พลมังกรเวทย์ประการ - บทที่ 22 พูดคุยกับสี่ตระกูลใหญ่
เมื่อเห็นบอดี้การ์ดของตระกูลหนิงบุกเข้ามา หลงอีรีบพุ่งเข้าด้านหน้า ขวางไว้ตรงหน้าของเซียวจ้าน จากนั้นก็ลงมืออย่างโหดร้าย!
เสียงดังปังๆๆ บอดี้การ์ดพวกนี้ต่างก็กระเด็นออกไป แล้วชนเข้ากับโต๊ะเก้าอี้ล้มกระจาย!
ภายในห้องโถง เละเทะไปหมด และเต็มไปด้วยผู้คนร้องโอดครวญ!
ทุกต่างก็ตะลึงอย่างมาก อึ้งจนพูดอะไรไม่ออกอยู่นานกว่าจะได้สติ!
“…..”
“เจ้าคนนี้เป็นใครกันแน่? ยังใช่เศษเดนของตระกูลเซียวคนนั้นที่เหมือนดั่งหมาไร้บ้านอยู่หรือเปล่า?”
สักพัก ถึงได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในห้องโถงใหญ่ที่เงียบเชียบ
เสียงเบามาก เล็กมาก!
เหมือนกลัวว่าหากไม่ระวังก็จะทำให้เซียวจ้านที่ไม่รู้กลับมาจากที่แห่งใดรู้สึกโมโห บุคคลนี้ได้กลายเป็นชายหนุ่มที่เหมือนดั่งเทพสังหารภายในใจพวกเขาแล้ว!
แต่แล้ว
พรุ่บ!
เสียงของบุคคลนั้นเพิ่งสิ้นสุดลง หลงอีก็ได้ลงมือแล้ว ในมือมีใบมีดบินลอยออกมา ฟาดฟันไปในอากาศ แล้วปาดเข้าที่คอของคนผู้นั้น!
“กล้าเหยียดหยามคุณท่าน!สมควรตาย!” หลงอีพูดเสียงเย็นชา สายตาดั่งเหยี่ยวกวาดมองทั่วทั้งหมด!
ทุกคนต่างก็หันหน้ามองไปยังชายหนุ่มผู้นั้นที่ยังนั่งถือแก้วชาอยู่ตำแหน่งด้านบน ในขณะนี้ได้มีเลือดสดพลั่งพลูออกมาจากลำคอ จากนั้นก็ล้มลงกับพื้น!
“อ๊าๆๆ!”
เสียงกรีดร้องดังลั่น แขกรับเชิญทุกคนต่างก็รีบร้อนหนีออกจากห้องโถง!
ภายในห้องโถงวุ่นวายอย่างหนัก!
ภายในกลุ่มผู้คนที่วุ่นวาย หนิงเอ๋อร์มองดูเซียวจ้านที่ยืนหยัดนิ่งงันอยู่กับที่ เขาช่างนิ่งเฉย น่าเกรงขามอย่างมาก!
ชั่วขณะนั้น หนิงเอ๋อร์ก็รู้สึกผิดต่อการกระทำทั้งหมดก่อนหน้าที่ผ่านมา! หรือว่า ตัวเองเลือกผิดงั้นหรอ?
แต่ว่า เรื่องราวมันได้เกิดขึ้นแล้ว!
มืองามสง่าของหนิงเอ๋อร์ กำกระโปรงชุดแต่งงานไว้แน่น ดวงตามีน้ำตาไหลริน นี่ไม่ใช่ความรู้สึกผิดที่มีต่อเซียวจ้าน แต่เป็นความโกรธเคือง! เป็นความโกรธเคืองที่เซียวจ้านทำลายงานพิธีหมั้นหมายของตัวเอง!
เขา ทำลายทุกสิ่งที่ตัวเธอเตรียมไว้ในหลายปีมานี้!
“เซียวจ้าน! นายหยุดได้แล้ว!”
หนิงเอ๋อร์ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตะคอกอย่างควบคุมสติไม่ได้ใส่เซียวจ้านที่ยืนนิ่ง “วันนี้คืองานพิธีหมั้นหมายของฉันหนิงเอ๋อร์คนนี้! สิ่งนี้มันสำคัญมากสำหรับฉัน! ฉันไม่อนุญาตให้ใครหน้าไหนมาทำลายมัน! รวมทั้งนายด้วย เซียวจ้าน! นายไม่ควรมาปรากฏตัวที่นี่การปรากฏตัวของนาย ถือเป็นความอัปยศสำหรับฉัน! ถือเป็นความพ่ายแพ้!”
