ผู้รักษาสุดแกร่ง - บทที่ 603 ผู้เชี่ยวชาญ
ฉินจุนส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และพูดขณะตรวจชีพจรไปด้วย
“นี่ไม่ใช่การแข่งขันสักหน่อย การร่วมมือกันรักษาโรคให้กับผู้ป่วยถือเป็นเป้าหมายสูงสุด ไม่อย่างนั้นจะมีคุณไปเพื่ออะไร ? ”
“และอีกอย่าง ถ้าต้องแข่งกันขึ้นมาจริง ๆ คุณก็ไม่มีคุณสมบัติพอหรอก ”
แม้ว่าไป่ฮุ่ยเจินจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนรีเวชวิทยา แต่ความสามารถโดยรวมของเธอยังไม่มาก ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีนได้ ฉินจุนไม่เคยเห็นชื่อเธอในรายชื่อผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีนที่มีชื่อเสียงเลย
แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีนก็ยังไม่ใช่ จะมีคุณสมบัติอะไรมาแข่งกับฉินจุน จุดอ่อนของเขามีแค่ในด้านนรีเวชวิทยาเท่านั้นเอง
เมื่อไป่ฮุ่ยเจินได้ยินสิ่งที่ฉินจุนพูดเธอก็โกรธจัด
“คุณมันจองหอง ! อายุก็แค่นี้ เพิ่งเคยรักษามาได้ไม่กี่ปี ยังกล้าอวดเก่งอีกเหรอ ? วันนี้ฉันจะไม่บอกอาการอะไรกับคุณทั้งนั้น มาดูกันว่าคุณจะรักษายังไง ! ”
ฉินจุนไม่ได้โต้ตอบอะไร ไม่บอกก็ไม่ต้องบอก ไม่ใช่ว่ารักษาไม่ได้สักหน่อย แต่ถ้าบอกก็จะทำให้การวินิจฉัยโรคแม่นยำยิ่งขึ้น
ฉินจุนไม่แคร์ แต่หูเจียซินค่อนข้างแคร์มาก
“หมอไป่คะ ฉันจ่ายเงินให้คุณนะคะ และฉันหวังว่าคุณจะให้ความร่วมมือ ไม่ว่าคุณจะรักษาให้หายได้หรือไม่ แต่ค่าปรึกษาของคุณแต่ละครั้งนับว่าไม่น้อยเลยนะ ”
เมื่อเห็นสีหน้าของหูเจียซินกำลังไม่สบอารมณ์ ไป่ฮุ่ยเจินจึงรีบกล่าวอย่างรวดเร็ว
“ไม่ไม่ไม่ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นเลยนะคะ คุณหูเข้าใจผิดแล้ว ได้เลยค่ะ ฉันจะบอกเขาเดี๋ยวนี้ ”
ไป่ฮุ่ยเจินไม่มีทางเลือก แม้ว่าเธอจะอารมณ์เสียกับฉินจุนมากแค่ไหน แต่เธอก็ทำได้เพียงต้องอธิบายสถานการณ์ภายนอกคร่าว ๆ ให้กับฉินจุน
“มันอักเสบนิดหน่อย…… ”
หลังจากพูดจบ ฉินจุนก็พยักหน้าและเปลี่ยนมืออีกข้างตรวจชีพจร
หลังจากนั้นไม่นาน สีหน้าของหูเจียซินก็ซีดเล็กน้อย ราวกับว่าเขารู้สึกเจ็บปวด
ฉินจุนวางมือบนหน้าท้องส่วนล่างของหูเจียซิน และกดจุดตันเถียนไปทางขวา
“เจ็บมั้ย ? ”
“โอ้ย ! ”
เมื่อฉินจุนกดลงตรงนั้น หูเจียซินก็ร้องแกมา เหมือนว่าเธอเจ็บปวดมาก
ฉินจุนหยิบเข็มเงินออกมาอย่างรวดเร็วและเจาะเข้าไปที่ใต้สะดือราว 3 นิ้ว หลังจากที่เข็มเงินฝังลงไปสองอัน สีหน้าของหูเจียซินก็เปลี่ยนไป
“เอ่อ…..ฉันอยากเข้าห้องน้ำหน่อย ”
“รีบไปเถอะ “ฉินจุนกระตุ้นไม่กี่เข็มก็เพื่อให้ร่างกายเธอระบายน้ำออกมา
หูเจียซินทนความเจ็บปวด รีบลุกจากเตียงและวิ่งไปที่ห้องน้ำทันที
สองนาทีต่อมา หลังจากที่เดินออกมา ท่าทางของเธอดีขึ้นมาก เธอกลับมาที่เตียงและพูดว่า
“ที่ท้องรู้สึกดีขึ้นมากเลย หรือเพราะกลั้นปัสสาวะหรือเปล่า ? ”
ฉินจุนถาม “คุณดื่มน้ำเยอะใช่ไหม ? ”
“ใช่ ฉันดื่มน้ำอุ่นเยอะ ”
“ใครบอกให้คุณดื่ม ? ”
ไป่ฮุ่ยเจินรีบพูดแทรก “ฉันบอกให้เธอดื่มเอง ! สารเหลวยินไตอ่อนและชื้นมาก เธอควรดื่มน้ำอุ่นเยอะ ๆ มีปัญหาอะไรหรือไง ? ”
น้ำเสียงของไป่ฮุ่ยเจินแย่มากและทำหน้าไม่สบอารมณ์ฉินจุนเท่าไหร่ ดื่มน้ำอุ่นเยอะ ๆ มันผิดตรงไหน ?
