พลมังกรเวทย์ประการ - บทที่ 27 วันเดียวก็เพียงพอแล้ว
เมื่อได้ยินเซียวจ้านตอบตกลง ทุกคนในตระกูลเจียงต่างก็มีสีหน้าดูถูก!
เจ้าคนนี้ พูดจาบ้าคลั่งเกินไปแล้ว!
สัญญาร่วมงานโครงการมรดกนี้ ได้มาง่ายขนาดนั้นที่ไหนกัน? หากว่าหมาไร้บ้านอย่างมันสามารถได้มา อย่างนั้นตระกูลเจียงที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ก็เทียบไม่ได้แม้แต่หมาไร้บ้านงั้นหรือไง!
เจียงไท่ชางหัวเราะเยาะ พูดว่า “เซียวจ้าน เมื่อกี้เจียงอวี่โหรวพูดว่านายก็แค่ปลดทหารกลับมา คาดว่าคงเป็นเพราะนายอยู่ในกองทหารไม่ได้ ถึงได้ปลดประจำการออกมา นายผู้ไม่มีความสามารถและความสัมพันธ์ผู้คนใดๆเช่นนี้ มีสิทธิ์อะไรมาตอบตกลง? โครงการมรดกที่ตระกูลจินเหลือไว้ ตระกูลและธุรกิจมากมายต่างก็คิดหาวิธีกันแทบตายเพื่อยากได้มา หากว่านายสามารถได้มันมาภายในสิบวัน ฉันไม่เพียงแต่จะให้เจียงอวี่โหรวกลับสู่ตระกูลจิน แล้วยังสามารถยอมรับว่านายเป็นหลานเขยได้ด้วย!”
เจียงไท่ชางแก่แล้วแต่จิตใจยังไม่แก่ เพียงแค่ได้รับโครงการมรดกบางส่วนที่ตระกูลจินเหลือทิ้งไว้มาได้ ตำแหน่งของตระกูลเจียงก็จะสูงมากขึ้น! แล้วการที่ให้เซียวจ้านเป็นเขยเข้าบ้าน ก็เพื่อปกปิดข่าวเสียหายเมื่อตอนนั้น
ยังไงซะ เจียงอวี่โหรวก็เป็นคนของตระกูลเจียง หากเลี้ยงลูกอยู่ภายนอกเพียงคนเดียว ยังไงก็ต้องเป็นเรื่องตลกของผู้อื่น สุดท้ายแล้วผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือตระกูลเจียง หากให้เขาเป็นเขยเข้าบ้าน ก็ยังสามารถปิดปากคนอื่นได้อีกด้วย
เพียงแต่ว่า คำขอนี้ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้สำเร็จในสายตาของเจียงไท่ชางรวมทั้งคนอื่นๆด้วย! เขาตั้งใจให้เซียวจ้านรู้จักคิดและท้อถอย!
แต่ว่า เซียวจ้านกลับพูดนิ่งๆว่า “ต้องใช้เวลาถึงสิบวัน แค่วันเดียวก็พอ”
“ช่างกล้าพูด! นายรู้มั้ยว่าโครงการมรดกที่ตระกูลจินเหลือทิ้งไว้อยู่ในกำมือของใคร? คิดอยากจะได้จดหมายแสดงความจำนงร่วมงานกับท่านผู้นั้น ช่างเป็นคนโง่เพ้อฝันสิ้นดี!” เจียงเหม่ยเหยียนพูดอย่างดูถูก
เจียงอวี่โหรวเองก็รีบเข้าไปขอร้องอ้อนวอน “คุณปู่คะ เซียวจ้านเพิ่งกลับมา ไม่รู้จักกับใครเลย เขาจะเอามันมาได้ยังไงกันคะ….”
แต่ว่า เจียงไท่ชางกลับไม่สนใจ พูดเสียงเย็นชาว่า “นั่นมันเรื่องของเขา!ในเมื่อมันอยากจะปกป้องเธอ อย่างนั้นสิ่งนี้ก็ถือเป็นแค่บททดสอบเล็กๆน้อยๆสำหรับเขาเท่านั้น!”
เจียงอวี่โหรวร้อนใจแทบตายแล้ว ดวงตามีน้ำตาคลอ ยังคิดอยากจะพูดอะไรเพิ่มอีก แต่กลับถูกเซียวจ้านห้ามไว้ว่า “อวี่โหรว เชื่อใจฉัน ฉันสามารถนำสัญญาร่วมธุรกิจโครงการมรดกมาได้”
“แต่ว่า…” เจียงอวี่โหรวสีหน้าร้อนรนและเป็นกังวล
“เหอะๆ พูดจาเหิมเกริม!แค่หมาไร้บ้านคนหนึ่งยังกล้าพูดจาเหิมเกริมเช่นนี้!” ขณะนี้เจียงเฉินที่อยู่ด้านข้างพูดจาดูถูกออกมา
แขนของเขายังเจ็บอยู่ ภายในใจเกลียดเซียวจ้านอย่างมาก!
