ผู้ใหญ่จิกับนางพิมพ์ - ตอนที่ 91
ตอนที่ 91 อบไว้
อะไร? นั่งรถโดยสาร?
ท่านผู้ใหญ่นายกเทศมนตรีจะนั่งรถโดยสาร?
ได้ยินคำพูดไม่เค็มไม่จืดชืดไม่ยินดียินร้ายนี้พูดออกมา จากปากของจิรฐา พิมพ์ลดาอดที่จะตะลึงไม่ได้ สงสัยบ้าง ว่าหูของเธอเองจะใช้งานไม่ค่อยดี
“คุณ คุณหมายถึงว่าวันนี้เรานั่งรถโดยสาร?” เบิ่งตาโตทั้ง คู่ พิมพ์ลดาจ้องจิรฐาเขม็ง ทำหน้าไม่อยากเชื่อ
เขายิ้ม ขณะที่ลิฟต์จอดอยู่ชั้นหนึ่ง ได้จูงมือเธอเดินออก
ไป
วันนี้อากาศดีมาก คุณปู่ตะวันให้เกียรติมากสาดส่องแสง พราวสกาวไปทั่ว เดินท่องไปใต้แสงสุรีย์ ไม่ได้รู้สึกหนาว เหน็บเลยสักนิด
จิรฐามือและเท้ายาว ฝีก้าวมักจะค่อนข้างใหญ่ ถึง แม้ว่าจะถูกเขาจูง แต่พิมพ์ลดาก็ไม่สามารถเดินทันเขา ไม่ สามารถเดินเคียงบ่าเคียงไหล่กับเขา แต่เมื่อเหลือบมองไป ก็เพียงได้เห็นท้ายทอยที่ได้จัดแต่งอย่างบรรจงเรียบร้อย มากตั้งแต่อายุยังน้อยของท่านผู้ใหญ่นายกเทศมนตรี เท่านั้น
อืม งานเรียบร้อยจริง ๆ เพราะพิมพ์ลดาจำได้ว่าก่อนหน้านี้คุณอรัญญามักจะบอกว่าตอนเธอยังเด็ก เธอนอนกระ สับกระส่ายเป็นเหตุให้ท้ายทอยของเธอไม่ได้เติบโตทยขึ้น อย่างบรรจงเรียบร้อยสวยงาม โชคดีที่เป็นผู้หญิง พอผม ยาวปิดไว้ก็ไม่เห็นแล้ว
ไม่ได้ไม่ได้! พิมพ์ลดามองไปรอบ ๆ ผู้คนคู่รักเดินกันเป็น คู่ ๆ ต่างเดินเคียงข้างกันไปอย่างช้า ๆ เดินไปพูดคุยไป หัวเราะกันอย่างมีความสุข
เปรียบเทียบกันเป็นคู่ ๆ เช่นนี้…พิมพ์ลดาทอดสายตา มองไปที่ท่านผู้ใหญ่นายกเทศมนตรีอีกครั้ง
โอ้ ทำไมรู้สึกว่าจังหวะของเรานั้นช่างผิดปกติเช่นนั้นได้ อย่างไรน่ะ!
คิดเช่นนี้ พิมพ์ลดาหยุดฝีเท้าลงแล้วมือทั้งสองข้างจับ มือใหญ่ของจิรฐาไว้ ลากเขาหยุดลง
สัมผัสถึงพลังแรงที่มาจากข้างหลัง จิรฐารั้งฝีเท้าไว้ หัน ศีรษะของเขามองไปที่พิมพ์ลดาอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็พอดี เห็นเธอกัดริมฝีปากไว้จ้องมองเขาด้วยตาคู่โตที่ไร้ความผิด
หันศีรษะจนเมื่อยไปบ้าง จิรฐาจึงหมุนตัวมามองเธอไป ซะเลย ริมฝีปากดัดรอยยิ้มโค้งขึ้น ถามว่า “มีอะไรหรือ?”
เอ่อ เกิดอะไรขึ้นแล้ว เอ่อจะพูดว่าอย่างไรน่ะ?
