ผู้ใหญ่จิกับนางพิมพ์ - ตอนที่ 103
ตอนที่ 103 ความรักเป็นเพียงแค่ฝันฉากหนึ่ง
ที่จริงแล้วกิจธุระในวันนี้ที่หน่วยงานเทศบาลก็มีไม่ มาก ปรับเพียงพูดว่าเอกสารชุดหนึ่งขาดลายเซ็นของ รลาไปหนึ่งที แต่วันนี้ก็ต้องส่งไปแล้ว ทำให้เขาต้อง เดินทางมารอบหนึ่ง
ข้อผิดพลาด จิรฐาเป็นคนก่อเอง เขาไม่อยาก ให้ปริณต้องเดินเอกสาร กรอบเพราะความผิดพลาด ของเขาอย่างไรเสียก็ยังเป็นช่วงเช้า กว่าจะถึงเวลาที่ ต้องเลือกชุดแต่งงานถ่ายรูปยังพอมีเวลา เขาคำนวณ เรียบร้อยแล้วว่าจะไปทัน
ตอนที่จิรฐาเซ็นชื่อรอบใหม่เสร็จแล้ว แน่ใจว่า เอกสารไม่มีข้อผิดพลาด ส่งให้ปรัก เขารีบถือกระเป๋า นเตรียมตัวออกประตูไป
“ท่านจิรฐา….”ได้ยินปรัณเรียกตัวเอง จิรฐานหน้า มา เห็นเขาเพียงหัวเราะ ” ถ่ายรูปแต่งงานที่น่าอิจฉา กับภรรยามาเยอะหน่อยนำไปใช้ในงานแต่งงาน ทําให้ เพื่อนร่วมงานหญิงหลายๆคนในหน่วยงานเทศบาลของ พวกเราล้วนอิจฉาตาร้อน! ”
“ ไอ้เด็กนี่! ” จิรฐาแม้จะตำหนิคำพูดหยอกล้อเรื่อย เปื่อยของปริณ แต่รอยยิ้มที่กลั้นไว้ไม่อยู่ที่ข้างมุมปาก นั่นกลับเผยให้เห็นว่าเขากําลังอารมณ์ดี
รูปถ่ายแต่งงานของเขากับพิมพ์ลดา จะต้องดูดีที่สุด อย่างแน่นอน!
เข้าไปนั่งในรถ เขาก็เลี้ยวรถออกจากลานจอดรถ ใต้ดินของอาคารหน่วยงานเทศบาล ดอนที่รถขับไปถึง ทางออกลานจอดรถเขาเตรียมตัวเลี้ยวขวามุ่งหน้าไป ยังMy Wed มือถือที่เขาวางไว้ด้านข้างก็ดังขึ้น
จิรฐาเหลือบมอง อผู้ติดต่อสักพัก เห็นว่าเป็นอง นราพี่สาวของเขา จึงจอดรถที่ข้างทางก่อนจะหยิบมือ นมากดรับสาย
* ครับ มีธุระอะไรหรอ? “เขาถาม เอนหลังพิงพนัก
“อ้อ มีส ” คนปลายสาย… อ่งนราพูดจบประโยคนี้ กลับเว้นช่วงไว้นานโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ
ในที่สุด ตอนทจิรฐาพูดว่า ” ถ้าพี่ไม่พูดอะไรแล้ว ผมจะวางแล้วนะ ” หลังจากนั้น จึงนราคอบกลับอย่าง เศร้าสลดว่า “จันวิภาคีนแล้ว ย้ายไปรักษาตัวที่โรง พยาบาลทาวัตในตัวเมือง เธอร้องโวยวายว่าอยากเจอ นาย
ดอน ได้ฟังเรื่องนี้จากปาก จนรา จิรฐา สกว่าด้ว เองเหมือนจะใจหายอยู่ครู่หนึ่ง เขาจัดการอารมณ์ จึง ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า ” พี่ว่าอะไรนะครับ? –
วันเสาร์นี้อากาศดีเป็นพิเศษ พระอาทิตย์ต้นฤดู ใบไม้ผลิให้ความอบอุ่นกําลังดี ก็กระตุ้นให้คนจํานวน ไม่น้อยขับรถออกจากบ้าน จราจรบนท้องถนนติดขัด เล็กน้อย พิมพ์ลดาเป็นห่วง รฐาว่าเขาอาจร้อนใจเพราะ อยากมาให้ทันเวลาถ่ายรูป เธออยากโทรหาเขา ให้เขา ทํางานให้เสร็จก่อน เธอที่อยู่ทางด้านนี้ก็เหมือนจะไป ถึงMy Wedได้ไม่เร็วขนาดนั้น แต่เธอกดเบอร์โทรศัพท์ ออกไป เสียงตอบกลับที่ได้รับกลับเป็น “ขอโทษค่ะ ติดต่อที่ทานโทร.หากำลังติดธุระ โปรดรอสักครู่แล้ว ค่อยติดต่อกลับไปใหม่
