ผู้ใหญ่จิกับนางพิมพ์ - ตอนที่ 87
ตอนที่ 87 แผนการลับสําเร็จ
ผลักประตูรถเปิดออก ตาสลงจากรถเอากุญแจรถ ให้บริกรของโรงแรมนำรถไปจอด เขาเดินไปข้างกาย พิมพ์ลดา ยกมือขวาท้าวศอกไว้ ยืนอยู่ข้างๆเธอ
มองดูการกระทําของตนัส พิมพ์ลดาไม่ค่อยเข้าใจ ความหมายของเขา กระชับเสื้อโค้ทบนไหล่ของเธอเอง พิมพ์ลดาถามว่า “ผู้ตรวจการใหญ่ คุณทําอะไร?
ทำอะไรน่ะ? ได้ยินพิมพ์ลดาถามคำถามนี้ ตนัสหมด หนทางหลับตาลง ในใจคิดว่าผู้หญิงคนนี้ช่างไม่รู้เลย หรือว่าเธอเองควรจะควงแขนของเพื่อนชายเดินเข้าไป หรือ? หรือเธอคิดจะถือถุงเสื้อผ้าขนาดใหญ่นั้นของเธอ เดิมโอหลั่นล้าเข้าไปข้างในเช่นนี้หรือ?
งานเลี้ยงคืนนี้ ตัวแทนทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจของ เมือง S เกือบทั้งหมดได้มาเข้าร่วม ที่ไป ๆ มา ๆ ตรง หน้าประตูล้วนเป็นบุคคลในระดับสูงสุดของเมืองนี้ ตนัส ไม่ได้คิดจะยืนอยู่ที่นี่นานเกินไปเป็นรูปหุ่นกระบอกให้ คนอื่น นชม ดังนั้นเขาจึงลดขั้นตอนการอธิบายเอื้อม มือไปดึงมือของพิมพ์ลดาโดยตรง มาคล้องไว้บนแขน ของเขาเอง จากนั้นเอื้อมมือไปหยิบถุงใบใหญ่ในมือ ของเธอ ส่งให้กับพนักงานที่ด้านข้าง กล่าวว่า “รบกวน คุณช่วยนำถุงนี้ไปไว้ห้องรับรองแขกของการประชุม สมาพันธ์ธ์ภาครัฐและภาคธุรกิจในค่ำคืนนี้ครับ
“ได้ครับ” พนักงานโรงแรมยิ้มอย่างสุภาพ โค้งให้เล็ก น้อย ก้าวถอยไปด้านข้าง
พิมพ์ลดายังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็พาเข้าไป ในล็อบบี นหนึ่งของโรงแรมแล้ว
“ผู้ตรวจการใหญ่ค่ะ ฉัน…” ติดตามอยู่ข้างกายเขาตนัส พิมพ์ลดาคิดอยากจะดึงมือกลับมา แต่เขากลับหนีบเธอ ไว้แน่น
เดินไปที่ลิฟต์ด้วยกัน บนใบหน้าหล่อเหลาของตนัส ยังคงรักษาสภาพไว้ซึ่งรอยยิ้มที่สง่างาม ฝีปากกลับ คอบเธออย่างเลวทรามเย็นชาว่า “คืนนี้เราเป็นตัวแทน ของบริษัทโฆษณา เซงแฟชั่นจำกัด ที่ดีที่สุด คุณทําตัว ดี ๆ อย่าให้ต้องอายผู้คน
ขายหน้าเหรอ? น้องสาวคุณไง! ในใจโกรธ งด่าเขา กลับ พิมพ์ลดาละทิ้งความคิดที่จะเก็บมือคืนมา ความ จริงไม่ใช่เธอไม่รู้จักมารยาท แต่พิมพ์ลดารู้สึกว่าผ่าน มาไม่กี่วันพวกเขาเพิ่งได้ยินข่าวลือที่ยุ่งเหยิงวุ่นวายนั้น วันนี้ก็มาควงแขนกันเข้างาน ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยสม เหตุสมผล
เมื่อพวกเขามาถึงห้องจัดเลี้ยงอเนกประสงค์บนชั้น สามของโรงแรมทีเจ ห้องจัดเลี้ยงก็เต็มไปด้วยภาพที่ ร่วมชุมนุมเลี้ยงดื่มกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ประธานของ แต่ละสมาคมชนแก้วไวน์กัน พูดคุยอย่างมีความสุข
หยุดอยู่ที่ประตู หนัสจัดแต่งชุดของเขาเอง ถาม พิมพ์ลดา ข้างกายเบาๆว่า “คุณ ความสามารถในการ มเหล้าเป็นอย่างไรบ้างครับ?”