“นั่น” พิมพ์ลดารู้สึกเสียใจที่เธอเองไม่น่าถ่วงดึงท่านผู้ใหญ่นายกเทศมนตรีเอาไว้เลย ตอนนี้เธอไม่รู้จะอธิบาย อย่างไร ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว “นั่นคือ… ” หลังจากกลืน น้ำลายแล้ว พิมพ์ลดาหลบสายตาที่เธอเองประสานกับท่าน ผู้ใหญ่นายกเทศมนตรี มองไปที่คู่รักซึ่งจูงมือกันเดินผ่าน ข้างกายพวกเขาไป
สีหน้าที่พิมพ์ลดามองพวกเขานั้น ในสายตาของจิรฐา ทำไม จึงมีความรู้สึกชื่นชมชนิดหนึ่งถึงขั้นอยากไล่กวดให้ เร่งฝีเท้าไปให้ทันน่ะ?
แต่เขาก็ได้มองตามสายตาของพิมพ์ลดาซึ่งได้มุ่งไปที่ คู่รักซึ่งได้เดินไปไกลนั้น ยังคงไม่เข้าใจความหมายที่เธอ ต้องการจะสื่อด้วย
ตอนนี้ จู่ ๆ พิมพ์ลดาก็สงสัยว่าความสามารถของท่าน ผู้ใหญ่นายกเทศมนตรีได้ใช้ไปในกองเอกสารอันมหึมานั้น และตัณหาระลอกคลื่นใหญ่นั้นจนหมดสิ้นแล้วใช่หรือไม่!
ไอ้ชายโง่! หลังจากกัดฟันแล้ว น้องพิมพ์ลดาก็พูดออก มาจากปากในที่สุด
“คุณไม่ได้สังเกตเห็นว่าทุกคนต่างเดินจูงมือกันเดินเคียง บ่าเคียงไหล่ ยังพูดคุยหัวเราะกันหรือ?”
ขณะที่พิมพ์ลดากำลังพูด สีหน้าที่บ่นว่าคนอื่นอย่างไม่ พอใจและไม่สบอารมณ์บ้างนั้นช่างน่ารัก จิรฐาคิดว่าตัวเธอ เองไม่รู้แน่นอน
มองดูเธอ เซลล์ในสมองของชายหนุ่มเริ่มจะเกเรอีกครั้ง “ถ้างั้น คุณช่วยแสดงให้ผมดูสักครั้งว่าเราควรจะเดินแบบ ไหนกัน?”
สาธิตเหรอ?
ถูกผู้คนจ้องเอาแบบนี้จริง ๆ พิมพ์ลดาก็ไม่รู้ว่าจะสาธิต อย่างไรกันแล้ว
ดึงเขาไว้ เธอเพียงกระซิบว่า “โอ้ย คุณเดินให้ช้าลง หน่อยก็ได้แล้ว!” ผู้คนไม่ต้องการที่จะมองแต่ท้ายทอยของ คุณตลอดน่ะ! ผู้คนอยากจะเห็นเสี้ยวหน้าหล่อเหลาของคุณ ล่ะ!
แน่นอน ท่านผู้ใหญ่นายกเทศมนตรียังไม่ได้ปรับปรุง พัฒนาทักษะการอ่านใจของเขามาถึงขั้นนี้ ดังนั้นจึงยังไม่ สามารถได้ยินเสียงโจมตีต่อว่าในใจเหล่านี้ของพิมพ์ลดา
ถูกพิมพ์ลดาดึงไว้แบบนี้ จิรฐาเงยศีรษะของเขาอีกครั้ง ก็ได้เห็นรถคันที่พวกเขาต้องการจะนั่งสายนั้นกำลังมาถึง แล้ว และพวกเขาทั้งสองยังห่างจากป้ายรถเมล์อีกสองสาม ร้อยกว่าเมตร
“โอ้ รถมาแล้ว! ” พิมพ์ลดาได้ยินท่านผู้ใหญ่นายก เทศมนตรีพูดแบบนี้แล้วจากนั้นเธอเองก็ได้ถูกคนดึงลากไป เริ่มวิ่งวิบากร้อยเมตร
เฮ้ย! ไอ้ชายโง่ คนเขาเพิ่งบอกว่าให้คุณเดินช้าลงหน่อยไม่ใช่หรือ?
ฮือ ฮือ ฮือ…ในใจพิมพ์ลดา คนขาวตัวน้อยร่างหนึ่ง หมอบอยู่ในมุมผนังหลั่งน้ำตาอย่างเงียบ ๆ
เมื่อจิรฐาได้พาเธอเองขึ้นรถเมล์ไปแล้ว ก็ได้มาถึงแถว สุดท้ายนั่งนิ่งเรียบร้อย พิมพ์ลดาจึงนึกขึ้นได้ ถามเขาว่า “นี่ เป็นรถบัสเชื่อมเมืองและชนบทน่ะ” นัยยะในคำพูดของพิมพ์ ลดาคือ “คุณแน่ใจไหมว่าคุณไม่ได้ขึ้นรถเมล์ผิดสายน่ะ?”