วางมือถือลง มองเสียงฝากข้อความบนหน้า จอที่ไม่มีทางตอบกลับได้ พิมพ์ลดากคนรับสาย อเนกประสงค์ ในปากพึมพำเบาๆ “ยุ่งขนาดนี้เชียว หรือ? ” คิดแล้ว เธอก็หยิบมือถือใส่เข้าไปในกระเป๋าอีก ครั้ง
หลังจากได้รับสายจากอิงนรา จิรฐาก็รีบกลับรถแล่น ตะบึงไปทางตรงข้ามกับMy Wedโดยสิ้นเชิง ระหว่าง ที่มุ่งหน้าตรงไปยังโรงพยาบาล จิรฐากังวลว่าไปตอน น้อาจต้องใช้เวลานานหน่อย เขาหยิบมือถือออกมาก เบอร์โทรศัพท์ของพิมพ์ลดา เขาอยากให้เธอกลับบ้าน ไปก่อน แต่ว่าโทร.ไม่ติด ทําให้เขารู้ว่า อีกฝ่ายกำลังยุ่ง ไม่สามารถรับสายได้
ในร้านMy Wed พิมพ์ลดานั่งในห้องพักแขกด้านใน ร้านของพวกเขา ดวงตาทั้งคู่จ้องมือถือในมือเขม็ง เธอ กำลังรอจิรฐา เธออยากรอให้เขามาถึงแล้วก็ไปเลือก ชุดแต่งงานกับสูทด้วยกัน แต่เธอรออยู่ที่นี่เกือบหนึ่ง ชั่วโมงแล้ว แม้แต่เอสเอ็มเอสสักฉบับเขาก็ไม่ได้ลงมา แต่เธอโทร.กลับไป ก็ไม่มีคนรับเลยสักครั้ง
“คุณนายพิมพ์ลดา ” พนักงานร้านMy Wedเข้ามาริน ชาร้อนให้เธอแก้วหนึ่ง ยิ้มแล้วถามว่า “ไม่ก็ ฉันพาคุณ ไปดูชุดแต่งงานก่อนดีมั้ยคะ คุณเลือกตัวที่ตัวเองชอบ ออกมาก่อน ถ้าคุณจิรฐามาแล้ว ค่อยให้เขาเลือกให้คุณ แบบนี้ก็จะประหยัดเวลา คุณคิดว่าอย่างไรคะ? –
พนักงานคนนี้เข้ามาเกลี้ยกล่อมพิมพ์ลดาเป็นครั้งที่ สองแล้ว พิมพ์ลดาก็ปฏิเสธอย่างเกรงใจอีกครั้ง เงย หน้ามองเธอ เธอยิ้มแล้วตอบว่า “ ได้ค่ะ งั้นก็รบกวน ด้วยนะคะ ” จากนั้น ก็เก็บมือถือใส่ไว้ในกระเป๋า ตามพนักงานมาถึงในห้องชุดแต่งงานที่อยู่ในโถง ถ่ายรูป พอประตูห้องเปิดออก พิมพ์ลตาก็มองเห็นชุด แต่งงานหลายแบบหลายสไตล์ที่อยู่ด้านใน
ถ้าในเวลา จิรราอยู่ข้างกายเธอ บาง พิมพ์ลดา อาจรู้สึกมีความสุขอย่างไม่มีที่เปรียบ และบางที ช่วง เวลานั้นที่ประตูห้องถูกเปิดออก เธอก็วิ่งเข้าไปถึงชุด แต่งงานออกมาทีละ ด ชอบจนไม่อยากปล่อยมือ
แต่ตอนนี้ คนที่เดินมาทางเธออยู่ข้างหน้าเป็น พนักงานคนหนึ่ง คนที่เดินอยู่ข้างๆเธอยังเป็นพนักงาน แนะนําชุดแต่งงานหลายแบบหลายสไตล์คนหนึ่ง
เจ้าสาวที่เลือกชุดแต่งงานคนเดียว พิมพ์ลดาสงสัย จริงๆว่าเธอจะเป็นคนแรกของโลกหรือเปล่า
ทั้งห้องล้วนเดินวนมาแล้วหนึ่งรอบ พิมพ์ลดาก็ไม่ได้ มุ่งความสนใจไปที่ชุดแต่งงานพวกนั่นเท่าไร
คุณนายพิมพ์ลดา ไม่มีสักตัวที่คุณชอบเป็นพิเศษ เลยหรือคะ?”
