พระชายาปีศาจพันหน้า - ตอนที่ 124.2
เป็นเพราะนางรู้จักเขาดีมากจนทำให้นางอยากรู้ถึงตัวตนของเหย่ จี้ มากขึ้น
ตามที่นางรู้ดีว่าถ้าเหย่ จี้ เป็นแค่น้องสาวบุณธรรมขององค์ชายสาม นางจะไปพบฮ่องเต้เพียงครั้งเดียวและจะได้รับการมอบตำแหน่งได้อย่างไร?
มัน … ไม่ถูกต้อง
นอกจากว่าเหย่ มี จะมีฐานะบางอย่างและมันสูงมาก
เซี่ยโฮ่ว ฉิ่งมองตามสายตาของโหลว ชิงอู๋ ก่อนจะยิ้ม “ดูเหมือนว่าน้องสาวของข้าและท่านอ๋องรัตติกาลจะมีประวัติร่วมกันมาก่อน”
“โอ้?” โหลว ชิงอู๋หันมามองตาของนางดูลึกขึ้น “องค์ชายสามหมายความว่าอย่างไรเพคะ?”
“เหย่ จี้ เป็นองค์หญิงของตระกูลเหย่ไป๋ บิดาของนางและของท่านอ๋องรัตติกาลเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เมื่อท่านอ๋องรัตติกาลยังเยาว์วัยบิดาของท่านอ๋องพาเขาไปเยี่ยมชมตระกูลเหย่ไป๋ และในเวลานั้นเขาเกือบสูญเสียชีวิตของเขา บิดาของเหย่ จี้ เป็นคนที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ แล้วบิดาของท่านอ๋องรัตติกาลก็ได้พูดล้อเล่นขึ้นว่าควรจะมีการแต่งงานระหว่างบุตรของพวกเรา แต่ในเวลานั้นถึงแม้ว่าท่านอ๋องรัตติกาลจะยังเด็กอยู่ แต่เขาก็เป็นตัวของตัวเองมากและปฏิเสธนาง ทำให้เหย่ จี้ รู้สึกอับอายและไม่พอใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นนางจึงยึดติดอยู่กับท่านอ๋องรัตติกาลจนกระทั่งเขาจากไป ดังนั้นเมื่อนางได้ยินว่าข้ากำลังจะกลับมาที่เมืองหลวง นางก็ขอติดตามมากับข้าด้วย ดูเหมือนว่านางยังคงยึดติดอยู่บนท่านอ๋องรัตติกาลไม่เปลี่ยน”
“โอ้ ….”
โหลว ชิงอู๋ ทำเสียงเหมือนรับรู้ขึ้น เซี่ยโฮ่ว ฉิ่ง มองไปที่นางสองครั้ง ก่อนจะพูดขึ้น”ข้าได้ยินท่านอ๋องรัตติกาล… ปฏิบัติเป็นพิเศษกับเจ้า ใช่หรือไม่?”
โหลว ชิงอู๋ หันหน้าไปทางเขา “ข้าไม่รู้ว่าองค์ชายสามตีความคำว่า” พิเศษ “อย่างไร?
“มันหมายถึงชอบ!”
