ผู้รักษาสุดแกร่ง - บทที่ 611 ยะหยา
นี่เหรอปาร์ตี้เน็ตไอดอล มันเต็มไปด้วยความอวดร่ำอวดรวย
ว่ากันตามความจริงแล้ว รถหรูพวกนี้ เน็ตไอดอลอย่างพวกเธอซื้อไม่ไหวกันหรอก
ถึงแม้ว่าจะเป็นเน็ตไอดอล แต่รายได้ต่อปีของพวกเธอก็ไม่ได้มากมาย ต่อให้เป็นเน็ตไอดอลเบอร์ต้น ๆ ยังยากเลยที่จะมีรายได้ต่อปีถึงหลักสิบล้าน เพราะฉะนั้นการซื้อรถสปอร์ตหลักสิบล้านแบบนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย
รถพวกนี้ถ้าไม่ได้เช่ามา ก็คงเป็นของหนุ่ม ๆ เศรษฐีที่ควงมาด้วย
หลังจากฉินจุนและหวังตงเสวี่ยลงมาจากรถ ก็ดูแตกต่างไม่เข้าพวกกับคนพวกนั้นเลย
พอเห็นหวังตงเสวี่ยลงมาจากรถ ก็มีสาว ๆ สวมใส่เครื่องประดับมากมายมาล้อมตัวหวังตงเสวี่ย
“อุ๊ย นี่ตงเสวี่ยไม่ใช่เหรอ แม่ครัวสาวของพวกเราจ้ะ นี่คือท็อปสเปนเดอร์ของเธอเหรอ?ทำไมดูธรรมดาขนาดนี้!”
ฉินจุนขับรถออดี้Q7 ถึงแม้ว่าจะดูเจ๋งมากในสายตาของคนธรรมดา แต่พอมาเทียบกับพวกมหาเศรษฐีเหล่านี้แล้ว ยังดูกระจอกกว่ามาก
เหล่าสาว ๆ ต่างซุบซิบพูดคุยกับเจื้อยแจ้ว เนื้อหาที่คุยกันส่วนใหญ่ก็ไม่พ้นเรื่องราวของหนุ่ม ๆ มหาเศรษฐีที่อยู่ล้อมรอบ ว่ารถใครดีกว่ากัน ใครส่งของขวัญในไลฟ์มากกว่ากัน
หวังตงเสวี่ยรู้สึกไม่เข้าพวกกับคนพวกนี้สักเท่าไหร่ พวกสาว ๆ เน็ตไอดอลพวกนี้ส่วนใหญ่ที่ดังได้ก็เพราะอาศัยการสนับสนุนจากบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง กับความสามารถเต้นรำร้องเพลงที่มีอยู่นิด ๆ หน่อย ๆ บวกกับการจัดแสงถ่ายภาพของพวกตากล้อง และรวมไปถึงการแต่งรูปและการตัดต่อที่ขั้นเทพ ถึงได้ทำให้พวกเธอมีชื่อเสียงขึ้นมา
แต่หวังตงเสวี่ยนั้นอาศัยทักษะความสามารถของตัวเอง ทักษะการทำอาหารของตัวเอง และเป็นเพราะความสวยและความแมสของเธอ จึงทำให้เธอโดนจับมาอยู่สายเดียวกับคนพวกนี้
“ทุกคนเข้าไปด้านในกันก่อนดีกว่า อีกครู่หนึ่งยะหยาก็มาแล้ว”
พอพูดถึงยะหยาทุกคนก็ตื่นเต้นกันขึ้นมาทันที
ยะหยาถือเป็นบุคคลในตำนาน เธอโด่งดังเพียงข้ามคืนจากคลิปวิดีโอสั้น ๆ
โดยปกติแล้ว กว่าที่เน็ตไอดอลคนหนึ่งจะดังขึ้นมาได้จะต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งปี
ค่อย ๆ สะสมฐานแฟนคลับขึ้นมาเรื่อย ๆ จนพอประมาณ และมีผลงานออกมาจำนวนมากแล้ว บริษัทก็จะเริ่มทำการโปรโมตให้ แล้วแฟนคลับของเราก็จะเริ่มเพิ่มขึ้นเป็นวันละหมื่นสองหมื่น
ประมาณหนึ่งปี ก็จะมีแฟนคลับถึงระดับล้านคนหรือมากกว่าสิบล้านเลยด้วยซ้ำ
แต่กับยะหยานั้นมันแตกต่างออกไป ยะหยาโด่งดังภายในค่ำคืนเดียว แค่คลิปวิดีโอสั้น ๆ คลิปเดียวก็ทำให้มีแฟนคลับเพิ่มขึ้นวันละหลายแสน
