ผู้ใหญ่จิกับนางพิมพ์ - ตอนที่ 12
ตอนที่12
เธอชื่อพิมพ์ลดา
หลังจากที่จิรฐาเข้ารับตำแหน่งแล้ว งานที่ต้องจัดการก็ยิ่งมี มากมาย ยากที่จะใช้วันหยุดช่วงสุดสัปดาห์ เขาไม่อาจฝืนคำขอ ร้องของแม่เฒ่าที่บ้านได้ ในที่สุด ตัวเองเป็นคนดีจึงขับรถกลับ มาหมู่หอพักทหาร ก่อนที่ทางบ้านจะส่งคนมาจับตัวเขากลับมา กินข้าว
พอเข้าบ้าน ที่ห้องนั่งเล่น จิรฐาก็ได้เห็นนิรวิทย์ปู่ของเขา กำลังนั่งอยู่บนโซฟาเล่นหมากรุกกับชาตพลพ่อของเขาซึ่งนั่ง อยู่ตรงข้าม
เขาเปลี่ยนรองเท้าเสร็จ กำลังคิดจะเข้าไปทักทายสวัสดี ผู้ใหญ่ และตามเข้าไปร่วมเล่นเกมกับพวกเขาด้วย กลับได้ยิน เสียงลอยมาจากในครัวว่า”คุณปู่ ท่านกินต้นหอมไหมค่ะ?”แล้ว เจ้าของเสียงก็ปรากฏตัวขึ้นที่ประตูห้องครัว
ชั่วพริบตาที่เห็นสุดารัต จิรฐายอมรับว่าในจิตใจลึก ๆของ เขา มีแรงกระตุ้นที่คิดจะหันหลังเดินจากไป แต่ด้วย อายุ ประสบการณ์การรับรู้และประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขา อีกทั้ง ฐานะของเขา ทุก ๆ อย่างต่างเตือนให้เขาห้ามเดินจากไป
พ่อแม่ของสุดารัตและครอบครัวคุณย่าของจิรฐามีความ สัมพันธ์ที่ดีมาก ยิ่งกว่านั้นอดีตเป็นเพื่อนบ้านกัน ฉะนั้นสมัยจิร ฐายังเล็กก็เคยเห็นสุดารัตมาก่อน แต่คนทั้งสองมีอายุห่างกัน หกปี เมื่อจิรฐาเริ่มเล่นบาสเกตบอล เตะฟุตบอล สุดารัตยังเล่น ตุ๊กตาบาร์บี้ ดังนั้นพวกเขาจึงเล่นด้วยกันไม่มากนัก
ครอบครัวทางสุดารัตทำธุรกิจ สุดารัตเรียนหนังสืออยู่ต่าง ประเทศมาตลอด เพิ่งกลับประเทศมาเร็ว ๆ นี้ ดังนั้นจึงไม่ได้ติดต่อกันมาก จิรฐาก็แปลกใจมากที่คุณพฤษาครอบครัวเขาซึ่ง ตอนนี้กำลังยุ่งกับปลานึ่งในห้องครัวคิดอย่างไรจึงจับให้เขาคู่ กับสุดารัตด้วยกัน
ถ้าไม่ใช่เพราะเคยถูกแม่เขาบังคับให้ดูรูป จิรฐาก็แทบจะจำ ไม่ได้ว่าหญิงสาวที่สวมผ้ากันเปื้อนตรงหน้าคนนี้คือสุดารัต
ดูเหมือนจะดื่มน้ำหมีกฝรั่งมากเกินไป สุดารัตเห็นจิรฐาที่ไม่ได้ พบกันมาหลายปี กลับไม่รู้สึกแปลกหน้า ยิ้มให้เขาทักทายอย่าง ธรรมชาติ”พี่จิรฐา ไม่เจอกันนานเลยนะ !”
