ผู้รักษาสุดแกร่ง - บทที่ 556 สิบล้านหยวน
พูดจบ ฉินจุนก็เดินออกไปนอกร้านอาหาร
ตอนที่ฉินจุนเดินออกมา ใบหน้าของคนอื่น ๆ ก็เต็มไปด้วยความสงสัย
พวกเขาอยากจะเห็นนักว่า ฉินจุนคนนี้จะรักษาคนขาเป๋ที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิดให้หายได้ยังไง
ทุกคนต่างรู้ดีว่าแพทย์แผนจีนนั้นเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มาก แต่ก็ไม่น่าจะมหัศจรรย์ขนาดนั้น
ต่อให้สามารถรักษาอาการขาเป๋ตั้งแต่กำเนิดให้หายได้จริง มันก็จำเป็นต้องใช้เวลา
เขาว่ากันว่าการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อหรือกระดูกต้องใช้เวลาหนึ่งร้อยวัน นี่เป็นคำที่บรรพบุรุษของการแพทย์แผนจีนทิ้งไว้
ขนาดอาการบาดเจ็บที่กระดูกหรือกล้ามเนื้อยังต้องใช้เวลาตั้งหนึ่งร้อยวัน แต่นี่เป็นการขาเป๋ตั้งแต่กำเนิดเลยยังไงก็ต้องใช้เวลานานกว่านั้น
ชายเร่ร่อนคนนั้นนั่งอยู่ที่พื้น ใบหน้ามีความหยอกล้อ เขาไม่มีทางเชื่อว่าฉินจุนจะสามารถรักษาเขาให้หายได้เลยในทันที
มันไร้สาระเกินไปแล้ว
พอออกมาจากประตูร้าน ฉินจุนไม่ได้ทำการรักษาให้ชายเร่ร่อนคนนั้น แต่กลับตรงไปขึ้นรถ หยิบกุญแจออกมาสตาร์ทรถ
เจียงเหลียงและคนอื่น ๆ ต่างก็มึนงง ฉินจุนสตาร์ทรถทำไมกัน หรือว่าจะหยิบอะไรบนรถ?
ฮึ่ม!
เขาเหยียบคันเร่ง บรื้นรถอยู่ครู่หนึ่ง เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่ม ทำเอาคนแถวนั้นตกใจกันหมด
จากนั้น ฉินจุนก็เข้าเกียร์และรถก็ค่อย ๆ เคลื่อนที่ช้า ๆ
จากนั้นก็เหยียบคันเร่งอีกครั้ง
บรื้น!
พอเสียงบรื้นดังขึ้น รถก็พุ่งออกไปทันที!พุ่งไปทางขอทานคนนั้น!
ทุกคนต่างตกใจช็อก เหล่าสาว ๆ ที่อยู่รอบข้างต่างกรีดร้องออกมา
นี่จะทำอะไรกัน จะฆ่าคนหรือไง!
แม้แต่หลิ่วชิงชิงเองก็ยังตกใจ รีบลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าเป็นกังวล
เจียงเหลียงประหลาดใจยิ่งกว่า นี่มันทำบ้าอะไรเนี่ย? บ้าหรือเปล่า?
คนที่หวาดกลัวที่สุดคือชายเร่ร่อนคนนั้น
หลังจากที่ฉินจุนเหยียบคันเร่งแล้ว ชายเร่ร่อนคนนั้นก็ร้องตะโกนออกมา พลิกตัวลุกขึ้นยืนทันที จากนั้นก็วิ่งหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย วิ่งเร็วอย่างกับเหาะได้!
ไหนกันล่ะท่าทางของคนพิการขาเป๋?
เขาวิ่งเร็วยิ่งกว่าวัยรุ่นอีก!
เอี๊ยดด!