เอ๋อ? เจ้าหมอนี่ไม่ใช่คิดที่จะให้ฉันช่วยรับหน้าการ คมเหล้าแทนเขาน่ะ? ได้ยินคำพูดของตนัส สมอง พิมพ์ลดากระโดดความคิดดังกล่าวเช่นนี้ออกมาทันที กระพริบตาปริบๆ เธอตอบอย่างซื่อสัตย์ว่า “ฉัน ฉัน ไม่ค่อยดื่มเหล้า!”
นัยยะนอกเหนือคําพูดที่ว่าไม่ค่อยดื่มเหล้าก็คือ ความสามารถในการดื่มของฉันก็ไม่เท่าไรเป็นธรรมดา!
ได้ยินคําตอบของพิมพ์ลดา ตนัสหันศีรษะมาเม ฝีปากแย้มยิ้มมองดูเธอ เขายิ้มครั้งหนึ่งเช่นนี้ ยิ้มจน ในใจของพิมพ์ลดาตกใจอย่างไร้เหตุผล ทำไมเธอจึงรู้สึกเหมือนเขากำลังคิดจะทำอะไรที่ไม่
อีกน่ะ?
โชคดีที่ครั้งนี้พิมพ์ลดาคิดผิดแล้ว
เข้าไปในห้องจัดเลี้ยง พนักงานที่อยู่ข้างกายได้ยก แชมเปญและเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ ตนัสได้ยกแชมเปญมา หนึ่งแก้วสําหรับเขาเองแต่กลับส่งน้ำส้มหนึ่งแก้วให้ พิมพ์ลดา
มองดูแก้วน้ำส้มที่ส่งให้เธอเองตรงหน้า พิมพ์ลดา ตะลึงงง จึงเอื้อมมือไปรับไว้
ดนัสพาเธอไปพบนักธุรกิจดีเด่นของเมือง S หลาย คน ท่ามกลางพวกเขามีบางคนซึ่งพิมพ์ลดาคิดจะ ทําความรู้จักมาตลอดแต่ไม่มีโอกาส แน่นอนเธอคิดจะ รู้จักพวกเขาเพียงต้องการที่จะได้รับโอกาสร่วมมือใน การทําโฆษณาให้กับบริษัทของพวกเขาเท่านั้น ไม่มี ความคิด นใด
ในขณะที่ตนัสถกประเด็นปัญหาทางธุรกิจล่าสุดกับ พวกเขา พิมพ์ลดาเพียงยืนอยู่ข้าง ๆ เขาฟังอย่างเงียบ ๆ ในความเป็นจริงพิมพ์ลดาไม่ถนัดเรื่องธุรกิจ สิ่งที่อยู่ ในสมองของเธอมากที่สุดคือการสร้างสรรค์สื่อโฆษณา และสิ่งที่เธอชอบคือการออกแบบทุกชนิดที่ทันสมัยมี จุดโดดเด่นทันสมัย โฆษณาที่ทำให้ลูกค้าพึงพอใจ
เมื่อหนัสกำลังพูดคุยกับนักธุรกิจดีเด่นสองสามคน เสียงหนึ่งซึ่งเย็นซาโทนเสียงประหลาดเรียก “อาโรน” ดังมาจากที่ไม่ไกลนัก
แล้ว พิมพ์ลดาก็สัมผัสถึงโทนเสียงประหลาดเย็น
ชา
ทันทีที่เสียงนั้นสิ้นสุดลง ก็มีชายคนหนึ่งแทรกจาก ข้าง ๆ ตนัส เข้าไปในวงสนทนาของคนกลุ่มนี้
