ผู้ใหญ่จิกับนางพิมพ์ - ตอนที่ 113
ตอนที่113 เขาไม่ได้รักเธอ
เธอได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาจากกระเป๋า จังหวะที่ พิมพ์ลดากำลังจะผลักประตูเข้าไป
เธอก็ใช้อีกมือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
เป็นข้อความจากจิรฐา
“กลางคืนจะรีบกลับไป แต่อาหารเย็นคงต้องอยู่ทานที่นั่น ก่อน ผมต้องออกไปดูงานที่ต่างจังหวัดกระทันหัน คุณอยู่ คนเดียวอย่าลืมทานข้าวด้วย”
“โอเค” เธอตอบกลับเพียงคำเดียว เธอครุ่นคิดถึงตัว หนังสือที่อยู่บนหน้าจอมือถือเมื่อครู่
รวบรวมความกล้าเดินก้าวเข้าไปในร้านกาแฟ และใน ที่สุดเธอก็กล้าที่จะเก็บมือถือลงในกระเป๋า
แถวนี้พิมพ์ลดาไม่ค่อยได้มา แทบจะไม่รู้มาก่อนเลยว่า ที่นี่จะมีร้านกาแฟที่เงียบสงบขนาดนี้ เมื่อเดินเข้าไปในร้าน เธอยื่นร่มให้บริกรช่วยเก็บ
“สวัสดีครับคุณผู้หญิง ไม่ทราบว่ามากี่ท่านครับ”
“สวัสดีค่ะ ฉันมาหาผู้หญิงที่นามสกุล ไชยมี”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น บริกรก็เข้าใจทันที เขานำร่มของพิมพ์ลดาเก็บเข้าที่เรียบร้อย แล้วผายมือเชิญให้เธอเดินเข้าไป “ เชิญทางนี้ครับ”
พิมพ์ลดาเดินตามด้านหลังของบริกร เดินผ่านโถงใหญ่ ของร้าน แล้วเดินขึ้นบันไดไม้นั้นไป
จันวิภารอเธออยู่ในห้องอาหาร บนชั้นสอง วินาทีที่ประตู ไม้ถูกผลักเข้าไป พิมพ์ลดาถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ ได้
หลังจากที่พิมพ์ลดาได้รับสายจากจันวิภา เธอก็ไม่คิดเลย ว่าตัวเองจะทำตัวไม่ถูกขนาดนี้ ตอนที่จันวิภาบอกว่าอยาก พบเธอ พิมพ์ลดาเพียงแค่คิดว่าพวกเขาควรเจอหน้ากันสัก ครั้ง ไม่ว่าเป็นในฐานะสะใภ้ หรือในฐานะที่พวกเขาชอบจิร ฐาเหมือนกัน
หลังจากที่วางสาย เธอจึงรีบออกมาจากบริษัท รีบเรียก รถเพื่อมาที่นี่
พิมพ์ลดาได้ยินจากที่จิรฐาเคยเล่าให้เธอฟังว่า จันวิภา นอนติดเตียงมานาน ทำให้ขาอ่อนแรง ยังไม่สามารถเดินได้ ปกติอย่างคนทั่วไป ตอนที่บริกรนำเธอขึ้นมาชั้นบน เธอยัง ตกใจที่ ทำไมจันวิภาต้องลำบากตัวเอง ใช้ขาที่เดินไม่คล่อง นั้นเดินขึ้นมา
เมื่อเข้าไปในห้อง พิมพ์ลดานั่งลงที่ตรงข้ามับจันวิภา เธอสั่งนมร้อนแค่เพียงแก้วเดียว ตั้งแต่เธอท้อง ก็แทบจะไม่ แตะกาแฟอีกเลย
