ผู้รักษาสุดแกร่ง - บทที่ 532 ตรวจสอบที่นั่ง
อายะจงใจส่งเสียงดัง เป้าหมายของเธอก็เพื่อที่จะดึงดูดสายตาของทุกคนให้มองมา
สายตาของทุกคนต่างพุ่งตรงมาที่พวกเธอ ลูกค้าในร้านทุกคนต่างก็มองมาทางนี้
ไช่ไช่ขมวดคิ้ว ภายในใจก็คิดว่ายัยอายะประสาทหรือยังไง พวกเขาก็จองที่นั่งมาเรียบร้อยแล้ว ทำไมจะต้องมาเอะอะเสียงดัง?
พนักงานเองก็ออกอาการงง ทำไมจะต้องเช็กที่นั่งของพวกเขาด้วย?
เขาก็นั่งกันแล้ว ใครนั่งตรงไหนก็แสดงว่าเขาจองที่นั่งตรงนั้นไว้ มันจะมีอะไรผิดพลาดได้ยังไง?
อายะยังคงยืนกราน และยังคงคาดคั้นไม่หยุด
“ไม่ได้ จะต้องตรวจสอบให้ละเอียดเลยนะ ว่าสรุปแล้วโต๊ะตัวนี้เป็นโต๊ะของใคร”
พนักงานพอเห็นเหตุการณ์แบบนี้ ก็พอจะเข้าใจว่าลูกค้าน่าจะมีความขัดแย้งกัน เขาเองก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปไกล่เกลี่ย จึงรีบไปทำการตรวจสอบ
ไม่นานก็ตรวจสอบออกมาได้แล้ว
“มาแล้วครับคุณผู้หญิง โต๊ะหมายเลข 9 นี้คุณถงเป็นคนจองเอาไว้ครับ”
ทันใดนั้นอายะก็หัวเราะออกมาทันที
“เหอะ!เห็นไหมล่ะ ว่าโต๊ะนี่คุณถงเป็นคนจองไว้ ท่านประธานถงเป็นคนจองเอง แต่พวกเธอกลับเข้ามานั่งตรงนี้อย่างหน้าด้าน ๆ เธอนี่น่าตลกเกินไปปะ?”
“ถึงอย่างไรเธอก็เป็นถึงนางแบบที่มีชื่อเสียง ก็ไม่น่าแอบอ้างชื่อคนอื่นเข้ามาในภัตตาคารเพื่อกินฟรีไหม?เธอนี่มันน่าขายหน้าจะตายชัก?”
อายะตะโกนอย่างสุดเสียง ทุกคนต่างหันมามองดู มีคนจำนวนมากหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพ ที่แท้ก็ไช่ไช่ที่เป็นนางงามระดับโลกเองเหรอเนี่ย?
ไช่ไช่แย่งโต๊ะที่นั่งกับคนอื่นเหรอ?นี่มันยิ่งกว่าในละครอีกนะเนี่ย?
ทุกคนต่างมองมาที่พวกเธอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความแปลกใจ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นซูเปอร์โมเดลทะเลาะกัน
ไช่ไช่ขมวดคิ้วก่อนจะหันไปมองฉินจุนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย
ฉินจุนเองก็ขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจสักเท่าไหร่
“คุณแน่ใจไหม ที่ผมจองไว้ก็โต๊ะ 9 เหมือนกัน”
ไม่ทันให้พนักงานได้พูดออกมา อายะก็หัวเราะเยาะออกมาทันที “นายเลิกมาไม้นี้ได้ไหม!พวกนายไม่ได้จองเอาไว้ด้วยซ้ำ จะมาโต๊ะ 9 อะไรกัน ?ท่านประธานถงเขาจองไว้ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วแล้ว เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าพวกนายแอบฟังที่พวกเราพูดตอนอยู่ข้างนอก หลังจากนั้นก็แอบอ้างว่าเป็นเพื่อนของพวกเราเข้ามาที่นี่!”
“พวกนายนี่กล้าดีนะ แอบอ้างพวกเราเพื่อเข้ามาแล้วยังไม่เท่าไหร่ ดันมานั่งที่ของพวกฉันอีก ทำไมอยากทานอาหารเย็นกับพวกฉันหรือยังไง ?แต่น่าเสียดายนะ ฉันไม่อยากทานกับพวกนาย เพราะฉะนั้นตอนนี้กรุณาไสหัวออกไปซะ!”