แต่เมื่อเขามาถึง ทุกคนกลับดูเหมือนไม่อาจดำเนิน การสนทนาในหัวข้อเมื่อครูต่อไปได้แล้ว
ชายคนนี้ ดูไปแล้วลักษณะเหมือนเพียงยี่สิบเจ็ด ยี่สิบแปดเท่านั้น บนใบหน้าใส่แว่นตาที่มีกรอบไว้ เลนส์ เมื่อริมฝีปากแย้มยิ้มขึ้นมาเขี้ยวเสือน้อยซี่หนึ่งจะ ปรากฏขึ้น
พิมพ์ลดารู้สึกว่าเขาดูเหมือนจะคุ้นเคยกับตนัส แต่ ตนัสดูเหมือนมีลักษณะไม่เต็มใจที่จะใส่ใจเขา แน่นอน คนนี้มีปัญหาบางอย่างบิดเบือน พลันพิมพ์ ลคาถูกการปฏิเสธของเธอเองดีกระจุยไปแล้ว
อย่างไรก็ตามเมื่อพิมพ์ลดารู้สึกว่าเธอเองไม่ควร แอบวิจารณ์ความผิดเพี้ยนของหนุ่มใหญ่สองคนในใจ หนุ่มที่แทรกเข้ามาในฝูงชนซึ่งทำให้ทุกคนไม่สามารถ ที่จะพูดคุยกันต่อไปได้ กลับดูเหมือนจะพุ่งความสนใจ มา เธอ
“อาโรน ชายหนุ่มริเริ่มยกแก้วเหล้าในมือขนซนกับ มองตนัส ยิ้มต่อ ถามว่า “ ทำไมผมไม่เคยเห็นเพื่อนสาว ที่คุณพามาในวันนี้?ดูไปแล้ว” พูดพลาง มองไปที่พิมพ์ ลดา “เมื่อเร็วๆ อาโรนได้เปลี่ยนรสนิยมไปแล้วหรือ?”
รสนียมเหรอ? น้องคุณ! คุณคิดว่าพี่สาวเป็น ไอศกรีมหรือเป็นขนมเค้กอา
พิมพ์ลดาไม่ได้โง่เหมือนกัน ย่อมเข้าใจคำพูดของ ชายคนนี้ว่าหมายถึงอะไรเป็นธรรมดา
จับแก้วน้ำผลไม้ในมือไว้แน่น เธอยิ้มเบา ๆ ครั้งหนึ่ง พูดอย่างสุภาพกับเขาว่า “คุณเข้าใจผิดแล้ว ดิฉันไม่ใช่ แฟนของคุณดนัสผู้ตรวจการใหญ่ ดิฉันเป็นเพียงลูก น้องของเขาค่ะ” เสียงพูดของพิมพ์ลดาเพิ่งจบลง เธอก็สัมผัสถึง สายคาที่เย็นชาไม่พอใจกระแสหนึ่งของตนัสข้างกาย เธอสาดส่องมาที่เธอเอง
เป็นไง? ฉันพูดไม่ถูกหรือ? พิมพ์ลตามองกลับไปที่ เขา แต่เขาไม่ได้หยุดลงเพียงแค่ย้ายสายตาไป พูด อย่างเย็นชากับชายหนุ่มข้าง ๆ เขา “คุณนิธูร ผมคิดว่า คุณควรรีบไปดูแลเพื่อนสาวของคุณเถอะ” พูดพลาง สายตาของตนัสก็ส่องไปยังมุมห้องด้านซ้ายที่เมือง หน้า ริมฝีปากโฉมรอยยิ้มแวบหนึ่ง “มิฉะนั้นแล้วรออีก สกพัก ห้องพักรับรองแขกเกรงว่าก็จะไม่สะอาดแล้ว!
