ผู้ใหญ่จิกับนางพิมพ์ - ตอนที่ 108.1
ตอนที่108 (1) คุณสบายดีมั้ย
เวลานี้ จะเป็นใครได้นะ?
ภูมิหลังตระกูบพยุงพงษ์มีความพิเศษ ห้ามไม่ให้คนมา ส่งของขวัญอย่างถึงที่สุด ก็เพราะเหตุนี้ ท่านผู้เฒ่าตระกูล พยุงพงษ์จึงจะจัดงานฉลองวันเกิดที่คฤหาสน์เก่าตระกูล พยุงพงษ์ เพราะที่นี่ค่อนข้างตั้งอยู่ในที่ลับตาคน ยิ่งไปกว่า นั้นคือคนที่รู้ว่าตระกูลพยุงพงษ์ของพวกเขามีบ้านอีกหลัง อยู่ที่เมืองเอสแบบนี้ก็มีไม่มาก
แต่ตอนนี้ คนผู้นี้กลับสามารถหาที่นี่พบได้อย่างแม่นยำ
ไม่ผิดพลาด
ขณะที่ทุกคนล้วนกำลังอยากรู้ว่าคนที่มาส่งของขวัญคือ ใคร มีอะไรอยู่ในกล่องใบนั้น เสียงแจ้งเตือนจากมือถือของ พิมพ์ลดาก็ดังขึ้น
เธอหยิบขึ้นมาดู พบว่าเป็นข้อความแชท
ผู้อำนวยการ? เห็นว่าคนที่ส่งข้อความแชทมาคือตนัส พิมพ์ลดาก็นิ่งอึ้งไปเล็กน้อย กดเปิดดูในทันที
เขาส่งคลิปวีดีโอคลิปหนึ่งมา ในวีดีโอมีเสียงของเจ้าตัว พูดประโยคหนึ่งว่า ‘เอาให้คุณปู่ดูหน่อย’
ตอนที่นิรวิทย์เห็นว่าหลานชายที่ไม่ได้เจอกันนานหลาย ปียิ้มแล้วพูดกับเขาผ่านคลิปวีดีโอว่า “ คุณปู่ครับ สุขสันต์วันเกิดนะครับ! “พิมพ์ลดาเห็นว่าในดวงตาที่มักจะดุร้ายเข้ม งวดคู่นั้นของเขา มีน้ำตา
แม้คนก็ยังไม่ปรากฏตัว แต่ก็ส่งของขวัญวันเกิดและคำ อวยพรมาแล้ว นี่ไม่ถือว่าความสัมพันธ์ที่ไม่เคยติดต่อกัน นานหลายปี เกินความคาดหมายไปบ้างหรือ?
วันเกิดของท่านผู้เฒ่าตระกูลพยุงพงษ์ ก็นับว่าผ่านไป อย่างหวาดผวาแต่กลับไม่มีเหตุร้ายใดๆเกิดขึ้น เพราะสะ ปันยังอาศัยอยู่ที่บ้านตระกูลแก้วไชย แต่เธอก็พูดว่าไม่ว่า ยังไงก็ไม่ยอมไปทานข้าวที่บ้านตระกูลพยุงพงษ์ด้วยกัน ดังนั้น หลังจากทานอาหารในตอนกลางคืนเสร็จแล้ว พิมพ์ ลดากับจิรฐาก็ออกจากคฤหาสน์เก่าตระกูลพยุงพงษ์ก่อน กําหนดการเล็กน้อย พวกเขาต้องพาญานัทกับอรัญญากลับ ไปส่งที่บ้าน
รถจอดในหมู่บ้านที่ครอบครัวแก้วไชยอาศัยอยู่ ญานัท กับอรัญญาลงรถไปแล้ว พิมพ์ลดาพูดว่าเธออยากขึ้นไป เยี่ยมสะปันกับหนูนา จิรฐาตอบตกลงแล้ว เดิมทีเขาคิดจะ ขึ้นไปด้วยกันกับเธอ แต่พอลงจากรถ มือถือกลับดังขึ้นแล้ว
พิมพ์ลดาเดินขึ้นบันไดไปแล้ว จึงนึกได้ว่าตัวเองทำ กระเป๋ากับมือถือล่นไว้ในรถ เธอจึงเดินกลับไปข้างล่างเพื่อ ไปหยิบ ช่วงเวลานั้นที่เดินไปถึงชั้นล่าง กลับเห็นว่าจิรฐา กลับรถออกจากหมู่บ้านไปแล้ว