ใช้เวลาเพียงแค่เดือนเดียว ก็ทำให้เธอมีแฟนคลับสูงถึงหลับสิบล้าน กลายเป็นเน็ตไอดอลแถวหน้าของวงการ เติบโตอย่างรวดเร็ว
คนแบบนี้หายากมากจริง ๆ ทั้งหน้าตาดี เต้นก็เก่ง แบ๊ว ๆ น่ารัก ๆ แต่งตัวก็เซ็กซี่มาก ประกอบกับมีคนหนุนเธออยู่เบื้องหลัง จึงทำให้เธอมีชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว
ทุกคนต่างก็ชอบคบค้าสมาคมกับเน็ตไอดอล พอยะหยาดังขึ้นมาก็มีเพื่อนเยอะขึ้นมาทันที พวกผู้หญิงเหล่านี้แค่อยากจะสนิทกับยะหยาเอาไว้ เผื่อว่าจะดังไปด้วย
แต่ว่าในงานนี้มีเพียงคนเดียวที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์อันดีอะไรกับยะหยา นั่นก็คือหวังตงเสวี่ย
ก่อนที่ยะหยาจะมีแฟนคลับเป็นสิบล้าน เธอเคยไลฟ์สดมาเจอกับหวังตงเสวี่ย ทั้งสองคนแบทเทิลกันในไลฟ์ ตอนนั้นจำนวนแฟนคลับของพวกเธอยังพอ ๆ กันอยู่
แต่ว่าแฟนคลับของยะหยานั้นมีแต่พวกแฟนคลับปลอม ส่วนแฟนคลับของหวังตงเสวี่ยนั้นเป็นแฟนคลับตัวจริงพวกเขาติดตามเธอก็เพราะถูกดึงดูดจากฝีมือการทำอาหารของเธอ
ถึงแม้ว่าจำนวนแฟนคลับของทั้งสองคนจะพอ ๆ กัน แต่ว่าพอไลฟ์ไปเรื่อย ๆ ก็เห็นความแตกต่างแล้ว หวังตงเสวี่ยบดขยี้เอาชนะยะหยาไปอย่างราบคาบ
และนั่นถือเป็นประสบการณ์การพ่ายแพ้ครั้งเดียวในชีวิตของยะหยาตั้งแต่ไลฟ์สดมา
หวังตงเสวี่ยนั้นไม่ได้คิดอะไร เพราะมันก็แค่การแบทเทิลของบล็อกเกอร์ก็เท่านั้น มันก็แค่เป็นวิธีการสร้างความสนุกให้กับทุกคนก็เท่านั้นไม่ใช่การแข่งขันอะไรจริงจังเสียหน่อย ไม่มีอะไรต้องซีเรียส
แต่ยะหยานั้นกลับจำฝังใจ เธอเคยพูดจาเสียดสีหวังตงเสวี่ยเอาไว้ในคลิปวิดีโอหนึ่งของเธอ
จนมาถึงวันนี้ ทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่มีใครติดตามกันและกัน ทุก ๆ วันจะต้องเห็นแฟนคลับของทั้งสองฝ่ายออกมาคอมเมนต์ด่ากัน เพราะฉะนั้นทุกคนจึงต่างรู้ว่าพวกเธอทั้งสองคนไม่ถูกกัน
กับเรื่องนี้แล้ว หวังตงเสวี่ยเองก็จนปัญญามาก เธอไม่ได้มีความรู้สึกเคียดแค้นอะไรใด ๆ กับยะหยา มีแต่ยะหยาเท่านั้นที่โจมตีเธอมาตลอด
ทุกคนเข้ามาในร้านอาหารสุดหรูแห่งหนึ่ง มีชายหญิงเต็มไปหมด ทุกคนก็เดินเข้ามานั่งที่
ผู้ชายเหล่านี้ถ้าไม่ใช่ลูกเศรษฐี ก็เป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่ ดู ๆ แล้วต่างก็เป็นคนรวยที่มีเงินมีอำนาจกันทั้งนั้น
หลังจากที่ทุกคนเดินเข้ามานั่ง รอคอยการปรากฏตัวของยะหยาอย่างอดทน
รอเกือบยี่สิบนาที อาหารก็มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะพร้อมหมดแล้ว ตอนนั้นเองถึงมีสองคนเดินเข้ามาในงานอย่างช้า ๆ
เป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ผู้หญิงสูงประมาณ165เซนติเมตร สวมใส่รองเท้าส้นสูงจึงทำให้ดูสูงเพรียว ผิวของเธอออกสีแทน ใบหน้าเหลี่ยมนิดหน่อย ดวงตาของเธอก็ไม่ได้กลมโตเหมือนกับในวิดีโอ
