ผู้รักษาสุดแกร่ง - บทที่ 411 ดวลเหล้า
หลังจากที่เหล่าไป๋อาเจียนออกมาแล้ว ท่าทางมั่นใจของเขาก็กลับมา
ฉินจุนตอบ ” ได้สิ ”
เมื่อเห็นฉินจุนตอบแบบนั้น ทุกคนก็มองเขาด้วยความชื่นชมทันที
คนพวกนี้เก่งกันนักหรือไง ?
พวกเขารู้ดีว่าเหล่าไป๋ดื่มเหล้าได้เยอะแค่ไหน ถึงขนาดทำให้เหล่าไป๋ดื่มจนต้องวิ่งไปอาเจียนที่ห้องน้ำได้ นี่มันพลังอะไรกัน ?
แถมฉินจุนก็ยังดื่มเหล้าชนิดเดียวกันและดื่มมากกว่าเหล่าไป๋ถึงสองแก้ว ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉินจุนกลับนั่งอยู่ตรงนี้ไม่ขยับ และเขาไม่เข้าห้องน้ำเลย เป็นคนที่คอแข็งมากจนน่ากลัวจริงๆ
เหล่าไป๋สั่งเบียร์มาเพิ่มอีกหกเหยือก และดื่มกับฉินจุนคนละสามแก้ว
เหล่าไป๋หยิบเหล้าขาวขึ้นมาหนึ่งแก้วถือไว้เหนือแก้วเบียร์ และพูดกับฉินจุน
” ผมขอดื่มให้คุณอีกสามแก้ว แก้วแรกเป็นเด็บส์บอมบ์ ”
หลังจากพูดจบก็ปล่อยแก้วเหล้าลงไป เหล่าไป๋ยกแก้วขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมด
คนที่เคยดื่มถึงจะรู้ว่าการดื่มค็อกเทลแบบนี้มีฤทธิ์ค่อนข้างแรง มันให้ความรู้สึกเหมือนกับดื่มเหล้าขาวทั้งเหยือก
เมื่อเหล่าไป๋ดื่มรวดเดียวหมด ทุกคนก็พากันปรบมือให้เขาทันที
นี่สิเยี่ยม คอแข็งของจริง!
คนมากมายที่ท้าดื่มเด็บส์บอมบ์ต่างก็แพ้กันหมด ใครดื่มมันได้ถือว่าสุดยอดมาก
ฉินจุนยิ้ม เขาเองก็ไม่เปลี่ยนใจในคำท้าและดื่มไปหนึ่งแก้ว
เหล่าไป๋หยิบแก้วใบเล็กขึ้นมาสามแก้วที่ด้านในมีเหล้าขาวแต่ละชนิด ได้แก่เหล้าเหมาไถ เหล้าชิงเซียง และเหล้าหนงเซียง
” แก้วที่สองเป็นเด็บส์บอมส์แบบอัพเกรด เรียกว่าบุษบาสามเศียร ”
จากนั้นเหล้าขาวสามแก้วก็หล่นลงไป และเหล่าไป๋ก็ยกแก้วที่สองขึ้นมาดื่มหมดรวดเดียว
ตอนที่ดื่มแก้วที่สองเห็นได้ชัดว่าความเร็วลดลงอย่างมาก บุษบาสามเศียรนั้นแรงมาก ไม่เพียงแต่มีความรู้สึกมึนหลังจากดื่ม หลักๆแล้วมันเป็นเหล้าที่กลืนยาก มันฉุนมากและรสชาติก็ซับซ้อนมาก ดังนั้นจึงต้องฝืนดื่มมันลงไป
หลังจากที่ดื่มแก้วที่สองหมดเหล่าไป๋ก็วางแก้วลงและชี้ไปที่ฉินจุน
” เชิญเลยน้องฉิน ”
เหตุผลที่ต้องรอให้ฉินจุนดื่ม หนึ่งก็เพราะกลัวว่าฉินจุนจะโกง และก็เพื่อให้ได้พักหายใจสักหน่อย เหล้าแก้วนี้ทำให้เขาแทบจะอาเจียนออกมา เขาถือโอกาสตอนที่ฉินจุนดื่มรีบกินอาหารเพื่อกดมันไว้
ฉินจุนยกแก้วที่สองขึ้นมาและดื่มด้วยความเร็วเท่าเดิมอย่างไม่สะทกสะท้าน เขาดื่มหมดแก้วได้ในไม่กี่อึก
เหล่าไป๋เห็นว่าสีหน้าของฉินจุนไม่เปลี่ยนไปเลย ในใจของเขาก็เริ่มรู้สึกตื่นตระหนก
แต่ถึงอย่างไรเขาก็อยู่ในวงการนี้มาหลายปีแล้ว และไม่ว่าคู่ต่อสู้แบบไหนเขาก็เคยเจอมาทุกรูปแบบแล้ว ฉินจุนอาจจะเป็นคนดื่มเร็ว บางทีการดื่มเร็วก็ดูเหมือนเก่งมาก แต่หลังจากเหล้าหมดเขาก็จะเมาทันที
ยังไม่มีใครสามารเอาชนะท่าไม้ตายสามแก้วของเขาได้!