ตะคอกแล้วหนิงเอ๋อร์ก็หยิบมีดปอกผลไม้จากบนโต๊ะ วิ่งพุ่งเข้าใส่เซียวจ้าน แล้วแทงเข้าใส่หัวใจของเซียวจ้านอย่างแรง!
ชั่วขณะนั้น ในแววตาที่เหมืองดั่งดวงดาวของเซียวจ้าน สะท้อนภาพที่แขกรับเชิญต่างวิ่งวุ่นวายทั่วงาน สะท้อนภาพหนิงเอ๋อร์ที่ถือมีดปอกผลไม้พุ่งเข้าแทงใส่ตัวเอง!
มีดปอกผลไม้ที่สะท้อนแสง หยุดลงทันทีในระยะที่ห่างจากหัวใจของเซียวจ้านเพียงแค่นิ้วเดียวเท่านั้น!
เซียวจ้านยกมือจับเข้าที่ข้อมือของหนิงเอ๋อร์ จ้องมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความเย็นชา แล้วถามว่า “เธอในวันนี้ เคยรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เคยทำบ้างไหม?”
หนิงเอ๋อร์จับมีดปอกผลไม้ไว้ พยายามอยากจะแทงเข้าไป แต่ไม่ว่าเธอจะออกแรงมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถเข้าใกล้ได้อีกแม้แต่นิด!
เธอยิ้มเยาะ แล้วตะคอกใส่เซียวจ้านว่า “เสียใจ? ไม่เคยสักนิด!หากพูดถึงเรื่องรู้สึกเสียใจ ก็คือฉันหนิงเอ๋อร์คนนี้รู้สึกเสียใจที่ไม่ฆ่านายให้ตายในตอนนั้น!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ความเยือกเย็นในแววตาของเซียวจ้านเพิ่มมากขึ้น!เขาส่ายหัว มองดูหญิงสาวตรงหน้า แล้วแย่งเอามีดปอกผลไม้ในมือของเธอมา จากนั้นก็เหวี่ยงออกไปสุดแรง!
ตึง!
มีดปอกผลไม้ลอยออกไป ตัดโดนเส้นผมที่ข้างหูของหนิงเอ๋อร์ แล้วปักเข้าที่เสาสีทองด้านหลังของเธอ!
ด้ามจับของมีดปอกผลไม้สั่นสะเทือนอยู่กลางอากาศ!
ชั่วขณะนั้น ความน่าเกรงขามและฝีมือการสังหารที่เซียวจ้านแสดงออกมา ทำเอาหนิงเอ๋อร์ตัวสั่นระริกนิ่งอึ้งอยู่กับที่!
เธอรู้สึกกลัวออกมาจากก้นลึกหัวใจ!
ผู้ชายคนนี้ แตกต่างจากเมื่อก่อนราวฟ้ากับเหว!
เซียวจ้านหันหลัง ปิดกล่องผ้าบนโต๊ะ แล้วนำเอาผ้าไหมสีดำคลุมไว้ จากนั้นก็พูดทิ้งท้ายว่า “ความแค้นของฉันกับตระกูลหนิง ยังไม่จบลงเท่านี้!ช่วยฉันไปบอกกับสี่ตระกูลใหญ่ด้วยว่า ฉันเซียวจ้านคนนี้ วันหลังจะไปเยี่ยมเยียนพวกเขาทั้งหมด!บอกให้พวกเขาเตรียมโลงศพไว้ให้มากพอ!”
พูดจบ เซียวจ้านก็ก้าวเดินจากไป!
“นายเป็นใครกันแน่?!เพราะอะไร ทำไมต้องกลับมา!!!”
หนิงเอ๋อร์มองดูแผ่นหลังที่ห่างไกลออกไป แล้วตะคอกใส่ไม่หยุด จากนั้นเธอก็ตัวอ่อนล้มลงกับพื้น รู้สึกเศร้าโศกเหม่อลอย!
คำพูดที่เซียวจ้านทิ้งท้ายไว้ มีความน่าเกรงขามและเยือกเย็นมากพอ!
จากนั้นไม่นาน หนิงเอ๋อร์นึกอะไรขึ้นได้ จึงรีบวิ่งไปตรงหน้าของฉินฮ่าวที่นอนอยู่กับพื้น ถามอย่างเป็นห่วงว่า “ฉินฮ่าว นายไม่เป็นไรใช่มั้ย? ขอโทษด้วยนะ ขอโทษด้วย ฉันไม่ดีเอง ฉัน…”
เพี๊ยะ!