เห็นตนัสกล่าวเช่นนี้ พิมพ์ลตาก็มองไปที่มุมนั้นด้วย ความอยากรู้อยากเห็น ถ้าไม่ดูก็ไม่รู้ ดูปุ๊บก็สะดุ้งปั๊บ! ผู้ หญิงที่แต่งตัวในชุดราตรีโชว์ด้านหลังเว้าลึก เปิดเผย ร่างอันเซ็กซี่ร้อนแรงยั่วยวนหมดเปลือกสุด ๆ กำลัง พยายามทุกวิถีทางสุดฤทธิ์แนบติดผู้ชายข้าง ๆ เธอ
นั่น …เป็นแฟนของผู้ชายคนนี้?
พิมพ์ลดาคิดพลาง รีบถอนสายคากลับมา เธอกลัว ตาเป็นกุ้งยิง
พิมพ์ลดาเคยได้ยินว่าเวลาที่คนรวยและหนุ่ม เพลย์บอยเหล่านี้เข้าร่วมงานเลี้ยง เพื่อรักษาหน้าของ พวกเขา มักจะควงคู่ที่ไม่ได้เป็นคู่เดิมของพวกเขาแต่ เป็นชนชั้นนางแบบประเภทระดับสามบางคน
แต่ บุรุษคนนี้สายตาในการคัดเลือกคน แย่ไปหน่อย จริง ๆ ดันพาผู้หญิงตัวคนหนึ่งที่ไม่ได้ลืมจะยั่วจับ ผู้ชายมาที่นี
ถูกต สจับได้คาหนังคาเขา ชายหนุ่มคนนั้นดูเหมือน จะไม่มีหน้าคาหลงเหลือแล้ว ดื่มไวน์ในมือของเขา กระดกรวดเดียวหมดอย่างโกรธเกรี้ยวแล้วโยนมันลงใน อ้อมแขนของพนักงานเสิร์ฟที่ผ่านเขาและเดินไปที่มุม
พิมพ์ลาคิดว่าน่าจะไปเก็บผู้หญิงคนนั้นแล้ว
ชายคนนี้ อนิธูรเป็นคุณชายที่สองของ อสังหาริมทรัพย์กมา” เมื่อพิมพ์ลดาหันกลับมา ก็ได้ ยืนตนัสแนะนําผู้ชายคนนี้ให้เธอ แต่เมื่อได้ยิน ประโยคต่อมาของเขา พิมพ์ลดาจึงเข้าใจว่าเขาไม่ได้ แนะนำให้เธอ แต่เป็นการเตือนเธอ “ครอบครัวของพวก เขาไม่ค่อยสะอาดบนวิถีทาง นิธูรนี้ยังเป็นคนที่มีใบหน้า ยิ้มแย้ม แต่ลับหลังอำมหิตโหดเหี้ยม ภายหลังถ้าคุณ เห็นเขา ดีที่สุดคืออ้อมผ่านไป อย่าไปเจอมัน พิมพ์ลดาไม่ได้เข้าใจ าเตือนอย่างจริงใจที่ตนัสให้ เธอเองอย่างทะลุปรุโปร่ง กำลังคิดจะถามเขา แต่เขา กลับทิ้งหนึ่งไว้ “คุณไปหาของกินเองเถอะ ผมไปพบ เพื่อนบางคนอีก” แล้วอ้อมผ่านเธอ เดินไปที่ศูนย์กลาง ของห้องจัดเลี้ยง
พิมพ์ลดายังรู้สึกหิวจริง ๆ เมื่อได้ยินตนัสพูดถึงอาหาร
ในความเป็นจริงมีอีกเหตุผลที่สำคัญว่าทำไมพิมพ์ ลดาไม่ชอบไปงานเลี้ยงอาหารค่าเพราะเรื่องอาหาร ใน งานเลี้ยงที่สามารถกินได้มีเพียงของหวานผลไม้และ เค้ก!แต่สิ่งที่กินได้พวกนี้ ไม่มีอะไรที่สามารถทำให้อิ่ม ท้องได้จริงๆ
พิมพ์ลดาหยิบจาน คีบเค้กสตรอเบอร์รี่ชิ้นหนึ่งวาง ลงไป มุมตากวาดไปเห็นใครบางคนเดินเข้ามาหาเธอ เงยหน้าขึ้น เธอมองเห็นคนข้างกาย เห็นคนรู้จักคนหนึ่ง จริง ๆ แต่คนรู้จักคนนี้ ดันเป็นคนที่พิมพ์ลดาไม่อยาก จะเห็นไม่อยากจะทักทาย ยิ่งไม่คิดจะสานสัมพันธ์ด้วย
คิดเช่นนี้ พิมพ์ลดาก็ถือจานไว้ หยิบเครื่องดื่มของ เธอเอง เตรียมหนี แต่น่าเสียดายที่ดูเหมือนผู้คนจะได้ เห็นเธออยู่ที่นี่ พุ่งปราดมาหาเธอ พิมพ์ลดาเท้ายังไม่ ได้ก้าวออกไปสักก้าว ผู้หญิงคนนี้ที่ข้างหลังก็เรียกเธอ ก่อนเสียงหนึ่ง “พิมพ์ลดา
เอาล่ะ ทีนี่ คิดไปก็ไปไม่ได้แล้ว
หลับตาลง พิมพ์ลดาพ่นหายใจออก หมุนตัวไป มองผู้หญิงที่ได้เดินเข้ามาหาเธอเอง ยิ้ม “สวัสดีค่ะ! บิรชา!”