” คอแข็งดีนี่ ต่อแก้วที่สามเลย ”
เหล่าไป๋หยิบแก้วเล็กออกมาห้าใบและรินเหล้าวิสกี้แต่ละชนิดลงไป
ปริมาณแอลกอฮอล์และความฉุนของวิสกี้นั้นสูงกว่าเหล้าขาวมากๆ มันใช้กรรมวิธีบ้านๆในการหมักและต้านทานความหนาว ดังนั้นมันจึงมันแรงมาก
วิสกี้ชนิดต่างๆ ห้าแก้วถูกผสมกับเบียร์ เด็บส์บอมส์ช็อตนี้ค่อนข้างแรงมาก
” แก้วที่สาม พลังทั้งห้าแห่งราชวงศ์เฉา เชิญเลยน้องฉิน ! ”
เหล่าไป๋สูดหายใจลึกๆ หนึ่งครั้ง คราวนี้เขาบีบจมูกแล้วเทเหล้าเข้าปากอย่างรวดเร็ว
ช่วยไม่ได้จริงๆ ถ้าหากเขาไม่บีบจมูกเกรงว่าจะต้องอาเจียนออกมาแน่
แต่ถึงแม้จะทำอย่างนั้นเหล่าไป๋ก็ทำได้แค่กลืนลงไปทีละนิด ทุกๆ คำของเขาทรมานราวกับกลืนลูกไฟลงคอ
ในที่สุดก็ใช้เวลาไป5-6นาทีในการดื่มเหล้าแก้วนี้ให้หมด
เหล่าไป๋เซนิดหน่อยและยืนไม่ค่อยอยู่ แต่ก็ยังสามารถดึงตัวเองให้กลับมายืนนิ่งได้
ฉินจุนยิ้มบางๆ และเทเหล้าแก้วนั้นเข้าปาก เขากระดกไม่กี่ที่ก็หมดแก้ว
หลังจากนั้นฉินจุนกล่าวว่า
” พี่เหล่าไป๋คอแข็งมาก ครั้งนี้พี่ดื่มให้ผมสามแก้ว ผมขอดื่มให้พี่หนึ่งแก้ว ”
หลังจากพูดจบ ฉินจุนก็ขอเหล้าแรงๆเก้าชนิดจากบาร์ ประกอบด้วยเหล้าขาว วิสกี้ เตกีล่า และเกลนฟิดดิช
แก้วเหล้าจำนวนเก้าใบถูกเทลงในแก้วเบียร์ทั้งหมด
ฉินจุนยิ้มพร้อมกับเอ่ยว่า ” แก้วนี้เรียกว่า เก้ารวมเป็นหนึ่ง เชิญครับพี่ไป๋ ”
เมื่อเหล้าแรงทั้งเก้าชนิดถูกผสมเข้าด้วยกัน กลิ่นแอลกอฮอล์แรงๆ จะออกมาผสมกับกลิ่นพิเศษบางอย่างที่มีเอกลักษณ์
เหล้าพวกนี้ต่างก็มีจุดเด่นของตัวเอง และเมื่อนำมารวมกันแล้วจะแรงกว่าดื่มเดี่ยวๆ มาก
เดิมทีก็คิดว่าเด็บส์บอมบ์ทั้งสามแก้วของเหล่าไป๋นั้นแรงมากพอยู่แล้ว แต่ไม่คาดคิดเลยว่าเก้ารวมเป็นหนึ่งของฉินจุนจะแรงกว่าเป็นเท่าตัว
การคำนับเหล้ากลับให้อีกฝ่ายแบบนี้โหดมากมาก ประมาณว่าเก่งมากไม่ใช่หรอ คอแข็งนักใช่ไหม คุณดื่มให้ผมหนึ่งแก้ว ผมไม่เมา ต่อไปก็เป็นตาผมเอาคืนคุณบ้าง
ฉินจุนหยิบแก้วเหล้าเก้ารวมเป็นหนึ่งนั้นขึ้นมา แล้วกระดกเข้าไปในปากอย่างต่อเนื่องเหมือนกับดื่มน้ำ
เพื่อนนักเรียนที่อยู่บริเวณนั้นแค่ได้กลิ่นก็รู้สึกเมาแล้ว นี่มันพลังอะไรกันเนี่ย! เก่งเกินไปหรือเปล่า?
ถ้าลองนับดูแล้วน่าจะดื่มไปได้สองลิตรแล้วมั้ง?
ถ้าเกิดเป็นคนธรรมดาตอนนี้ก็คงจะเป็นโรคพิษสุราเรื้อรังไปแล้ว
หลังจากที่เหล้าเก้ารวมเป็นหนึ่งลงไปอยู่ในท้องของฉินจุน ใบหน้าของเขาขึ้นสีแดง แต่ก็ไม่ได้เหมือนคนเมา
แม้ว่าบนใบหน้าของเขาจะแดงขึ้นมานิดหน่อย แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเมาเลยสักนิด ราวกับคนไม่ได้ดื่มเหล้า เวอร์เกินไปหรือเปล่า?