ถ้าพิมพ์ลดาจำไม่ผิด รถบัสเชื่อมเมืองและชนบทสายนี้ มีเพียงวันละสามเที่ยวเท่านั้น ถ้าพลาดขึ้นไม่ทันก็ไม่มีแล้ว พวกเขาไปที่นั่นแล้วยังต้องรีบกลับมา และตอนนี้ก็ใกล้จะ เที่ยงแล้ว
เห็นสีหน้าพิมพ์ลดางง ๆ จิรฐายิ้มและยื่นมือมาขยี้ผม ยาวที่ยุ่งเหยิงของเธอ “มั่นใจได้ว่าผมไม่ได้ขึ้นรถผิด!”
งั้นเขาก็หมายความว่า…
“อ่า เราจะไปที่หมู่บ้านลำธารหรือ?” พิมพ์ลดารู้ว่าจุด หมายปลายทางของรถคันนี้คือหมู่บ้านลำธาร แม้ว่าจะลงรถ กลางทางได้ แต่พิมพ์ลดายังเต็มไปด้วยความคาดหวังที่จะ ไปถึง’หมู่บ้านลำธาร
แต่ว่าเมื่อได้ยินคำพูดของพิมพ์ลดา ความสุขบนใบหน้า ของจิรฐากลับหายไปบ้าง เพียงถามว่า “เธอ เคยไปแล้ว?” เขายังหวังที่จะมอบความสุขที่น่าตื่นเต้นแก่เธอสักครั้ง ถ้าเธอเคยไปแล้ว ถ้างั้นความสุขที่น่าตื่นเต้นก็ไม่มีแล้วไม่ใช่ เหรอ?
หัวเราะฮ่าฮ่า พิมพ์ลดาส่ายหน้า ตอบอย่างค่อนข้างอาย ว่า “หมู่บ้านลำธารเป็นสถานที่พิเศษสำหรับคู่รักที่จะไปใช้ เวลาวันหยุดของพวกเขากันโดยเฉพาะ ฉันคนเดียวจะไปได้ อย่างไรอ่า!” กล่าวพลางเธอคอตก ได้แต่มองดูมือของเธอ เองที่ม้วนเล่นชายเสื้อ
หมู่บ้านลำธารเป็นสถานที่พิเศษสำหรับคู่รักที่จะไปใช้ วันหยุดของพวกเขาโดยเฉพาะหรือ? ฟังคำตอบของพิมพ์ ลดา รอยยิ้มบนริมฝีปากของจิรฐาก็กลับมาใหม่
ดูแล้วปรัณไม่ได้หลอกเขาจริง ๆ นะ
เมื่อเทียบกับสถานที่ที่เขากำลังมองหาในจุดนี้ยิ่งทำให้ จิรฐามีความสุขคือพิมพ์ลดาไม่เคยไปมาก่อน เธอบอกว่า เธอไม่สามารถไปคนเดียว เมื่อคิดได้ว่าครั้งแรกที่ตัวเองได้ เธอนั้น เลือดสาวจากร่างท่อนล่างของเธอตกมา จิรฐาก็รู้ กระจางในใจ นั่นคือความจริงที่ว่าเธออยู่ตัวคนเดียวเสมอ มา?
มองดูศีรษะใบน้อยของพิมพ์ลดาก้มลงจนเกือบจะติด พนักแผ่นหลังของที่นั่งแล้ว ในใจจิรฐาเกิดความรู้สึกเพียง พอและซาบซึ้งเป็นเส้นสาย
ดึงมือน้อยที่ม้วนชายเสื้อเล่นของเธอวางไว้ในอุ้งมือ เขาเรียกเธอเบา ๆ ว่า “พิมพ์ลดา?”
“อิ่ม?” พิมพ์ลดาหันมามองเขา ในวินาทีต่อมาจ้องตาโต ทั้งคู่ด้วยความประหลาดใจ
โอ้ ชายหนุ่มที่ไร้การควบคุม
ได้โปรด เราอยู่บนรถบัส นี่เป็นสถานที่สาธารณะน่ะ !
