ผู้รักษาสุดแกร่ง - บทที่ 602 นรีเวชวิทยา
เดิมทีประโยคนี้เป็นประโยคที่ฟู้เสียวเซวี่ยอยากมอบให้กับฉินจุน เพื่อให้ฉินจุนรู้ว่าเธอเป็นคนที่อยู่สูงจนเขาไม่เอื้อมไม่ถึง
แต่ตอนนี้ฟู้เสียวเซวี่ยกลับพูดไม่ออกเลยว่าจริง ๆ แล้วใครกันแน่ที่อยู่สูงจนเอื้อมไม่ถึง ?
แฟนสาวของฉินจุนก็คือหลิ่วชิงชิง ผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศจีน
แฟนสาวของฉินจุนฐานะสูงส่งขนาดนั้น เธอยังจะสูงกว่าหล่อนได้อยู่ไหม ?
ก่อนหน้านี้หลงคิดว่ารถที่ฉินจุนขับเป็นพวกรถนอกกฎหมายและเป็นของปลอม แต่ตอนนี้ดูไปแล้วเหมือนว่ารถที่ฉินจุนขับจะเป็นรถของประธานหลิ่ว !
ในใจฟู้เสียวเซวี่ยโกรธมาก เจ้าคนนามสกุลฉินนี่ไม่ธรรมดา ทำตัวเป็นแมงดาหาเกาะผู้หญิงดีๆกินได้ขนาดนี้ นับว่าเก่งไม่เบา !
มื้ออาหารไม่ได้จบลงอย่างราบรื่นเท่าไหร่ เจียงห่าวตกใจมาก เมื่อก่อนเขาเห็นฉินจุน ก็คิดว่ฉินจุนคงไม่มีรถขับด้วยซ้ำ ผลสุดท้ายกลายเป็นว่าเขาเป็นคนระดับสูงขนาดนี้
แม้ว่าจะเกาะเขากิน แต่เกาะคนระดับนี้กินได้ก็ไม่ธรรมดา น่าอิจฉามาก ๆ
แต่เรื่องที่ฉินจุนเกาะผู้หญิงกิน ก็ค่อยๆแพร่กระจายไปในหมู่เพื่อนร่วมชั้นของเขา
……
หลังจากที่ฉินจุนและหลิ่วชิงชิงออกมา ทั้งสองก็ขึ้นรถ
“คุณอยากไปไหน เดี๋ยวผมไปเป็นเพื่อนคุณเอง ”
ในฐานะแฟน ฉินจุนรู้สึกว่าเขาทำหน้าที่นี้ได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก เพราะเขาไม่ค่อยมีเวลาให้เธอ
ส่วนใหญ่แล้วหลิ่วชิงชิงก็ไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัว เธองานยุ่งตลอดเวลาและเวลาที่ทังสองคนจะได้อยู่ด้วยก็แทบไม่มี
หลิ่วชิงชิงขมวดคิ้วและกล่าวว่า
“ฉันมีเรื่องจะให้คุณช่วยอยู่พอดี เพื่อนรักของฉันคนหนึ่งมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ รักษาที่โรงพยาบาลหลายรอบแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น ฉันอยากให้คุณช่วยไปดูให้หน่อย ”
ในสายตาของหลิ่วชิงชิง ทักษะทางการแพทย์ของฉินจุนเป็นที่หนึ่งในใต้หล้า อาการป่วยของเธอในตอนนั้น ได้ควานหาแพทย์ชื่อดังทั้งในและต่างประเทศทั้งหมดมาแล้ว ไม่ว่าจะเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่เธอก็จ่ายไหว แต่ไม่มีใครรักษาเธอได้เลย