อายะอดทนอดกลั้นมานาน ตอนนี้ได้ปลดปล่อยออกมาสักที เธอรอเวลานี้มานานแล้ว
ทุกคนต่างมองดูเหตุการณ์นี้อย่างสนุก
น่าสนใจแฮะ แค่กินข้าว ยังต้องมาทะเลาะกันเพื่อโต๊ะตัวเดียว น่าสนใจ ๆ
ทางฝั่งไลฟ์สดก็กำลังคอมเมนต์กันอย่างสนุกสนาน
“ยัยไช่ไช่นี่เป็นซูเปอร์โมเดลอันดับหนึ่งจริง ๆ เหรอ ทำไมกับอีแค่กินข้าวยังจองโต๊ะไม่ได้เลย?”
“ภัตตาคารนี้มันโหดขนาดนี้เลยเหรอ?ขนาดซูเปอร์โมเดลอันดับหนึ่งอันต้องลักลอบเข้าไป?”
“ยัยไช่ไช่นี่สุดยอดจริง ๆ แค่นี้ยังต้องมาเกาะอายะของพวกเรา กระจอกจริง ๆ ”
“รีบออกจากวงการไปซะ!”
“……”
เพราะนี่เป็นการไลฟ์สดของอายะ เพราะฉะนั้นส่วนมากจึงเป็นแฟนคลับของอายะ พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา พวกเขาจึงพากันมาทัวร์ลงต่อว่าไช่ไช่ เพียงพริบตาเดียวไลฟ์สดนี้ก็ได้รับความนิยมสูงสุด
มีคนจำนวนมากแห่กันเข้ามาดู ไม่คิดเลยว่าพอเข้ามาดูจะเห็นซูเปอร์โมเดลกำลังทะเลาะกัน สุดยอดจริง ๆ
ฉินจุนขมวดคิ้ว ก่อนจะลุกขึ้นยืนมองหน้าพนักงานคนนั้นแล้วเอ่ยถาม
“ผมเองก็จองไว้ แซ่ฉิน เลขท้ายเบอร์โทร 8888 คุณช่วยตรวจสอบที”
อายะหัวเราะออกมาทันที “นายนี่สุดจริง ๆ เลยนะ ทำมาเป็นบอกรายละเอียดพวกนี้ยังมีความหมายอีกเหรอ โดนฉันแฉขนาดนี้แล้ว ยังเล่นละครอยู่อีก ถ้านายจองโต๊ะได้จริงๆ จะมาเกาะพวกฉันทำไม?”
อายะเอะอะโวยวายและพูดจาน่าเกลียดมาก ๆ
ฉินจุนขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะส่งเสียงอย่างไม่พอใจ
“แค่กินข้าวแค่นี้ มันทำให้คุณรู้สึกเหนือกว่าคนอื่นมากนักหรือไง?”
อายะก็ส่งเสียงไม่พอใจ “ทำไม ก็ฉันเหนือกว่า อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลย แม้แต่ร้านอาหารเล็ก ๆ พวกนายยังจองโต๊ะไม่ได้เลย ที่พวกนายเข้ามาก็เพื่อจะสร้างภาพไม่ใช่หรือไง ไม่อย่างนั้นจะเข้ามาทำไม?ข้างนอกที่อื่นก็มีให้กินไม่ไปกิน ที่เข้ามาก็เพื่อต้องการจะอวดไม่ใช่หรือไง?แต่น่าเสียดายที่นายมาโชว์โง่จนโดนฉันจับได้แบบนี้!”
สิ่งที่อายะพูดมาทำให้ฉินจุนรู้สึกหมดคำจะพูดจริง ๆ คนโลกแคบแบบนี้ เป็นซูเปอร์โมเดลได้ยังไงกัน คนละระดับกับไช่ไช่ชัด ๆ
พออายะพูดจบไม่ทันขาดคำ ก็พาชายใส่สูทคนหนึ่งวิ่งเข้ามา
ชายใส่สูทวิ่งไปตรงหน้าของฉินจุนแล้วรีบเอ่ย
“คุณฉินครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมเป็นผู้จัดการของที่นี่”
อายะร้องเรียกขึ้นมา “ผู้จัดการมาพอดีเลย พวกมันแอบอ้างชื่อลักลอบเข้ามา คุณรีบไล่พวกมันออกไปเลยนะ!”
ผู้จัดการขมวดคิ้วเข้าหากัน พร้อมกับมองหน้าอายะอย่างรำคาญ แต่ก็ไม่ได้สนใจเธอ เขาเอ่ยกับฉินจุนต่อ
“คุณฉินครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่นั่งที่ท่านจองไว้ไม่ใช่ตรงนี้ครับ”
อายะขมวดคิ้ว “นายพูดอะไรน่ะ?ที่นั่งที่มันจองไว้?นายเข้าใจผิดหรือเปล่า พวกมันจะจองไว้ได้ยังไง!”
