ผู้รักษาสุดแกร่ง - บทที่ 442 ใครเป็นไอ้กระจอก
เหล่าเพื่อน ๆ ต่างพากันแอบหัวเราะ พวกเขาเองก็รู้สึกว่าฉินจุนหัวโบราณเกินไปจริง ๆ คนอื่นเขาพากันออกไปเต้น มีแต่เขาคนเดียวที่นั่งดื่มเหล้าอยู่ตรงนี้
“คนพวกนี้อะนะ เป็นตัวอย่างของพวกผู้ชายเนิร์ด ๆ ติดเกม พวกนี้นอนอยู่แต่ในบ้านอะรู้จักปะ?เป็นพวกนักเลงคีย์บอร์ดเก่งแต่ในเน็ต แต่พอเจอตัวเป็น ๆ ไม่กล้าทำอะไรสักอย่าง”
“ใช่ ๆ ครั้งก่อนฉันเคยไปเดตกันคนแบบนี้ เราไปเจอกันที่ผับ แล้วมีพวกอันธพาลมาลวนลามฉัน เขากลับทำเป็นมองไม่เห็น ทำเอาฉันโมโหมาก ๆ เลยล่ะ!”
“เห้อคนประเภทนี้เนี่ยนะ ควรอยู่เป็นโสดไปจนตาย ถ้าหาแฟนได้นี่ถือว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์เลยล่ะ!”
“……”
ความประทับใจของทุกคนที่มีต่อฉินจุนแย่ลงทันที เดิมที่ก็คิดว่าเขาเป็นแค่ไอ้กระจอกอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอเรื่องเล่าของผู้ชายที่ไปนัดบอดเจอแบบนั้นด้วย ทุกคนก็คิดว่าฉินจุนเป็นคนแบบนั้นเหมือนกันขึ้นมาทันที
เฉินเค่อเอ๋อร์เองก็รู้สึกว่าฉินจุนซื่อบื้อไปหน่อย แต่ว่าเธอก็ไม่ได้อะไร เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นพี่เขย
พี่สาวของเธอเป็นพวกเด็กเรียน ซื่อ ๆ อยู่แต่ในกฎระเบียบ คนแบบเธอหาแฟนก็คงเป็นพวกซื่อ ๆ เหมือนกัน มันก็สมเหตุสมผล
ขณะที่ทุกคนกำลังดื่มเหล้าและพูดคุยกันนั้น จู่ ๆ ก็มีชายหนุ่มสี่ห้าคนร่างกายเต็มไปด้วยรอยสักเดินเข้ามา
ในมือของพวกเขาถือขวดเหล้าอยู่ แต่ละคนท่าทางดูน่ากลัว ชายหนุ่มเดินเข้ามาตรงหน้าพร้อมกันจ้องหน้าพานถิงถิงแล้วเอ่ย
“นังตัวดี เมื่อกี้แกเป็นคนถีบฉันใช่ไหม?”
พานถิงถิงหันกลับไปมอง พอเห็นคนมากมายขนาดนี้ เธอก็ออกอาการตื่นตระหนกทันที
“ใครกัน นายพูดอะไร ฉันไม่เข้าใจ ฉันไม่รู้จักนายด้วยซ้ำ”
ชายหนุ่มคนนั้นหัวเราะอย่างน่ากลัว “ไม่รู้จักฉัน?งั้นกูจะทำให้มึงรู้จักกูเอง!”
พูดจบชายหนุ่มก็เอาขวดเหล้าเขวี้ยงลงบนโต๊ะอย่างแรง
เพล้งง ขวดเหล้าแตกกระจายไปครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งยังอยู่ในมือ
เศษแก้วแตกเต็มบนโต๊ะ บางส่วนก็กระเด็นไปใส่คนที่อยู่ตรงนั้น ทำเอาทุกคนต่างหวาดกลัวขึ้นมาทันที
เพราะถึงยังไงพวกเธอก็ยังเป็นแค่นักเรียน ยังเรียนมหาลัยอยู่เลย คนที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจริง ๆ มีแค่ฉินจุนกับเกาจื่อเหวิน
ไม่มีใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน สีหน้าเริ่มแย่ลง
โดยเฉพาะพานถิงถิง เธออดไม่ได้ที่จะก้าวถอยหลังไปจับแขนของเกาจื่อเหวิน
ชายหนุ่มเห็นแบบนั้นก็เดินถือขวดเหล้าที่แตกเหลือครึ่งเดียวเดินไปตรงหน้าสองคนนั้น แล้วชี้หน้าเกาจื่อเหวินพร้อมเอ่ยถาม
“มึงเป็นผัวนังนี่ใช่ไหม?จะออกหน้าแทนมันใช่ไหม?”
พูดไปชายที่มีรอยสักเหล่านั้นก็เดินเข้ามาล้อม ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่องอาจโดนรุมซ้อมได้เลย
สีหน้าของเกาจื่อเหวินเปลี่ยนไปทันที รีบสลัดมือของพานถิงถิงออกแล้วก้าวถอยหลัง
“ไม่ใช่ ไม่ใช่ครับ พวกเราเป็นแค่เพื่อนกันเฉย ๆ !”