ต้องมีสักวันที่ตัวเองจะฆ่าเขาทิ้งซะ!
“นั่นสิ! ไม่ตักน้ำชะโงกดูเงาตัวเองเลยว่าตัวเองเป็นยังไง!” สวีเฟินเห็นใจลูกชายจึงด่าทอตามด้วย
ทางด้านนี้ อู๋ควนเย่เองก็จ้องมองเซียวจ้านด้วยสายตาเย็นชา “ไอ้หนุ่ม! แกรอไว้เลย ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่!”
พูดจบ อู๋ควนเย่ก็เดินจากไปภายใต้สายตาของทุกคน เจียงเหม่ยเหยียนเองก็รีบตามไป
ในเวลาที่เจียงเหม่ยเหยียนและอู๋ควนเย่เพิ่งจากไป หน้าประตูห้องโถงก็มีคนสองคนยกกล่องสีแดงขนาดใหญ่เดินเข้ามา
“ปึง!”
กล่องวางลงบนพื้นส่งเสียงดังออกมา จากนั้นหนึ่งคนในนั้นก็เดินมา แล้วนำเอารายการของขวัญยื่นให้กับเจียงไท่ชางที่ตกตะลึงอยู่ “คุณท่านเจียง นี่คือของขวัญวันเกิดของคุณ รบกวนเซ็นรับด้วยครับ”
“ของขวัญวันเกิดให้ฉัน?” เจียงไท่ชางสีหน้างุนงง และในเวลานี้กล่องก็ได้ถูกเปิดออก
ทันใดนั้น ตระกูลเจียงทุกคนต่างก็ตกตะลึงกับของขวัญในกล่อง
ของขวัญล้ำค่ามากมายเต็มกล่อง ด้านบนสุดยังมีแท่งทองหลายแท่งส่องแสงทองอร่ามอยู่!
หยกเพชรพลอยต่างๆยิ่งเยอะแยะเต็มไปหมด แล้วยังมีเงินสดอีกหนึ่งกล่อง!
พวกนี้อย่างน้อยก็มูลค่านับพันล้านแล้ว!
“นี่ๆๆ…ใครเป็นคนให้มางั้นหรอ?” เจียงไท่ชางรีบไปไล่ถามคนที่กำลังเดินจากไป ของขวัญล้ำค่าเช่นนี้ อีกฝ่ายต้องเป็นคนมีเงินที่ใจกว้างมากแน่นอน
คนเช่นนี้ ตระกูลเจียงต้องสานสัมพันธ์ไว้ให้ดี!
อย่าว่าแต่เขาเลย คนอื่นในตระกูลเจียงเองต่างก็ตกตะลึงอย่างมากเช่นกัน ดวงตาเบิกกว้างมองดูทองแท่งและเงินสดล้ำค่าพวกนั้น
แต่ว่า คนผู้นั้นเพียงแค่เหลือบมองเซียวจ้าน จากนั้นก็รีบเดินจากไป ไม่พูดอะไรสักคำ
“ของพวกนี้ผมมอบให้แทนอวี่โหรวเอง”
ทันใดนั้น เซียวจ้านก็เอยปากพูด ดึงดูดสายตาทุกคนในตระกูลเจียงทันที
“นายมอบให้?” เจียงไท่ชางไม่ค่อยเชื่อ แล้วตามด้วยต่อว่าด่าทอ “พอแล้ว! พวกเราไม่รู้หรือไงว่านายเป็นยังไง? ของขวัญล้ำค่าพวกนี้ นายยังกล้าสวมรอยงั้นหรอ?”
“ฮ่าๆๆ! เจ้าคนนี้ เริ่มแรกก็ตอบตกลงว่าจะเอาโครงการมรดกที่ตระกูลจินเหลือทิ้งไว้มา แล้วตอนนี้ยังไม่บอกว่าของขวัญพวกนี้มันเป็นคนให้ ช่างไร้ยางอายสิ้นดี!”
“เจียงอวี่โหรวก็โชคร้ายจริงๆ ที่ได้ขยะคนนี้มา!”
เมื่อได้ยินเสียงด่าทอพวกนี้ เจียงอวี่โหรวจึงรีบเข้าไปดึงแขนเซียวจ้านไว้ แล้วพูดเสียงเบาว่า “เซียวจ้าน นายอย่าพูดจามั่วซั่ว….”
