ผู้รักษาสุดแกร่ง - บทที่ 594 ประธานถง!
ก่อนนี้ซูเหวินหมิงกล่าวว่าภาพวาดนี้เป็นของจริง และในฐานะผู้ประเมินระดับปรมาจารย์ ทักษะของซูเหวินหมิงนั้นเทียบไม่ได้กับคนทั่วไป และแน่นอนว่ามันย่อมดีกว่าปรมาจารย์สามัญเหล่านั้น
ฉินจุนดูเหมือนจะเป็นแค่คนธรรมดา ๆ เหตุผลที่เขาสามารถเข้าใจสมบัติล้ำค่าบางอย่างได้ นั่นอาจเป็นเพราะประสบการณ์ที่หลงเหลือจากชีวิตตอนที่ยังเป็นนายน้อยเมื่อตอนที่เขายังเป็นเด็กอยู่ก็เป็นได้
และเมื่อเป็นแบบนี้ ขนาดฉินจุนยังมองออกว่าภาพวาดนั้นเป็นของปลอม แล้วซูเหวินหมิงจะมองไม่ออกเลยอย่างนั้นหรือ?
นี่มันคือภาพวาดที่เขาซื้อมาเอง และยังเป็นของที่มีราคาสูงอีกด้วย แน่นอนว่ามันจะต้องผ่านมือพ่อของเขา หรือซูเหวินหมิงมองไม่ออก และพ่อของเขาเองก็มองไม่ออกเช่นกันงั้นเหรอ?
มันจะตลกไปหรือเปล่า ถ้าพวกเขาสองคนไม่มีใครมองออก งั้นตระกูลซูก็ไม่กลายเป็นเรื่องตลกหรอกเหรอ?
นี่เห็นได้ชัดว่าซูเหวินหมิงจงใจมอบของปลอมเป็นของขวัญและต้องการขายดี แต่ไม่ต้องการจ่ายเงินจำนวนมาก แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้พบกับผู้เชี่ยวชาญอย่างฉินจุนเข้า
ณ เวลานี้ทุกคนก็ไม่ได้ต่อต้านหรือหักล้างอะไรกัน ยังไงๆซะก็รู้ๆกันอยู่ เพียงแค่ไม่อยากมากเรื่องเท่านั้น
หลังจากที่ซูเหวินหมิงพูดจบ เขาก็กำลังจะเก็บภาพวาดนั้นออกไป ทันใดนั้นก็มีเงาดำๆมายืนอยู่ตรงหน้าเขา
ซูเหวินหมิงเงยหน้าขึ้น จึงเห็นว่าคนตรงหน้าเขาคือฉินจุน เขาจึงขมวดคิ้วและกล่าวว่า
“คุณจะทำอะไร คุณก็ได้พิสูจน์แล้วไม่ใช่เหรอ? ฉันเองก็รู้แล้วไงว่าภาพวาดนี้เป็นของปลอม คุณยังจะเอาอะไรอีก”
ฉินจุนยิ้มเยาะ”เรื่องนี้มันจบลงแล้ว แต่เมื่อกี้นี้ที่คุณบอกว่าฉันว่าคนไร้ประโยชน์และยังเรียกฉันว่าเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม มันยังไม่จบ”
ฉินจุนเป็นคนระดับไหน? ในอดีตแม้แต่ผู้อาวุโสของตระกูลฉิน ก็ยังไม่สามารถถูกดูหมิ่นและรังแกเขาได้ ตอนนี้ฉินจุนนั้นโดดเด่นยิ่งกว่าเดิมอีก และโดยธรรมชาติแล้วแน่นอนว่าเขาไม่ได้อารมณ์ดีอีกต่อไปแล้ว
ซูเหวินหมิงนิ่งไป บนใบหน้าของเขามีร้อยยิ้มที่ดูเยาะเย้ย
“ทำไม่เหรอ? ฉันจะเรียกนายว่าคนไรประโยชน์ แล้วจะทำไม?”