เกาจื่อเหวินพูดจบก็รีบถอยห่างจากพานถิงถิง ทำท่าทางเหมือนไม่รู้จักกับเธอ
พานถิงถิงช็อกไปเลย “ไอ้เกาจื่อเหวิน!แกพูดอะไรของแก!แกไม่รู้จักฉันงั้นเหรอ?แกกล้าดีนักก็พูดออกมาอีกสิ!”
เกาจื่อเหวินหันหน้าไปอีกทาง ทำเป็นไม่รู้จักเธอ
สีหน้าของพานถิงถิงย่ำแย่สุด ๆ คิดไม่ถึงเลยว่าแค่ไอ้พวกนังเลงไม่กี่คนก็ทำไอ้เกาจื่อเหวินกลัวจนกลายเป็นแบบนี้!
เมื่อกี้พวกเธอเพิ่งเยาะเย้ยว่าฉินจุนเป็นพวกไม่ได้เรื่อง บอกว่าเป็นพวกเด็กเนิร์ด เจอพวกนักเลงหน่อยก็ถอยหัวหดแล้ว
ตอนนี้เป็นไง แฟนเธอต่างหากที่เป็นไอ้พวกกระจอกแบบนั้น แบบนี้มันตบหน้าเธอเองชัด ๆ !
ขณะที่ชายหนุ่มคนนั้นกำลังต้อนพานถิงถิงให้จนมุม พานถิงถิงที่มีสีหน้าย่ำแย่จู่ ๆ เธอก็คิดอะไรขึ้นมาได้ เธอชี้ไปที่เฉินเค่อเอ๋อร์
“แกดูนั่ง หล่อนสวยกว่าฉันอีก แถมยังสดใหม่กว่าฉัน เธอยังไม่เคยมาก่อน ฉันน่ะผ่านมาโชกโชนแล้ว แกไปเล่นยัยนั่นดีกว่า!”
พอพานถิงถิงพูดแบบนั้น เหล่าชายหนุ่มก็มุ่งความสนใจไปที่เฉินเค่อเอ๋อร์ ทันใดนั้นดวงตาของพวกเขาก็เปล่งประกายทันที
มันเป็นเรื่องจริง เฉินเค่อเอ๋อร์นั้นสวยกว่าพานถิงถิงมาก แถมยังมีออร่ามากกว่า
ชายหนุ่มหัวเราะอย่างเย็นชา “ไม่ต้องห่วง พวกฉันมีเยอะขนาดนี้แบ่งกันไม่พอหรอก ยังไงพวกเธอก็หนีไปไม่รอด!”
เป็นอย่างที่พานถิงถิงพูด ไม่ว่าจะรูปร่างหน้าตาหรือออร่า เฉินเค่อเอ๋อร์นั้นอยู่เหนือทุกด้าน
ที่ชายหนุ่มมาหาพานถิงถิงก็เป็นเพราะต้องการแก้แค้นล้วน ๆ ในเมื่อเป็นการแก้แค้นเขาให้พวกลูกน้องแก้แค้นแทนก็ได้
เขาอยากจะลองของดีกว่า นั่นก็คือเฉินเค่อเอ๋อร์
ทั้งโต๊ะนี้มีแต่นักศึกษามหาลัย ไม่ต้องกลัวเลยด้วยซ้ำว่าจะเกิดเรื่องอะไร พวกนักเรียนจะมีแบ็คอัพที่ไหนกัน?ต่อให้ใช้กำลังข่มขืนพวกเธอ มากสุดก็แค่ให้เงินก็จบเรื่องแล้ว
ชายหนุ่มคนนั้นเดินมาตรงหน้าของเฉินเค่อเอ๋อร์ ก่อนจะมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้าฉายแววชั่วร้าย
“น้องสาวจ้ะ เธอจะไปกับฉันดี ๆ หรือว่าจะให้ฉันบังคับอุ้มเธอไป?”
สีหน้าของเฉินเค่อเอ๋อร์เปลี่ยนไป “ไอ้สารเลว ถุ้ย!”
เฉินเค่อเอ๋อร์ถุยน้ำลายใส่ชายหนุ่ม แต่ชายหนุ่มคนนั้นนอกจากไม่โกรธแล้ว กลับยิ่งรู้สึกตื่นเต้น
“โอ้โห เร้าใจดีว่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันล่ะชอบแบบนี้ หวังว่าตอนที่อยู่บนเตียงเธอจะเร้าใจแบบนี้นะ!”