เซียวจ้านถอนหายใจอย่างเอือมระอา ขี้เกียจจะอธิบาย จากนั้นก็อุ้มเข่อเข่อ แล้วจับมือเจียงอวี่โหรวไว้ ทิ้งท้ายว่า “พรุ่งนี้ จดหมายแสดงความจำนงร่วมธุรกิจจะถูกส่งไปที่บ้านตระกูลเจียง หวังว่าคุณท่านจะไม่กลับคำ”
พูดจบ เซียวจ้านก็พาเจียงอวี่โหรวจากไป
คนตระกูลเจียงไม่ได้สนใจคำพูดสุดท้ายที่เซียวจ้านพูด แต่ว่าต่างก็ไปรุมล้อมกล่องของขวัญล้ำค่าสองกล่องนั้นแล้วถกเถียงกันไม่หยุด ว่าจะแบ่งกันยังไง
สุดท้าย เจียงไท่ชางต่อว่าไป แล้วเก็บของขวัญล้ำค่าทั้งสองกล่องทั้งหมด ถึงได้เงียบสงบลง
ส่วนด้านนี้ เมื่อออกมาจากบ้านตระกูลเจียงแล้ว
เจียงอวี่โหรวร้องไห้พูดว่า “เซียวจ้าน ขอโทษ พวกคุณปู่ไม่ได้จงใจจะหาเรื่องนายนะ”
เซียวจ้านจับมือของเธอไว้ “ไม่ต้องขอโทษ ฉันไม่สนใจสายตาของพวกเขา อย่ากังวล ฉันจะคิดหาวิธีให้เธอได้กลับบ้านตระกูลเจียงแน่นอน”
“แต่ว่า นั่นเป็นถึงโครงการมรดกที่ตระกูลจินเหลือทิ้งไว้ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องไปหาใคร แล้วฉันจะเอาสัญญาร่วมธุรกิจโครงการมรดกพวกนั้นมาได้ยังไง….”
เซียวจ้านพูดยิ้มๆว่า “สบายใจได้ ถึงเวลาก็จะสะสางเรื่องราวได้เอง เมื่อก่อนที่ฉันอยู่ซูหางก็มีเพื่อนอยู่บ้าง ลองไปถามหาที่พวกเขาดูได้”
“จริงหรอ?” ใบหน้าเจียงอวี่โหรวเต็มไปด้วยความคาดหวัง
เซียวจ้านพยักหน้า จากนั้นก็ส่งเจียงอวี่โหรวกลับ แต่ระหว่างทาง จู่ๆเจียงอวี่โหรวก็นึกอะไรขึ้นได้ และถามด้วยดวงตาปริบๆ “ใช่สิ? การที่ตระกูลจินถูกทำลายมีส่วนเกี่ยวข้องกับนายใช่มั้ย?”
เจียงอวี่โหรวสงสัยในตัวตนของเซียวจ้านมาโดยตลอด มักรู้สึกว่าเขามีความลึกลับ
เซียวจ้านยิ้มแล้วพูดว่า “ที่จริงแล้วก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฉันมากเท่าไหร่ ฉันก็แค่ไปแจ้งความที่สำนักงานตำรวจ แล้วพวกเขาก็อยากจะจัดการกับตระกูลจินพอดี ได้ยินมาว่ามันเรียกว่าปฏิบัติการเฮอริเคน กำจัดอำนาจมืดนับสิบปีของตระกูลจินทิ้งได้สำเร็จในคราวเดียว”
เจียงอวี่โหรวพยักหน้าอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง จนสุดท้ายทั้งสองกลับถึงวิลล่าหลั่งเยว่
ในขณะที่เจียงอวี่โหรวอยู่กับเข่อเข่อ เซียวจ้านก็พูดกับหลงอีว่า “สั่งให้หานลี่หมินมาวิลล่าหลั่งเยว่หน่อย”
สำหรับเซียวจ้านแล้ว โครงการมรดกที่ตระกูลจินเหลือทิ้งไว้ เขาอยากได้จะมาเท่าไหร่ ก็แค่เรื่องง่ายนิดเดียว!
ไม่นาน หานลี่หมินที่สวมใส่ชุดลำลองก็ขับรถจี๊ปมาที่วิลล่าหลั่งเยว่ด้วยตัวเอง
หากว่าให้คนอื่นรับรู้ คงจะต้องตกใจอย่างหนักแน่นอน!
นี่เป็นถึงผู้พันของกองทหารรักษาการณ์ประจำซูหาง มีคนมากมายอยากจะประจบแต่มิอาจได้พบเจอหน้า
“กระผมหานลี่หมิน ไม่ทราบว่าราชาเป่ยเหลียงเรียกผมมามีเรื่องอะไรครับ?”
สิ่งแรกที่หานลี่หมินทำเมื่อเข้ามาถึงก็คือทำความเคารพ จากนั้นก็ยืนโค้งตัวเล็กน้อยอยู่ตรงหน้าของเซียวจ้านอย่างให้ความเคารพ
ท่านที่อยู่ตรงหน้า เป็นถึงราชาเป่ยเหลียงที่ปกครองทหารเป่ยเหลียงสามแสนนาย!เป็นเทพสังหารอย่างแท้จริง!
ที่จริงแล้วภายในใจของหานลี่หมินมีความหวาดกลัวเล็กน้อย หน้าผากมีเหงื่อผุด กลัวว่าเรื่องที่ตัวเองจัดการตระกูลจินทำให้จอมพลเป่ยเหลียงท่านนี้โมโห
“หานลี่หมิน โครงการมรดกที่ตระกูลจินหลงเหลือทิ้งไว้อยู่ในมือนายทั้งหมด?” เซียวจ้านเอ่ยถามนิ่งๆ