ถึงแม้ว่าท่านผู้ใหญ่นายกเทศมนตรีเพียงสัมผัสริมฝีปาก ของเธอเองครั้งหนึ่งราวกับแมลงปอแตะผิวน้ำ แต่พิมพ์ลดา ยังคงหน้าแดงระเรื่อ ทันทีที่จิรฐาปล่อยมือ เธอหันศีรษะหนี ทันที มือน้อยหนึ่งคู่ปีนป่ายหน้าต่าง ในใจร่ำร้องไห้อย่าง ลับๆ “ปล่อยฉันลงรถ ฉันจะลงจากรถ!
ในความเป็นจริงก่อนที่จะทำเรื่องนี้ ท่านผู้ใหญ่นายก เทศมนตรีได้วิเคราะห์เต็มที่แล้วว่าตำแหน่งที่นั่งของพวก เขาในขณะนี้ พวกเขานั่งอยู่แถวสุดท้าย ไม่มีใครในด้าน หน้าของพวกเขาจะมาสังเกตเห็นด้านหลัง และไม่มีใครนั่ง ข้าง ๆ ดังนั้นเขาจึงกล้าที่จะกินเต้าหู้ของผู้คนอย่างโออ่า เปิดเผย
มองไปที่แก้มของพิมพ์ลดาซึ่งเขินอายจนแดงก่า เขา จงใจกระเถิบไปข้างหูของเธอ ถามว่า “ร้อนมากหรือ?” กล่าวพลางยังเอื้อมมือไปหยิกแก้มของเธอ
พิมพ์ลดาผลักท่านผู้ใหญ่นายกเทศมนตรีออกไปครั้ง หนึ่งและยกมือทั้งคู่ขึ้นปกปิดแก้มของเธอเองซึ่งกำลังจะ ร้อนจนเกือบจะสุกได้ที่แล้ว
เมื่อพิมพ์ลดาสะบัดผมยาวของเธอไปทัดไว้หลังหู จุดสี แดงบนใบหูของเธอดึงดูดความสนใจของจิรฐา
เอื้อมมือออกไป เขาสัมผัสต่างหูของพิมพ์ลดาและ ลูบไล้ติ่งหูของเธอเบา ๆ
พิมพ์ลดาตกใจและรีบมองไปที่เขา “คุณ คุณจะทำ
อะไร?”
เธอนี่ราวกับถูกงูกัดมาสามปีก็กลัวแม้กระทั่งเชือกแล้ว ทั้งสะดุ้งทั้งกลัวทำจนจิรฐาอดที่จะหัวเราะไม่ได้ และถาม เธอกลับว่า “คุณแอบเข้ามาในห้องสมุดของผมเป็นขโมยไป แล้วเมื่อไรหรือ?”
ขโมยเหรอ? ขโมยอะไร?
โอ๊ะ!
พิมพ์ลดาตระหนักขึ้นในบัดดล รีบปฏิเสธ “ฉันไม่ได้เป็น ขโมย! คุณจึงเป็นขโมยน่ะ!” พูดจบ เธอก็รู้สึกว่าไม่ถูกต้อง รีบเปลี่ยนคำพูด “ไม่ถูก ควรพูดว่าคุณซ่อนทรัพย์สินส่วนตัว ของฉัน เร็วเข้ารีบบอกมาตามตรง คุณมีเจตนาใด?”
จิรฐายิ้มด้วยความสนุก ถามอีกครั้งว่า “คุณคิดว่าผมมี เจตนาใดหรือ?”
เอ่อ เอ่อ เอ่อ หนุ่มไร้สาระเหลวไหลคนนี้ ทำไมทุกครั้ง ที่ฉันโยนคำถามที่ยากที่จะตอบได้ไป โยนไปโยนมาก็โยนกลับมาให้ฉันที่นี่น่ะ! ครั้งนี้พิมพ์ลดาก็เรียนรู้หัดฉลาดขึ้นแล้ว เพียง นริมฝีปากบอกว่า “หัวใจเติบโตในร่างกายของคุณ ฉันจะรู้ว่าคุณมีเจตนาใดได้เล่า!
เดิมเธอคิดว่าครั้งนี้เธอเองน่าจะยันจนจิรฐาไม่สามารถ ตอบได้ แต่ใครจะรู้ว่าเขากลับจับมือเธอวางบนหน้าอกซ้าย ของเขาเองในที่สาธารณะแบบนี้ พูดเบา ๆ อย่างเกเรว่า “ถ้า งั้นคุณลองคลําดูว่าคลำพบเจตนาของผมไหม!
