง”
ฉินจุนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “งั้นไปโรงเรียน ไปรับน้องสาวของฉันไปทานข้าว”
โรงเรียนของญาญ่าเป็นโรงเรียนปิด อาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดถูกจัดเตรียมไว้โดยทางโรงเรียน การจัดการแบบนี้เป็นตัวช่วยอย่างมากในการเจริญเติบโตของเด็กๆ แต่อย่างไรก็ตามผู้ปกครองสามารถเข้าไปเยี่ยม พาลูกหลานของตัวเองออกมาทานข้าว หรือเดินเล่นได้บางครั้งบางคราว
เหลยหงพยักหน้า โรงเรียนห่างจากที่นี่ไม่ไกล ไม่จำเป็นต้องขับรถ เหลยหงเดินไปส่งฉินจุน
ฉินจุนเป็นคนที่รูปร่างสูง ส่วนทางด้านของเหลยหงเองในวันนี้เธอใส่รองเท้าส้นสูงทำให้ส่วนสูงของพวกเขาไม่ต่างกันมาก
เหลยหงเองก็เป็นคนที่มีรูปร่างสูงอยู่แล้ว กระโปรงสั้นสีดำทำให้เห็นผิวหนังที่เนียนขาวของเธอ
ริมฝีปากสีแดงเหมือนไฟและดูสะดุดตามาก
ผมสั้นของเธอทำให้เห็นใบหน้าที่อมชมพู เบ้าตาลึก จมูกโง เต็มไปด้วยความงาม
ในบรรดาผู้หญิงที่ฉินจุนรู้จัก เหลยหงเป็นคนที่มีอายุค่อนข้างมาก ปีนี้ก็น่าจะราวๆ 30 ปี มีความเป็นกุลสตรีสูง รวมกับสถานะที่พิเศษ ทำให้มีความรู้สึกไม่เหมือนกับผู้หญิงเท่าไป
เมื่อเหลยหงมาเดินอยู่ข้างๆฉินจุน มันก็มีออร่าของผู้มีอำนาจแผ่ออกมา แต่ว่าตอนนี้เธอก็ดูสงบเสงี่ยมกว่าปกติมาก หมือนกับสตรีผู้สูงศักดิ์ที่อยู่เคียงข้างฉินจุน
“คุณฉิน เมื่อสักครู่ฉันเห็นฝีมือของคุณก็รู้ได้ทันทีว่าคุณต้องสุดยอดมากๆแน่ คุณเรียนกับใครมาเหรอ?”
เหลยหงอดไม่ได้จึงถามออกมา ความสามารถต่างๆเหลยหงเคยเห็นมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกองกำลังพิเศษ ทหารรับจ้าง นักฆ่าชั้นนำของโลก และคนที่มีความสามารถทุกประเภท
แต่สำหรับคนอย่างฉินจุนที่สามารถช่วยชีวิตคนได้ จะฆ่าคนก็ได้ แบบนี้เธอเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก!
ฉินจุนยิ้มออกมา “พูดมาเธอก็ไม่เชื่อ เมื่อก่อนเคยดูข่าวไหม คนที่เป็นแพทย์หลวงในราชสำนัก นั่นแหละอาจารย์ของฉันเอง”
เหลยหงตกใจอยู่ครู่หนึ่ง
เย่ซวนหยวนตเคยดูวีดีโอเหินเวหาที่โด่งดังนี้อยู่ เหลยหงก็เคยได้ยินมาบ้าง แต่เธอไม่ได้คิดอะไร
เพราะเรื่องนั้นมันอาจไม่มีอยู่จริงหรือเป็นเรื่องหลอกลวง อาจจะตัดต่อ หรือเป็นตัวอย่างหนัง ดูไปก็เสียอินเตอร์เน็ตเปล่าๆ เหลยหงจึงไม่ได้สนใจมันนัก
แต่ฉินจุนพูดออกมาแบบนี้ เธอเองก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย
“คุณฉิน หรือว่า…..อาจารย์ของคุณจะมีความสามารถในการเหินเวหาเหรอ?”