หลังจากที่บริกรเอานมมาเสิร์ฟ แล้วดูเขาที่ปิดประตูห้อง แล้วเดินออกไป จันวิภาจึงเริ่มพูดขึ้นมา
“คุณพิมพ์ ฉันต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่อยู่ๆเรียกคุณมา ต้องรบกวนเวลาทำงานของคุณ”
ในตอนนี้ พิมพ์ลดามองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า จันวิภาที่ มีหน้าตาสวยงาม สดใส ร่าเริง ราวกับเป็นคนละคนกับที่ไล่ เธอออกจากห้องผู้ป่วยในโรงพยาบาลวันนั้น
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าในตอนนี้ ไม่เหมือนคนป่วยที่นอน ติดเตียงมาเป็นเวลาสิบกว่าปีเลยแม้แต่น้อย
พิมพ์ลดายิ้มบางๆ พรางตอบ “ไม่หรอกค่ะ ฉันก็หา โอกาสที่จะพูดคุยกับคุณมาตลอด”
“คุณพิมพ์” จันวิภาจิบกาแฟเบาๆ แล้ววางแก้วลง จากนั้น เงยหน้าขึ้นมามองพิมพ์ลดา “ได้ข่าวว่า คุณท้องหรอคะ วัน เสาร์หน้าก็จะแต่งงานกับคุณจิรฐาแล้วใช่ไหมคะ”
พิมพ์ลดาคิด ว่าเรื่องนี้คงที่บ้านพยุงพงษ์คงจะบอกจัน วิภา เธอจึงพยักหน้า “อ่อ ใช่ค่ะ
เธอกลัวว่าที่ตัวเองตอบอย่างตรงไปตรงมาอย่างนี้ จะทำ ร้ายจิตใตจันวิภา จึงพูดต่ออีกประโยคหนึ่ง “แต่ไม่ใช่งาน เลี้ยงใหญ่โตอะไร ในงานมีเพียงมีเพียงญาติและเพื่อนสนิท มาทานข้าวด้วยกันแค่นั้นค่ะ”
พิมพ์ลดาคิดว่าหลังจากที่จันวิภาได้ยินที่เธอตอบ เธอ คงจะแสดงสีหน้าที่เสียใจออกมา แต่ไม่เลย หลังจากที่เธอ พูดจบ ก็เห็นเขาหัวเราะออกมา
แต่ว่า ทำไมรู้สึกว่าเขาหัวเราะราวกับรู้ทัน
“คุณพิมพ์ ที่จริงหากพวกคุณทั้งสองรักกันจริงๆ ฉันก็ยินดี ด้วยค่ะ”
ที่เขพูดเช่นนี้ ทำให้เธอไม่ค่อยเข้าใจ พิมพ์ลดารู้ว่า เธอ และจิรฐาแต่งงานกันอย่างฟ้าผ่า เธอไม่เคยพูดว่ารักเขา ด้วยซ้ำ และเขาก็ไม่เคยสารภาพรักกับเธอเลยซักครั้ง เป็น ปกติที่จะพูดไม่ได้ว่ามันคือความรัก แต่พอจันวิภาพูดคำนี้ ออกมา ทำไมเธอถึงรู้สึงกังวลเป็นพิเศษ “คุณพิมพ์” จัน วิภาปัดเส้นผมที่อยู่ตรงหน้าออก ยิ้มเบาๆ “มีเรื่องหนึ่ง ที่ฉัน ปรึกษากับคุณจิรฐาว่า ก่อนแต่งงานควรจะบอกคุณ”
“ที่จริงแล้ว ตอนแรกที่จิรฐารีบจดทะเบียนกับคุณ เป็น เพราะคุณน้าเอาการรักษาตัวฉันมาบังคับเขา” เมื่อพูดถึง ตรงนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าขอวจันวิภาก็ค่อยๆหายไป “หรือจะ พูดว่า ที่จริงแล้วจิรฐาไม่ได้รักคุณเลย เขาแต่งงานกับเธอ เพราะเขาต้องการช่วยชีวิตฉัน คุณพิมพ์ หรือคุณยอมเอา ชีวิตตัวเองไปผูกกับคนที่ไม่ได้รักคุณไปตลอดชีวิตหรอ”