ชุดแต่งงานในห้องโถงจัดงานแต่งงานของMy Wed เป็นศูนย์รวมชุดแต่งงานที่ครบครันที่สุดในเมืองเอส และทั่วประเทศแล้ว ถ้าชุดแต่งงานของที่นี่คุณนายท่าน น้นล้วนไม่พอใจ พนักงานไม่กี่คนนี้ก็ไม่รู้จริงๆว่าควรจะ แนะน่าต่อไปอย่างไร
“ห้ะ? ” ค่าถามของพนักงานที่รับผิดชอบท่าการ แนะนําอยู่ข้างๆ ดึงความคิด เตลิดไปไกลโดยไม่รู้ด้ว ของพิมพ์ลดากลับมา เธอยิ้มอย่างอึดอัด ชุดแต่งงาน ไม่กี่ตัวที่อยู่ตรงหน้า ” ชุดนี้เถอะ แล้วก็ชุดนิ่ม ชุด น ชุดน้นด้วย ให้ฉันลองก่อน ”
” ได้ค่ะ! ” ในที่สุดก็มีชุด คุณนายชอบ พอพนักงาน ได้รับคําสั่งแล้ว รีบนำชุดแต่งงานไม่กี่ชุดที่พิมพ์ลดาว่า เตรียมสงไปยังห้องแต่งตัว
ตอนยืนอยู่บนฐานทรงกลมของห้องลองเสื้อ พิมพ์ ลดามองดูตัวเองที่เปลี่ยนชุดแต่งงานเรียบร้อยแล้วใน กระจกที่อยู่ตรงหน้า พยายามยกยิ้มบนใบหน้า แต่รอย ยิ้มนั้นก็ยังไม่คลี่ออกมาจนสุด กลับตกลงไปอีกแล้ว
พิมพ์ลดาไม่อยากจะหลอกตัวเอง ตอนนี้เธอก็ไม่มี ความสุขเลยสักนิด
เมื่อก่อนเธอนึกว่าหญิงสาวคนหนึ่ง ช่วงเวลานั้น ตอนที่ได้เปลี่ยนไปสวมชุดแต่งงานแสนสวย ไม่ว่าจะ เป็นอย่างไรก็น่าจะดีใจทั้งนั้น จนกระทั่งตอนนี้เธอจึงรู้ ว่าที่จริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนี้
เมื่อคืนเธอยังฝันไปว่าตอนที่จิรฐาเห็นเธอเปลี่ยน ไปสวมชุดเจ้าสาว ชมเธอว่าสวยมาก ในฝันของเธอ เขา ทิ้งจูบหนึ่งไว้บนร่างที่เปลี่ยนไปสวมชุดเจ้าสาวแล้วของ เธอ ช่างภาพพูดว่าพวกเขาหวานหยดย้อยจนทําให้คน อิจฉาตาร้อน
แต่ตอนนี้เล่า? ทีแท้ โลกแห่งความฝันกับความจริง มักจะกลับกัน
ขณะที่พิมพ์ที่กำลังเหม่อมองตัวเองในกระจกอยู่นั้น ม่านด้านข้างพลันถูกปักเปิด
พิมพ์ลดาตกใจ เพียง กว่าจรฐามาแล้ว แต่พอเห็น หันหน้าไป สิ่งที่เห็นกลับเป็นพนักงานคนหนึ่งที่ถือมือ ถือของเธอเดินเข้ามา
คุณนายพิมพ์ลดา มือถือของคุณดังแล้ว ” พนักงาน เดินไปถึงข้างกายพิมพ์ลดา ยื่นมือถือส่งให้เธอ ยิ้มแล้ว พูดว่า
จิรฐาหรือ? พิมพ์ลดาคิดในใจ รีบรับมือถือมา กดรับ โดยไม่เชื่อผู้ติดต่อเลยสักนิด จิรฐา….
“พิมพ์ลดา ฉันทินพลนะ ” ทีแว่วมาในสายโทรศัพท์ เป็นเสียงที่แตกต่างจากเสียงของจิรฐาโดยสิ้นเชิง
*ทนพล? ” ได้ยินว่าคนที่โทร .มาคือทีมพล พิมพ์ลดา ผิดหวังเล็กน้อย มีธุระอะไรหรือ? ”
*พิมพ์ลดา! “พอได้ฟังพิมพ์ลดาก็ถามตัวเอง อยู่ดีๆ ทินพลก็เหมือนจะร้อนใจ นมาเล็กน้อย สะปันหายตัว ไป เธอได้ติดต่อเธอบ้างหรือเปล่า? ”
*สะปันหายตัวไป? ทนพล นายพูดหมายความว่า อย่างไร? ” ในใจของพิมพ์ลค่าลอบปรากฏลางบอกเหตุ ที่ไม่มีอยู่ส่วนหนึ่ง
ทนพลอธิบายว่าสะปันเห็นรอยลิปสติกสีแดงบริเวณ คอเสื้อเชิ้ตของเขา มีปากเสียงกับเขาสักพัก จากนั้นจึง หยิบกุญแจรถออกจากบ้านไป เขาโทร .หาเธอเธอก็ไม่ รับสายเลยสักครั้ง เขาเป็นห่วงว่าสะปันจะเกิดเรื่อง
พิมพ์ลดารู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะถามทินพล ที่ สําคัญที่สุดในตอนนี้ควรจะเป็นหาตัวสะปันให้เจอก่อน ข่มความโกรธในใจไว้ เธอพูดเพียง ” ทินพล รู้ดั่งนาน แล้วว่าจะเป็นแบบนี้ ทำไมถึงไม่ห้ามไว้ตั้งแต่แรก? “