ดวงตาของเหล่าไป๋เบิกกว้าง เขาฝืนหยิบแก้วเหล้าเก้ารวมเป็นหนึ่งขึ้นมา และค่อยๆ เทมันลงในปากอย่างช้าๆ
ทั้งร้อน ทั้งฉุน เหมือนกับว่ารสชาติของมันแทรกซึมไปทั่วทั้งโพรงสมอง
แหวะ !
พึ่งดื่มไปได้แค่อึกเดียวเหล่าไป๋ก็ถึงกับอาเจียนออกมา เขาเอนหลังลงไปและสลบไปบนเก้าอี้
เมื่อทุกคนเห็นแบบนั้นก็ต้องตกใจ
” เฉินหยวน เธอหลอกพวกเราใช่ไหม แฟนเธอคอแข็งขนาดนี้ แต่เธอกลับบอกพวกเราว่าเขาคออ่อน ? ”
” ใช่ นายจะโหดเกินไปแล้ว โชคดีที่เมื่อครู่ฉันไม่ได้ดื่มด้วย น้องฉิน นายดื่มกับพวกเราไม่ได้หรอก ! ”
” แม้แต่เหล่าไป๋ก็ยังไม่ใช่คู่ประมือ ต่อไปนายก็คงจะเป็นเทพสุราของพวกเราแล้วหละ ”
” …… ”
เฉินหยวนกระตุกมุมปาก จริงๆ แล้วเธอเองก็ไม่รู้ว่าฉินจุนจะสามารถดื่มได้มากขนาดนี้ เธอฝืนหัวเราะสองสามครั้งเบาๆ จากนั้นเธอก็ใช้เท้าเตะฉินจุนอยู่ใต้โต๊ะอย่างเงียบ ๆ และกระซิบ
” ดูไม่ออกเลยนะ นายคอแข็งขนาดนี้เลยหรอ ? ”
ฉินจุนหัวเราะเบาๆ ” แน่สิ ขากลับฉันยังขับรถไหวด้วยนะ ”
เฉินหยวนจ้องฉินจุนเขม็ง เธอไม่ให้เขาขับแน่นอน ดื่มแล้วยังขับรถมันวอนหาเรื่องใช่ไหม?
อันที่จริงแล้วในขณะนั้นฉินจุนสามารถขับรถได้จริงๆ และถึงแม้ว่าจะทำการตรวจเลือดหรือเป่าแอลกอฮอล์ ก็ไม่มีทางตรวจเจอว่าเขาดื่มเหล้ามา
ฉินจุนนั้นฝึกวรยุท์ตั้งแต่เด็ก การไหลเวียนเลือดของเขาจึงเร็วมากๆ ปริมาณแอลกอฮอล์แค่นี้ ในเวลาไม่ถึงสิบนาทีก็จะถูกขับออกจากร่างกายของเขาจนหมด
ท้าดวลเหล้ากับฉินจุน ต่อให้คุณเป็นพวกดื่มเป็นพันแก้วแล้วยังไม่เมาก็ตาม เขาก็ทำให้คุณดื่มจนอาเจียนเป็นเลือดได้เหมือนกัน
โต้วหมิงหยางและเติ้งเจียชำเลืองมองกันและกัน และในแววตาก็แสดงความอับจนหนทางออกมา แม้แต่เหล่าไป๋ก็ยังสู้ไม่ไหว ดูท่าคนนามสกุลฉินผู้นี้จะดื่มเก่งมากจริงๆ ไม่มีทางสู้ไหว แม้กระทั่งพวกเขาเองก็ไม่กล้าดวลเหล้ากับฉินจุนแล้ว
ไม่ต้องพูดถึงอย่างเลย เพียงแค่เหล้าเก้ารวมเป็นหนึ่งแก้วนั้นแก้วเดียวพวกเขาก็รับไม่ไหว
ทันใดนั้นเติ้งเจียก็พูดขึ้น “นายน้อยโต้ว ผมจำได้ว่าคุณผสมเหล้าเป็น อยากแสดงฝีมือสักหน่อยไหม? เฉินหยวนยังไม่ได้ดื่มเหล้าเลยสักแก้ว ชงมาเรียกน้ำย่อยสักแก้วเถอะ? ”
เติ้งเจียรู้ว่าโต้วหมิงหยางเคยเรียนบาร์เทนเดอร์สมัยที่อยู่ต่างประเทศมาก่อน ดังนั้นเขาจึงตั้งใจอยากให้โต้วหมิงหยางแสดงให้ทุกคนเห็น จะได้บัฟฉินจุนด้วย เพราะเขาชักจะโดดเด่นมากเกินไปแล้ว
เมื่อโต้วหมิงหยางได้ฟังเช่นนั้น เขาก็เริ่มสนใจขึ้นมาทันที
“ใช่แล้วผมเคยเรียน พอดีเลยเฉินหยวนยังไม่ได้ดื่ม แค่เครื่องดื่มธรรมดาพวกนี้คงไม่เป็นไรหรอกใช่ไหม ผมจะชงคอกเทลสวยๆ ให้คุณแก้วนึง”