ก็ไม่รู้ว่าทำไม พิมพ์ลดาจึงตามมาข้างหลังอย่างที่ไม่ เคยทำมาก่อน หลังจากนั้นเรียกหยุดแท็กซี่คันหนึ่งให้ขับตามรถของเขาไป
เดิมทีเธอนึกว่าที่เขาจะไปคือโรงพยาบาล แต่จนกระทั่ง รถขับเข้าไปในหมู่บ้านกลางเมือง พิมพ์ลดายังไม่เข้าใจว่า ทำไมอยู่ดีๆเขาถึงกลับบ้าน
พิมพ์ลดาโชคดีที่ในกระเป๋าเสื้อยังมีธนบัตรห้าสิบ บาทกับหนึ่งร้อยบาทอยู่ไม่กี่ใบ มิฉะนั้น เธอคงได้นั่งรถ ข้าราชการไปแล้ว รถคนนอกไม่สามารถเข้ามาในหมู่บ้าน กลางเมืองได้ ดังนั้นแท็กซี่จึงจอดที่ปากประตูทางเข้า หมู่บ้าน
พิมพ์ลดาคิดว่า ไม่ได้ถือกระเป๋ามา ปกติแล้วก็ไม่มี กุญแจ เธอคิดว่าจิรฐาคงเข้าไปในหมู่บ้านก่อนเธอแล้ว น่า จะถึงบ้านแล้ว แต่เดินไปถึงชั้นล่างของบ้านตัวเอง เธอจึง พบว่าที่แท้จิรฐาไม่ได้ขึ้นไปข้างบน
รถของเขาจอดอยู่ที่นั่น ท่ามกลางไฟถนนสลัว พิมพ์ ลดาเห็นว่าในรถมีคนอยู่สองคน คนหนึ่งคือจิรฐา แต่อีกคน หนึ่งคือ…
ประตูรถด้านที่นั่งคนขับเปิดออก กลับมีควันจางๆฟุ้งออก มา พิมพ์ลดาไม่เคยรู้เลยว่า ที่แท้จิรฐาก็สูบบุหรี่เป็น
งั้นผู้หญิงที่นั่งที่เบาะข้างคนขับคือใครกัน?
จันวิภาหรือ?
ไม่รู้ทําไม คนเดียวที่พิมพ์ลดาจะนึกขึ้นได้เพียงคนเดียว ในหัวสมอง ก็คือเธอ
เดิมทีเธอยังคิดว่าตัวเองจะเข้าไปหยิบกระเป๋ากับมือถือ ก็กลับบ้านไปก่อน แต่พอนึกได้ว่าคนที่นั่งเบาะข้างคนขับคือ จันวิภา เธอก็ไม่มีความกล้าที่จะยกเท้าเดินเข้าไป
เพราะท้ายรถวางตำแหน่งอยู่ตรงทางที่เธอเดินเข้ามา พิมพ์ลดาคิดว่าพวกเขาที่อยู่ในรถก็น่าจะไม่สนใจเธอ บางที เธอน่าจะเดินเลี่ยงกลับไปเสียหน่อย ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร จันวิภากับจิรฐาล้วนมีความสัมพันธ์ที่ตัดไม่ขาด เรื่องนี้ พิมพ์ ลดารู้ดี
ปีนั้นแม้เป็นเพราะความดื้อรั้นของเธอจึงนำมาสู่ อุบัติเหตุทางรถยนต์ในครั้งนั้น แต่ด้วยความเข้าใจที่พิมพ์ ลดามีต่อจิรฐา เขาจะไม่สามารถไม่สนใจจันวิภาแบบนี้ได้ อย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น เขาปฏิบัติกับเธอ ยังเป็นความรู้สึกของพี่ ชายที่มีต่อน้องสาว
“ พี่จิรฐา พี่อย่าทำแบบนี้กับฉันสิคะ! ” ก็เป็นตอนที่พิมพ์ ลดาหันหลังจะเดินออกไป เสียงหนึ่งแว่วมาจากในรถ
เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ เธอเดาไม่ผิด ผู้หญิงที่นั่งเบาะ ข้างคนขับ ก็คือจันวิภา ตอนที่เธอพูด ในเสียงมีเสียงขึ้นจมูก หนักๆ คิดว่าน่าจะร้องไห้แล้ว
พิมพ์ลดาไม่ใช่คนที่ชอบแอบฟังคนในที่ลับ แต่ขณะนี้ เธอก็ชะงักฝีเท้าลงอย่างควบคุมไม่ได้ อยากฟังต่อว่าจรฐา จะตอบเธอกลับว่าอย่างไร
เพียงแต่ว่า เธอรออยู่นานมาก กลับไม่ได้ยินคำตอบใดๆ จากจิรฐา เพียงได้ยินเสียงสะอื้นโศกเศร้าแหบพร่าของจีน วิกาที่เล็ดลอดออกมา ทะลุเข้ามาในใบหูของเธอ รบกวนจน เธอเกิดความไม่สบายใจอยู่ระยะหนึ่ง
ในที่สุด พิมพ์ลาก็ยกเท้าเดินกลับไปทางที่เดินเข้ามา เดินออกจากหมู่บ้าน
ในรถ จิราหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา ยื่นไปตรงหน้าจัน วิภา เธอไม่ต้องร้องไห้แล้ว” ในที่สุดเขาก็เปิดปาก แต่คำ พูดประโยคนี้ของเขา กลับแทนที่ด้วยเสียงร้องไห้ที่ดังขึ้น
“พี่ไม่ต้องการฉันแล้ว พี่ไม่ต้องการฉับแล้ว! ” เสียงพูดบ่น ที่ตั้งขึ้นเป็นระยะๆของเธอ ก็รบกวนให้จิรฐาเป็นกังวลยิ่งขึ้น
ขยี้บก้นบุหรี่ในมือ เขาปิดประตูรถดังตับ “ ฉันส่งเธอ กลับโรงพยาบาลก่อน
วันนี้จนวิภาถือโอกาสตอนท่านผู้เฒ่าตระกูลพยุงพงษ์ ฉลองวันเกิด ไม่ได้ส่งคนมาเฝ้าดูเธออยู่ที่นั่นตลอด จึงแอบ หนีออกมา ร่างกายของเธอยังไม่ฟื้นฟูเป็นปกติ ไม่เหมาะที่ ออกมาอยู่ข้างนอกนานเกินไป
แต่เห็นว่า รฐากำลังจะสตาร์ทรถส่งเธอกลับไป เธอก็ไม่ ยอมท่าตาม ยื่นมือออกไป เธอกดมือใหญ่ที่จะไขกุญแจของ เขาไว้แน่น หลังจากนั้นถือโอกาสตอนที่จิรฐาไม่สนใจ ก็พุ่ง ไปบนร่างของเขาทันที
“พี่จิรฐา พี่จิรฐา…ฉันไม่อยากกลับไป ไม่อยากกลับไป! “
เธอกอดเขาไว้แน่นก็สั่นศีรษะ “บ้านพี่ไม่ได้อยู่ที่นี่หรือคะ?
ฉันจะอยู่กับพี่ ฉันไม่อยากกลับโรงพยาบาล ฉันนอนที่นั่นมา
สิบปีแล้ว ฉันไม่อยากอยู่ที่นั่นอีกแล้ว ” เอนตัวพิงไปด้านหลัง จิรฐาหลับตาลง บอกเธออย่าง อ่อนเพลียเป็นอย่างยิ่ง “จันวิภา ฉันแต่งงานแล้ว ”
ประโยคนี้ เหมือนดาบเล่มหนึ่ง ปักเข้าไปตรงๆที่หัวใจ ของจันวิภา เธอไม่ยอมปล่อยมือ เพื่อความรักอันต้อยต่ำนี้ ของเธอ เธอก็สามารถแลกได้แม้กระทั่งชีวิต เธอไม่เชื่อว่า จะมีผู้หญิงคนไหนที่สามารถรักพี่จิรฐาของเธอได้มากกว่า
“ แม่พิมพ์ลดาคนนั้นมีอะไรดีกันแน่? เธอมีดีตรงไหน?
