ผู้ใช้แสตนในโลกมาร์เวล - ตอนที่ 256

บทที่ 256

เจ้าหน้าที่ SHIELD กลับมาดำเนินการต่อในการจดจำใบหน้าทั่วโลกเพื่อค้นหาโลกิและกลุ่มของเขา

ในระหว่างนั้นโลกิก็ปรากฏตัวขึ้นหลังจากบาร์ตันและดร. เซลวิกถือคทามายด์สโตนไว้ในมือ

“ความคืบหน้าของพอร์ทัลเป็นอย่างไรบ้าง?” โลกิถามอย่างเย็นชา

“ว้าวคุณยังมีชีวิตอยู่เหรอ? ฉันหมายถึงเจ้าหน้าที่บาร์ตันเห็นคุณถูกสังหารโดยมนุษย์ที่นั่น! ฉันสงสัยว่าผู้ชายคนนั้นมาโผล่ข้างๆคุณทันทีแบบนั้นได้ยังไง” ดร. เซลวิกกล่าวอย่างสงสัย

ในขณะเดียวกันบาร์ตันก็เล็งธนูไปที่โลกิทันทีโดยสงสัยว่าโลกิคนนี้เป็นตัวปลอม

“โอ้ ใจเย็นลงบาร์ตัน! คนที่ถูกฆ่าเป็นเพียงภาพลวงตาของข้า!” โลกิพูดกับบาร์ตันอย่างรำคาญ

โลกิยกคทาขึ้นและเกิดไฟฟ้าช็อตทำให้บาร์ตันและดร.เซลวิกตกใจ

“เชื่อข้าหรือยัง?” โลกิกล่าวอย่างเย็นชา

“แน่นอนเจ้านาย!” ดร.เซลวิกกล่าวอย่างเชื่อฟัง

สิ่งที่น่าตกใจในตอนนี้คือเวทมนตร์ที่โลกิใช้ซึ่งได้รับการขยายจากคทามายด์สโตนเขาไม่ได้ควบคุมจิตใจของบาร์ตันหรือแม้แต่ของดร. เซลวิก แต่โลกิกลับล็อกความคิดของพวกเขาและสร้างบุคลิกใหม่ให้พวกเขาทั้งคู่ แต่บุคลิกใหม่นั้นมีความทรงจำทุกอย่างที่คนถูกขัง แต่โลกิสร้างความทรงจำปลอมให้!

“ดี ทีนี้รายงานความคืบหน้าในปัจจุบันของเจ้ามา เสร็จหรือยัง?” โลกิถามเกี่ยวกับพอร์ทัลอีกครั้ง

“ฉันเชื่อว่าเรามีวัตถุดิบทั้งหมดที่เราต้องการ สิ่งที่เราต้องแก้ไขตอนนี้คือปัญหาด้านพลังงานเพื่อที่จะเปิดประตูเราต้องมีพลังงานมหาศาล!” ดร.เซลวิกกล่าวอย่างไม่แยแส

“ด็อกเตอร์ ข้าเชื่อว่าเจ้าคงมีจุดหมายใช่ไหม?” โลกิพูดอย่างไม่เป็นทางการ

“แน่นอน แต่ฉันเชื่อว่าเราต้องสร้างความว้าวุ่นใจอีกครั้งเพราะสถานที่ที่ฉันตั้งเป้าไว้สำหรับพลังงานนั้นอยู่ใกล้ศัตรูมากเกินไปในตอนนี้!” ดร.เซลวิกกล่าวอย่างมั่นใจ

แต่โลกิก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกรำคาญเล็กน้อยที่พวกเขาต้องการสิ่งที่ทำให้ไขว้เขวอีกครั้ง

การจดจำการต่อสู้กับคนบ้าด้วยเคียวอีกครั้งก็เพียงพอแล้วที่จะส่งเขาเข้าสู่โรคหวาดระแวง!

เขาหมดทางเลือกในการหลบหนีเพียงเพื่อหนีคนบ้า ตอนแรกเขาต้องการถูกจับอย่างโง่เขลาและเจาะเข้าไปในฐานของศัตรูและทำลายฐานจากด้านใน

แต่ต้องขอบคุณคนบ้าที่เขาทำอย่างนั้นไม่ได้!

ชีวิตของเขาตกอยู่ในอันตรายเมื่อคนบ้าพยายามจะฆ่าเขาในที่เกิดเหตุ!

“ข้าไม่สามารถปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาได้อีกอย่างน้อยก็ไม่เร็วขนาดนี้! เจ้าหน้าที่บาร์ตันแล้วเจ้าละ? ท้ายที่สุดเจ้าเป็นคนที่รู้เกี่ยวกับศัตรูมากที่สุด!” โลกิพูดกับบาร์ตัน

“แน่นอนฉันไม่รังเกียจ!” บาร์ตันกล่าวขณะที่เขายิ้มเยาะและดวงตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร

……….