วางสายไป พิมพ์ลดาลงจากฐานทรงกลม พูด กับพนักงานที่อยู่ข้างๆว่า “ขอโทษนะคะ ฉันมีเรื่อง กะทันหัน คาดว่าวันนี้คงถ่ายไม่ได้รูปถ่ายแต่งงาน แล้ว ถ้าประเดี๋ยวคุณจิรฐาเข้ามาแล้ว คุณก็บอกกับเขาว่าฉัน มีธุระจึงกลับไปก่อนแล้ว ขอบคุณค่ะ! ” พูดจบ พิมพ์ลดา ก็เดินไปให้คนถอดชุดแต่งงานให้
เปลี่ยนกลับมาสวมเสื้อผ้าของตัวเอง ตอนที่พิมพ์ลดา กลับออกมาหยิบกระเป๋าในห้องพักแขก ก็ได้ยินเสียง แว่วมาจากฉากกั้นห้อง
*พวกเธอดูสิ ฉันบอกแล้วว่าพอเข้าไปอยู่กับ ครอบครัวใหม่ก็ตัดสัมพันธ์กับครอบครัวเก่า พอเข้าไป อยู่บ้านข้าราชการก็เป็นแบบนี้ใช่หรือเปล่า วันนี้คุณนาย คนนี้ก็รออยู่ที่นี่คนเดียวอย่างเหลือเชื่อมาชั่วโมงกว่า แล้ว ระหว่างนี้ฉันเห็นเธอโทรหาคุณผู้ชายมาหลาย รอบแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยรับสายเลย เมื่อครู่นี้ตอนที่ เธอลองชุดแต่งงานคนเดียว ฉันเห็นเธอเหมือนใกล้จะ ร้องไห้เต็มที่แล้ว เฮ้อ! ฉันแนะนำพวกเธอว่า อีกหน่อย ก็อย่าฝันหวานว่าจะเป็นคุณนายข้าราชการอะไรนั่นเลย ได้ยินค่าพูด แว่วมาจากฉากกั้นห้อง มือสองข้าง พิมพ์ลดา ค่าสายกระเป๋าแน่นขัน จนกระทั่งเล็บของ เธอที่ไม่ถือว่าไว้ยาวก็เข้าไปในเนื้ออ่อนของฝ่ามือ ล็กๆ เธอจึงยกเท้าหันหลังเดินออกไป
พิมพ์ลดาอยากเข้าไปอธิบายความจริงกับพวกเธอ เธออยากให้พวกเธอรู้ว่าที่จริงแล้วจิรฐารักและเป็น ห่วงเธอมาก คู่สามีภรรยาอย่างพวกเขามีความสุขมาก แต่ในตอนสุดท้ายเธอก็ไม่ได้ใช้ความกล้าส่วนนั้นเดิน เข้าไป เธอไม่ชอบตัวเองที่ขี้ขลาดปวกเปียกแบบนี้
ออกจาก My Wedมาแล้ว พิมพ์ลดาเรียกหยุดแท็ก คันหนึ่งไว้ ถือโอกาสออกจากที่นี่ก่อนที่ตัวเองจะน้ำตา ไหล
* พิมพ์ลดา ตอนนี้รูปถ่ายแต่งงานของเธอไม่ใช่สิ่งที่ สําคัญที่สุด สิ่งที่สําคัญที่สุดในตอนนี้คือหาสะปันให้พบ “นั่งอยู่เบาะหลังในรถแท็กซี่ เธอมองตึกรามบ้านช่อง นอกหน้าต่างที่เคลื่อนถอยหลังต่อกันเป็นแถวเพื่อเดือน ตัวเอง แต่คําพูดปลอบใจตัวเองนี้ของเธอเงียบไปได้ไม่ นาน เธอก็ได้ยินคนขับรถที่นั่งอยู่เบาะหน้าถามเธอว่า “ แม่สาวน้อย จะไปไหนหรือ?”
ใช่แล้ว เธอจะไปไหนนะ? สะปันจะไปไหนได้นะ? มองผ่านกระจกมองหลังในรถ คนขับรถเห็นใบหน้า สาวงามที่เปื้อนน้าตา มของพิมพ์ลดาหันไปอีกทาง ก็ พลันหัวเราะ หันไปถามว่า ” แม่สาวน้อย ทะเลาะกับ แฟนมาหรือ?”
“ช่วงเวลานั้นพิมพ์ลดาไม่รู้ว่าควรจะตอบของคน ขับรถอย่างไร ก็ไม่ได้ร้อง อ๋อ’ เพียงเห็นแบบนี้คนขับ รถก็พูดต่อไปว่า “คนหนุ่มสาวสมัยนี้อย่างพวกคุณน่ะ เรื่องเล็กๆน้อยๆก็ต้องทะเลาะกันสองประโยคแล้ว เสียง ดังใสกันไม่มีความสุขก็ออกจากบ้านไปอะไรทำนอง นั่น ที่จริงก็ไม่ค่อยถูกต้องเท่าไรนัก แม่สาวน้อย ลุงไม่ ได้ว่าหนูนะ ผู้หญิงน่ะ ต้องเรียนรู้ทำความเข้าใจผู้ชาย ให้มากๆ หนูว่าตอนนี้ประเทศ ของพวกเรา ของแพง บ้านแพง แต่เงินเดือนไม่มาก ผู้ชายคนหนึ่งอยากแต่ง เมียต้องจํามากแค่ไหน! หากแฟนของหนูละเลยความ รู้สึกของหนูเพราะงานยุ่งหรืออะไรก็ตาม หนูก็อย่ารับ มาใส่ใจเลยดีกว่า ไม่แน่พอเขาทำงานเสร็จแล้ว ก็นึก ขึ้นได้แล้ว ประเดี๋ยวก็จะมาขอโทษหนูเอง
แม่สาวน้อย? ค่าเรียกแม่สาวน้อยของคนขับรถ กลับหยอกล้อให้พิมพ์ลดาหัวเราะแล้ว เธอก็อายุยี่สิบ เก้าปีแล้ว ยังเป็นแม่สาวน้อยได้อยู่อีกหรือ?