มีหลายคนที่เพิ่งเห็นยะหยาตัวเป็น ๆ ครั้งแรก ต่างก็ออกอาการผิดหวัง เดี๋ยวนี้ฟิลเตอร์ในกล้องถ่ายรูปที่มันพัฒนาไปไกลจริง ๆ
ชายที่อยู่ด้านข้างของยะหยา เขาแต่งตัวดูดีมาก สวมใส่แบรนด์Balenciagaทั้งตัว พร้อมกับสวมใส่นาฬิกาจากแบรนด์Jaeger-LeCoultre ทั้งตัวนี้คำนวณคร่าว ๆ แล้วก็ตกสามถึงห้าล้านอยู่
ยะหยาคล้องแขนผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามานั่งที่ ก่อนจะเอ่ยแนะนำ
“นี่คือท่านประธานจี้ จี้กั๋วจวิน ทำธุรกิจสินค้าแบรนด์เนมจ้ะ”
พอได้ยินดังนั้นดวงตาของเหล่าสาว ๆ ก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที ก่อนจะรีบเอ่ยทักทาย
ผู้หญิงต่างก็ชอบของแบรนด์เนม ได้รู้จักกับเจ้าของธุรกิจสินค้าแบรนด์เนมเอาไว้ ไม่แน่ในอนาคตเวลาซื้อกระเป๋าซื้อเครื่องประดับจะได้ถูก ๆ ฉะนั้นทุกคนจึงทักทายเอ่ยทำความรู้จักอย่างครึกครื้น
จี้กั๋วจวินเองก็เอ่ยทักทายกับทุกคน พอเห็นหวังตงเสวี่ยเข้า จี้กั๋วจวินก็ชะงักก่อนจะยิ้มบาง ๆ
“นี่หวังตงเสวี่ยใช่ไหมครับ สวยจนไม่ต้องใช้ฟิลเตอร์อะไรเลยจริง ๆ นะครับเนี่ย”
ก่อนหน้านี้หวังตงเสวี่ยเคยพูดในไลฟ์ไปแล้วว่า เธอไม่เคยใช้ฟิลเตอร์ใด ๆ เวลาไลฟ์สดหรืออัดวิดีโอก็ใช้กล้องสดตลอด
พอวันนี้ได้มาเห็นตัวเป็น ๆ ก็เป็นดังที่เขาว่ากันจริง ๆ หวังตงเสวี่ยนั้นสวยเหมือนกับในวิดีโอเป๊ะ ๆ แถมตัวจริงยังสวยกว่าอีกด้วย
เดิมทีจี้กั๋วจวินก็ค่อนข้างสนใจเธอ แต่พอเห็นว่าที่ข้าง ๆ ของหวังตงเสวี่ยมีผู้ชายอยู่ด้วย เขาก็ทำหน้านิ่งทันทีพร้อมกับเอ่ยถาม
“ท่านนี้คือ……”
หวังตงเสวี่ยรับรู้ได้ว่าทุกคนต่างมองมาด้วยสายตาที่เป็นศัตรู เธอจึงรีบคล้องแขนฉินจุนแล้วเอ่ย
“นี่คือเพื่อนของฉันค่ะ เขาเป็นท็อปสเปนเดอร์ ป้าเฟิงตระกูลฉิน”
พูดจบหวังตงเสวี่ยก็แอบกะพริบตาให้ฉินจุน อยากให้เขาเล่นละครก่อนสักพัก เพราะถึงอย่างไรคนพวกนี้ก็พาท็อปสเปนเดอร์ของตัวเองมากันทั้งนั้น ถ้าหากเธอพาคนแปลกหน้ามา ก็จะรู้สึกไม่เข้าพวกสักเท่าไหร่
ฉินจุนยิ้มแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา จริง ๆ แล้วเขาไม่ต้องเล่นละครอะไรเลย เพราะจริง ๆ แล้วแอคป้าเฟิงตระกูลฉินก็คือเขานั่นเอง เพียงแค่เขาใช้แอคเคาท์ของป้าเฝิงก็เท่านั้น
พอได้ยินว่าป้าเฟิงตระกูลฉิน ทุกคนก็ตกตะลึงทันที นี่คือทายาทเศรษฐีเลยนะ
แอคป้าเฟิงตระกูลฉินถือว่ามีชื่อเสียงมาก ๆ ในวงการ ก่อนหน้านี้เขาเคยขึ้นแรงค์ท็อปสเปนเดอร์ ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะได้มาเจอตัวจริง ที่แท้ตัวจริงก็ทั้งยังหนุ่มแถมยังหล่อขนาดนี้เลยเหรอ?