“คุณ คุณไร้สาระ!” ครั้งนี้ปฏิกิริยาของพิมพ์ลดาดึงดูด ความสนใจของหลาย ๆ คนที่ด้านหน้า บนรถบัสคันนี้ วันนี้ ไม่รู้ว่าทำไมมีผู้โดยสารระดับปู่ย่าตายายจำนวนมาก ขณะที่ แต่ละคนหันมามองจิรฐาและพิมพ์ลดา บนใบหน้ากลับมีรอย ยิ้มที่คลุมเครือปานประดุจผู้อาวุโสมองดูรุ่นเยาว์หยอกเย้า กระเซ้าเล่น จนพิมพ์ลดาเขินอายคิดอยากจะขุดหลุมที่พื้น รถด้านล่างฝังเธอเองลงไป
ความจริงแต่ไหนแต่ไรมาจิรฐาไม่เคยชอบเก็บสิ่งของ ของคนอื่นๆไว้ แต่เริ่มแรกเขาก็ไม่รู้ว่าเขาเองเป็นอะไรไป เมื่อเขาได้เห็นต่างหูของพิมพ์ลดาหล่นขณะเขายังเมาอยู่ บนรถ เขาจับพลัดจับผลูทำลงไปไม่รู้ตัวเหมือนถูกผีอำดัน หยิบมันขึ้นมาและใส่ไว้ในกระเป๋าเอกสารของเขาเอง เมื่อ เขากลับมาถึงบ้านเข้าห้องสมุดเปิดกระเป๋าจะหยิบเอกสาร เขาถึงได้เห็นต่างหูใจรักนอนนิ่งเงียบสงบข้างนั้น
มักรู้สึกว่าทำให้คนอื่นสูญเสียสิ่งของไปแล้วไม่ค่อยดีนัก เขาจึงเปิดลิ้นชักล่างสุดและวางมันไว้ที่นั่น
พิมพ์ลดานังหนูนี่ ช่างเป็นหญิงสาวที่ว่างงานไม่เป็นจริง ๆ เขาคิดว่าเธอกกอยู่ในห้องสมุดของเขาเพื่อทำงานล่วง เวลาในการวางแผนออกแบบอย่างจริงจัง ใครจะรู้ว่าเธอยัง เปิดรื้อลิ้นชักของเขา! ไม่รู้ว่านังหนูนี้ได้เห็นสิ่งอื่น ๆ นอก เหนือจากการค้นเจอต่างหูของเธอเอง เช่น เมื่อวานก่อนที่ เขาเพิ่งซื้อเจ้านั่น…
คิดพลาง จิรฐามือสัมผัสกระเป๋าของเขาเองโดยไม่รู้ตัว เขาเพิ่งเอาเจ้าสิ่งของน้อยนี้ออกมาจากลิ้นชักของโต๊ะใน ห้องสมุดเมื่อเช้า เขาไม่แน่ใจว่าพิมพ์ลดาได้เห็นแล้วหรือ ไม่
ในความเป็นจริงพิมพ์ลดาอยากถามจริง ๆ ว่า “จิรฐา คุณ ชอบฉันมานานแล้วใช่ไหม? จึงได้แอบเก็บต่างหูของฉัน ไว้ !” แต่ว่าพิมพ์ลดาหน้าบาง เธอเปิดปากอีกครั้งและอีกครั้ง ยังไม่อาจถามออกจากปาก
อืม แม้แต่น้องสะดุ้นที่ผิวหน้าหนาขนาดนี้ ยังรู้สึกว่าการ กินข้าวกับท่านผู้ใหญ่นายกเทศมนตรีจะเครียดเกินไปจนกิน ไม่อิ่ม พิมพ์ลดาก็ยอมรับแล้ว ด้วยผิวหน้าของเธอนี้ ไหน เลยจะอาศัยฝีปากเอาชนะจิรฐาได้อย่างไร
หมู่บ้านลำธารอยู่ห่างจากตัวเมืองค่อนข้างไกล เพราะ หมู่บ้านตั้งอยู่บนเกาะลำธารเล็ก ๆ กลางทะเลสาบลำธาร หลังจากขับรถมากกว่าสองชั่วโมง พวกเขาต้องเปลี่ยน โดยสารแพไม้ไผ่พิเศษจึงสามารถเข้าถึงหมู่บ้านที่พวกเขา ต้องการไปอันเป็นแหล่งสุดท้าย