ฉินฮ่าวเหวี่ยงฝ่ามือออกไป แล้วต่อว่าด่าทออยางรุนแรงว่า “นังสารเลว!เรื่องนี้ ตระกูลฉินของฉันไม่ยอมจบง่ายๆแน่!”
พูดทิ้งท้ายประโยคนี้ แล้วฉินฮ่าวก็กุมข้อมือของตัวเอง พาลูกน้องเดินจากไปพร้อมบาดแผล!
“กรี๊ดๆๆ!เซียวจ้าน…เซียวจ้าน!นายสมควรตาย!นายทำลายทุกอย่างของฉัน! ฉันเกลียดนาย! เกลียดนาย!!!”
หนิงเอ๋อร์ล้มลงกับพื้น ตะคอกและทุบพื้นอย่างบ้าคลั่ง เงยหน้าขึ้นฟ้า ร้องไห้อย่างหนัก!
ค่ำคืนนี้ ข่าวเรื่องที่งานพิธีหมั้นหมายของหนิงเอ๋อร์ถูกเศษเดนของตระกูลเซียวทำลาย แพร่กระจายไปทั่ววงการกลุ่มคนชนชั้นสูงอย่างที่คาดหมาย!
คนมากมายเริ่มคาดเดาตัวตนของเซียวจ้าน!
สุดท้าย ไม่รู้ว่าใครเผยแพร่ออกไปว่าเซียวจ้านปลดทหารออกมา มีเพียงแค่ความเลือดร้อนและทักษะฝีมือเท่านั้น แต่ก็ยังเป็นขยะที่ไร้ประโยชน์เหมือนเดิม!
คราวนี้ ในวงการกลุ่มคนชนชั้นสูงของซูหาง ต่างก็รู้สึกรังเกียจเซียวจ้านมากกว่าเดิม!
ขณะเดียวกัน พวกเขาต่างก็รู้สึกดูถูกตระกูลหนิงที่จัดการไม่ได้แม้แต่ขยะตัวเดียว ทำให้ตระกูลเศรษฐีแห่งซูหางอับอายเหลือเกิน!
แล้วในคืนนั้น ตระกูลฉินก็ประกาศอย่างเป็นทางการว่าการแต่งงานกับตระกูลหนิงถือเป็นโมฆะ!
เรื่องนี้ ทำให้เกิดความวุ่นวายไม่น้อย!
ตระกูลหนิงตกสู่สภาวะที่นั่งลำบาก บริษัทธุรกิจคู่ค้ามากมายต่างก็รีบยกเลิกสัญญาการค้ากับตระกูลหนิงอย่างรวดเร็ว!
ส่วนเซียวจ้านตัวหลักในเรื่องนี้ กลับไม่สนใจใดๆสักนิด เขาในตอนนี้กำลังอยู่กับเจียงอวี่โหรวที่เพิ่งฟื้นในวิลล่าหลั่งเยว่ ถือซุปเพื่อสุภาพที่หมอเทวดาหัวเคี่ยวให้อยู่หนึ่งถ้วยอย่างอ่อนโยน แล้วป้อนให้เจียงอวี่โหรวทานอย่างระมัดระวัง
เจียงอวี่โหรวมองดูเซียวจ้านด้วยสีหน้าสุขใจ ชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้ ทำให้เธอรู้สึกสบายใจอย่างมาก!