ที่คนขับรถพูด เหมือนว่าก็ไม่ผิด วันนี้มีรฐาก็ไม่ได้ ตั้งใจมาสาย ก่อนที่เขาจะออกจากบ้านก็อธิบายกับเธอ แล้ว เขาพูดว่าหน่วยงานเทศบาลมีเรื่องกะทันหันนิด หน่อย เขาก็ไม่ได้พูดว่าเขาจะมาไม่ได้ บางทีก็แค่เวลา นี้ที่ออกมาไม่ได้จริงๆ
คิดแบบนี้แล้ว พิมพ์ลดาก็รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลย แม้ว่าเมื่อครู่นี้คนพวกนั้น My Wedจะพูดอย่างไร ที สําคัญที่สุดคือตัวเธอเองมีความสุขไม่ใช่หรือ? วันเวลา อันแสนสุขของเธอกับจิรฐา มีชีวิตอยู่เพื่อตัวเอง ก็ไม่ได้ ใช้ชีวิตให้ใครดูสักหน่อย
ยกมือเช็ดน้ำตาที่แม้แต่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าร่วงลงมา ตั้งแต่เมื่อไร พิมพ์ลดาพูดกับคนขับรถคำหนึ่งว่า “ ขอบคุณค่ะ! “จากนั้นพูดว่า ” คุณสงคะ คุณ จนไปร้าน กาแฟมุมถนนบนถนนนาดีเถอะค่ะ
ร้านกาแฟมุมถนนเป็นร้านกาแฟที่เธอกับสะปันไป บ่อยที่สุดแห่งหนึ่ง ก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่ทั้งคู่อารมณ์ไม่ ดี พวกเธอล้วนจะนัดกันไปที่นั่น ตอนนี้ ที่นั่นก็เป็นที่ที่มี ความเป็นไปได้มากที่สุดที่พิมพ์ลดาจะนึกถึง
รถแล่นผ่านถนนหลายสาย ถึงร้านกาแฟมุมถนนที่ พิมพ์ลดาจะมา เธอจ่ายค่ารถก็กล่าวขอบคุณไปที จึงปิด ประตูรถ หันหลัง เธอวิ่งเข้าไปด้านใน พอเข้าประตูก็ไม่ ได้สนใจการต้อนรับของพนักงาน ก็หันไปมองทางที่นั่ง ที่พวกเธอนั่งบ่อยที่สุดโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
“ ไม่มี? ” บนตำแหน่งที่นั่งบ่อยที่สุดมีหญิงสาวสอง คนที่เธอไม่รู้จักนั่งอยู่ พิมพ์ลดาห์นเส้นสายตามอง ภายในร้านกาแฟหนึ่งรอบ กลับยังคงไม่เห็นเงาของสะ ป้น บ้าจริง ไปถึงไหนแล้วนะ? ”
เธอโทร .หาสะปันอยู่หลายครั้ง แต่กลับไม่มีคนรับ เลยสักครั้ง แม้เป็นตอนที่ยัยน้นกาลังอารมณ์ดี มีสติ ครบถ้วนก็เป็นคนที่ไม่มีความสามารถในการขับขี่คน หนิง ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เธอยังมีปากเสียงกับทีมพล ไอ้เลวคนนั้นสักพักก็วิ่งออกไป พิมพ์ลดาอดห่วงไม่ได้ จริงๆว่าเธอจะเกิดเรื่อง
ตอนที่ยืนโบกรถข้างถนน พิมพ์ลดาคิดว่า บางที ตอนแรกเธอก็ไม่ควรเชื่อฟังจิรฐา บอกให้ปิดบังสะปัน ไว้ ก็ไม่ควรเชื่อคําสัญญาและคำสาบานถูกๆแบบนั้น ของทิมพล ผู้ชายคนหนึ่ง เปิดเผยรสนิยมทางเพศเป็น ครั้งแรกและครั้งที่สองได้ ก็ต้องมีครั้งที่สามตามมา
“ พิมพ์ลดานะพิมพ์ลดา ทําไมเธอถึงได้โง่แบบนั้น! “ ยืนข้างถนน พิมพ์ลดาโบกรถอยู่นาน แต่สุดท้ายก็เรียก รถว่างไม่ได้เลยสักคัน เธอเป็นกังวลจนอยากด่าคน กลับไม่รู้ว่าควรจะด่าใคร ทําได้เพียงค่าตัวเอง
ขณะที่พิมพ์ดาเรียกหยุดแท็กซี่คันหนึ่งไว้กำลังจะขึ้น รถ ในที่สุดมือถือที่เธอถือไว้ในมือมาตลอดก็ดังขึ้น
“สะปัน? ” เห็นชื่อผู้ติดต่อปรากฏขึ้นที่หน้าจอ พิมพ์ ลดา นเดินอย่างควบคุมไม่ได้อยู่ครู่หนึ่ง พอขึ้นรถแล้ว เธอปิดประตูรีบรับสายโทรศัพท์