มีเพียงฉินจุนเท่านั้น ที่เหมือนชุบชีวิตเธอด้วยมือวิเศษ ภายในเวลาเพียงสองสามวันก็สามารถฟื้นรูปลักษณ์ของเธอกลับมาได้
ดังนั้นทักษะทางการแพทย์ของฉินจุนจึงไม่มีโรคไหนที่รักษาไม่หาย
ในเมื่อขอมาขนาดนี้แล้ว ฉินจุนก็จะช่วยอย่างแน่นอน
“เพื่อนคุณป่วยเป็นอะไร ? ”
หลิ่วชิงชิงกัดริมฝีปากของเธอด้วยความเขินอายเล็กน้อย
“โรคทางนรีเวชวิทยา……คุณรักษาได้ไหม ? ”
โรคทางนรีเวชวิทยาถือเป็นอีกหนึ่งวิชาหลัก แต่โดยทั่วไปสาขานี้จะมีผู้ชายเรียนค่อนข้างน้อย เหตุผลหลักเลยคืออุปสรรคในการรักษา ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่สะดวกใจที่จะให้แพทย์ที่เป็นผู้ชายตรวจสอบร่างกายหรือวินิจฉัยโรคทางนรีเวชวิทยา
ดังนั้น นรีแพทย์โดยทั่วไปมักจะเป็นผู้หญิง แม้แต่นรีแพทย์แผนจีนก็ยังเป็นผู้หญิงทั้งหมด
มีนรีแพทย์แผนจีนผู้หญิงหลายคนที่เชี่ยวชาญด้านนี้ เพราะเดิมทีแล้วมีแพทย์แผนจีนที่เป็นผู้หญิงไม่มากนัก ดังนั้นหากเชี่ยวชาญด้านนรีเวชวิทยา จะค่อนข้างเป็นที่นิยม
แม้ว่าฉินจุนจะเก่งรอบด้าน แต่เขาก็เป็นแพทย์ผู้ชายอยู่ดี ในแง่ของนรีเวชวิทยา หลิ่วชิงชิงไม่ค่อยแน่ใจ จึงถามเขาก่อน
ฉินจุนกลับดูเงียบสงบ
“ด้านนรีเวชวิทยาไม่ค่อยถนัด แต่ก็รักษาได้อยู่ ”
การที่ฉินจุนพูดว่าก็รักษาได้อยู่ คงไม่รักษาได้อย่างดายแน่นอน ในสายตาของเขา แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีนอย่างข่งฝานหลินเองก็มีความรู้ด้านนี้เพียงน้อยนิด
แม้ว่าฉินจุนจะไม่ถนัด แต่เขาก็ยังทำได้ดีกว่าแพทย์ทั่วไปมาก
เมื่อพูดแบบนี้ หลิ่วชิงชิงก็วางใจได้ทันที
“โอเค งั้นฉันจะพาคุณไปหาเธอ เพื่อนสนิทของฉันทำธุรกิจเครื่องประดับ เก่งมาก ๆ เลย ถ้าเธอตั้งใจเรื่องธุรกิจขึ้นมา ตำแหน่งคนที่รวยที่สุดอาจไม่ใช่ของฉันก็ได้ ”
ฉินจุนเลิกคิ้วขึ้นและแปลกใจเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าหลิ่วชิงชิงจะประเมินเพื่อนสนิทที่สุดของเธอสูงขนาดนี้
“เพื่อนสนิทเธอก็เป็นผู้หญิงแกร่งเหมือนกันเหรอ ? ”
หลิ่วชิงชิงกล่าวว่า “ก็ไม่ขนาดนั้น เธอชื่อหูเจียซิน เธอเป็นราชินีแห่งอัญมณีของจีน เจียซินน่ะมีบุคลิกแปลก ๆ ถ้าคุณได้เจอกับเธอ ฉันเดาว่า…… ชั่งเถอะ รอเจอแล้วค่อยว่ากัน ! ”
ฉินจุนรู้สึกสงสัยเล็กน้อยว่าผู้หญิงแบบไหนกัน หลิ่วชิงชิงถึงได้พูดเหมือนมันลึกลับ ?