“จันวิภา ฉันดูแลเธอได้ แต่ยังยืนยันคำเดิม พวกเราเป็นพี่ น้องกัน ”
ซบหน้าลงบนตัวจิรฐา จันวิภาร้องไห้จนเหนื่อย หลังจาก นั้นก็ไม่คิดจะต่อต้านอีก ยอมให้จิรฐาประคองเธอกลับไปที่ เบาะข้างคนขับ คาดเข็ดขัดนิรภัยให้เธอ พาเธอส่งกลับโรง
พยาบาล
ในเมื่อเธอไม่สามารถเปลี่ยนความตั้งใจของจิรฐาได้ งั้น เธอก็จะเบนเข็มไปหาพิมพ์ลดา
เดินออกจากหมู่บ้านคนเดียว พิมพ์ลดาก็เดินอยู่บนถนน เล็กๆนอกหมู่บ้านกลางเมืองอย่างร่อนเร่ไร้จุดหมายแบบนี้
ควรไปไหนดีนะ? เดิมทีพิมพ์ลดาก็ไม่มีเพื่อนที่ไหน เมื่อ ก่อนตอนที่เธอแอบออกจากบ้าน ล้วนหลบเข้ามาในบ้าน ของสะปัน แต่ตอนนี้ สะปันก็หลบเข้ามาในบ้านของแม่เธอ แล้ว เธอยังจะไปที่ไหนได้อีก?
เมื่อครู่นี้เรียกรถจากหมู่บ้านมีสุขขับตามจิรฐากลับมาถึง หมู่บ้านกลางเมือง ธนบัตรไม่กี่ใบนั้นในกระเป๋าของเธอก็ใช้ ไปหมดแล้ว ตอนนี้ ทั้งเนื้อทั้งตัวก็ไม่มีเงินสักบาท ก็ไม่มีที่ ให้ไป ควรทำอย่างไรดี?
ทำไมพิมพ์ลดาถึงคิดไม่ถึงว่า ตอนที่เธอกำลังลังเลไม่รู้ จะไปที่ไหนอยู่นั้น กลับเจอธีทัตโดยบังเอิญ
ตอนที่รถคันหนึ่งแล่นมาจอดอยู่ข้างๆตัวเอง พิมพ์ลดาก็ ตกใจ รีบเร่งฝีเท้าเดินไปข้างหน้า แต่เธอเดินได้ไม่กี่ก้าว รถ คันนั้นก็เคลื่อนตามหลังเธอมาอย่างช้าๆได้ระยะทางที่ไกล มาก
ตลอดทางที่เดินมานี้มีการรักษาความปลอดภัยที่ไม่ เลว หรือว่าเธอจะน่าสะเทือนใจ? เพิ่งถูกคนใช้อำนาจครอบ ครองสามี อุ้ยๆๆ ไม่ใช่ ใช้อำนาจครอบครองอะไรกัน เพราะ เธอเป็นคนเอื้อเฟื้อ ไม่มีเรื่องวิวาทกับจันวิภาคนป่วยคนนั้นหรอก
แด่ พระเจ้าคะ ท่านคงจะไม่ลำเอียงแบบนี้หรอกมั้ง? ทั้งเนื้อทั้งตัวฉันในตอนนี้แม้แต่สลึงเดียวก็ควักออกมาไม่ ได้ ยังจะมีคนอยากปล้นฉันอีก? ตอนที่พิมพ์ลดากำลังรู้สึก สับสนสุดขีด ประตูรถก็เปิดออกแล้ว
คนในรถเดินลงมา ดึงเธอที่กำลังเตรียมจะวิ่งหนีไว้อย่าง รวดเร็ว
* พิมพ์ลดา “ตอนที่คนที่ดึงตัวเองไว้จากด้านหลังร้อง
เรียกชื่อของตัวเองออกมา ร่างกายของพิมพ์ลดาก็นิ่งค้าง
ไปอย่างห้ามไม่ได้ เธอหันกลับไป เส้นสายตาก็ปะกับตายิ้ม
ของ ทัดในทันที
เขาก็ไม่รู้ว่าที่แท้เธออาศัยอยู่ที่นี่ เขาก็แค่บังเอิญมา เยี่ยมเพื่อนเก่าที่นี่ กลับเจอเธอ