* ฮัลโหล สะปัน? สะปันเธออยู่ไหน? ถือมือถือไว้ พิมพ์ลดาถามอย่างร้อนใจ
ในสายโทรศัพท์ เสียงสะอื้นหดหู่ช่วงหนึ่งแว่วเข้ามา เสียงร้อง อๆของสะปัน รบกวนอยู่ช่วงหนึ่งจนพิมพ์ลดา ก็รู้สึกไม่สบายใจตามไปด้วย
“สะปัน เธออย่าร้องไห้ บอกฉันมาก่อนว่าเธออยู่ ที่ไหน ตกลงมั้ย? ”
พิมพ์ลดาที่อยู่ทางนี้ถามที่อยู่จากสะปันอย่าง ระมัดระวัง คนขับแท็กซี่ที่นั่งอยู่เบาะหน้ากลับกระแทก เสียงดุดันขึ้นมาอย่างไม่กลัวตาย” เวย คุณครับ คุณจะ ไปไหน? * เสียงดังอะไรกัน? ฉันก็กำลังถามอยู่นี่ไง? ” เต็มที วันนี้พิมพ์ลดา อารมณ์ไม่ดีอยากด่าคน เธอมักจะปฏิบัติ กับผู้คนอย่างนุ่มนวลอ่อนโยนมาตลอด แต่เธอก็ไม่ได้ เป็นแมวเบองตัวนั้นตลอดเวลา
“ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลทาวัต… ” ในที่สุดก็ได้รับการ ตอบกลับจากสะปัน พิมพ์ลดารีบบอกคนขับแท็กซี่ว่าไป โรงพยาบาลทาวัดในตัวเมือง
ตอนที่รถไปถึงโรงพยาบาล พิมพ์ลดาโยนธนบัตร ที่มีรูปคุณปู่เหมาใบหนึ่ง ไม่รอให้คนขับแท็กซี่ถอนเงิน ก็เดินลงรถไปแล้ว ที่จริงแล้วเธอเพิ่งจะดคนขับรถโดย ไม่มีสาเหตุไปรอบหนึ่ง เศษเงินนี้ใช้เป็นค่าชดใช้ไม่ได้ แล้ว
แม้ว่าพิมพ์ลดาจะไม่ใช่แมวเองตัวหนึ่ง กลับไม่ใช่ เจ้าของที่ไม่มีเหตุผลคนหนึ่ง
ในโรงพยาบาล มักจะมีคนจํานวนมากขนาดนี้ยืนรอ ลิฟต์อยู่ ไม่ว่าจะเป็นอาคารผู้ป่วยนอกหรือแผนกผู้ป่วย ในล้วนเป็นเช่นนี้
ตลอดทางทีวิ่งมาถึงนอกประตูลิฟต์ พิมพ์ลดาเห็น ว่ามีลิฟต์หลายตัวยังเคลื่อนขึ้นไปอีกหลายชั้น ใน จํานวนนั้นมีเพียงตัวหนึ่งใกล้จะลงมาถึงขั้นหนึ่ง ยืนอยู่ ท่ามกลางคนจํานวนมากรอที่จะพยายามเบียดเสียด เข้าไป
ช่วงเวลานั้นที่ประตูลิฟต์เปิด เธอก็อยากเข้าให้ทัน รอบนี้เหมือนคนอื่นๆ แดดอนที่เธอเบียดจนถึงปากประตู ลิฟต์ ดวงตาทั้งคู่ของเธอพลันหยุดอยู่บนร่างของคน ที่อยู่ตรงหน้านี้ ขณะนั้นเท้าก็หนักจนเหมือนมัดติดกับ แผ่นตะกั่ว ขยับไม่ได้แล้ว
“พิมพ์ลดา? “ตอนที่มองเห็นพิมพ์ลดา คนที่อยู่ตรง หน้านี้มีสีหน้าประหลาดใจ ง
คนด้านหลังที่ยังคงพยายามเบียดเสียดเข้าไปใน ลิฟต์ เห็นว่าสองคนนี้ยืนขวางปากประตูลิฟต์ไว้แบบนี้ ทยอยกันถามอย่างไม่เป็นมิตร ” ข้างหน้า ตกลงจะขึ้น หรือไม่ขึ้น? ”
ช่วงเวลานั้นตอนที่พิมพ์ลดายังนิ่งอึ้งอยู่ คนนั้นดึง แขนเธอไว้แล้ว ลากเธอออกจากกลุ่มคนที่เบียดเข้าไป ในลิฟต์
จนกระทั่งถูกเขาพามาถึงบนพื้นหญ้าด้านนอกแผนกผู้ ป่วยใน พิมพ์ลดายังคงเหม่อมองผู้ชายตรงหน้า ทัต เธอไม่ได้เจอผู้ชายคนนี้มากี่ปีแล้ว? เธอนึกว่า มันนานพอที่จะทําให้เธอลิมท่าทางของเขา ล้มรูปร่าง หน้าตาของเขา ลืมทุกสิ่งอย่างของเขาไปหมดแล้ว แต่ ทำไมนะทำไม ก็เป็นช่วงเวลานั้นเมื่อครู่นี้ พอเธอเงย หน้า นก้มองเห็นเขาแล้ว ก็จําเขาได้แล้ว?
