ผู้รักษาสุดแกร่ง - บทที่ 413 ดวงใจแห่งมหาสมุทร
น้ำค็อกเทลเป็นสีใส และปกติแล้วเตกิลาจะมีกลิ่นหอมของสมุนไพรอยู่ด้วย หลังจากที่ถูกฉินจุนเขย่าแรงๆ รสชาติก็จะเข้มข้นขึ้น
หลังจากที่เตกิลาถูกรินออกมา ก็ปรากฎชั้นของของเหลวสีทอง
สีทองนี้เป็นสปาร์กลิ้งไวน์ผลไม้ที่ถูกรินลงมาก่อนหน้า ในขณะนี้สปาร์กลิงไวน์ถูกฉินจุนเขย่าจนเกิดการเปลี่ยนแปลง มันเหนียวและหนืดติดแก้ว เหมือนกับเหล้าขาวหมักหรือไม่ก็น้ำผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลสูงพวกนั้น
หลังจากเทลงในแก้วแล้ว เตกีลาจะอยู่ด้านล่าง และสปาร์กลิงไวน์จะอยู่ชั้นบนเป็นชั้นบางๆ
จากนั้นฉินจุนก็หยิบเกลนฟิดดิชที่มีสีเล็กบางๆออกมา ใส่สปาร์กลิงไวน์ลงไป และเขย่าประมาณ 2-3 นาที
เขาหยิบไม้จิ้มฟันมาวางไว้บนปากแก้ว แล้วค่อยๆ รินไวน์ลงในแก้ว
ทันใดนั้นก็เหมือนมีฉากมหัศจรรย์เกิดขึ้น เมื่อไวน์ชนิดสุดท้ายถูกเทลงในแก้ว และเมื่อไวน์ทั้งสองผสมเข้าด้วยกัน ไวน์สปาร์กลิ้งชั้นบางๆก็ห่อหุ้มเกลนฟิดดิชที่พึ่งเทลงไป
ประกอบกับไม้จิ้มฟันที่นำมาใช้เมื่อครู่ ทำให้รูปหัวใจถูกสร้างขึ้นในแก้วไวน์ !
และก็เป็นอันเสร็จหนึ่งแก้ว
สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าทุกคนในตอนนี้คือไวน์สีใสแก้วหนึ่งที่มีหัวใจสามมิติถูกห่อด้วยฟองสีทองอยู่ตรงกลาง
“ว้าว ! ”
หลังจากที่ฉินรินค็อกเทลแก้วนี้เสร็จ ทุกคนก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“นี่มันเหมือนกับงานฝีมือดีดีเลยนะเนี่ย ! ”
“ใช่ๆ ทำได้ยังไงกันเนี่ย ? ”
“เก่งเกินไปแล้ว ค็อกเทลแก้วนี้ชื่อว่าอะไรหรอ ? ”
“……”
ฉินจุนตอบ “อย่าพึ่งรีบร้อน มันยังไม่จบ ”
พูดจบฉินจุนก็หยิบสปาร์คกลิ้งไวน์สีน้ำเงินออกมาอีก เติมเตกีลาและเขย่ามันแรงๆ หลังจากนั้นก็ใช้ดรอบเปอร์หยดลงในแก้วทีละหยดๆ
ทันใดนั้นไวน์สีใสๆและไม่มีสีก็กลายเป็นสีฟ้าอ่อน
และด้านบนเป็นสีอ่อนส่วนด้านล่างเป็นสีเข้ม
“ค็อกเทลแก้วนี้มีชื่อว่า ดวงใจแห่งมหาสมุทร ”
ในที่สุดก็เสร็จสมบูรณ์
เตกีล่าสีฟ้าอ่อนมีหัวใจที่มีขอบสีทองซ่อนอยู่ ส่วนบนเป็นสีอ่อนๆและส่วนล่างเป็นสีเข้มเหมือนหัวใจทองคำบริสุทธิ์ที่ลอยอยู่ในทะเลลึก
แม้แต่เฉินหยวนเองก็จ้องมองแก้วไวน์ด้วยดวงตาเบิกกว้างและประหลาดใจมาก ไวน์แก้วนี้สวยเกินไปหรือเปล่านะ ?