เมื่อเท้าทั้งคู่ย่ำขึ้นถึงหมู่บ้านวินาทีนั้น พิมพ์ลดารีบปิด ตาทั้งคู่ สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพองแก้มโป่งพ่นลมออกมา
อาศัยในเมืองที่คึกคักเช่นเมือง S เช่นนี้มานานแล้ว บาง ครั้งได้มาสูดอากาศบริสุทธิ์ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ชานเมืองห่าง ไกลจากตัวเมืองสักครั้งก็ดีจริง ๆ
ในความเป็นจริงเกาะลำธารไม่ใหญ่มาก เมื่อก่อนไม่มี ใครอาศัย จนกระทั่งมีการค้นพบน้ำพุร้อนที่นี่ จึงได้ถูก พัฒนาเป็นรีสอร์ทท่องเที่ยว
เป็นเพราะที่นี่ไม่มีผู้อยู่อาศัย ดังนั้นอากาศบนเกาะ ลำธารจึงดีเป็นพิเศษ เหตุที่พิมพ์ลดากล่าวว่าที่นี่เป็นสถาน ที่บริสุทธิ์สําหรับคู่รักที่จะมาใช้วันหยุด เพราะคนที่มาที่นี่ ต่างมากันเป็นคู่เสพสุขกับน้ำพุร้อน ที่นี่มีคลับสปาแห่งหนึ่ง ที่เป็นเอกลักษณ์ บ้านในคลับไม่เหมือนโรงแรมทั่วไป แต่ เป็นรูปแบบกระท่อมไม้เรือนน้อยแต่ละหลัง ๆ เอกเทศ
แต่ละกระท่อมไม้หลังน้อยมีสระว่ายน้ำสปาแยกต่างหาก และอ่างอาบน้ำก็เพียงพอสำหรับสองคน นี่เป็นคุณลักษณะ พิเศษของน้ำพร้อนบนเกาะลำธาร
พิมพ์ลดามักจะรู้สึกว่าสถานที่ดังกล่าว ถ้ามาแช่น้ำพุร้อน คนเดียว จะรู้สึกไม่ตรงกันบ้างกับการตั้งค่าสภาพอารมณ์ที่ ได้กำหนดไว้นั้น
และเพราะโครงสร้างของสระว่ายน้ำที่นี่ถูกสร้างขึ้นดัง กล่าว ดังนั้นกระท่อมไม้น้อยจึงมีจำนวนไม่มาก ปกติจะจองได้ยาก พิมพ์ลดาเคยได้ยินสะปัน บอกว่าเธออยากมาที่นี่กับ ทินพลเพื่อรำลึกถึงวันครบรอบแต่งงาน แต่น่าเสียดายที่จอง ห้องไม่ได้มาตลอด
พิมพ์ลดาคิดอยากรู้มากเป็นพิเศษว่าท่านผู้ใหญ่นายก เทศมนตรีจองห้องได้อย่างไร เขา…ไม่น่าจะใช้สิทธิ์ของ ท่านผู้ใหญ่นายกเทศมนตรีน่ะ?
แม้ว่าพิมพ์ลดาไม่หวังที่จะมีสามีท่านผู้ใหญ่นายก เทศมนตรีที่ใช้อำนาจผิดหลักการแต่ตอนนี้ ยืนอยู่หน้าอ่าง น้ำพุร้อนที่มีไอร้อนระอฺคลัง ในสมองของเธอเต็มไปด้วย ความรู้สึกของความสุขสบายได้พักผ่อนแช่ในน้ำพุร้อน ไม่มี เวลาที่จะไปคิดใคร่ครวญกับเซลล์สมองของเธอเรื่องจิรฐา จองห้องพักได้อย่างไรแล้ว
“วาวว!” เห็นความร้อนที่ม้วนตัวเป็นเส้นสายตรงหน้า พิมพ์ลดาคิดอยากเปลี่ยนเสื้อผ้าลงไปทันทีมาก ๆ
ไม่ถูกนะ!