พิมพ์ลดา? ” เห็นว่าเธอมองตัวเองอย่างเฉื่อยชา
ธีทัตก็เรียกเธอไปที หันไปถามว่า ” เธอมาอยู่ที่โรง พยาบาลได้อย่างไร? ” ครูญาณทหรือแมครูอรัญญาไม่ สบายหรือ? ประโยคหลัง ธีหัดคิดว่า ไม่ถามออกไปจะ กว่า
ได้ยิน ทัตถามตัวเอง พิมพ์ลดาขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอไม่อยากตอบคำถามของเขา แม้กระทั่งเธอก็ไม่รู้ว่า ตอนนี้ตัวเองควรจะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไร
ครั้งก่อนตอนที่จิรฐาส่งเธอมาที่แผนกฉุกเฉินใน ดอนคํา เธอเคยสงสัยว่าแผ่นหลังนั้นที่ตัวเองเห็นก็คือ แผ่นหลังของเขา แต่ก็เห็นแค่แว๊บเดียวแบบนั้น เธอก็ คิดว่าตัวเองตาลายแล้ว ตอนนั้นเธอคิดว่า เขาน่าจะยัง ทำวิจัยอยู่ที่รัสเซีย ไม่น่าจะอยู่ประเทศได้
แต่ตอนนี้ เขากลับปรากฏตัวต่อหน้าเธอตัวเป็นๆ ตอนนั้นเขาพูดว่าอย่างไรนะ? เขาพูดว่าชั่วชีวิต เขา ก็จะไม่กลับมาอีกแล้ว ถ้าไม่เป็นอย่างที่เคยพูดไว้ ตอน นเธอจะตัดสินอย่างใส อแบบนี้ได้อย่างไร ในเมื่อเขา เคยพูดว่าเขาจะไม่กลับมาอีก ทำไมตอนนี้เขายังปรากฏ ตัวนที่นี่ได้ !!
ไม่รู้ว่าทําไม พิมพ์ลดารู้สึกว่าตัวเองอยากร้องไห้ เป็นอย่างมาก
ก็ทําให้เธอเป็นคนขี้ขลาด ไม่กล้าเผชิญหน้าอีก ครั้ง ตอนนี้เธอไม่อยากเผชิญหน้ากับเขาจริงๆ เธอยัง ไม่พร้อม
คิดแล้ว พิมพ์ลดาไม่ได้ตอบคําถามของธีทัต กลับ หันหลังก็วิ่งไป
เธอมาหาสะปัน เธอไม่ได้มาหาเขา
* พิมพ์ลดา? ” เห็นว่าพิมพ์ลดาวิ่งหนีไป ทัดเร่งฝีเท้า ตามไปต่งแขนเธอไว้จากด้านหลัง เขาดึงเธอไว้ ถาม แค่ว่า ” พิมพ์ลดา ตอนนี้คุณยังเคืองผมอยู่หรือ? “
เคือง? * ปล่อยฉัน! ” พิมพ์ลดาชะงักฝีเท้า ดิ้นรนให้แขนหลุด ออกจากมือของเขา กลับเสียแรงเปล่า หันหน้าไป เธอ มองเขา พูดทวนอย่างเย็นชาว่า “ฉันบอกให้คุณปล่อย *หกปีก่อน เขากลายมือเธอออกอย่างไม่คิดจะถอย ตอนนี้หมายความว่าอย่างไรอีก?
พิมพ์ลดา หลายปีมานี้ คุณมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี มั้ย? ” ท้จริง ทัดคิดว่า เธอน่าจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี มาก ครั้งก่อน เขาเห็นเธอนอกมหาวิทยาลัยเอ ยังแอบ ตามหลังเธอมา เห็นว่าเธอมีแฟนหนุ่มที่รักและเป็นห่วง เธอ งคนหนึ่งแล้ว แต่ เขากลับยังอยากจะถามด้วยตัว เองอย่างไม่เต็มใจ ได้ยินจากปากเธอเอง
“ฉันสบายดี คุณปล่อยฉัน คุณปล่อย…” ช่วงเวลานั้น ตอนที่เธอรู้สึกว่าแขนอีกข้างของตัวเองถูกมือใหญ่อีก ข้างดึงไว้ เธอก็พลันหยุดดิ้นรน
หันหน้ามา เธอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่ เธอคิดถึงเกือบทั้งช่วงสายนั้น
“คุณครับ กรุณาปล่อยภรรยาผมด้วย เส้นสายตา จ้องใบหน้า ทัดเขม็ง เสียงเย็นชาของจรฐาพูดกับเขา ในน้ำเสียงเหมือนจะมีความไม่พอใจส่วนหนึ่งและเต็ม เปี่ยมไปด้วยการต่อต้านที่เก็บซ่อนไว้ไม่ได้ ทัตจําจรฐาได้ เพราะคืนนั้นเขาก็เห็นจิรฐาแล้ว แน่นอนว่า เขายังรู้ว่า รราเป็นผู้นําของเมืองเอส
* จิรฐา? “การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของจิรฐา เป็น เรื่องที่พิมพ์ลดาคาดไม่ถึง แต่คําพูดของเขากลับใช้ได้ ผลเป็นอย่างมาก พอเขาเปิดปาก ห้ดก็คลายพิมพ์ลดา ออกทันที
ดึงพิมพ์ลดาเข้ากอดในอ้อมอก โรฐาก็ไม่รอให้ทั เปิดปากอีกครั้ง ก่คว้าตัวเธอเดินออกไป เขามองเธอ ยิ้มบางๆ รอผมจนเป็นกังวลไปแล้วหรือ? ”
พิมพ์ลดาขอบคุณที่เมื่อครู่นี้เขาปรากฏตัวได้ทัน เวลา ก็ขอบคุณที่เขาไม่ได้ถามทัต แต่พิมพ์ลดากลับ ไม่เข้าใจว่า ทําไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้ เขาควรจะทํางาน ล่วงเวลาอยู่ที่หน่วยงานเทศบาลไม่ใช่หรือ? ทำไมตอน นี้ถึงมาอยู่ที่โรงพยาบาลได้?