ครั้งที่แล้วตอนที่เจอธีทัตที่โรงพยาบาล พิมพ์ลดารู้สึก ประหลาดใจมากกว่า ดังนั้นตอนที่เขาจับเธอไว้ เธอจึงอยาก จะวิ่งหนีไปอย่างลนลาน แต่หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น เธอ ก็คิดว่า การตอบสนองของตัวเองในตอนนั้น เซ่อซ่าพอจริงๆ
ในร้านโอเกอร์กาแฟ พิมพ์ลดาหยิบซ้อนเล็กคนกาแฟ ในแก้วอย่างเอื่อยเฉื่อย ตั้งแต่ต้นจนจบกลับไม่เคยได้ดื่ม เลยสักคำ กาแฟแก้วนี้ธีทัตเป็นคนสั่งให้เธอ เธอไม่ปฏิเสธ แต่นึกได้ว่าตอนนี้ตัวเองมีลูกแล้ว ของที่ควรควบคุมก็ต้อง ควบคุม
ธีทัตที่นั่งด้านตรงข้ามกับเธอ เนิ่นนานกว่าจะเปิดปาก “ พิมพ์ลดา หลายปีมานี้ คุณสบายดีมั้ย? ”
เงยหน้าขึ้นมองไปทางเขา พิมพ์ลดายิ้มบางๆ ” สบายดี มากเลย คุณล่ะ? กลับมาเมื่อไร? ”
” ครึ่งปีที่ผ่านมา ” เขาตอบกลับ
ครึ่งปีที่ผ่านมา ธีทัตดำเนินขั้นตอนการหย่าร้างกับอดีต ภรรยาของเขาแล้ว ก็รีบพาลูกสาวของเขาจากรัสเซียกลับ มาถึงในประเทศ เขาคิดว่าบางทีเขายังกลับมาหาพิมพ์ลดา ได้ทัน แต่ข่าวที่เขาได้รับหลังจากที่กลับประเทศแล้ว กลับ เป็นข้างกายพิมพ์ลดามีคนอื่นไปแล้ว
ตอนนั้น เขายังไม่รู้ว่าพวกเขาแต่งงานกันแล้ว แต่เขารู้ ว่าผู้ชายที่อยู่ข้างกายพิมพ์ลดา เป็นคนที่โดดเด่นกว่าเขา เหมาะกับเธอมากกว่าเขา ไม่ว่าจะเป็นภูมิหลังครอบครัวหรือ รูปร่างหน้าตาอายุ ผู้ชายคนนั้นล้วนโดดเด่นกว่าเขามากเกิน ไป
พิมพ์ลดาสามารถหาคนดีๆแบบนี้ได้ เขาก็ดีใจแทนเธอ อวยพรให้เธอมีความสุขจากใจจริง
ศาสตราจารย์ธีทัตกลับมารับงานสอนในมหาวิทยาลัย เอแล้วใช่มั้ยคะ? ” ศาสตราจารย์ธีทัตสามคำนี้เรียกออก จากปากของพิมพ์ลดา ธีทัตนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย พลันยิ้มอย่าง เรียบเฉย “ ใช่แล้ว กลับมหาวิทยาลัยเอแล้ว ”
แต่ก่อน เขาก็เป็นศาสตราจารย์สาขาฟิสิกส์ของ มหาวิทยาลัย ไปเรียนที่ต่างประเทศห้าปีก็กลับมาอีกครั้ง กลับมารับงานสอนที่มหาวิทยาลัยเออีกครั้ง ตั้งแต่แรกก็ได้ รับการต้อนรับจากทางมหาวิทยาลัยเป็นอย่างมาก
ในการวิจัยด้านศาสตร์ฟิสิกส์ ธีทัตอาจนับว่าเป็น บุคลากรชั้นสูง พูดถึงภูมิหลังครอบครัว แม้กระทั่งอายุ ไม่ว่า ใครก็ตาม บางทีก็ไม่มีทางเชื่อมเขากับพิมพ์ลดาเข้าด้วยกัน ได้