ในความเป็นจริงพิมพ์ลดารู้ว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของ เธอตอน หลอกลวงมาก ๆ แต่มันไม่สําคัญหรอก อย่างไรก็ตามพิมพ์ลดายังรู้ว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของผู้ หญิงคนนี้ตรงหน้าก็โกหกมดเท็จอย่างมากมาย
ผู้หญิงคนนี้ชื่อนีรชา เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่ มหาวิทยาลัยกับพิมพ์ลดา สีปีในมหาวิทยาลัย เธอ เป็นคู่แข่งแต่เพียงผู้เดียวของพิมพ์ลดา ทําไมถึงพูด อย่างนั้นเพราะที่หนึ่งของทุกปีล้วนเป็นพวกเธอทั้ง สองแข่งขันกัน แต่น่าเสียดายที่นีรชาล้วนพ่ายแพ้แก่ พิมพ์ลดามาตลอด เธอชนะพิมพ์ลดาได้เพียงครั้งเดียว เมื่อพิมพ์ลดาดิดเชื้อโรคระบาดเฉียบพลันที่เรียกว่า อีสุกอีใสก่อนสอบปีสอง เธอไม่ทิ้งการสอบของเธอก็ ไม่ได้ ต้องเข้าสอบซ่อมอีกครั้งในภาคที่สอง
ปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนบวกกับอารมณ์ร้าย ของนิรชา ในชั้นเรียนในเวลานั้น ลับหลังเธอก็จะแอบ เรียกเธอว่านีรชาสอง เพราะหล่อนเป็นที่สองของทุกปี
หลังจากจบการศึกษา ด้วยผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนที่ดีในระหว่างเรียนของเธอพิมพ์ลดาเอง จึงได้ รับการเสนอชื่อโดยมหาวิทยาลัยเข้าสู่บริษัทโฆษณา เซงแฟชั่นจํากัด นีรชาแม้ว่าจะไม่โชคดีเช่นพิมพ์ลดา แต่ด้วยความสามารถของเธอเอง ก็ยังได้เข้าสู่บริษัท โฆษณาเควาย บริษัทอีกแห่งในระดับเป็นที่หนึ่งไม่มี สองในเมือง S
ไม่กี่ปีที่ผ่านมาบางคนจากกลุ่มนกเพนกวินในชั้น เรียน กล่าวว่านีรชาและผู้บังคับบัญชาของเธอ ผู้บริหาร สูงสุดของเควายเข้าขากัน ตอนนันทุกคนก็ถือเป็นเพียง ข่าว บ บอ่านผ่านไป แต่ไม่คาดคิดว่าปีที่แล้ว นีรชา กลับได้บีบคั้นภรรยาเดิมของผู้บริหารสูงสุดในเควาย ออกไปจริง ๆ เธออนคนที่สามก้าวสู่ตำแหน่งหลัก และ ตำแหน่งของเธอในเควาย ยังได้กระโดดสามชื้นจากนัก วางแผนเล็ก ๆ คนหนึ่งขึ้นสู่ตำแหน่งผู้ตรวจการใหญ่