ทันทีที่เสียงลดลง ฉินจุนก็ยกมือขึ้นและตบเขาเข้าอย่างจัง
เพี๊ยะ!
ฝ่ามือนี้เรียกได้ว่าเสียงก้องมาก!
ซูเหวินหมิงรู้สึกราวกับว่าเขาถูกหินก้อนใหญ่กระแทกหน้า เขาล้มลงกับพื้น อิฐหินทั้งหมดบนพื้นถูกทุบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปหมด และอิฐบลูสโตนก็ยุบลงทันที
ซูเหวินหมิงรู้สึกว่าเขากำลังจะถูกตบหัวหัวหมุนแล้ว และการตบครั้งนี้หนักกว่าหมัดของแชมป์มวยเสียอีก
บูม!
ซูเหวินหมิงล้มลงกับพื้น ตัวเขาทั้งตัวมึนงง และสีหน้าก็ดูซีดเสียว
เขาสายหัว ดวงตาของเขากลับมาชัดเจนอีกครั้ง
ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเขา และซูเหวินหมิงก็รู้สึกว่าใบหน้าของเขาชาไปครึ่งซีกแล้วตอนนี้
“แก….แกมันอวดดี กล้าตบฉัน! แกกล้าดียังไงมาตีฉัน? แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร!”
ฉินจุนหัวเราะเยาะ “ทำไมฉันถึงจะไม่กล้าตบคุณล่ะ?”
ซูเหวินหมิงขยับถอยหลังไปสองสามก้าว และทนต่อความเจ็บปวดอย่างรุนแรงและยืนขึ้น เขากัดฟันพูดว่า
“ฉันจะบอกให้นะ ฉันไม่ได้เป็นแค่นายน้อยของตระกูลซู แต่ฉันยังเป็นลูกทูนหัวของถงฟางโจวอีกด้วย! แกกล้าที่จะตบฉัน แกเชื่อไหมว่าฉันจะฆ่าแกให้ตายก็ได้?!”
เมื่อเสียงของซูเหวินหมิงเบาลง ทุกคนก็ต่างตกตะลึงกันมากเมื่อได้ยินเช่นนี้
ที่แท้ซูเหวินหมิง ก็เป็นลูกทูนหัวของถงฟางโจว!
แม้ว่าตระกูลซูจะไม่ใช่ตระกูลที่สุดยอดมาก อาจจะแย่กว่าตระกูลไห่และตระกูลฝูเล็กน้อย แต่ถงฟางโจวนั้นแตกต่างออกไปมาก
ด้วยความที่เป็นลูกทูนหัวของถงฟางโจว ใครจะกล้าหาเรื่องเขากัน?
อย่างน้อยในที่แห่งนี้ ก็ไม่มีใครกล้าหาเรื่องซู่เหวินหมิงแล้ว!
รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูเหวินหมิง “ความผูกพันธ์กับพ่อทูนหัวของฉันนี้ ฉันไม่เคยต้องการบอกคนอื่นเลย พ่อทูนหัวของฉันบอกให้ฉันสงบเสงียบเจียมตัวไว้ ไม่ต้องเปิดเผยตัวตนถ้าไม่จำเป็น”
“แต่วันนี้ แกไอ่ฉิน แกทำให้ฉันโกรธมาก! แกรีบคุกเข่าลง คำนับฉันสามครั้งซะ และจากนั้นก็หักขาของแกด้วยตัวเองซะ แล้วฉันจะไว้ชีวิตหมาอย่างแก ถ้าไม่อย่างงั้น วันนี้จะไม่มีใครช่วยแกได้เลยคอนดูสิ!”