เธอทักทายอย่างเป็นกันเอง จิรฐาจึงหัวเราะและกล่าวว่า”ใช่ ไม่เจอกันนานเลย สุดารัตตัวน้อยก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว”
ในสายตาของผู้ใหญ่ไม่กี่คน สองคนนี้ได้เป็นตัวละครเอกที่ ถูกร้อยเรียงไว้ด้วยกันในจิตใจของพวกเขาไปแล้ว การทักทาย นี้ได้ก่อให้ใจของพวกเขาสั่นระริก แต่น่าเสียดายที่มื้อค่ำเสร็จ สิ้น สุดารัตรับโทรศัพท์สายหนึ่งแล้วว่ามีเรื่องด่วนต้องไปแล้ว
เดิมพฤษาคิดจะใช้โอกาสนี้ให้จิรฐาไปส่งเธอ จิรฐาก็คิด อยากรีบจากไป แต่กลับถูกสุดารัตปฏิเสธ บอกว่าวันนี้ตนเองขับ รถมา ไม่ต้องรบกวนพี่จิรฐาแล้ว
คำกล่าวออกจากปากสุดารัต คนที่เศร้าสร้อยหงอยเหงา ไม่เพียงมีคุณพฤษาแต่ยังมีจิรฐาแน่นอน เพราะเมื่อเธอไปแล้ว แม่เขาก็ต้องเริ่มบุกโจมตีรุกรานเขาแน่ ๆ ถามความคิดเห็นต่าง ๆที่เขามีต่อสุดารัต
“ลูกเอ๋ย!”ตามความคาดคิด แม่ลูกรู้ทันกัน เพิ่งส่งสุดารัตกลับ พฤษาก็นั่งลงข้างกายจิรฐา ถามเขาใกล้ ๆ ว่า “สุดารัตเด็กคนนี้นี่ดีใช่มั้ย? ครั้งที่แล้วให้เจ้ามากินข้าวเย็น เจ้าจงใจไม่กลับมา วัน นี้ได้เห็นสุดารัต รู้สึกเสียดายไหม?”
“ไม่!”ได้ฟังคำพูดของพฤษา จิรฐาไม่เหลือบตาขึ้นมองสักนิด ยังคงอ่านหนังสือพิมพ์รายปักษ์ค่ำที่อยู่ในมือตนเองต่อ
“โธ่ เจ้าเด็กนี่!”คำตอบของจิรฐา ไม่เพียงพอให้พฤษาพึง พอใจอย่างโจ่งแจ้ง “เจ้านะเจ้า วันนั้นมาแก้ตัวหลอกพี่สาวเจ้า ว่ากำลังรับประทานอาหารกับหญิงสาวผู้หนึ่งอะไรนั่น ฉันให้คน ไปตรวจสอบแล้ว วันนั้นเจ้ากินอาหารคนเดียวเองชัด ๆ เพียงแต่ ครึ่งทางมีหญิงสาวคนหนึ่งมาพูดคุยกับเจ้าสักพัก แล้วจากไป อย่างรวดเร็ว เจ้า…”
“เธอชื่อพิมพ์ลดา!”แม่ยังคงพูดพร่ำบ่นที่ข้างหูไม่หยุดหย่อน หนังสือพิมพ์ในมือจิรฐาก็พลิกเปิดไปที่หน้าแฟชั่นพอดี เกือบ ครึ่งหน้าเป็นโฆษณาน้ำหอม “KissWedding” ของบริษัทไฮไฮ กรุ๊ปจำกัดที่กำลังท็อปฮิตมาแรงเมื่อเร็วๆนี้ และในมุมขวาล่าง ของโฆษณานั้นก็มีอักษรตัวเล็กแถวหนึ่งเป็นชื่อของบริษัท ออกแบบและชื่อของนักวางแผน ซึ่งดูเหมือนจะคุ้นเคยแต่ก็ไม่ คันเคยกับคำนั้น ก็ได้โลดแล่นสู่สายตาของจิรฐาโดยไม่มีการ เดือนล่วงหน้าเช่นนั้น