แม้ว่าจะไม่ป่วย ก็ควรดื่มน้ำอุ่นมาก ๆ อยู่แล้ว
ฉินจุนกล่าวด้วยรอยยิ้มจาง ๆ
“ผิดแล้ว การดื่มน้ำอุ่นมาก ๆ ไม่ได้ผิดอะไร แต่คุณหญิงหูมีอาการทางร่างกายเป็นพิเศษ เธอกินอาหารรสเปรี้ยวมากเกินไป ซึ่งทำให้มดลูกหดรัดตัวมากจนอวัยวะอื่น ๆ เริ่มบวม ”
“เมื่ออวัยวะบวมและบีบท่อไตซึ่งทำให้ไม่เอื้อต่อการถ่ายปัสสาวะ การดื่มน้ำอุ่นทำให้กระเพาะปัสสาวะใหญ่ขึ้น จนถูกบีบร่วมกับอวัยวะอื่น ๆ ทำให้ไม่สามารถขับออกจากร่างกายได้ เป็นสาเหตุที่ทำให้ปวดท้อง ”
“หลังจากปัสสาวะแล้ว ตอนนี้คุณหญิงหูรู้สึกได้ทันทีว่าความเจ็บปวดในช่องท้องของเธอลดลงจริงๆ แล้วมันไม่ใช่แค่อาการลดลง แต่มันหายไปเลย ”
“คุณอาจจะยังรู้สึกไม่สบายท้องอยู่บ้าง แต่นี่คือความเจ็บของอาการป่วยที่แท้จริง ”
“ตอนนี้มาตรวจชีพจรอีกครั้ง ”
หลังจากพูดจบ ฉินจุนก็วินิจฉัยชีพจรของหูเจียซินอีกครั้ง
คำพูดเมื่อครู่นี้ เอาจนไป่ฮุ่ยเจินถึงกับพูดไม่ออก
ดูเหมือนว่า……หลักการเมื่อครู่คือความจริง
บางครั้งวิชาแพทย์ก็จะเป็นแบบนี้ แค่สรุปให้สั้น ๆ และให้เหตุผลที่เข้าใจง่าย ๆ ที่แม้แต่เด็กฝึกงานก็ยังเข้าใจได้อย่างชัดเจน
แต่ก่อนจะบอกสรุปสั้น ๆ ได้ กว่าจะคิดไปถึงแง่นั้นได้ก็ยากมาก
หรือไม่อีกทางหนึ่ง ก็คืออยู่ ๆ ก็สามารถนึกถึงผลลัพธ์นี้ขึ้นมาได้
หรือไม่ก็มีประสบการณ์การรักษามาก และความเข้าใจในทฤษฎีทางการแพทย์นั้นต้องแม่นยำมาก เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้ในเวลาอันสั้น
ไป่ฮุ่ยเจินงงเล็กน้อย อายุน้อยขนาดนี้ก็สามารถมีทักษะทางการแพทย์แบบนี้ได้ด้วยเหรอ ?
ไป่ฮุ่ยเจินเลิกพูดและมองดูฉินจุนตรวจชีพจรของเขาต่อไป อยากรู้ว่าเขาจะทำอะไรได้บ้าง
ไม่กี่นาทีหลังจากการวินิจฉัยชีพจร ฉินจุนกล่าวว่า
“ร่างกายอ่อนแอและม้ามก็ชิ้น ปัญหาอยู่ที่ม้าม คุณไม่สามารถกินรสเปรี้ยวจัด ๆ ได้อีกต่อไป และควรจะงดทานอย่างน้อยสามเดือน”
หูเจียซินทำปากมุ่ย ของเปรี้ยวที่เธอโปรดปรานในทุก ๆ วัน ทั้งเบย์เบอร์รี่เอย เซียงจาเอย ตอนนี้ฉินจุนขอให้เธอเลิกทานสิ่งเหล่านี้ ราวกับเธอถูกพรากชีวิตไปจริงๆ
ฉินจุนมองท่าทีที่หูเจียซินแสดงออกมาและยิ้มอย่างแผ่วเบา “ไม่ต้องทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ผมจะให้สิ่งที่สามารถบรรเทาความอยากของคุณได้ ”
“สาลี่น้ำส้มเย็น ”
เมื่อได้ยินคำนี้ ผู้หญิงทั้งสามคนในห้องก็ถึงกับตกตะลึง
เคยได้ยินมาแต่สาลี่น้ำเชื่อม แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินชื่อสาลี่น้ำส้มเย็น
ฉินจุนกล่าวว่า “วิธีทำสาลี่น้ำส้มเย็นง่ายมาก แช่ลูกสาลี่ในน้ำส้มสายชูสีขาว หลังจากหมักไปหนึ่งคืน นำออกมาและเก็บไว้ในตู้เย็นข้ามคืน ในวันถัดไปก็จะสามารถทานได้ ”
“แม้ว่าคุณจะมีปัญหาเกี่ยวกับนรีเวชวิทยา แต่ก็ไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงของเย็นและรสเผ็ด แค่ต้องจำไว้ว่าอย่ากินของเย็น ๆ เช่นนี้ในช่วงมีประจำเดือนของก็พอ ”
หูเจียซินประหลาดใจมาก สาลี่น้ำส้มเย็นนี้ฟังไม่เลว หวานอมเปรี้ยว และเย็น สามารถช่วยลดความอยากเปรี้ยวและสามารถรักษาโรคได้ น่าทึ่งมาก ๆ
ขณะนี้หูเจียซินรู้สึกเคารพฉินจุน เพราะผู้ชายคนนี้แตกต่างออกไป
ถ้าเปลี่ยนเป็นหมอคนอื่นคงจะห้ามไม่ให้เธอกินเปรี้ยวเลย
คุณห้ามกินเปรี้ยวเด็ดขาด ชีวิตสำคัญหรือของกินสำคัญกว่า ?