เห็นว่า เขาก็จะพาเธอออกจากตัวอาคารในโรง พยาบาลแล้ว พิมพ์ลดาชะงักฝีเท้า เงยหน้ามองเขา
“เป็นอะไรไป? “ เห็นว่าพิมพ์ลดาหยุดเดิน จิรฐา หยุดเพื่อถามเธอ พิมพ์ลดามองเขาก็สนศีรษะ ยังไม่ได้ถามเหตุผล จากเขา พูดแค่ว่า ” ฉันมาหาสะปัน คุณไปก่อนเถอะ” ว่าแล้ว เธอก็ถอยออกจากอ้อมอกของเขา หันไปมอง ทางที่เดินออกมาก็เดินกลับไป
เดิมทีพิมพ์ลดา กว่าหากอยู่ร่วมกันไปเรื่อยๆ พวก เขาอาจกลายเป็นคู่สามีภรรยาที่มีความสุข ความจริงใจ ต่อกัน แต่ดูจากในตอนนี้แล้ว ความจริงก็ไม่เป็นเช่นนี้
ก็เหมือนที่เธอไม่เคยเล่าเรื่อง ทัดให้เขาฟังมาก่อน แต่เขาก็ไม่ได้บอกเธอว่าที่จริงแล้ววันนี้เขาไม่ได้ไป หน่วยงานเทศบาลแต่มาโรงพยาบาล
ในอกพลันว่างเปล่า ตอนที่ รฐานสติกลับมา พิมพ์ ลดาเดินออกไปไกลมากแล้ว
“พิมพ์ลดา… “เขาหันหลังเดินตามกลับไป แต่ตอนที่
เขาตามไปถึงด้านหน้าประตูลิฟต์ กลับเห็นพอดีว่าพิมพ์ ลดาเข้าไปในลิฟต์แล้ว แต่ช่วงเวลานั้นตอนที่เขาตาม ไปถึง ประตูบานนั้นก็ปิดลงพอดี ไม่ว่าเขาจะกดปุ่มเปิด ประตูลิฟต์อย่างไร ก็ไม่มีประโยชน์
” พิมพ์ลดา จิรฐาเงยหน้ามองหมายเลขชิ้นเรืองแสง บนตัวลิฟต์ เขาอยากรู้ว่าพิมพ์ลดาจะออกจากลิฟต์ที่ น ไหน อาคารแผนกคัลยกรรมมีทั้งหมดยี่สิบซัน แต่ลิฟต์ รอบนี้พอเคลื่อนขึ้นไปถึงขั้นไหนก็จะหยุดอยู่ที่ชั้นนั้น หนึ่งรอบ
คิดแล้ว รฐา นมือจะคล่าหามือถือในกระเป๋า โทร.หาพิมพ์ลดา พอเริ่มหาเขาจึงรู้ว่า ตอนที่ตัวเองมา ถึงโรงพยาบาลในตอนสาย เพราะรีบเกินไปจึงทํามือถือ บไว้ในรถ
ตอนที่พิมพ์ลดามาถึงแผนกสมอง นทีสิบเก้า เธอ เดินหาตามหมายเลขห้องที่สะปันให้มาก็พบห้องพักผู้ ป่วยห้องหนึ่งที่อยู่ในมุมที่ติดกับทางเดินในตัวอาคาร มากที่สุด
บนเตียงผู้ป่วยหลังเล็กที่อยู่ติดหน้าต่างนั้น สะปัน เอนฟังอยู่ที่นั่น มองออกไปนอกหน้าต่าง พอพิมพ์ลดา เดินไปใกล้ ก็เห็นว่าบนใบหน้าของเธอยังมีคราบน้ำตา ยังไม่ได้เข็ดไป
นั่งลงบนม้านั่งข้างเตียง พิมพ์ลดาเรียกเธออย่าง แผ่วเบา “สะปัน…”
สะปันหันหน้ามา ช่วงเวลานั้นตอนที่เห็นพิมพ์ลดา
พ่งเข้าหาอ้อมอกของเธอ ช่วงเวลานั้นตอนที่สะปั้นเห็นรอยลิปสติกสีแดงบน คอเสื้อเชิ้ตของทินพล ได้กลิ่นน้ำหอมที่ไม่คุ้นเคยบนตัว เขาฝันวันรัก ใกล้จะดำเนินมาถึงปี สิบของเธอ ฟัง ทลายลงแล้ว