เมื่อนึกถึงการเปลี่ยนเสื้อผ้า พิมพ์ลดาจึงนึกขึ้นมาได้ว่า วันนี้เธอเองมามือเปล่าอ่า! จิรฐาไม่ได้บอกเธอว่ามาหมู่บ้าน ลำธารกัน เธอไม่ได้ติดเสื้อผ้ามาด้วยเลยน่ะ! แม้ว่าเสื้อโค้ท จะไม่ต้องเปลี่ยนได้ แต่เสื้อที่ติดกายข้างในก็ต้องเปลี่ยนอ่า
เมื่อคิดเช่นนี้ พิมพ์ลดาได้แต่มองไปที่น้ำพุร้อนซึ่งเย้ายวน ผู้คนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไร้ข้อคิดเห็นในทันใด
สภาพอารมณ์ความคิดของพิมพ์ลดาถูกขัดจังหวะด้วย อ้อมกอดที่รุนแรงอย่างฉับพลันซึ่งมาจากด้านหลัง
จิรฐารู้ว่าเธอชอบที่นี่จากสีหน้าของพิมพ์ลดาเมื่อครู่
กอดเธอไว้ เขาถามว่า “อยากลงไปไหม?
ถูกเขาถามแบบนี้ พลันพิมพ์ลดาก็รู้สึกไม่ได้รับความเป็น ธรรม มาถึงที่นี่เพียงได้จ้องมองไปน้ำพุร้อน แต่ไม่มีปัญญา ลงแช่ นี่เป็นสิ่งที่โหดร้ายมากเพียงไรว่า
หันศีรษะมาเล็กน้อย เธอมองใบหน้าที่หล่อเหลาซึ่งขยับ มาอยู่ข้างกายเธอ พูดอย่างเสียใจ เจ็บใจว่า “คุณควรบอก ฉันล่วงหน้าว่าเรามาหมู่บ้านลำธาร แล้วฉันจะได้เอาเสื้อผ้า มาด้วย!”
พิงไหล่ของพิมพ์ลดา จิรฐาท่าทีเกียจคร้านตอบว่า “ผม ต้องการให้คุณตื่นเต้นดีใจอ่า!”‘กล่าวพลาง เลิกคิ้วคมเข้ม ในดวงตาดำขลับสุกใสแฝงรอยยิ้ม พูดว่า “เราออกไปเที่ยว เกาะเล็กนี้กัน แล้วพาคุณไปกินข้าว หลังจากนั้นเราค่อยคิด หาวิธีการแช่น้ำพร้อน ดีไหม?”
ได้ยินเขาพูดแบบนี้ พิมพ์ลดาก็รู้สึกว่าเขามีการเตรียม พร้อม หลับตาโตทั้งคู่ของเธอเองพิมพ์ลดาพลิกตัวในอ้อม แขนของเขา เงยหน้าขึ้นมองจิรฐา ถามว่า “คุณต้องเตรียม ตัวมาพร้อมแน่ ๆ ใช่ไหม?”
ท่านผู้ใหญ่นายกเทศมนตรีหลบหลีกสายตาของเธอตอบเธอกลับประโยคหนึ่งว่า “ผมไม่แน่ใจ!” แล้วเขาก็ดึง เธอออกมาจากกระท่อมไม้
โอเค ยังไง ๆ ก็พิมพ์ลดาเชื่อว่าท่านผู้ใหญ่นายก เทศมนตรีต้องเตรียมตัวไว้พร้อมแล้วแน่ ๆ ดังนั้นวางใจกล้า ที่จะไปกับเขา
เดินจูงมือกับเขาท่ามกลางหมู่บ้านน้อย ๆ ที่เงียบสงัดนี้ พิมพ์ลดาเห็นฝูงเด็กกำลังเล่นกันในที่ไกล ๆ
เมื่อเธอเดินเข้าไปใกล้ จึงพบว่าเด็กกำลังเล่นตั้งเต นั่น เป็นเกมที่เธอชอบเล่นเมื่อครั้นเธอยังเป็นเด็ก!
มองดูเด็กกลุ่มนั้น พิมพ์ลดาไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ ในสมอง ของเธอเองก็มีปัญหาข้อหนึ่งกระโดดออกมา “จิรฐา คุณ ชอบเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงหรือ?”
“ผมชอบทั้งหมด ขอเพียงเป็นลูกของเรา ผมชอบทั้งนั้น!” เมื่อจิรฐาตอบมาจากข้างกายพิมพ์ลดาจึงค่อยพบว่าเธอเอง กลับได้พูดปัญหาที่คิดไว้ในใจออกมาอย่างไม่ทันระวัง
ถอนสายตาจากกลุ่มเด็กเหล่านั้น กลับมายังบนร่างเขา พิมพ์ลดาจ้องมองอย่างว่างเปล่าในสมองพลันคิดอีกปัญหา หนึ่งขึ้นมา
จิรฐามองเธอด้วยรอยยิ้ม เห็นเธองง ๆ จึงถามว่า “เกิด อะไรขึ้น? คุณชอบเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงเป็นพิเศษ หรือ?”