ผู้จัดการเผยสีหน้ารำคาญใจอีกครั้ง และพยายามเอ่ยอธิบายอย่างอดทน
“คุณฉินต้องมีที่จองไว้อยู่แล้วครับ ท่านจองโต๊ะหมายเลข 9 เอาไว้ แต่ว่าที่คุณฉินจองเอาไว้นั้นเป็นโต๊ะหมายเลข 9 ที่ชั้น 3 ที่ห้องรับรองแขกผู้อาวุโส”
อายะตกตะลึงทันที คนอื่น ๆ เองก็อยู่ในอาการผงะ
“ห้องรับรองแขกผู้อาวุโส?”
อายะเคยมาที่ภัตตาคารแห่งนี้ครั้งหนึ่งแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินว่ามีห้องรับรองแขกผู้อาวุโสที่ชั้น 3 ?
“พวกคุณมีห้องรับรองแขกอาวุโสตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ผู้จัดการยิ้มเยาะ “พวกเรามีห้องรับรองแขกผู้อาวุโสมาตลอดครับ ที่พวกคุณไม่รู้ เพียงเพราะว่าระดับยังไม่ถึงเท่านั้นเอง”
อายะหน้าเสียอย่างสุด ๆ ไม่คิดเลยว่าพวกของฉินจุนจะจองระดับห้องรับรองแขกอาวุโสเอาไว้เลย มันเป็นใครกันแน่?
อายะในเวลานี้เหมือนเป็นตัวตลกคนหนึ่ง ตอนนี้รู้สึกอับอายมากจนเธอแทบจะอยากแทรกแผ่นดินหนีไปซะ
ผู้จัดการเอ่ย “คุณฉินครับ พวกเราขึ้นไปกันเลยไหมครับ?”
ในขณะนี้เองอาหารที่ฉินจุนสั่งเอาไว้ก็มาเสิร์ฟพอดี ไช่ไช่จึงเอ่ย “เราทานที่นี่ก็ได้มั้งคะ เราไม่ต้องขึ้นไปหรอกค่ะ ตรงนี้ก็ดีแล้ว”
เพราะเดิมทีบรรยากาศในร้านก็ไม่เลวอยู่แล้ว บรรยากาศตรงที่นั่งธรรมดาก็ดีแล้ว ถึงแม้ว่าห้องรับรองแขกอาวุโสจะดีกว่า ขึ้น ๆ ลง ๆ ส่งผลต่อความอยากอาหาร
ผู้จัดการจึงรีบเอ่ย “ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นผมจะเปลี่ยนให้เป็นโต๊ะธรรมดาหมายเลข 9 นะครับ”
พอผู้จัดการเอ่ยแบบนั้นออกมา ก็ทำให้พวกอายะตรงอยู่ในที่นั่งลำบากทันที
ตอนนี้พวกเขาไม่มีที่จองเอาไว้ แถมยังไม่มีที่นั่ง โต๊ะหมายเลข 9 ก็โดนผู้จัดการแย่งอาไปให้พวกฉินจุนแล้ว
อายะก็รีบเอ่ยถามด้วยสีหน้าไม่ดี “แล้วพวกฉันล่ะ พวกเราจองโต๊ะหมายเลข 9 เอาไว้นะ!”
ผู้จัดการทำสีหน้าเย็นชา “ตามกฎแล้วพวกเราต้องให้บริการกับลูกค้าvipก่อนครับ ถ้าหากว่าคุณฉินยอมยกโต๊ะหมายเลข 9 ที่ชั้นบนให้พวกคุณ พวกคุณก็สามารถขึ้นไปได้”
อายะกัดริมฝีปาก เธอมองไปที่ฉินจุนและไช่ไช่ด้วยสีหน้าไม่ยอม
ขายหน้าชะมัด !เธอต้องมารอให้คนอื่นยอมยกให้อย่างนั้นเหรอ?
ไช่ไช่มองหน้าเธอก็จะเอ่ย
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ยังไงพวกฉันก็ไม่ได้ขึ้นไปข้างบน ให้พวกเธอไปเถอะ”
ผู้จัดการยังคงทำสีหน้าเย็นชาเอ่ย
“คุณผู้หญิงครับ ในเมื่อคุณผู้หญิงท่านนี้ยอมยกชั้นบนให้พวกคุณแล้ว พวกคุณสามารถขึ้นไปได้ แต่ว่าที่ชั้นบนมีกำหนดค่าบริการขั้นต่ำนะครับ พวกคุณลองพิจารณากันดูก่อน”