จี้กั๋วจวินหัวเราะเสียงเย็น “หึหึ ตอนแรกผมก็คิดว่าใคร ที่แท้ก็ป้าเฟิงตระกูลฉินเองเหรอ ก็ไม่ได้พิเศษโดดเด่นอะไรนี่นา ให้เดานะ เงินที่เอามาส่งของขวัญนี่ก็เงินที่บ้านใช่ไหม?พ่อแม่ให้เงินเอามาใช้เล่นมากมายขนาดนั้นเลยเหรอ?คงจะไม่ได้ขโมยเงินที่บ้านมาใช่ไหม?ฮ่าฮ่าฮ่า……”
จี้กั๋วจวินนั้นไม่ได้ทั้งหนุ่มทั้งหล่อแบบฉินจุน คงจะดูเหนือกว่าก็แค่ตัวเองนั้นเป็นเศรษฐีเองเลยไม่ได้เป็นทายาทเศรษฐีที่ไหน
จี้กั๋วจวินนั้นทำธุรกิจด้วยตัวเอง มีเงินเป็นของตัวเอง จึงสามารถเอาไปใช้ได้ตามใจชอบ
ในสายตาของเขา ไอ้ฉินจุนอะไรนี่จะต้องเอาเงินพ่อแม่มาเปย์สาว ๆ เน็ตไอดอลแน่ ๆ เพราะฉะนั้นหมอนี่เทียบกับเขาไม่ได้ติด
พอเห็นว่าฉินจุนไม่พูดอะไร จี้กั๋วจวินก็ยิ้มออกมา คิดว่าฉินจุนคงจะกลัวตัวเองแล้ว จากนั้นเขาก็หยิบถุงช้อปปิ้งออกมาแล้วเอ่ย
“วันนี้ได้มาเจอหน้าทุกคนเป็นครั้งแรก ผมก็เลยเตรียมของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ทุกคนครับ”
พอเห็นถุงช้อปปิ้งนี้ สาว ๆ ต่างก็ตะลึงกันทันที
“หา?กระเป๋าLouis Vuitton?ท่านประธานจี้นี่ใจกว้างขนาดนี้เลยเหรอคะ?”
“นั่นสิเจอหน้ากันครั้งแรกก็ให้ของแพงขนาดนี้เลย รู้สึกเกรงใจมาก ๆ เลยค่ะ!”
“ท่านประธานจี้นี่ใจป้ำสุด ๆ ไปเลยค่ะ ขอบคุณมาก ๆ นะคะ!”
สาว ๆ กลุ่มนี้รีบเข้าไปหยิบมาคนละถุง พวกเธอไม่คิดเลยว่าจี้กั๋วจวินจะใจกว้างขนาดนี้ เหล่าเน็ตไอดอลสาว ๆ แค่เจอหน้าเขาก็ได้กระเป๋ากันคนละใบแล้ว สมกับที่ทำธุรกิจแบรนด์เนมจริง ๆ
เพราะเหตุนี้จึงทำให้ตำแหน่งของจี้กั๋วจวินในใจสาว ๆ เหล่านี้สูงขึ้นมาทันที