เสียงพูดของราเพิ่งสิ้นสุดลง กลับเห็นพิมพ์ลดายัก ใหญ่มีรษะน้อยใบเดียวขึ้นมา
“แล้ว!! เธอทำปากจู๋ พูดเสียงเบาๆ “คุณไม่ได้ใช้ร่ม เล็กนั้นหลายครั้ง ฉัน ฉันก็ลืมซื้อยาอีกแล้ว! ” เงยหน้าขึ้น ของจราจะร้องไห้ออกมาปานนั้น “ถ้าฉันมีลูกแล้วจะทำ อย่างไร ?
คือ ปฏิกิริยาของพิมพ์ลดานี้ ทำให้ท่านผู้ใหญ่นายก เทศมนตรีตะลึง
เขาไม่เข้าใจคำพูดนี้ของเธอหมายถึงอะไร เมื่อครู่เขา เพิ่งตอบเธออย่างชัดเจนว่าไม่ว่าเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง ตราบใดที่พวกเขาเป็นลูกของเขาทั้งสองแล้ว เขาชอบทั้ง นั้น ทำไมเธอยังกังวลอะไรอีกว่าจะมีลูกอีกน่ะ?
กระแสมไปก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้ใช้ร่มเล็กนั้น นั่นเป็น ความตั้งใจดีของเขาหรือ?
เขาแค่อยากให้เธอมีลูกอ
เมื่อครูจากคำพูดของผู้หญิงโง่นี้ เธอกลับยังคิดจะใช้ยา
ไม่ได้ไม่ได้ ในสมองของท่านผู้ใหญ่นายกเทศมนตรี มี กากบาทแดงขนาดใหญ่แวบเข้ามา เขาต้องยับยั้งพิมพ์ลดา จากการทำเรื่องที่ขาดศีลธรรม
ยากินไม่เพียงแต่ไม่ดีต่อสุขภาพของเธอ แต่ยังฆ่าชีวิต น้อย ๆ ที่ยังไม่เกิดเป็นรูปเป็นร่างชีวิตหนึ่ง
จิรฐาไม่อาจเห็นลูกน้อยอันเป็นที่รักของเขาถูกฆ่าอย่าง ทารุณผิดพลาดเช่นนี้โดยภรรยาที่รักของเขาอย่างเด็ดขาด
ยกมือทั้งคู่ขึ้น เขาประคองดวงหน้าใบน้อยของพิมพ์ ลดา ทำให้เธอมิอาจไม่มองเขา มองเข้าไปในดวงตาทั้งคู่ ของพิมพ์ลดา จิรฐาไม่มีรอยยิ้ม สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
ถามว่า “พิมพ์ลดา คุณไม่ชอบเด็กทารกหรือ?”
พิมพ์ลดาสั่นศีรษะของเธอทันทีโดยไม่คิด เธอชอบเด็ก
ทารกน่ะ!
“ถ้างั้นคุณไม่ต้องการที่จะมีทารกของเราเองกับผมหรือ?” จิรฐาถามอีกครั้ง
คราวนี้พิมพ์ลดาคิดแล้วคิดเล่า ยังคงสั่นศีรษะอย่าง รุนแรง ทำไมเธอจึงไม่คิดอยากจะมีลูกของพวกเขาเองกับ จิรฐาน่ะ!
เห็นเธอสั่นศีรษะอีกครั้ง จิรฐายังคิดไม่บอกจริง ๆ ว่ายัง มีเหตุผลใดได้อีกแล้ว ได้แต่ถามเธอว่า “คุณสามารถบอก ผมได้ไหมว่าทำไมคุณถึงได้ปฏิเสธเรื่องที่จะตั้งครรภ์มีลูก ขนาดนั้นมาตลอดน่ะ?”
“เพราะว่า” กัดริมฝีปาก สูดจมูกสูดแล้วสูดเล่า พิมพ์ลดาจึงได้ตอบด้วยเสียงเหมือนยุงฮัม “เพราะฉันกลัวว่าคลอด ลูกจะเจ็บปวดมาก!
ถ้าจะโทษก็ได้แต่โทษสภาพที่สะปันเกิดหนูนาได้ทิ้ง เงามืดไว้ให้พิมพ์ลดามากเกินไป