เมื่อคำพูดนี้ของซูเหวินหมิงดังขึ้น ทุกคนที่อยู่ที่นั้นก็เงียบกันหมด
การแสดงออกของฝูเสี่ยวเฟิง ดูค่อนข้างน่าเกลียด เขาไม่คิดเลยว่าสิ่งต่างๆจะมาถึงขนาดนี้
ตอนนี้เขามาช้าไปก้าวหนึ่งและเขาก็คิดไม่ถึงว่ามือของฉินจุนจะเร็วขนาดนี้ ขนาดที่ว่ากล้าที่จะตบซูเหวินหมิง
แต่แล้วตอนนี้ ฝ่ามือนั้นกลายเป็นปัญหาที่ไม่มีทางแก้สำหรับเขาไปเสียแล้ว
ฝูเสี่ยวเฟิงกัดฟันและพูดว่า “หลานซู เรื่องวันนี้เห็นแกหน้าฉันเถอะปล่อยมันไปเถอะนะ เราจะชดเชยอาการบาดเจ็บของคุณอย่างแน่นอน เดี๋ยวฉันจะให้แพทย์ส่วนตัวของเราออกมาดูแลคุณ เหล่าหลิว…”
“ไม่จำเป็น!”
ซูเหวินหมิงใจแข็งมาก ด้วยใบหน้าที่เย็นชา แม้ว่าฝูเสี่ยวเฟิงจะขอร้อง มันก็ไร้ประโยชน์
ฉินจุนต้องชดใช้ให้เขาเท่านั้น!
ฝูหรงหรงรู้สึกพูดไม่ออก เธอขมวดคิ้วและว่าพูด
“คุณฉิน คุณผยองเกินไปแล้ว คุณกล้าตบคุณชายซู คุณนี่มันไม่รู้ที่ต่ำที่สูงเอาซะเลย!”
ฉินจุนมองเธออย่างเย็นชา “ทำไมฉันจะตบเขาไม่ได้?”
“หึ คุณชายซูเป็นใคร แล้วคุณเป็นใคร ก่อนที่คุณจะลงมือคุณคิดถึงผลที่จะตามมารึเปล่า” ฝูหรงหรงกล่าว
ฉินจุนกล่าวตอบ”นี่คุณกำลังหมายความว่าต่อให้เขาด่าฉัน ฉันก็ต้องทนงั้นเหรอ?”
“คุณ…คุณอย่ามาทำเย่อหยิ่งที่นี่ ผลสุดท้ายยังไงคุณก็ไม่มีทางเอาชนะคุณชายซูได้หรอก! คุณกำลังทำให้ตระกูลฝูของเราเดือดร้อน!”
ชายชราตระกูลฝูก็ยืนขึ้นด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ
“ใช่ ถ้าคุณอยากตาย คุณก็ตายได้ตามใจชอบ แต่อย่าเอาเข้าตระกูลฝูของเราเข้าไปยุ่งด้วย!”
“เรื่องการแต่งงานของคุณกับฝูหรงหรง ฉันคิดว่ามันไม่เหมาะสม!”
ในที่สุดชายชราตระกูลฝูก็เอ่ยปากพูดขึ้น
ฝูหรงหรงก็ถอนหายใจยาวๆเช่นกัน พ่อของเขาเห็นแกหน้าตาจึงไม่พูดอะไร และเธอเองก็ไม่สามารถพูดตรงๆได้ และวันนี้คุณปู่เป็นคนเอ่ยปากเองในที่สุด ตอนนี้มันกลายเป็นว่ามีใครบางคนก็กลายเป็นคนเลวไปแล้ว
ฝูหรงหรงรีบพูดเสริมอย่างรวดเร็ว
“ใช่ ฉันคิดว่าเรา…”
ทันทีที่ฝูหรงหรงกำลังจะพูดอะไรออกมา ฉินจุนก็หัวเราะเยาะขึ้นทันที
“ครั้งนี้ฉันมาก็เพื่อเตรียมถอนหมั่น ฉันแค่เห็นว่าวันนี้เป็นวันเกิดของคุณปู่ของเธอ เลยไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้”
“แต่ในเมื่อคุณพูดถึงเรื่องนี้แล้ว งั้นก็ดี”
“ฉันก็ขอประกาศว่าสัญญาการแต่งงานของเราจะเป็นโมฆะไป”
คำพูดของฉินจุนทำให้คำพูดทั้งหมดของฝูหรงหรงถูกกลืนลงไปและใบหน้าของเธอก็ดูน่าเกลียดมาก
“คุณหมายความว่ายังไง? คุณถอนหมั่นฉันงั้นเหรอ? คุณมีสิทธ์อะไร!”