แต่เก้าปีก่อน เธอก็ตกหลุมรักเขาอย่างช่วยไม่ได้แบบนี้ นับว่าเป็นช่วงที่ตัวเองมีความรักเป็นครั้งแรก
พิมพ์ลดาคิดว่า บางทีตอนที่เธอกำลังเผชิญหน้ากับ ปัญหาความรัก ค่อนข้างเฉื่อยชา ค่อนข้างเงอะงะ จนกระทั่ง ตอนที่เขามาสารภาพรัก เธอก็มักจะไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไร หรือยอมรับอย่างไร
ปีนั้น พิมพ์ลดาอายุยี่สิบปี เธอเป็นเหมือนเด็กสาวทุกคน ตอนที่เพิ่งเริ่มรู้จักวิธีเสพสุขความงดงามในชีวิตนักศึกษา สมัยมัธยมปลาย พิมพ์ลดาเป็นเด็กสาวที่เชื่อฟังตั้งใจเรียน จนถึงตอนเรียนมหาวิทยาลัย เธอก็ยิ่งโตเป็นสาวสวยสูง สง่า มักจะทําให้ผู้ชายในมหาวิทยาลัย แม้กระทั่งนอกรั้ว มหาวิทยาลัยรู้สึกเสียดายเธอ
มหาวิทยาลัยเอห่างจากบ้านของพิมพ์ลดาไม่ไกลนัก ปกติแล้วแม้เธอจะพักในมหาวิทยาลัย แต่บางครั้งก็จะกลับ มาอยู่บ้านภายใต้การอ้อนวอนแฝงการขู่บังคับของอรัญญา
คืนนั้น เป็นช่วงเวลาที่ทั้งชีวิตของพิมพ์ลดาก็ไม่เต็มใจ
จะนึกถึง
ถ้าไม่มีธีทัต บางทีเธออาจเหลือเพียงร่างกายที่สกปรก จนตัวเองก็ไม่อยากสัมผัสร่างหนึ่งตั้งนานแล้ว
ก็เป็นเวลาคืนนั้น เธอรู้จักกับศาสตราจารย์สาขาฟิสิกส์ผู้ มีชื่อเสียงยิ่งของมหาวิทยาลัยเอแห่งนี้
ธีทัตช่วยเธอไว้ ยังพาเธอไปตรวจร่างกายที่โรง พยาบาล ส่งเธอกลับบ้าน อ่อนโยนละเอียดอ่อนอย่างถึงที
สุด
การวางตัวเป็นสุภาพบุรุษและความอ่อนโยนเอาใจใส่ ของเขา สัมผัสถึงความอ่อนนุ่มที่อยู่ลึกที่สุดในใจพิมพ์ลดา
พิมพ์ลดาก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรไป แต่เธอก็เริ่มอยาก ทำความรู้จักกับเรื่องทั้งหมดที่เกี่ยวกับเขาในมหาวิทยาลัย โดยไม่รู้ตัว เธอก็ซื้ออาหารเสร็จแล้ว แอบไปหาเขาที่ปาก ประตูหอพักศาสตราจารย์ เพียงเพราะอยากทำอาหารเช้า มื้อหนึ่งให้เขาทาน
เช้าวันหนึ่งของฤดูหนาวในปีนั้น ตอนที่เสียงเคาะประตู ค่อยๆแว่วมาจากนอกประตู ตอนที่ธีทัตเปิดประตูก็เห็นพิมพ์ ลดาที่ยืนอยู่ด้านนอก ในใจของเขาก็ไม่มีทางเห็นเธอเป็น แค่นักศึกษาธรรมดาคนหนึ่งได้อีกต่อไปแล้ว
พิมพ์ลดาคิดว่า ความรักระหว่างพวกเขา สามารถดำเนินไปได้อย่างยาวนาน เธอรู้ว่าธีทัตอายุมากกว่าเธอสิบสามปี เต็มๆ เธอก็รู้ว่าบางทีพ่อแม่ก็ไม่มีทางยอมรับธีทัตได้ แต่เธอ ก็ยอมรับเขาไปแล้ว
