ผู้ใหญ่จิกับนางพิมพ์ - ตอนที่ 13
ตอนที่13 บังคับแต่งงาน
ก็เพราะเห็นชื่อพิมพ์ลดา จิรฐาก็รับคำของแม่เขาอย่างไม่รู้ ตัว เพียงแต่คำพูดอย่างกะทันหันนี้ ดูเหมือนจะไม่อาจดับความ คิดที่ต้องการวิจารณ์ด้านความคิดกับพฤติกรรมที่ไม่ดีของเขา ในเรื่องไม่ยอมแต่งงานสักทีให้มอดลงได้
“แม่ พอล่ะ!”ปิดหนังสือพิมพ์ในมือ จิรฐาลุกขึ้นยืน”ดีกแล้ว คุณ ปู่และพ่อผมต่างก็เตรียมพักผ่อนแล้ว ท่านก็ไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องทำงาน ผมกลับแล้วครับ”พูดจบ เขาก็เตรียมจะ อ้อมข้างกายแม่ออกไป
แต่เมื่อเขากำลังจะเปลี่ยนรองเท้า ทางนี้แม่ก็ลุกขึ้นวิ่งตาม
เขาไป
“จิรฐา!”เสียงแม่เขาพูดด้วยเหมือนจะเย็นชามากที่ด้าน หลัง”เจ้าบอกแม่ตามสัตย์จริงว่าหลายปีมานี้ เจ้าไม่หาแฟน และ ก็ไม่ร่วมมือกับทางบ้านที่จัดนัดดูตัวให้เจ้ามาตลอด เพราะเธอ คนนั้นที่นอนป่วยบนเตียงใช่ไหม?
หลายปีมานี้ พวกเขาไม่เคยพูดถึงเธอ ไม่ใช่หรือ? แต่วันนี้ ในที่สุดยังคงนำเรื่องนั้นออกมาพูดเหรอ?
ได้ยินคำพูดของคุณพฤษา จิรฐาชะงักหยุดมือไว้สักครู่”แม่ นั่นไม่เกี่ยวกับเธอ”จิรฐาตอบเสียงทุ้ม ยังคงเปลี่ยนรองเท้าต่อ
ชั่วขณะ เมื่อเขากำลังจะออกจากบ้าน เสียงแม่ของเขา ดังมาจากด้านหลังอีกครั้ง”จิรฐา แต่เล็กจนใหญ่ แม่ไม่เคย บังคับเจ้า แต่คราวนี้ถ้าเจ้าไม่คบหาแฟนภายในปีนี้ ฉันก็จะหยุด การรักษาของเธอ เจ้าอย่าลืมว่าฉันเป็นผู้ปกครองตามกฎหมายของเธอและฉันมีสิทธิที่จะตัดสินใจว่ายังคงรักษาเธอที่ได้นอน หลับลึกมาเก้าปีแล้วต่อไปไหม?”
ในช่วงเวลานั้นจิรฐาหดมือที่ได้วางไว้บนลูกบิดประตูกลับมา ถอนหายใจ หันไปมองแม่ตนเองในห้องนั่งเล่นที่ด้านหลัง
เธอ? เขาตระหนักในทันใดว่าแท้จริงที่พวกเขาต่างไม่ได้ เอ่ยชื่อของเธอ เป็นเพราะชื่อนี้ทำให้คนรู้สึกเสียใจ ละอายใจใช่ ไหม?
“แม่..”คิดแล้วคิดอีก สิ่งที่จิรฐาสามารถพูดได้คือ”ดึกแล้ว ท่านพักผ่อนแต่เนิ่น ๆ ผมไปแล้วครับ” แล้วเขาก็เปิดประตูเดิน จากไป คราวนี้ไม่ได้หันกลับมาอีกเลย
ในห้องรับแขก ขณะหลังจากที่มือของจิรฐาจับประตู ระเบียงปิดดังปัง คุณพฤษาทั้งร่างก็ดูเหมือนสูญเสียพละกำลัง ไปสิ้นราวกับจะล้มลง ยังดีที่ชาตพลพยุงเธอไว้ได้ทัน
ในความเป็นจริง บทสนทนาของพวกเขาแม่ลูกเมื่อสักครู่ ชาตพลได้ยินหมด เขากำลังจะลงมาข้างล่างสั่งงานจิรฐาอะไร บางอย่าง แต่ใครจะรู้ว่าจะเจอฉากนี้
“ชาตพล เมื่อครู่ฉันพูดกับลูกชายแบบนั้น ได้ทำร้ายเขามาก ไปไหม?”ถ้าไม่ใช่ถูกบีบคั้นจนไม่เป็นตัวของตนเอง พฤษาก็ไม่ อยากจะใช้เรื่องนี้มาข่มขู่จิรฐา “แต่ลูกชายก็อายุได้สามสิบสอง ปีแล้ว คนคนหนึ่งจะมีสามสิบสองปีได้กี่ครั้ง? เราก็ต่างเฒ่ากัน แล้วและฉันไม่ต้องการที่จะรอจนกว่าจะถึงเวลาที่หลานชายเกิด มา ฉันก็อุ้มไม่ไหวแล้ว”
พยุงพฤษานั่งลงบนโซฟาข้าง ๆ ชาตพลให้เธอพิงไหล่ตนเองไว้ และลูบไหล่เธอด้วยมือใหญ่ที่สาก ปลอบว่า”จิรฐา เข้าใจ มีเหตุผล คุณต้องเชื่อลูกของเรา”
ดีกมากแล้ว จิรฐาพิงหัวเดียงไว้อย่างเชื่องช้า ยังไม่สามารถ ข่มตาหลับลงได้
เดิมเรื่องนั้นผ่านมาเก้าปีแล้ว ปีนั้นแม้ว่าเขาไม่ได้เป็น ฆาตกรฆ่าเธอโดยตรง แต่เขาเป็นหนึ่งในตัวการหลัก เพราะเหตุ นี้จึงทำให้เขายังคงยืนหยัดให้แพทย์ทำการรักษาคนที่ได้นอน หลับลึกมาเก้าปีแล้วคนหนึ่ง
ตอนนี้ทางออกเดียวที่สามารถรักษาชีวิตเธอไว้คือ..
ทันใดจิรฐาก็นึกถึงสิ่งที่เขาใส่เข้าไปในลิ้นชักตู้หัวเดียง ตามสะดวกในวันนั้น เขารีบลุกขึ้นนั่ง เปิดลิ้นชักและหยิบเล่ม ทะเบียนบ้านเล่มนั้นที่นอนนิ่งอยู่ในนั้นออกมา
เปิดดูหน้าแรก เขาเห็นชื่อเจ้าของเล่มทะเบียน เขาอ่าน ชื่อ” พิมพ์ลดา”