ฉินจุนดันแก้วไวน์ให้ไปหยุดตรงหน้าของเฉินหยวน “ให้คุณ ”
กลิ่นของเตกีล่าลอยออกมา และแม้แต่เฉินหยวนที่ไม่ชอบดื่มก็ยังอยากลอง
สีหน้าของโต้วหมิงหยางเริ่มไม่ดี กล่าด้วยน้ำเสียงเฉยชาว่า
“เตกีล่าน่ะไม่เหมาะกับเกลนฟิดดิช และมันจะทำให้ดื่มไม่ได้ ”
ในสายตาของโต้วหมิงหยาง ไวน์นี้ดูไปแล้วหรูหรากว่าของเขาจริงๆ แต่ก็ทำได้แค่มีสีสันสวยงามเหมือนกันเท่านั้น ด้วยรสชาติของเตกีลาและเกลนฟิดดิชไม่เข้ากัน ไวน์สองชนิดนี้เมื่อนำมารวมกันรสชาติจะไม่ดีอย่างแน่นอน
เฉินหยวนยิบแก้วไวน์ขึ้นมา ไม่ว่ายังไงฉินจุนก็อุตส่าตั้งใจทำแก้วนี้ให้เธอ เธอก็ต้องลองชืมสักหน่อย
เมื่อเหล้าเข้าไปในปาก กลิ่นหอมก็โชยมา รสชาติของเตกีล่านั้นละเอียดอ่อน มันมีปริมาณแอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อยและไม่ทำให้ระคายคอ
ควบคู่ไปกับวิธีการเขย่าของฉินจุน ทำให้กลิ่นหอมล้นออกมา
จากนั้น ดวงใจแห่งมหาสมุทรสีทองที่สร้างโดยเกลนฟิดดิชก็แตกออก และไวน์ที่รสเข้มข้นขึ้นเล็กน้อยก็ไหลเข้าไปในปาก
เฉินหยวนรู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมหวานของสมุนไพรและผลไม้
รวดเดียวหมด !
“อร่อยมากเลย ! ”
เฉินหยวนชื่นชมออกมาจากใจ
โต้วหมิงหยางขมวดคิ้ว “เป็นไปไม่ได้ ไวน์ทั้งสองนี้รสแตกต่างกันมาก รสชาติจะดีได้อย่างไร ? ”
ฉินจุนตอบ “ถูกต้อง เตกีล่านั้นมีกลิ่นหอมของสมุนไพร ในขณะที่เกลนฟิดดิชมีรสชาติเข้มข้นซึ่งดูยังไงก็ไม่เข้ากัน ”
“แต่ว่า ถ้าเติมเกลนฟิดดิชลงในสปาร์กลิ้งไวน์ และหลังจากผ่านการเขย่าอย่างรุนแรง เกลนฟิดดิชก็จะผสมผสานเข้ากับรสชาติของผลไม้ได้ ”
“กลิ่นหอมของสมุนไพรเข้ากันได้ดีกับรสชาติของผลไม้ และมันเข้ากันได้อย่างลงตัว”
โต้วหมิงหยางขมวดคิ้วด้วยท่าทางดูถูก ใครบ้างขี้โม้ไม่เป็น ?
สาวๆ หลายคนเริ่มตื่นเต้น “อร่อยขนาดนั้นเลยหรอ ? ฉันก็อยากได้ ฉันเอาด้วย ! ”
“พี่ฉิน เฉินหยวนกับฉันเราเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน ขอให้ฉันบ้างสักแก้วได้ไหม ? ”
“จะลำเอียงไม่ได้นะ ทำให้สาวๆคนละแก้วสิ ”
ฉินจุนเองก็ไม่ได้ลำบากขนาดนั้น จึงทำไวน์ให้พวกผู้หญิงไปคนละแก้ว
ผู้หญิงทุกคนต่างก็ไม่รีรอยกแก้วขึ้นมาแล้วเทเข้าปาก จากนั้นไวน์ก็ไหลลงในปาก และกลิ่นหอมก็ล้นออกมาในทันที
ทุกคนหลับตาลงและเพลิดเพลินกับมัน หลังจากดวงใจสีทองแห่งมหาสมุทรไหลเข้าไปในปาก รสชาติมันดีขึ้นลื่นขึ้นกว่าเดิม หลังจากที่ไวน์ทั้งสองชนิดและสปาร์คกลิ้งไวน์รวมกันแล้วรสชาติจะนุ่มมาก
ในไม่กี่วินาที ทุกคนก็ดื่มหมดในรวดเดียว ค็อกเทลเต็มแก้วถูกดื่มจนเกลี้ยง
แม้แต่เติ้งเจียก็ดื่มหมดรวดเดียว เป็นหนึ่งในพวกที่กำลังเคลิ้มเช่นกัน
หลังจากดื่มหมด เติ้งเจียก็กลับมารู้สึกตัวและพูดอย่างรวดเร็วว่า “ไวน์นี้ก็ไม่เลวนะ ก็ธรรมดาๆ ”
เติ้งเจียฝืนพูดมันออกมา และทุกคนก็หัวเราะเธอ
“อืม ก็นับว่าไม่เลว ”
“พอๆกับของนายน้อยโต้วแหละ ไม่ต่างกัน ”
“เหอะๆ ก็เหล้าทั้งนั้น จะแตกต่างอะไรกันมากมายก็แค่มีลูกเล่นนิดหน่อย ”