พิมพ์ลดามารู้นภายหลัง โฆษณาหิมะแรกที่เธอได้ วางแผนออกแบบแก่ห้างสรรพสินค้าเจเอสเมื่อก่อนน เดิมนีรชารับผิดชอบ เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้คนต้องรู้สึกว่าเธอ ได้ปล้นธุรกิจของหล่อนแม่นแท้ นั่นคือเหตุผลที่พิมพ์ลดาเห็นเธอในวันนี้ จึงคิดจะ หลบหนี ไม่ใช่ว่าพิมพ์ลดากลัวเธอ แต่เธอรู้สึกว่ามี ปัญหาบางอย่างที่ไม่จำเป็น ไม่ก่อให้เกิดนั่นย่อมเป็นสิ่ง
แต่ว่า พิมพ์ลดาคิดว่ามากเรื่องมากความไม่เท่ากับ น้อยเรื่องน้อยความ แต่คนอื่นนิรชาไม่คิดเช่นนั้น
ในวันเวลาเหล่านั้นเมื่อขณะเรียนอยู่ใน มหาวิทยาลัย A พิมพ์ลดาเป็นผู้หญิงเก่งที่มีความ สามารถเพรียบพร้อมในสายตาของทุกคน มาจากบ้าน มีตระกูล ผลการเรียนดี รูปร่างสวยงาม ที่บ้านพ่อแม่ ยีตถือเธอเป็นสมบัติในฝ่ามือ ที่โรงเรียนเพื่อนร่วมชั้น ต่างชอบเธอมาก นอกจากนี้ยังมีอาจารย์ที่มีชื่อเสียง ที่สุดในภาควิชาฟิสิกส์ที่ช่วยเหลือเธอในทุกหนทุกแห่ง ปกป้องเธอ
แต่เธอนิรชาละ? เป็นเพียงนังหนูตัวเล็ก ๆ ที่ออก มาจากหมู่บ้านทุรกันดารยากจนโดดเดี่ยวเล็ก ๆ ที่ห่าง ไกลในตะวันตก เมื่อเธอต้องการที่จะให้เธอเองมีเวลา อ่านหนังสือมากขึ้น ไม่ยินดีเข้าร่วมกิจกรรมในชั้นเรียน เธอก็ถูกคนอื่นกล่าวหาว่าหัวสูง เมื่อเธอต้องการที่จะ อ่านหนังสือคนเดียว คนอื่นก็ว่าเธอไม่เข้าพวกพ้อง เมื่อ เวลาผ่านไปนานขึ้น ๆ เธอดูเหมือนจะกลายเป็นศัตรูของ นเรียนปานนัน
เติมคิดว่าหลังจากจบการศึกษา ทุกคนไม่ได้อยู่ใน บริษัทเดียวกัน การแข่งขันก็น้อยลงไปเองเป็นธรรมดา ตาไม่เห็นก็สะอาดแล้ว แต่ใครจะรู้ พิมพ์ลดากลับยัง ปล้นกรณีความร่วมมือโฆษณาที่เดิมควรเป็นของเธอไป
ความแค้นครั้งนี้ นิรชาไหนเลยจะกล้ำกลืนลงไปได้ เธอก็คิดจะหาโอกาสที่จะฆ่าจิตวิญญาณอันแข็งแกร่ง ของเธอพิมพ์ลดาสักครั้งและยังให้หล่อนเองสบายอก สบายใจสักครั้ง และนั่นคือสิ่งที่สวรรค์ช่วยเธอเช่นนี้ เมื่อเร็วๆ นีรชาเพิ่งได้ยินว่าพิมพ์ลดาอายุยี่สิบแปดปี แล้ว ใกล้จะย่างยี่สิบเก้าปี แต่ยังเป็นสาวในเรือนที่ยังรอ แต่งงาน เกี่ยวกับปัญหานี้นีรชาต้องการที่จะพิสูจน์กับ เธอพิมพ์ลดาด้วยหล่อนเองจริง ๆ
เห็นพิมพ์ลดาถือ ส้มในมือ นีรชาจงใจถือแก้วไวน์ แดงในจานของพนักงานเสิร์ฟที่ผ่านมา ส่งถึงตรงหน้า พิมพ์ลดา “เย้ พิมพ์ลาเราเพื่อนร่วมชั้นเก๋าเจอกันแล้ว อย่างไรเสียต้องดีมกันสักแก้วไม่ใช่เหรอ?”