เธอเตรียมตัวไว้แล้วว่าพอจบการศึกษาก็จะแต่งงานกับ เขา แต่คืนนั้น ตอนที่เธอเตรียมอาหารเย็นสุดหรูให้เขาใน หอพักของเขา เขาก็กลับไม่ได้กลับมาอีก
เขาจากไปแล้ว ไม่ได้ทิ้งข้อความใดๆไว้ให้เธอล่วง หน้า แม้กระทั่งหลังจากไปถึงรัสเซียแล้ว เขาจึงจะบอกเธอ ว่า ‘ขอโทษนะ พิมพ์ลดา ผมมีครอบครัวแล้ว ผมมีภรรยาที่ อาศัยอยู่ที่ประเทศรัสเซียมาตลอดคนหนึ่ง ยังมีลูกสาววัย สามขวบคนหนึ่ง
จิรฐาส่งจันวิภากลับโรงพยาบาล หลังจากรอให้เธอหลับ ใหลไปแล้ว จึงรีบออกจากโรงพยาบาล รีบไปรับพิมพ์ลดาที่ บ้านแก้วไชย
ดึกมาหน่อยแล้ว เขาเป็นห่วงว่าพิมพ์ลดาจะรอจนร้อนใจ ตลอดทางก็ขับรถด้วยระดับความเร็วที่แทบจะสูงถึงขั้นสุด
ตอนที่ได้ยินเสียงกริ่งประตู ญานัทกับอรัญญาเตรียมตัว จะเข้านอนแล้ว
พอประตูเปิด ตอนที่พวกเขาเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ด้านนอกคือ จิรฐา ผู้อาวุโสทั้งสองท่านล้วนประหลาดใจเล็กน้อย
เห็นญานัทและอรัญญาที่อยู่ในบ้าน จิรฐายิ้ม ก็ไม่คิดจะเข้าไปอีกแล้ว เพียงพูดว่า “ แม่ครับ ผมมารับลดา ” ไม่รู้ว่า เริ่มตั้งแต่เมื่อไร จิรฐามักจะชอบเรียกพิมพ์ลดาว่าลดาต่อ หน้าพวกท่าน หากว่าคนอื่นได้ฟังแล้ว ก็คงจะทําให้คนรอบ ข้างอิจฉาอยู่บ้าง อีกทั้งยังมีความหวานหยดย้อยอย่างเต็ม เยี่ยม
ลดา? ” ได้ฟังคำพูดของจิรฐา อรัญญาขมวดคิ้วเล็กน้อย
ตอบเขาว่า “ลดายังไม่เคยมา พวกลูกกลับไปด้วยกันแล้ว ไม่ใช่หรือ? ” พิมพ์ลดาไม่ได้ขึ้นมา? แต่ทั้งที่ตอนนั้นเธอบอกเขาว่าจะ
ขึ้นมาเยี่ยมสะปันกับหนูนา
* มีอะไรเกิดขึ้นแล้วหรือเปล่า? ” ญานัทหยิบเสื้อผ้าบน ไหล่ออกก็สวมกลับเข้าไปใหม่ เป็นห่วงว่าจะเกิดเรื่องอะไร ขึ้นกับพิมพ์ลดาแล้ว เขาอยากจะรีบออกไปตามหาเธอ
ในใจของจิรฐาก็รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ แต่ปากยังตอบ ไปว่า “ ไม่มีอะไรครับ พิมพ์ลดาอาจจะกลับไปก่อนแล้ว ผม กลับไปดูที่บ้านบ้าน คุณพ่อคุณแม่นอนเร็วๆหน่อยเถอะครับ พูดจบ เขาก็ไม่รอให้ญานัทกับอรัญญาพูดอะไรต่อ หัน หลังก็เดินลงไปข้างล่าง
ให้พวกเขานอนเร็วหน่อย? พวกเขายังจะนอนหลับ อย่างไร?