ทันใดนั้นเสียงผู้หญิงที่มีเสน่ห์ก็ดังและขัดจังหวะการสนทนาของพวกเขาขึ้น
เหย่ จี้ที่อยู่ในชุดสีแดงทั้งตัว ได้กระโดดขึ้นจากเรือลำหนึ่งมายังเรืออีกลำหนึ่ง
สีแดงสดใสของชุดของนางราวกับไฟ ทำให้คนนึกถึงความหลงใหลเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเห็นนาง
ข้อมือและข้อเท้าของนางสวมกระดิ่ง ในขณะที่นางเดินเสียงกระดิ่งจะดังขึ้นชักชวนให้ผู้คนสนใจ
นางเห็นโหลว ชิงอู๋แข็งค้างไปกับคำพูดของนาง นางก็ช่วยไม่ได้ที่จะนั่งลงไปที่โต๊ะและเอนตัวเข้าไปมองที่โหลว ชิงอู๋ “น้องสาวชิงอู๋ ท่านพี่เหย่ชอบเจ้าหรือไม่”
นางพูดอย่างชัดเจน แม้แต่โหลว ชิงอู๋ก็ยังตกใจมาก
นางหยุดไปชั่วครู่ ก่อนที่จะยืดตัวขึ้น
ใบหน้าที่งดงามของเหย่ จี้ พุ่งเข้ามาข้างหน้าของนาง ทำให้นางรู้สึกอึดอัด “ไม่มีทาง ท่านอ๋องรัตติกาลเพียงแค่ช่วยเหลือดูแลข้าเล็กน้อยเท่านั้น”
“จริงๆ หรือ?” เหย่ จี้ยิ่งเข้ามาใกล้โหลว ชิงอู๋มากขึ้นอีก
“แน่นอน” นางมองไปที่เหย่ จี้ อย่างสงบ ดวงตาที่ชัดเจนของนางยังคงเหมือนเดิม
เหย่ จี้ รู้สึกโล่งอก
นางจับมือโหลว ชิงอู๋ อย่างมีความสุข “น้องสาวชิงอู๋ อย่าได้ถือโทษข้า ทันทีที่ข้ามาถึงเมืองหลวง ข้าก็ได้ยินจากทุกคนพูดเกี่ยวกับตัวเจ้าและท่านพี่ชายเหย่ ดังนั้นข้าจึงแทบจะเสียสติ แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว เราก็สามารถเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันได้ แต่ “ดวงตาของเหย่ จี้ หมุ่นไปรอบๆ
ร่างกายของนางแทบจะพิงมาที่โหลว ชิงอู๋ ทำให้นางรู้สึกอึดอัดมาก
โหลว ชิงอู๋ กดอารมณ์ความรู้สึกของนาลงไป ทำให้ไม่สามารถอ่านอะไรบนใบหน้าของนางได้
นางรู้สึกว่าลมหายใจของเหย่ จี้ อยู่ที่คอของนาง “น้องสาวชิงอู๋ เจ้าคงจะคุ้นเคยกับท่านพี่เหย่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเขามีจุดอ่อนตรงไหน”
หัวคิ้วของโหลว ชิงอู่ขมวดขึ้น และพยายามปฏิเสธความใกล้ชินที่เหย่ จี้บังคับให้เกิดขึ้นกับนาง
นางค่อยๆ ดึงมือออกจากการจับกุมของนางอย่างเงียบๆและส่ายหัว “ข้าไม่ค่อยคุ้นเคยกับท่านอ๋องรัตติกาล แล้วข้าจะรู้จุดอ่อนของเขาได้อย่างไร? แม่นางจี้ถามผิดคนแล้ว “
“เช่นนั้นหรือ … ”
เหย่ จี้ เสียใจก่อนจะถอยกลับออกไป
นางนั่งลงข้างๆโหลว ชิงอู๋ และเซี่ยโฮ่ว ฉิ่ง
นางท้าวคางด้วยมือของนาง กระพริบตาขึ้นและจู่ก็ดูเหมือนว่าจะคิดอะไรขึ้นมาได้
นางหันหัวกลับมาและมองไปที่โหลว ชิงอู๋ อย่างน่าสงสาร “น้องสาวชิงอู๋ แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าท่านอ๋องรัตติกาล ชอบอะไรมากที่สุด?”
โหลว ชิงอู๋ “เรื่องนั่น … “
เหย่ จี้ เห็นโหลว ชิงอู๋ ลังเลแล้วดวงตาของนางสว่างขึ้น
นางจับแขนเสื้อของนาง ก่อนจะสะบัดไปมา”น้องสาวชิงอู๋ ข้าขอร้องเจ้าโปรดช่วยบอกข้าที เจ้าสามารถที่จะทนเห็นข้าไม่กิน ไม่นอนเนื่องจากเรื่องของท่านพี่เหย่ได้หรือ เจ้าจะไม่ใจร้ายเกินไปหน่อยหรืออีกอย่างเจ้าก็ไม่ได้ชอบท่านพี่เหย่เสียหน่อย ดังนั้นยกเขาให้ข้า ข้าขอร้องล่ะ! “