สายตาของพิมพ์ลดาเลื่อนจากใบหน้าของนิรชา ย้ายไปยังแก้วไวน์แดงในมือของหล่อน ดูเชิงสักพัก ใน ที่สุดก็วางน่าผลไม้ของเธอเองลง เอื้อมมือออกไปรับ ไวน์แดง
“คารวะเจ้า!” รับไวน์มา พิมพ์ลดาให้สัญญาณเล็ก น้อยกับหล่อนแล้วเธอเองก็ได้จิบเบา ๆ คำหนึ่ง
นีรชาหัวเราะ ดื่มแชมเปญในมือคำหนึ่งด้วย
หันมายืนอยู่ข้าง ๆ พิมพ์ลดา หล่อนเอาจานมา ใสเค้ก ปากก็ดูเหมือนสุ่มถาม “พิมพ์ลดา ไม่รู้ว่าคุณ และศาสตราจารย์ ทัดเป็นอย่างไรแล้วน่ะ? พวกคุณ แต่งงานกันหรือยัง?”
พิมพ์ลดารู้ว่าครั้งนี้นีรชา เริ่มเรียกเธอเองไว้ ไม่ใช่ เพียงดื่มเหล้าง่าย ๆ เท่านั้นแน่นอน แต่เธออย่างไรก็ ไม่คิดว่าหล่อนจะเอ่ยถึงศาสตราจารย์ธีทัตกับเธอเอง ได้ยินคําพูดของหล่อน พิมพ์ลดาเพิ่งหยิบคุกกี้ชิ้นหนึ่ง ในมือขึ้นมาก็หล่นกลับใสในงานอีก
ประวังตั้งสมาธิ เธอหยิบคุกกี้ขึ้นมาอีกครั้ง ใส่ไว้ใน จานของเธอเอง ตอบว่า “ฉันกับศาสตราจารย์ได้เลิกกัน ไปนานแล้ว”
ได้เห็นช่วงเวลาแห่งความสับสนวุ่นวายของพิมพ์ลดา นีรชารู้ว่าเป้าหมายที่หล่อนคิดจะเปิดโปงแผลเป็นของผู้ อื่นได้บรรลุผลสําเร็จแล้ว ถึงแม้ว่าในใจดีใจ แต่ปากยัง ต้องแกล้งทําเป็นปลอบใจ “โอ้ย ขอโทษขอโทษ ฉัน ไม่รู้ว่าพวกคุณ… ” กล่าวพลาง หล่อนยกแก้วเหล้าของ หล่อนขึ้นไปทางพิมพ์ลดาอีกครั้ง “มา พวกเราอย่าเศร้า ใจกับเรื่องผู้ชายไปเลย เราดื่มกันอีกนิดเถอะ”
ตลอดที่ผ่านมาสิ่งที่พิมพ์ลดาทำไม่เป็นมากที่สุดคือ การปฏิเสธสุราคารวะจากผู้อื่น แม้ว่าเธอไม่คิดจะดื่ม แต่ เธอยังยกแก้วเหล้าขึ้นชนแก้วกับนีรชาอย่างสุภาพ
เพียงแต่ ช่วงเวลาที่พิมพ์ลดาคิดจะทิ้งมือกลับมา ม เหล้า นิรชากลับจับเธอไว้ แล้วหล่อนก็ฉวยโอกาสใน ขณะที่เธอยังไม่ทันได้ตอบโต้ดึงอย่างรวดเร็วครั้งหนึ่ง
“อ้าาาา!” เสียงกรีดร้องของผู้หญิงดังมาจากมุมหนึ่ง ของห้องจัดเลี้ยง และทําให้ทุกคนในที่เกิดเหตุต่างก็ หลั่งไหลหันศีรษะไปดูด้านนี