การถอนหมั่น เป็นผลลัพธ์ที่ฝูหรงหรงต้องการเห็น แต่ข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับการถอนหมั่นนั้น ต้องเป็นที่เธอที่ถอนหมั่นฉินจุน ไม่ใช่ฉินจุนถอนหมั่นเธอ!
ฉินจุนเป็นนายน้อยตกอับ ไม่มีเงินทอง ไม่มีฐานะทางสังคม เป็นแค่หมอธรรมดาๆเท่านั้น
ส่วนเธอนั้นเป็นครอบครัวที่มั่งคั่งทั้งรวย และสวย ฉินจุนมีสิทธ์อะไรที่จะมาประกาศเป็นฝ่ายถอนหมั่นเธอ?
ฉินจุนขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดนั้น
“มีสิทธ์อะไรอย่างนั้นเหรอ? นี่ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่คุณต้องการเห็นหรอกเหรอ?”
ฝูหรงหรงกล่าวว่า “แม้ว่าฉํนอยากจะถอนหมั่นอยู่แล้ว แต่ต้องเป็นฉํนที่เป็นฝ่ายถอนหมั่นคุณ! ไม่ใช่คุณเป็นฝ่ายถอนหมั่นฉันแบบนี้!”
ฉินจุนยิ้มจาง ๆ “ไม่ต้องสนใจเรื่องนี้หรอก ยังไงก็ตาม ผลก็คือสัญญาแต่งงานทั้งหมดเป็นโมฆะแล้ว”
ใครจะเป็นฝ่ายถอนหมั่นเรื่องนี้ฉินจุนไม่ได้สนใจอยู่แล้วตั้งแต่แรก
อย่างไรก็ตามภาพที่เห็นฉินจุนถอนหมั่นโดยไม่สนใจอะไรเลยและท่าทีที่ต้องการเพียงอยากจะถอนมันนี้ ทำให้ฝูหรงหรงอารมณ์เสียมาก
เฮยังอยากจะพูดอะไรอีก แต่ฝูเสี่ยวเฟิงก็คว้าแขนของเธอไว้ก่อน
เขาขยิบตาให้เธอ เพื่อบอกให้เธอหุบปาก
ตอนนี้ดูเหมือนว่าฝูหรงหรงจะเสียหน้าไปบ้าง แต่ผลก็ยังดีอยู่ ในเมื่อสัญญาการแต่งงานของฉินจุนกับเธอจบลง ก็ไม่จำเป็นต้องให้ฉินจุนมาร่วมตระกูลอีกต่อไป
ปัญหาทั้งหมดที่คิดๆกันก่อนหน้านี้ก็ได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว และฝูหรงหรงเองก็สามารถแต่งงานกับคนอื่นได้ โดยเฉพาะคุณชายซู
เมื่อในวันนี้เธอได้รู้ว่าคุณชายซูเป็นลูกทูนหัวของถงฟางโจว การสานมิตรภาพของพวกเขายิ่งด่วนมากขึ้นไปอีก
เดิมทีถงฟางโจว เป็นผู้สูงศักดิ์ของตระกูลฝู หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากประธานถง ตระกูลฝูของพวกเขาก็คงจะแตกสลายไปแล้ว
ยากที่จะหาวิธีติดต่อกับประธานถง และครั้งนี้พวกเขาไม่พลาดแน่นอน
ในฐานะหัวหน้าตระกูล ฝูเสี่ยวเฟิงยืนขึ้นและกล่าวว่า
“ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว สัญญาการแต่งงานระหว่างตระกูลฉินและตระกูลฝูของเราถือเป็นโมฆะ”
“เสี่ยวฉิน ต่อไปนี้เวลาคุณอยู่ข้างนอก คุณไม่สามารถที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นลูกเขยของฉันได้อีกแล้ว คุณได้ยินแล้วไหม?”