แต่การรักษาของฉินจุนมีมนุษยธรรมมาก ไม่เพียงแต่สามารถรักษาโรคได้ แต่ยังพยายามทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายใจมากขึ้นในกระบวนการรักษา
ไป่ฮุ่ยเจินขมวดคิ้วและถาม
“ในเมื่อมีไฟในม้าม ควรจะใช้สมุนไพรไผตู๋ทังหรือไม่”
ในเวลานี้ ไป่ฮุ่ยเจินไม่มีท่าทางหยิ่งยโสอีกต่อไปแล้ว และตอนนี้เธอก็กำลังคุยกับฉินจุนในท่าทีปกติ
สำหรับการแลกเปลี่ยนทางวิชาการอย่างจริงจัง ฉินจุนไม่เคยพูดจาไร้สาระ
“สมุนไพรไผตู๋ทังก็ดีจริง ๆ แต่มีอย่างหนึ่งที่ดีกว่า นั่นคือฝูหลิง”
ไป่ฮุ่ยเจินขมวดคิ้ว “ฝูหลิงเหรอ ? ”
“ถูกต้อง ทั้งฝูหลิงและไผตู๋ทังสามารถควบคุมความร้อนในม้ามได้ แต่ฝูหลิงยังสามารถช่วยขับปัสสาวะและลดอาการบวมน้ำ ทำให้ผู้ป่วยสามารถปัสสาวะได้อย่างราบรื่นและหลีกเลี่ยงความรู้สึกท้องอืดและความเจ็บปวดได้อีกด้วย ”
หลังจากที่ฉินจุนอธิบายเสร็จแล้ว ไป่ฮุ่ยเจินก็ตระหนักได้ทันที
“เป็นอย่างนี้นี่เอง ! ”
ไม่คาดคิดว่าฉินจุนสามารถศึกษารายละเอียดพวกนี้ได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ในมุมมองของไป่ฮุ่ยเจิน ฝูหลิงได้แก้ปัญหานี้อย่างสมบูรณ์แบบ
แต่ไม่ได้พิจารณาว่าระหว่างการรักษา อาการตอนนี้ อาจปรากฏขึ้น ถ้าเกิดขึ้นอีก กลัวว่าจะต้องปัสสาวะเหมือน ฉิน จุน เพื่อแก้
หากคุณใช้ Fuling Tang จะได้รับการแก้ไขโดยตรง
นี่… หมอผู้มากประสบการณ์ต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ!
ไป่ฮุ่ยเจิ้นยืนขึ้นและพูดกับฉินจุนด้วยความเคารพ
“ก่อนหน้านี้ฉันกะทันหัน ไม่คิดว่าพระเอกจะเป็นวัยรุ่น มีหมอเทวดารุ่นเยาว์นี่ดีจริงๆ ? ”
ฉินจุนกล่าวว่า “ไม่ต้องเกรงใจ นามสกุลของฉันคือฉิน ชื่อฉินจุน ”
“นามสกุลคือฉินเหรอ ? “ไป่ฮุ่ยเจินประหลาดใจอย่างกะทันหัน “หรือว่าคุณคือ…… ปรมาจารย์ฉิน? ”
ฉินจุมยิ้ม “คุณก็รู้จักผมด้วยเหรอ ? ”
ไป่ฮุ่ยเจิน แทบจะกระโดดด้วยความตื่นเต้น
“แน่นอน ฉันรู้ว่าปรมาจารย์ฉินเป็นมาตรฐานของชุมชนแพทย์แผนจีน เราจะไม่รู้จักคุณได้อย่างไร เป็นเกียรติที่ได้พบคุณที่นี่ ! ”
เมื่อหูเจียซิน เห็นภาพนี้ถัดจากเขาและพูดพร้อมกับไขว่ห้าง
“อ๋อ คุณเป็นคนดังนี่เอง ? ”