หลังจากนั้นฉินก็หยุดด้วยการเหยียบเบรก
ฉินจุนควบคุมรถได้อย่างดีเยี่ยม ต่อให้ชายขาเป๋คนนั้นหลบไม่ทัน ก็ไม่มีทางโดนชน
จากนั้นฉินจุนก็ลงมาจากรถ สีหน้าเต็มไปด้วยความล้อเลียนแล้วเอ่ย
“หายดีแล้วใช่ไหม?”
ทุกคนต่างตะลึง ขอทานคนนี้แกล้งทำเป็นพิการงั้นเหรอ?
สมัยนี้พวกที่ชอบหลอกว่าพิการนั้นมีอยู่จริง ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องแปลกอะไร แต่เมื่อกี้นี้เจียงเหลียงตรวจชีพจรของเขานี่นา
ทั้งตรวจชีพจรทั้งฝังเข็มให้ กลับดูไม่ออกเหรอว่าชายเร่ร่อนแกล้งทำพิการ?แบบนี้มันน่าตลกเกินไปมั้ง?
พอชายเร่ร่อนเห็นว่าทุกคนต่างมองเขาอย่างเหยียดหยาม ก็รู้ว่าเขาคงอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว จึงเอามือล้วงกระเป๋าเดินข้ามถนนไป เขาเดินไปด้วยท่าทางอย่างสง่าผ่าเผย ไม่ได้มีท่าทางเหมือนคนขาเป๋ใด ๆ ทั้งนั้น
ถ้าบอกว่าขาเจ็บ ก็คงเป็นเพราะว่าเมื่อครู่เจียงเหลียงได้ทำการฝังเข็มให้เขา
เจียงเหลียงเบิกตากว้างใบหน้าซีดเซียว
“เป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้!เมื่อกี้ตอนที่ตรวจก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเขาเป็นเส้นลมปราณอุดตันตั้งแต่กำเนิด ทำไมจะไม่เป็นอะไรล่ะ?”
ฉินจุนยิ้มเย็นชา “ฉันบอกแล้วไง ว่าที่นายเรียนมาน่ะมันเป็นความรู้เล็กน้อยมาก เขาไม่ได้เป็นเส้นลมปราณอุดตันตั้งแต่กำเนิด เขาแค่ขาชาเฉย ๆ ”
ขาชาเหรอ……
คิกคิก อุ๊บ
หลิ่วชิงชิงเป็นคนแรกที่กลั้นหัวเราะไม่ไหว จากนั้นคนอื่นๆ ก็หัวเราะออกมาตาม ๆ กัน
คนที่ไม่รู้จักยิ่งไม่แคร์อะไร พวกเขาหัวเราะจนตัวโยน เกือบหงายหลังเลยด้วยซ้ำ
เมื่อมีอาการขาชา มันก็จะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในชีพจร
ถ้าหากไม่ได้เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์มากนัก ก็จะมีความเป็นได้สูงมากว่าจะวินิจฉัยไปว่าเป็นเส้นลมปราณอุดตันตั้งแต่กำเนิด เหมือนที่เจียงเหลียงคิดว่าใช่ เขาคิดว่าคนอื่นเป็นเส้นลมปราณอุดตันตั้งแต่กำเนิด เลยทำการฝังเข็มแบบปัญจธาตุให้เขาเพื่อทำการรักษา
โชคดีที่ชายขอทานคนนั้นร่างกายแข็งแรง ถ้าเปลี่ยนเป็นคนที่ร่างกายอ่อนแอ เกรงว่าถ้าโดนฝังไปสักสองสามเข็มอาจจะเกิดปัญหาได้
เจียงเหลียงยืนอยู่ตรงหน้าหน้าแดงหูแดงด้วยความอับอาย มีสายตานับไม่ถ้วนมองมาที่เขา เหมือนกับเข็มนับพันเล่มกับกำลังทิ่มแทงเข้ายังไงอย่างั้นเลย
เขาอยากจะแทรกแผ่นดินหนีไปจริง ๆ เจียงเหลียงนี่น่าตลกสิ้นดี
ขณะที่เจียงเหลียงกำลังหาวิธีแก้หน้าอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงโครมดังขึ้น เกิดเหตุรถชนที่ถนนหน้าร้าน!
