ผู้ใหญ่จิกับนางพิมพ์ - ตอนที่ 112
ตอนที่112 ส่งพิมพ์ลดาไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ
เขาหมุนตัวแล้วเดินมุ่งไปยังห้องครัว จิรฐานำกระเป๋า วางไว้บนชั้น เปลี่ยนรองเท้า ปิดประตู แล้วค่อยๆย่องเข้าไป ก็พบว่าพิมพ์ลดากำลังห่อเกี๊ยวอยู่ เมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้ ด้านหลังของเธอ
ทำให้เธอร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ แต่กลับไม่คิดว่า จิร ฐาจะเดินไปข้างๆตัว แล้วเรียกชื่อเธออย่างเบาๆ “พิมพ์ลดา”
“ฉันตกใจแทบแย่” พิมพ์ลดาตกใจจากการปรากฏตัวอย่าง กะทันหันของจิรฐา จนทำเกี๊ยวในมือตก “อ๊ะ” พิมพ์ลดารีบ ก้มลงไปหยิบเกี๊ยวขึ้นมา
แต่ก็ไม่ถึงกับไม่มีเสียงเสียทีเดียว แอบคิดเบาๆว่า เป็น ที่ตัวเองตั้งใจให้เป็นแบบนี้เอง จิรฐาได้แต่ยืนอึ้ง แต่ว่า หากเธอไม่พอใจ ว่าเค้าจะทำเสียงดังเกินไป เพราะช่วงนี้ พิมพ์ลดาอารมณ์ไม่ค่อยดี ทำไมเขารู้สึกว่าเขาใช้ความ ระมัดระวังผิดที่ผิดทางไปหน่อย
“วันนี้ไปทำอะไรมาบ้าง” จิรฐาถามพิมพ์ลดา เขาเห็นว่า เธอเพิ่งเก็บเกี๊ยวที่พื้นเสร็จ ในใจก็นึกอยากจะห่อเกี๊ยวขึ้นมา
“เมื่อเย็นฉันแค่ไปช็อปปิ้งกับแม่คุณมา พิมพ์ลดา เพียงแค่ตอบออกไปอย่างที่คิด พรางจัดแป้งเกี๊ยวในมือ
จิรฐาถึงกับตกใจ เมื่อได้ยินพิมพ์ลดาพูดถึงแม่ของเขา “วันนี้แม่มาหาคุณหรอ”
“ทําไมวันนี้มันช่าง…” เธอไม่ได้ตอบเขาอย่างตรงๆ เพียง แค่ตอบว่า “กลับมาตั้งนานแล้วหรอ”
“ตั้งห้าโมงครึ่งแล้ว ไม่เร็วเลยคุณ” จิรฐายกแขนขึ้นมาดู นาฬิกา แล้วยังถูกเธอถาม “เร็วหรอ”
“ไม่ทันแล้ว” พิมพ์ลดาคันปาก พอจิรฐาตอบมาคำสุดท้าย “อะไรนะ ห้าโมงแล้ว”เธอก็รีบก้มหน้าก้มตาห่อเกี๊ยว เพราะ ยังมีแผ่นเกี๊ยวที่ยังไม่ได้ห่อเหลืออีกเยอะเลย ไม่ทันแล้วๆ
แต่จนถึงตอนที่เขาทั้งสองเริ่มจะทานข้าว จิรฐาเองคิดว่า พิมพ์ลดานัดใครมาทานข้าวที่บ้านไว้ แต่เขาก็ไม่เห็นอีกคน จะมาเสียที
เขาไม่เข้าใจ ทั้งกับข้าวที่มากเกินกว่าสองคนจะทาน หมด และเกี๊ยวที่อยู่บนโต๊ะอีกมากมาย
ไม่ได้มีโอกาสพิเศษแต่อย่างใด เพียงแค่ตกลงกับเขา ไว้ว่าจะทานข้าวที่บ้าน เธอจึงทำอาหารขึ้นมานิดหน่อย
แต่ทำไมเขากลับรู้สึกกังวลขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ เห็น
กับข้าวที่เรียงรายมากมายอยู่บนโต๊ะ หรือนี่จะเป็นมื้อ สุดท้ายก่อนพิมพ์ลดาจะบอกลากับเขา
พิมพ์ลดายืนในที่ประจำ คีบเกี๊ยวขึ้นมา จิ้มซอสที่อยู่บน โต๊ะ จากนั้นนั่งลง
หยิบตะเกียบขึ้นมา พรางหัวเราะ แล้วเอียงหน้าถามจิรฐา “เป็นไรคะ”
เขาจับมือเธอที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา วางตะเกียบ ในใจ ของจิรฐารู้สึกกังวลยิ่งขึ้น ยิ่งเห็นรอยยิ้มของเธอเช่นนี้ ยิ่ง จับมือเธอแน่นขึ้น
เขาเห็นกับข้าวบนโต๊ะ “ทำไม วันนี้คุณแม่พูดอะไร กับคุณ คุณบอกผมมา พิมพ์ทำไมอยู่ดีๆคุณถึงท่าอาหาร มากมายขนาดนี้” เขามองไปยังพิมพ์ลดาและอาหารบนโต๊ะ