ทั้งสองขับรถไปที่บ้านของหูเจียซิน
การตกแต่งบ้านหรูหรามาก และทั้งบ้านเป็นสไตล์ต่างประเทศ ตกแต่งสไตล์ยุโรป
เพียงแค่การตกแต่งก็สามารถซื้อบ้านอีกหลังได้แล้ว
หลังจากเข้าไปในบ้านแล้วก็เห็นคานสีแดงอยู่เหนือศีรษะของเขาและมีตู้ปลาวางไว้ใต้คาน
ฉินจุนขมวดคิ้ว แต่เดินเข้าไป
ในขณะนั้นก็มีผู้หญิงสองคนกำลังนั่งคุยกันอยู่บนโซฟา มีคนแก่หนึ่งคนและหญิงสาวหนึ่งคน
หญิงสาวคนนั้นสวมชุดนอน สามารถมองเห็นร่างงดงามของเธอได้จาง ๆ แม้ว่าชุดนอนจะหลวม แต่ก็มองเห็นรูปร่างที่น่าชื่นชมของเธอได้ คาดว่าถ้าเธอใส่ชุดรัดรูป รูปร่างของเธอจะต้องเซ็กส์ซี่กว่านี้แน่นอน
เธอไว้ผมสั้น หน้าตาดูน่ารักอ่อนหวาน และมีไฝที่มุมปากของเธอ แต่สีหน้าของเธอดูไม่ดีเท่าไหร่ น่าจะไม่สบายตัวเพราะมีอาการบางอย่าง
หญิงชราที่อยู่ถัดจากเธอสวมเสื้อกาวน์สีขาว เห็นได้ชัดว่าเป็นหมอ เธอกำลังวัดชีพจรของหูเจียซินอยู่
หญิงชราจับชีพจรของเธอครู่หนึ่ง ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า
“คุณหญิงหู ชีพจรของคุณเป็นปกติ ตามทฤษฎีแล้วฉันว่าคุณน่าจะหายดีแล้ว ทำไมถึง…… ”
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกั หูเจียซินก็เห็นว่าพวกหลิ่วชิงชิงมากันแล้ว จึงรีบทักทายพวกเขาอย่างรวดเร็ว
“ชิงชิงมาแล้ว เขาเป็นใครเหรอ ? ”
หลิ่วชิงชิงกล่าวว่า “ฉันเคยบอกเธอแล้วนะ แฟนของฉันเอง ฉินจุน ”
ทันใดนั้นสีหน้าที่ไม่ความสุขของหูเจียซินก่อนหน้านี้ ก็แสดงความขี้เล่นออกมา
“ว้าว หมอเทวดานี่เอง ฉันได้ยินชื่อนี้มานาน คุณสามารถขโมยหัวใจของเทพธิดาหลิ่วชิงชิงของพวกเราได้ มีฝีมือน่าดูเลยนะ ? ”
น้ำเสียงแซวของหูเจียซินทำให้เขาพูดไม่ออกเล็กน้อย และผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะแตกต่างจากคนอื่นจริง ๆ
“มีฝือมืออะไรกัน ชมเกินไปแล้วครับ “ฉินจุนไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดี เขาจึงตอบกลับไปเพียงไม่กี่คำ ตามด้วยรอยยิ้ม
ดูเหมือนหูเจียซินจะไม่ยอมปล่อยฉินจุนไปและเธอยังคงพูดต่อ
“คุณจีบชิงชิงยังไง เล่าให้ฉันฟังบ้างสิ หรือไม่คุณลองจีบฉันดูให้ฉันได้สัมผัสประสบการณ์บ้าง ฉันอยากรู้ว่าคุณจีบเพื่อนรักของฉันยังไง ? ถ้าคุณจีบฉันติดขึ้นมาฉันยอมเป็นกิ้กก็ได้ ”
ฉินจุน : ……
มิน่าหละที่หลิ่วชิงชิงบอกว่าเพื่อนสนิทของเธอไม่เหมือนคนอื่น พูดจาแต่ละคำเหมือนพวกผู้ชายกะล่อนสุด ๆ !