รถบรรทุกชนคนที่เดินอยู่ข้างถนน แถมยังทับขาของคนที่เดินข้างถนนด้วย!
ทุกคนต่างตกใจช็อก ไม่กล้าขยับเขยื้อน
เหตุการณ์แบบนี้พวกเขาไม่กล้าเข้าไปช่วย ทำได้แค่มองอยู่ข้าง ๆ บางคนก็กดโทรออก 120 เรียกรถพยาบาล
ฉินจุนเห็นดังนั้น ก็รีบพุ่งเข้าไปดู เจียงเหลียงเองก็ชะงักก่อนจะรีบตามเข้าไป
นี่เป็นคุณสมบัติของหมอ เมื่อเจอเหตุอันตรายต้องรีบเข้าไปทันที
ฉินจุนก้าวไปข้างหน้าเพื่อตรวจสอบ คนขับรถบรรทุกตื่นตระหนกลนลานไปหมด พอลงจากรถมา ขาทั้งสองข้างก็อ่อนทันที
พอเห็นว่าที่พื้นเต็มไปด้วยเลือด เขาก็ทรุดตัวลงที่พื้นทันที
“ตายแล้ว ตายแล้วแน่ ๆ !”
ฉินจุนเดินเข้าไปเอ่ย “อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป หลบหน่อยครับ”
ผู้บาดเจ็บในขณะนี้นอนอยู่ที่พื้น ล้อของรถบรรทุกคันใหญ่กลิ้งทับต้นขาของเขา ทำให้กระดูกที่ต้นขาทั้งหมดแตกละเอียด และเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อทั้งหมดถูกทำลาย น่าเวทนามาก ๆ
“จบแล้วล่ะ ต้องรีบตัดขาให้เร็วที่สุด”
เจียงเหลียงขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างเป็นปฏิกิริยาโต้ตอบอัตโนมัติ
ตามหลักการของหมอทั่วไปแล้ว สิ่งแรกที่จะทำคือการตัดขา ยิ่งตัดขาเร็วเท่าไหร่ ชิ้นส่วนก็จะยิ่งเหลือมากขึ้นเท่านั้น
แต่เมื่อผู้บาดเจ็บที่นอนอ่อนแรงใบหน้าซีดเซียวได้ยินประโยคนี้เข้าก็ยิ่งหน้าเสีย
“ไม่นะ ไม่ตัดขา ผมเป็นนักกีฬา ถ้าตัดขาไปก็เหมือนฆ่าผมให้ตาย!”
พอได้ยินคำขอร้องของผู้บาดเจ็บ เจียงเหลียงก็ขมวดคิ้วเข้าหากันทันที
“มันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ตอนนี้กระดูกที่ต้นขาของคุณแตกละเอียดหมดแล้ว เนื้อเยื่อก็ตาย ถ้าหากไม่ทำการตัดขาทิ้ง ร่างกายส่วนบนจะติดเชื้อได้ ……”
“นอกเสียจากว่าอาจารย์ของผมจะอยู่ที่นี่ ยังพอจะทำการฝังเข็มแบบปัญจธาตุได้……แต่ตอนนี้ดูท่าแล้วต่อให้เป็นอาจารย์ผม ก็อาจจะช่วยไม่ได้”
แม้ว่าวิธีการฝังเข็มแบบนี้ว่ากันว่า สามารถเชื่อมต่อแขนขาที่ถูกตัดขาดได้ แต่ก็เป็นเพียงในทางทฤษฎีเท่านั้นและมันมีเงื่อนไขเยอะแยะมาก
มันจำเป็นจะต้องตรงตามเงื่อนไขทุกประการถึงจะทำได้ แต่จากสถานการณ์ตรงหน้าแล้ว โดนรถบรรทุกทับแบบนี้ ไม่มีทางเป็นไปได้
ฉินจุนเอ่ย “ผ่อนคลาย อย่ากังวล ผมจะช่วยรักษาขาของคุณไว้”
พูดจบฉินจุนก็หยิบเข็มออกมา
พอเห็นว่าฉินจุนจะลงมือ เจียงเหลียงก็ขมวดคิ้ว
“นายอย่าหาเรื่อง!นายอยู่ระดับไหนถึงกล้ามาปฐมพยาบาล?นายอย่าแตะต้องนะ ฉันจะโทรศัพท์หาท่านอาจารย์!”