พูดจบชายหนุ่มคนนั้นก็จะลงมือทันที
แต่ทว่า ฉินจุนดึงตัวเฉินเค่อเอ๋อร์ไว้ด้านหลัง ก่อนจะมองหน้าชายหนุ่มคนนั้นพร้อมกับเอ่ยอย่างเย็นชา
“ถ้าแกจะทำอะไรพานถิงถิงฉันไม่ยุ่ง แต่ถ้าทำเธอ ไม่ได้”
ชายหนุ่มขมวดคิ้วเข้าหากัน มองหน้าฉินจุนพร้อมกับหัวเราะอย่างเย็นชา “มึงมาเสือกเสนอหน้าอะไรวะอยากรับแทนเหรอ?เคยได้ยินชื่อพี่เหมาของพวกกูไหม?”
ฉินจุนยิ้มอย่างเย็นชา “ไอ้กระจอกอย่างพวกแก ไม่มีค่าอะไรให้ฉันต้องเคยได้ยิน”
ชายหนุ่มหรี่ตา ก่อนจะเขวี้ยงขวดเหล้าในมือใส่โต๊ะ!
เพล้งง ขวดแก้วแตกกระจายทันที บนโต๊ะเต็มไปด้วยเศษแก้วแตก ชายหนุ่มกัดฟันกรอดพร้อมกับแววตาน่ากลัว
“กูเป็นไอ้กระจอก?มึงแน่ใจ?”
พอเห็นแววตาข่มขู่ของชายหนุ่มคนนั้น ฉินจุนก็เพียงแค่ยิ้มบาง ๆ
จากนั้นใช้มือกวาดเศษแก้วบนโต๊ะเอามากำไว้ในมือ
สีหน้าของเฉินเค่อเอ๋อร์เปลี่ยนไปทันที “พี่……พี่ฉิน!คุณระวัง!”
ทุกคนต่างพากันชะงัก พวกเขามองดูอย่างไม่เข้าใจว่าฉินจุนจะทำอะไร จึงมองดูอยู่ที่ด้านข้างด้วยความแปลกใจ
เห็นเพียงฉินจุนกำมือแน่น!
แกร่บ!
ทุกคนต่างพากันตื่นเต้น!
นั่นมันเศษแก้วแตกทั้งนั้นเลยนะ มือเขาไม่เป็นอะไรเลยเหรอ?
แต่ทว่าพอฉินจุนค่อย ๆ คลายมือที่บีบต่อหน้าทุกคน
สิ่งที่ไหลออกมาจากกำมือคือ เศษทรายละเอียด
เศษแก้วถูกฉินจุนบดด้วยมือเปล่าจนกลายเป็นทรายละเอียด!
เศษแก้วทั้งหมด พอถูกฉินจุนกำอย่างแรง ทั้งหมดก็กลายเป็นเม็ดทรายละเอียด
ชายหนุ่มและคนอื่น ๆ ต่างสีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขาออกอาการช็อกทันที
นี่มันความสามารถอะไรกัน!
เศษแก้วแตกละเอียดที่แหลมคมขนาดนั้น พออยู่ในมือของฉินจุนเหมือนเป็นพี่แค่คุกกี้นิ้ม ๆ แถมยังถูกบีบจนแตกละเอียด
เหล่าชายหนุ่มพวกนั้นจึงไม่กล้าทำอะไรวู่วาม ถ้าสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ จะเป็นคนธรรมดาได้ยังไง?
“ขอถามหน่อยครับ ลูกพี่เป็นพวกใครเหรอครับ?”
ชายหนุ่มในขณะนี้ร่างกายเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อเย็น รู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดีสักเท่าไหร่
ฉินจุนเองก็เบื่อที่จะพูดจาไร้สาระกับคนพวกนี้ “เหลยหงกับเหล่าฉวน นายรู้จักคนไหน?”
สีหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนไปทันที ขาทั้งสองขาของเขาออกอาการสั่น
จะพี่หงหรือพี่ฉวนเขาก็ไม่รู้จักทั้งนั้น ไม่ใช่เพราะว่าคนทั้งคู่ไม่มีชื่อเสียง แต่เป็นเพราะเขาไม่มีคุณสมบัติพอที่จะได้รู้จัก!
ไม่คิดเลยว่าฉินจุนจะกล้าพูดชื่อเต็ม ๆ ของเหลยหงและเหล่าฉวน อีกอย่างการเรียกชื่อแบบนี้ก็ไม่เหมือนใคร
คนอื่นถ้าจะเรียกเหลยหง ต้องเรียกว่าพี่หง คนส่วนใหญ่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชื่อเต็ม ๆ ของพี่หงนั้นชื่อว่าอะไร
แต่ว่าฉินจุนคนนี้พูดชื่อเต็มของเหลยหงออกมา ดูก็รู้ว่าต้องเป็นคนใน
ชายหนุ่มตื่นตระหนกขึ้นมาทันที เขารีบเอ่ย
“ขอโทษนะครับพี่ ผมนี่มันไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร พวกพี่ ๆ เต็มที่เลยนะครับ วันนี้ผมเลี้ยงเอง เดี๋ยวผมออกไปสั่งผลไม้ให้พี่เองครับ!”
หลังจากพูดจบชายหนุ่มก็พาลูกน้องคนอื่น ๆ วิ่งไปที่เคาท์เตอร์บาร์ทันที