“ดร.แบนเนอร์เป็นยังไงบ้าง?” นิค ฟิวรี่ถามขณะที่เขาเดินเข้าไปในห้องทดลองของแบนเนอร์

“โปรแกรมค้นหาเสร็จสมบูรณ์แล้วตอนนี้ฉันยังคงสแกนผ่านเรดาร์และตอนนี้อยู่ที่ 40% แล้วฉันเชื่อว่าเราจะพบมันในไม่ช้า” ดร. แบนเนอร์กล่าวอย่างมั่นใจ

ในขณะเดียวกันดิโอก็คอยรบกวนโทนี่

“โทนี่! นายแน่ใจหรือว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ในอาคารสตาร์ค?” ดิโอถามซ้ำ

“ไอ้เวรนี้ก็โคตรจะสามรอบแล้ว พวกเขาไม่ได้อยู่ที่นั้น! ฉันได้โทรไปที่ระบบเฝ้าระวังดาวเทียมสำหรับอาคารแล้วและถ้าลูกบาศก์ปรากฏขึ้นที่นั่นฉันจะเป็นคนแรกที่รู้!” โทนี่พูดอย่างรำคาญ

ดิโอรู้สึกสับสนเล็กน้อยเขารู้ว่าพล็อตเรื่องของหนังจะปล่อยให้ศัตรูมาที่ตึกสตาร์คเพื่อใช้พลังงานสะอาดที่โทนี่ส่งไปทั่วทั้งตึก แต่ถ้าพวกเขาไม่อยู่ที่นั่นในตอนนี้พวกเขาจะอยู่ที่ไหน? เป็นเพราะการที่เขาเข้าไปยุ่งกับโลกิก่อนหน้านี้ทำให้เทพจอมวายร้ายงดเว้นจากการใช้ตึกสตาร์ค?

ดิโอพยายามตรวจสอบตำแหน่งของโลกิทันทีด้วย [Hermit Purple] แต่เขาถูกขัดขวางด้วยพลังที่แข็งแกร่งกว่า!

ดิโอรู้ทันทีว่าความสามารถของ [Hermit Purple] ถูกทำให้เป็นหมันด้วยความสามารถของมายด์สโตน

ไม่ใช่ว่า [Hermit Purple] อ่อนแอ แต่เหมือนกับว่าอินฟินิตี้สโตนมีอำนาจมากเกินไป!

ในขณะเดียวกันโทนี่ที่อ่านเอกสารลับของ SHIELD มาตลอดก็บอกให้ทุกคนอดใจรอสักครู่

“ผู้อำนวยการฟิวรี่ คุณช่วยอธิบายได้ไหมว่า ‘เฟส 2’ นี้หมายถึงอะไร?” โทนี่พูดกับนิค ฟิวรี่อย่างประชดประชัน

“น่าจะเป็นอาวุธ” ดิโอพูดโดยไม่รู้ตัวเขารู้ทันทีว่าเขาไม่ใช่คนที่ถูกถามจากนั้นก็ยักไหล่อย่างง่ายๆ

ขณะที่นิค ฟิวรี่กำลังจะพูดโทนี่ก็ขัดจังหวะอีกครั้งในขณะที่เขาบอกให้ทุกคนรู้ว่าเอกสารที่เขาถืออยู่นั้นไม่ใช่อะไรนอกจาก “อาวุธที่สร้างจากลูกบากศ์”

คราวนี้ดร. แบนเนอร์ยืนขึ้นและมองไปที่นิค ฟิวรี่อย่างเย็นชา

“ฉันอยากรู้ว่าทั้งหมดนี้เกี่ยวกับอะไร” แบนเนอร์ถามอย่างเย็นชา

“ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเขา!” ฟิวรี่พูดขณะชี้นิ้วไปที่ธอร์เขาถอนหายใจทันทีและเริ่มอธิบายเอกสาร

“ไม่กี่เดือนที่ผ่านมามนุษย์ต่างดาวมาที่โลกและเริ่มการต่อสู้หนึ่งในนั้นทำลายเมืองเล็กๆจนเละไปหมด! นั่นเป็นช่วงเวลาที่รัฐบาลทั่วโลกตระหนักว่ามนุษย์ไม่ได้อยู่คนเดียวในจักรวาลนี้ นอกจากนี้คณะมนตรีความมั่นคงระหว่างประเทศยังรู้ด้วยว่ากองทัพและโลกบางส่วนที่ไว้วางใจ ‘ซุปเปอร์ฮีโร่’ ไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับทินเอเลี่ยนได้” นิคพูดอย่างรำคาญ

“ขอโทษนะ ฉันคงไม่ใช่พวก ‘ทินเอเลี่ยน’ ใช่ไหม?” ดิโอพูดอย่างรำคาญ

“แต่มันก็เกือบจะใช่ ไม่ใช่หรอ?” นิคพูดอย่างรำคาญ

“ใช่ แต่ฉันก็ยังปราบมันในตอนท้าย!” ดิโอตอบกลับ

“เดี๋ยวก่อน พวกเจ้ากำลังพูดถึงเดสทรอยเยอร์ใช่มั้ย? ข้าจำได้ว่าข้าเป็นคนที่เอาชนะมัน!” ธอร์พูดพยายามคุยโว

“แน่นอนว่ายังไม่พอ! ทันทีที่คุณออกไปยังแอสการ์ด เดสทรอยเยอร์ก็ลุกขึ้นอีกครั้งและฉันแน่ใจว่ามันจะไม่กลับมาอีกอย่างถาวร!” ดิโอพูดอย่างรำคาญ

“น่าอายจังนะ! ข้าควรจะทุบมันให้แรงกว่านี้!” ธอร์กล่าวอย่างท้าทาย

“เฮ้นี่ไม่ใช่เวลาที่จะทะเลากัน เปลี่ยนเรื่องดีกว่า!” สตีฟพูดขณะที่เขายืนอยู่ระหว่างธอร์และดิโอ