ฉินจุนเองก็ไม่รู้ว่าจะรับมือยังไงดี
หลิ่วชิงชิงมีสีหน้าที่จริงจังขึ้น “พอแล้วเจียซิน ฉันให้ฉินจุนมาช่วยดูอาการป่วยให้เธอ อาการเป็นยังไงเธอก็บอกเขาไป ”
เมื่อได้ยินว่าฉินจุนมาเพื่อรักษา หญิงชราก็ไม่เต็มใจนัก
“หืม ? คุณจะรักษาเหรอ ? ล้อเล่นหรือไง นี่มันโรคทางนรีเวชวิทยา ผู้ชายอย่างพวกคุณเข้าใจเหรอ ? ”
หูเจียซินหยุดเรื่องตลกของตนเอาไว้ก่อน และแนะนำว่า “นี่คือผู้เชี่ยวชาญด้านนรีเวชที่มีชื่อเสียงของเราในประเทศจีน คุณไป่ฮุ่ยเจินหรือหมอไป่ ”
ฉินจุนพยักหน้า “ผมมีความรู้เกี่ยวกับนรีเวชวิทยาอยู่บ้างนิดหน่อย ”
ไป่ฮุ่ยเจินถอนหายใจอย่างเย็นชา
“รู้แค่นิดหน่อย ยังกล้ารักษาอีกเหรอ ? เดี๋ยวนี้ทำไมใคร ๆ ก็กล้าเป็นหมอกันไปหมด ”
สายอาชีพเดียวกันนั้นถือเป็นศัตรู เดิมทีไป่ฮุ่ยเจินรักษาโรคให้หูเจียซิน ขณะนั้นฉินจุนคิดอะไรบางอย่างออก จะถือว่าเป็นการขโมยอาชีพของเธอก็ได้ สำหรับฉินจุนแล้วเธอไม่มีค่าอะไรอยู่แล้ว
ฉินจุนยิ้มจาง ๆ “ผมมีความรู้บ้างนิดหน่อย เมื่อเทียบกับที่อาจารย์พูด และคำเรียกที่ทุกคนนำมาเทียบกับผม ผมก็ถือว่าเป็นปรมาจารย์แล้ว ”
คำพูดของฉินจุนทำให้สีหน้าของไป่ฮุ่ยเจินเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“บ้าไปแล้วหรือไง ! ฉันพึ่งเคยเห็นเด็กหนุ่มบ้า ๆ แบบนี้ครั้งแรกเลย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น แค่โรคทางนรีเวชคุณจะรักษายังไง ? ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าคนหนุ่มสาวสมัยนี้เขาไม่ถือสาความเป็นชายหญิงกันแล้วหรือไง ? ”
เนื่องจากเป็นโรคทางนรีเวชวิทยา จึงต้องรักษาในส่วนที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของผู้หญิง แน่นอนว่าจะต้องถอดกางเกงเพื่อตรวจร่างกายตามปกติ แต่มีเส้นกันระหว่างความเป็นผู้ชายและผู้หญิงอยู่ ซึ่งมันไม่สะดวกเท่ากับการให้แพทย์ผู้หญิงเป็นคนตรวจสอบ
แต่ฉินจุนกลับกล่าวโดยไม่สนใจ
“ผมไม่จำเป็นต้องดูหรอก คุณดูไปหมดแล้วไม่ใช่เหรอ บอกผมมาก็จบ ผมจะตรวจชีพจรให้ ”
หลังจากพูดจบฉินจุนก็เดินไปหาหูเจียซินและเริ่มตรวจชีพจรของเธอ
ไป่ฮุ่ยเจินก็รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
“ฉันเห็นแล้ว และจะให้ฉันบอกให้ฟังเหรอ ? ทำไมฉันต้องบอกคุณด้วย ถ้าฉันบอกไป จะได้เห็นทักษะการแพทย์อันสูงส่งของคุณได้อย่างไร ? เหอะ ! ”