“……”
เห็นๆอยู่ว่าพวกเขาดื่มไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว แต่กลับมาพูดว่ารสชาติธรรมดา ส่วนใหญ่คงเป็นเพราะเห็นแก่หน้าโต้วหมิงหยางกลัวว่าเขาจะไม่พอใจน่ะสิ
อันที่จริงก็ยังมีผู้หญิงอีกหลายคนยังไม่พอใจ รู้สึกว่าไวน์นี้อร่อยและอยากดื่มอีกแก้ว
แต่เมื่อครู่พวกเขาพูดออกไปแล้วว่าไวน์นี้ธรรมดา ดังนั้นตอนนี้จึงไม่มีใครกล้าไปขอไวน์อีก
โต้วหมิงหยางเริ่มหน้าแดงด้วยความโกรธ เขารู้สึกเหมือนถูกตบหน้า
เขาอายมากและรู้สึกไม่พอใจนิดหน่อย
ในขณะนั้น จู่ๆก็มีผู้ชายสองสามคนมาจากโต๊ะข้างๆ
ทุกคนไม่สวมเสื้อ มีรอยสักทั่วตัวและดูโหดร้าย
เมื่อเห็นว่าทางนี้มีการดื่มและเล่นสนุกกันมากมาย ชายอ้วนคนหนึ่งก็ลุกขึ้นยืน ถือขวดเบียร์มา เดินไปหาเติ้งเจีย แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
“คนสวย คุณคอแข็งใช้ได้เลยนะ ดื่มสักแก้วไหม ? ”
หลังจากพูดจบมือของเขาก็วางอยู่บนพนักพิงของเติ้งเจีย แม้ว่าจะไม่ได้แตะต้องเธอ แต่ก็ยังมีท่าทีกะล่อนมาก
เติ้งเจียขมวดคิ้วอย่างทนไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางอันธพาลของเขา
“นายบ้าหรือไง ? ไสหัวไปซะ ! ”
เติ้งเจียหยิบแก้วเบียร์ขึ้นมาแล้วสาดใส่หน้าของชายอ้วนแย่างจัง
ซ่า !
เนื้อตัวของชายอ้วนเปียกปอนไปด้วยเหล้า เขาก็โกรธทันที
“นังคนชั้นต่ำ แกหาเรื่องตายหรอ ? ”
เติ้งเจียขมวดคิ้ว “ไอ้บ้า แกจะทำอะไร ไสหัวไปซะ ! ”
ดูก็รู้ว่าชายอ้วนคนนี้เป็นแค่พวกอันธพาลกระจอกๆ เติ้งเจียไม่จำเป็นต้องแยแสเขา
ดูเหมือนว่าชายอ้วนกำลังจจะลงมือ โต้วหมิงหยางจึงลุกขึ้นยืน เขาชี้ไปที่ชายอ้วนแล้วพูดว่า
“แกจะทำอะไร แกกล้าลงมือที่นี่งั้นหรอ กล้าดีเกินไปหรือเปล่า ? ”
หลังจากที่โต้วหมิงหยางพูดจบ รปภ.มากมายที่ประตูก็ล้อมเขาไว้แล้ว แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ได้ทำอะไร แต่ทันทีที่การต่อสู้เริ่มขึ้น รปภ.ก็จะเข้าไปช่วยอย่างแน่นอน
โรงแรมนี้อยู่ในระดับไฮเอนด์ คุณภาพการรักษาความปลอดภัยก็ยอดเยี่ยมด้วย มีอาวุธครบมือ ต่อให้เป็นพวกอันธพาลก็ทำอะไรไม่ได้ง่ายๆ
“ได้ พวกแกเก่งกันนักใช่ไหม ฉันฝากไว้ก่อน ! ”
พูดจบชายอ้วนก็กลับไปนั่งที่เดิม
เติ้งเจียหัวเราะเยาะพร้อมกับสาปแช่งแล้วจึงค่อยนั่งลง
เดิมทีนี่เป็นแค่เรื่องเล็กๆที่ถูกแทรกเข้ามาเท่านั้น ไม่ได้มีใครสนใจมากนัก
แต่จู่ๆก็มีชายคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “เติ้งเจีย…เจ้าอ้วนนั่น ดูเหมือนฉันจะรู้จักเขา ”
“หืม ? นายรู้จักเขาหรอ ? เขาเป็นใครหละ ? “เติ้งเจียถามอย่างรวดเร็ว
เพื่อนนักเรียนชายตอบว่า “เหมือนว่าเขาจะเป็นผู้คุมเขตซีเฉิง…… พี่เปียว ! ”
“อะไรนะ ? พี่เปียว ! ? ”
ทันใดนั้นสีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป
พวกเขาต่างก็เคยได้ยินชื่อพี่เปียว ผู้คุมซีเฉิง เขามีอำนาจมากและมีผู้คนนับร้อยภายใต้การปกครองของเขา มีอิทธิพลมหาศาลและไม่มีใครกล้าหาเรื่องเขา
ชายอ้วนคนเมื่อกี้ คือพี่เปียว ?