เจียงเหลียงในขณะนี้ก็จนปัญญา ทำได้แค่สอบถามท่านอาจารย์
“อาจารย์ครับ!ตอนนี้ผมอู่ที่ตงไห่ พอดีมีเรื่องด่วน มีผู้บาดเจ็บคนหนึ่งโดนรถบรรทุกทับขาครับ ผมอยากจะ……อะไรนะครับ อาจารย์ก็อยู่ตงไห่เหรอครับ!เยี่ยมไปเลยครับ ผมอยู่ที่……”
คุยกันอีกไม่กี่ประโยค เจียงเหลียงก็วางสาย จากนั้นก็เอ่ยด้วยใบหน้าดีใจ
“คุณอย่าเพิ่งร้อนใจไป อาจารย์ของผมกำลังรีบมาที่นี่ คุณโชคดีมากเลยนะ อาจารย์ของผมท่านเก่งเรื่องการฝังเข็มแบบปัญจธาตุ จะต้องช่วยรักษาขาของคุณไว้ได้แน่นอน คุณอดทนอีกสักห้านาทีนะ!”
ฉินจุนขมวดคิ้ว “ห้านาทีไม่ทันหรอก ตอนนี้คนไข้มีเลือดออก เซลล์จำนวนมากกำลังจะตาย ถ้ารออีกห้านาทีหลังจากนี้ การฝังเข็มแบบปัญจธาตุก็ไม่ช่วยอะไร”
“อีกอย่างระดับของไช่จ่างฝู ทำการฝังเข็มแบบปัญจธาตุก็ไม่ใช่ว่าจะแม่นยำ ฉันลุยเองเลยดีกว่า”
หลังจากพูดเสร็จ ฉินจุนก็ฉีกกางเกงของผู้ป่วยทันที และฝังเข็มเหนือเข่าของเขา
“หยุดนะ!”
เจียงเหลียงตะโกนเสียงดัง “นายทำอะไรน่ะ!นายอย่ามาวุ่นวาย อาจารย์ของฉันกำลังจะมา นายเป็นแค่ระดับไหนยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ?นายฝังเข็มแบบปัญจธาตุได้หรือไง?นี่มันชีวิตคนเลยนะ ถ้านายพลาดแม้แต่นิดเดียว มันอาจทำให้คนเขาเสียขาไปได้เลย!เขาเป็นถึงนักกีฬานายจะรับผิดชอบไหวไหม!”
ฉินจุนขมวดคิ้ว “ถ้านายยังพูดไร้สาระอยู่อีก คนไข้จะถูกถ่วงเวลาก็เพราะนาย”
ผู้บาดเจ็บในขณะนี้นอนอยู่บนพื้น พูดอะไรไม่ได้แล้ว สติก็เริ่มเลือนราง
ฉินจุนหยิบเข็มขึ้นมา เตรียมจะฝังเข็มเล่มที่สองลงไป
เจียงเหลียงก้าวไปข้างหน้า ก่อนจะจับฝ่ามือของฉินจุนเอาไว้
“นายปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่าทำอะไรซี้ซั้ว!”
ฉินจุนขมวดคิ้วเข้าหากัน “ไสหัวไป!”
เขาถีบเจียงเหลียงกระเด็นไปด้านข้าง จากนั้นก็ทำการฝังเข็มแบบปัญจธาตุเข็มที่สองลงไปในตำแหน่งฝังเข็ม