พิมพ์ลดายอมรับ ว่าเมื่อได้ยินที่จันวิภาเล่าถึงเหตุผลที่ จิรฐาแต่งงานกับเธอ ทำให้เธอรู้สึกโหวงในใจ
มองไปยังนมที่อยู่บนโต๊ะ เกิดเป็นวงคลื่นจากโต๊ะที่ขยับเมื่อกี้ พิมพ์ลดาบอกกับตัวเองให้มีสติเข้าไว้
จิรฐาอาจจะไม่ได้รักเธอ เธอรู้ดี แล้วจิรฐารู้สึกอย่างไร กับเธอล่ะ
พิมพ์ลดาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอย่างนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เหมือนกับคุ้นเคยกับการที่มีจิรฐาให้เป็นที่พึ่งพิง และความ
คุ้นเคยนี้มันยิ่งมากขึ้นทุกวันๆ ตอนนี้มันช่างมากเสียจนยาก
ที่จะถอนตัวแล้ว
พิมพ์ลดาถามจิรฐาตั้งแต่วันที่รู้แล้วว่าเขาเป็นใคร เธอยัง เคยถามเขา “ทำไมคุณต้องมาแต่งงานกับฉัน”
ตอนนั้นเขาตอบว่า เพราะว่าเขาและพิมพ์ลดานั้นอยาก แต่งงานเหมือนกัน
ตอนนั้น คำที่เขาพูดกับพิมพ์ลดาคงเป็นเพียงคำ ปลอบโยน แต่เธอก็เคยคิด ว่าอยู่ดีๆผู้ชายที่แสนจะเพอร์เฟ คอย่างเขา มาขอเธอแต่งงานเหตุผลคงไม่ได้มีเพียงเท่า นั้นแน่ๆ
พิมพ์ลดาก็เคยคิด ว่าถ้าหากวันหนึ่งมีแฟนเก่าที่มีความ สัมพันธ์กับจิรฐาอย่างลึกซึ้งมากๆปรากฏตัวขึ้น ตอนนั้นเธอ คิดว่า ถ้าหากพวกเขายังรักกันอยู่ เธอก็คงยอมถอยออกมา
แต่ว่าตอนนี้ พิมพ์ลดาพบว่าตัวเองทำไม่ได้ เธอไม่มี ความกล้ขนาดนั้น เพราะว่า เธอได้รักเขาไปแล้ว
ในเมื่อรักเขาไปแล้ว ยังจะสนใจเหตุผลที่เขามาแต่งงาน กับเธออยู่ทำไม อย่างน้อยพิมพ์ลดาก็รู้ว่า จิรฐาไม่ได้ รังเกียจเธอ แถมยังดูแลเอาใจใส่เธออีกด้วย
แต่จันวิภาที่อยู่ด้านหน้านี้ ก็ไม่ได้เป็นเพียงน้องสาวธร รมดาๆของจิรฐา แม้กระทั่งแฟนเก่ายังไม่นับเลยหรอ
“คุณจันวิภา” พิมพ์ลดาเงยหน้าขึ้นมามองผู้ตรงหน้าอีก ครั้ง พรางยิ้มอ่อนๆ แล้วพูดว่า “คุณไม่เคยแต่งงาน ไม่เคย ใช้ชีวิตหลังแต่งงาน คุณอาจจะไม่เข้าใจว่าระหว่างคู่สามี ภรรยา ต้องส่งเสริมซึ่งกันและกัน ดูแลกัน ฉันและคุณจิรฐา เราได้ใช้ชีวิตร่วมกันมาแล้วกว่าครึ่งปี ไม่เหมือนกับคุณที่มี ความสัมพันธ์กันฉันพี่น้อง ไม่ใช่ความสัมพันธ์ระหว่างชาย หญิง มีครอบครัวที่มีความสุขร่วมกัน”