ลูกสาวหายตัวไปแล้ว…
กลับถึงที่รถ จิรฐาหยิบมือถือออกมากดโทร.ออกหา พิมพ์ลดา แต่หลังจากนั้นเสียงเรียกเข้ากลับดังขึ้นในรถของ เขา คราวนี้เขาจึงพบว่ากระเป๋าของพิมพ์ลดาวางอยู่ที่เบาะ หลังมาตลอด ไม่ได้ถือลงไปด้วย
“ ทั้งเนื้อทั้งตัวก็ไม่ได้พกอะไรไป น่าจะไปอยู่ที่ไหนแล้ว ล่ะ? ” วางมือถือลง เขารีบสตาร์ทรถก็ขับออกจากหมู่บ้านมี สุข
ตอนที่พิมพ์ลดาพูดว่าจะกลับบ้าน ธีทัตดึงเธอไว้ พูดว่า “ ผมไปส่งคุณเถอะ ” เขาจำได้ว่าเธอไม่กล้าเดินบนถนนตอน ค่ำมืดคนเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ดึกขนาดนี้แล้ว แม้พูดว่าการ รักษาความปลอดภัยบนถนนสายนี้ไม่เลว แต่ให้เธอเดิน กลับหมู่บ้านกลางเมืองคนเดียว เขาก็ไม่วางใจ
พิมพ์ลดาไม่ปฏิเสธ ขึ้นรถไปกับเขา
ตอนที่รถจอดที่นอกหมู่บ้านกลางเมือง พิมพ์ลดาปลด เข็มขัดนิรภัยออก ก่อนลงจากรถ เธอหันไปยิ้มให้ธีทัตที่นั่ง อยู่ข้างๆ ” ศาสตราจารย์ธีทัต วันเสาร์หน้า ถ้าคุณมีเวลา มาร่วมงานแต่งงานของฉันนะคะ ”
พิมพ์ลดาเดินออกไปแล้ว แต่รถของธีทัต กลับจอดอ นอกหมู่บ้านกลางเมือง ผ่านไปนานมากแล้วก็ไม่ได้ขับออก
ไป
วันเสาร์หน้า ในงานแต่งงานของเธอ คนที่เป็นเจ้าบ่าว
ไม่ใช่เขา
จิรฐาไม่รู้ว่าพิมพ์ลดาจะไปที่ไหนได้ ในใจเป็นกังวล อย่างหนักหน่วง เขาขับรถวนรอบถนนบริเวณหมู่บ้านมีสุข มารอบหนึ่งแล้ว แต่ทุกที่ล้วนไม่เห็นเงาของพิมพ์ลดา
ขณะนี้เขาจึงพบว่า ที่แท้เขารู้จักพิมพ์ลดาน้อยมาก น้อย จนแม้แต่สถานที่ที่เธอไปบ่อยที่สุด ชอบไปมากที่สุดคือ ที่ไหน เขาก็ไม่รู้
จอดรถข้างทาง จิรฐาเป็นกังวลจนกำหมัดกระแทกเข้า ที่พวงมาลัยรถ หลังจากนั้นดึงบุหรี่ที่อยู่ข้างๆออกมา ตอน ที่กำลังจะจุดไฟ เขากลับนึกได้ว่าตอนนี้พิมพ์ลดากำลัง ตั้งครรภ์ เขาก็ไม่ควรสูบบุหรี่ เขากำไว้ในมือบีบแรงๆจน แตกหักออกเป็นสองท่อน “จะไปอยู่ที่ไหนแล้ว? ไปอยู่ ที่ไหนแล้ว? ”
“ บ้าเอ๊ย! ” วางบุหรี่ที่ยังไม่ได้จุดไฟแท่งนั้นลง
พิงพนักเก้าอี้ พอจิรฐาเงยหน้าขึ้น มองผ่านกระจกมอง หลังด้านหน้ารถก็เห็นกระเป๋าที่วางนิ่งๆบนเบาะหลัง
กระเป๋า?
หรือว่า?
อยู่ดีๆเขาก็นึกได้ว่า พิมพ์ลดาไม่ได้เอากระเป๋าลงไป บางทีตอนที่อยู่ชั้นบนก็นึกขึ้นได้ เธอเดินลงมาเห็นว่าเขา ขับรถออกไปแล้ว? แต่หลังจากนั้นล่ะ? ไม่ใช่ว่าพิมพ์ลดา เห็นว่าเขาออกไปแล้ว เธอก็วิ่งตามออกไปคิดแล้ว จิรฐายืดตัวขึ้น รีบสตาร์ทรถขับไปทางหมู่บ้าน กลางเมือง
ไม่รู้ว่าทำไม สัญชาตญาณของเขาบอกเขาว่า พิมพ์ลดา อาจจะเห็นว่าจันวิภานั่งอยู่ในรถของเขา หรือว่าเพราะเหตุนี้ จึงแอบออกจากบ้าน