เธอคืบเกี๊ยวที่จิ้มซอสแล้วใส่จานจิรฐา แล้วคีบเกี๊ยวอีก อันหนึ่งขึ้นมา พิมพ์ลดาหัวเราะเมื่อได้ยินคำถามที่ของจิรฐา “อาหารพวกนี้ ฉันต้องลางานตั้งครึ่งวัน เพื่อที่จะไปหาซื้อ วัตถุดิบเหล่านี้มาทำอาหารกับคุณแม่ ท่านไม่ได้พูดอะไรกับ ฉันทั้งแหละ นานแล้วที่ฉันไม่ได้ทำอาหาร…. ” เธอเงยหน้า ขึ้นมามองเขา หยุดไปครู่หนึ่งแล้วจึงพูดต่อ “ เพื่อชดเชยให้ คณซักครั้ง”
เป็นอย่างนี้จริงหรอ
จิรฐาไม่รู้สึกว่าเธอกำลังโกหกแม้แต่น้อย เธอยังคงใส ชื่อเหมือนเมื่อก่อน
เธอไม่ได้ขัดขืนเขาเหมือนเมื่อก่อน ในคืนนี้เธอยิ้ม มากกว่าก่อนหน้านี้มากมาย “กินข้าวกัน
เขาก็ไม่พูดอะไรมากแล้วอีกแล้ว เธอตอบแต่ว่าไม่ เขา ถามแล้ว แต่ในใจของเขายังคงกังวล
พฤกษายังกลับมาเฝ้าจันวิภาที่นี่ วันนี้หลังจากไปช็อป ปิ้งกับพิมพ์ลดาเสร็จแล้วนั้น
ก็ซื้อบะหมี่ที่เป็นของโปรดจันวิภา เธอให้พิมพ์ลดาไป ชื้อในเมืองเป็นเพื่อน จึงทันการ จากนั้นก็ทานข้าว และรอจน จันวิภาหลับไป จึงค่อยกลับ
ใบหน้าแสดงรอยยิ้มของแม่ผู้อารี พฤกษาช่วยจัดผ้าห่ม ให้จันวิภาเรียบร้อย
พฤกษามองจันวิภาที่ยังอยู่ในห้วงนิทรา จึงกระซิบบอก อิงนราด้วยเสียงต่ำ “อิงนรา แกห้ามหลุดปากกับจันวิภาเรื่อง ที่จิรฐากับพิมพ์ลดาจะวันเสาร์หน้าเด็ดขาดเลยนะ รู้มั้ย”
เขาตั้งใจจะส่งจันวิภาไปรักษาตัวในอาทิตย์หน้าพอดี “หนูจัดการเรียบร้อยหมดแล้วค่ะ ถึงแม่จะไปรักษาตัวที่ อเมริกา แต่ก็ไม่สามารถกลับมาเดินได้แบบเดิม หรืออาจจะ เป็นไปได้
พฤกษายิ้มอย่างพอใจในคำตอบของอิงนรา
แล้วอิงนราก็ถามพฤกษาเรื่องที่ตัวเองสงสัยมาตลอด “แม่คะ ที่จิรฐาจะแต่งงานเป็นเพราะ แม่เอาการรักษาตัว ของจันวิภามาเป็นข้อบังคับเขาหรือเปล่าคะ” ยังพูดไม่ทัน จบ พฤกษาก็รีบเบรก “ชู งานแต่งนั้น พิมพ์ลดาก็ท้อง แล้ว และตอนนี้พวกเขาก็รักกันดี เรื่องนี้ห้ามจันวิภารู้เป็นอัน ขาด ให้เธอตายอยู่ในมือพวกเรานี่แหละ พิมพ์ลดาก็หาใช่รู้ สาเหตุ จิรฐาไม่เคยพูดถึงด้วยซ้ำ”
“แต่ว่า…”
แกยังอยากพูดอะไรอีก”พฤกษาพูดขัดขึ้นมา
“ทั้งหมดเป็นเพียงการคาดเดาของหนู”
“ฉันใช้จันวิภามาเป็นข้อบังคับ แล้วมันจะยังไง ตอนแรกที่ เขาจะแต่งงานกับพิมพ์ลดา ยังมีอะไรจะสำคัญไปกว่าเรื่องนี้ ใครจะไปสนว่าเขาแต่งกันเพื่ออะไร ในเมื่อทุกวันนี้พวกเขา ก็มีความสุข”
เดินไปปิดไฟในห้องพักผู้ป่วย แล้วอิงนราและพฤกษาก็ เดินออกไป
ในขณะที่ไฟดับลง จันวิภาค่อยๆลืมตา เธอไม่ได้นอน หลับแต่อย่างใด
“สาเหตุคืออะไรไม่สำคัญ แค่ตอนนี้พวกเขามีความสุข ก็พอแล้ว” ประโยคนี้ดังวนเวียนอยู่ข้างหูของจันวิภา แล้ว ค่อยๆพูดประโยคนั้นออกมาทีละคำ เธอกัดฟัน และจิกผ้าปู แน่น “สําคัญสํ สำคัญแน่นอน”
ตอนแรกพิมพ์ลดาเห็นเป็นเบอร์แปลกที่มีเลข เพียง4หลักโทรมา เขาคิดว่าเป็นเบอร์พวกที่หลอกเงินจึงไม่ รับ แต่พอโทรมาหลายสายเข้า จึงต้องกดรับอย่างทนไม่ได้
มือถือที่สั่นอยู่บนโต๊ะ ทำให้พิมพ์ลดาต้องวางปากกาที่ อยู่ในมือลง รับสายนั้นแต่โดยดี
ช่วงนี้ฝนตกแทบจะทุกวัน ตั้งแต่เข้าฤดูใบไม้ผลิมา ทั้ง เมืองก็ราวกับตกอยู่ในห้วงของคำที่ว่า ฤดูใบไม้ผลิมาเยือน ฝนตกโปรยปราย
ไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะยกมือขึ้น พิมพ์ลดาลงจาก แท็กซี่ที่หน้าประตูกระจกร้านกาแฟนั้น