“ใช่สิ เซียวจ้าน ดวงตาของเข่อเข่อสามารถรักษาให้หายได้จริงๆงั้นหรอ?” เจียงอวี่โหรวถามน้ำเสียงหวาน ขอบตาแดงก่ำ สีหน้าตั้งตาคอยและกังวล
เมื่อนึกว่าเข่อเข่ออาจจะมองไม่เห็นทั้งชีวิต เจียงอวี่โหรวในฐานะแม่ก็รู้สึกสงสารเจ็บปวดใจอย่างมาก
เซียวจ้านวางถ้วยลง ยิ้มแล้วห่มผ้าให้เจียงอวี่โหรว ตอบว่า “หมอทั้งสามหาวิธีเจอแล้ว ต้องเวลาสักหน่อย เธอไม่ต้องกังวล เข่อเข่อเป็นลูกสาวของฉัน ฉันไม่ปล่อยให้หล่อนตาบอดแน่นอน ถึงแม้ต้องหาหมอเก่งกาจทั่วโลก ฉันก็จะรักษาหล่อนให้หายให้ได้”
พูดแล้วเซียวจ้านก็กุมมือของเจียงอวี่โหรวไว้ มองเธออย่างรักใคร่ ทำให้เจียงอวี่โหรวรู้สึกเขิน จึงรีบดึงผ้าห่มขึ้นบังหน้าตัวเองแล้วตอบว่า “อื้อ ฉันเชื่อใจนาย”
ในขณะนี้เอง เซียวจ้านแอบหยิบเอาบัตรเชิญด้านข้างออกมา แล้วยื่นให้กับเจียงอวี่โหรว พูดว่า “มอบให้เธอเป็นของขวัญ”
เจียงอวี่โหรวชะโงกหน้าออกมาอย่างสงสัย แล้วลุกขึ้นนั่งโดยมีเซียวจ้านประคองไว้ แล้วเปิดบัตรเชิญออกดู เมื่อเห็นเนื้อหาด้านใน สีหน้าของเธอก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก ดวงตามีน้ำตาคลอ ถึงขั้นอดไม่ได้แทบจะรีบลุกออกจากเตียง แล้วถามว่า “เซียวจ้าน เรื่องจริงงั้นหรอ? นี่คือบัตรเชิญร่วมงานวันเกิดของคุณปู่? คุณปู่ให้ฉันกลับไปร่วมงานวันเกิดของท่านงั้นหรอ? ฮือๆๆ….คุณปู่ยังรักฉัน ท่านยังรักอวี่โหรว….”
เจียงอวี่โหรวพูดไปด้วยร้องไห้ไปด้วย รีบดึงผ้าห่มออกอยากจะลุกอย่างเตียงอย่างทนรอไม่ไหว แต่ว่ากลับถูกเซียวจ้านห้ามไว้ แล้วพูดว่า “เธอระวังหน่อย งานวันเกิดคือพรุ่งนี้ รีบนอนลงเร็ว หากว่ากระทบโดนบาดแผล เธอจะไปได้ยังไงอีก?”
เจียงอวี่โหรวได้ยินเช่นนั้นจึงสงบสติลง ถือบัตรเชิญไว้ไม่วาง เหมือนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า!
เซียวจ้านมองดูเธอ แล้วแอบถอนหายใจภายในใจ
เจียงอวี่โหรวถูกตระกูลเจียงขับไล่ออกมา เธอต้องคิดถึงตระกูลเจียงนั่นมากแค่ไหน ถึงได้มีปฏิกิริยาตอบรับเช่นนี้….
ผู้หญิงบื้อคนนี้ ใจดีแบบนี้มาตลอดเลยหรือไงนะ?
“ขอบใจนายมากนะเซียวจ้าน!”
ทันใดนั้นเจียงอวี่โหรวก็พุ่งเข้าโอบกอดเซียวจ้าน!
ทำเอาเซียวจ้านหน้าแดง นั่งนิ่งตัวตรง สองมือไม่รู้ว่าจะวางไว้ที่ไหน
กอดได้ไม่กี่วินาที เจียงอวี่โหรวก็รู้สึกตัว แล้วปล่อยมือจากเซียวจ้านอย่างเขินอาย บัตรเชิญที่ถือไว้ในมือดูเก้กัง
บรรยากาศมีความคลุมเครือ….
“ใช่สิ บัตรเชิญนี้นายได้มาจากที่ไหน? คุณปู่สั่งให้คนส่งมาให้งั้นหรอ?” เจียงอวี่โหรวถาม
ตามหลักแล้ว ตระกูลเจียงไม่มีทางให้บัตรเชิญงานวันเกิดของคุณปู่กับเธอแน่นอน!
ยิ่งไปกว่านั้น หลายวันก่อนที่หน้าบ้านตระกูลเจียง ท่าทางเย็นชาขนาดนั้นของคุณปู่ ทำให้เจียงอวี่โหรวรู้สึกหมดหวังไปนานแล้ว
ตอนนี้ จู่ๆก็มีบัตรเชิญนี้มา ทำให้เจียงอวี่โหรวรู้สึกงุนงงอย่างมาก และทำให้เจียงอวี่โหรวรู้สึกสงสัยและคาดเดาต่อตัวตนของเซียวจ้าน
ผู้ชายคนนี้ เหมือนว่าตั้งแต่ที่ปรากฏตัวมาก็ให้เซอร์ไพรส์และความแปลกใจกับตัวเองมากมาย
เซียวจ้านยิ้มเล็กน้อย ลูบหัวของเจียงอวี่โหรว แล้วพูดว่า “อยากรู้งั้นหรอ?”