พลมังกรเวทย์ประการ - บทที่ 28 วางใจได้ มีฉันอยู่!
“ใช่ครับ จอมพลมีอะไรจะรับสั่งครับ?” หานลี่หมินรีบตอบ
จนตอนนี้ ภายในใจของเขาก็ยังกล้าๆกลัวๆหวาดหวั่นอยู่!
เซียวจ้านน่าเกรงขามเกินไป ถึงแม้จะแค่นั่งอยู่ตรงนั้น แต่หานลี่หมินก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองแทบจะหายใจไม่ออก!
“โครงการมรดกที่ตระกูลจินหลงเหลือทิ้งไว้ เลือกออกมาสักหน่อย แล้วให้เจียงอวี่โหรวรับช่วงต่อ จำไว้ ให้ได้เพียงแค่เจียงอวี่โหรวเท่านั้น คนอื่นห้ามเด็ดขาด!” เซียวจ้านพูดอย่างเย็นชา
“ครับ…กระผมรับทราบแล้วครับ” หานลี่หมินรีบตอบรับ ถึงแม้จะรู้สึกสงสัย แต่เขาก็ไม่กล้าถาม ทำตามที่สั่งก็พอแล้ว
“ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว นายกลับไปเถอะ” เซียวจ้านพูดนิ่งๆ
หานลี่หมินพูดอย่างลังเลว่า “จอมพลครับ กระผมมีเรื่องจะขอร้องครับ หลังจากนี้สามวัน ซูหางจะมีงานประชุมคนสำคัญ กระผมเป็นคนจัดงานเอง จุดประสงค์เพื่อยินดีกับตระกูลและธุรกิจที่ได้รับโครงการมรดกของตระกูลจิน นี่คือบัตรเชิญครับ กระผมอยากจะขอเชิญจอมพลและนายหญิงไปร่วมงานด้วยครับ”
เซียวจ้านเหลือบมองแล้วพูดว่า “วางไว้ก่อนแล้วกัน หากมีเวลาว่างฉันจะไปแน่นอน”
“ครับ!” หานลี่หมินพูดแล้วทำความเคารพ จากนั้นก็ออกไปจากวิลล่าหลั่งเยว่
จนกระทั่งออกมาจากวิลล่าหลั่งเยว่แล้ว ความรู้สึกไม่สบายตัวของหานลี่หมินถึงได้ดีขึ้น แผ่นหลังเต็มไปด้วยเหงื่อโชก
…..
อีกด้านหนึ่ง ภายในสวนคฤหาสน์ตระกูลเจียง
เจียงเหม่ยเหยียนทำลายข้าวของมากมายอย่างโมโห พูดกับเจียงเหวินฉีว่า “พ่อคะ!พวกเราจะรอดูอย่างนิ่งเฉยแบบนี้หรอคะ? หากว่าเจียงอวี่โหรวได้กลับตระกูลเจียง แล้วยังจะมีโอกาสอะไรให้หนูอีกละคะ?”
แต่เจียงเหวินฉีเพียงแค่จิบชาอย่างนิ่งเฉย แล้วพูดยิ้มๆว่า “เหม่ยเหยียน ไม่ต้องโมโหแล้ว ฉันให้คนไปสืบมาแล้ว เซียวจ้านก็แค่หัวหน้าทหารที่ปลดประจำการมาเท่านั้น ไม่มีอำนาจใดๆเลย ตระกูลเซียวก็ถูกทำลายไปนานแล้ว หมาไร้บ้านอย่างมัน จะสามารถทำอะไรได้? โครงการมรดกของตระกูลจิน พวกมันไม่สามารถเอามาได้แน่นอน!”
“จริงหรอคะ?” เจียงเหม่ยเหยียนได้ยินเช่นนั้นก็มีสีหน้าเยาะเย้ย แล้วพูดว่า “หึ!หนูว่าแล้ว นังสารเลวเจียงอวี่โหรว ชาตินี้อย่าหวังจะได้กลับสู่ตระกูลจินเลย!”
“แต่ว่า พ่อคะ ไอ้เซียวจ้านคนนั้นมันเหิมเกริมเกินไปแล้ว!ทั้งตบหนู และทำร้ายคุณชายอู๋ คุณชายอู๋บอกแล้วว่าเขาไม่มีทางปล่อยเซียวจ้านไปง่ายๆแน่นอน!”
เจียงเหม่ยเหยียนพูด
เจียงเหวินฉีพยักหน้า “อย่างนั้นก็ดีสิ พวกเราแค่นั่งมองเขาตีกันก็พอ เธอนะใส่ใจคุณชายอู๋ให้มากๆ สานสัมพันธ์กับเขาให้ดี ตระกูลอู๋ของเขาเป็นหนึ่งในตัวเลือกของงานประชุมคนดังครั้งนี้ หากว่าเธอได้โครงการมรดกบางส่วนของตระกูลจินมา คุณปู่จะต้องให้ความสำคัญกับเธอแน่นอน แล้วต่อไปครอบครัวของเราก็จะมีความสำคัญในสายตาของคุณปู่!”
“พ่อคะ ไม่ต้องให้พ่อพูด หนูก็รู้ว่าควรทำยังไงค่ะ” เจียงเหม่ยเหยียนพูด “พรุ่งนี้หนูกับคุณชายอู๋จะไปเยี่ยมเยียนผู้พันหาน ถึงตอนนั้น รอหนูได้จดหมายแสดงความจำนงร่วมธุรกิจมาแล้ว เจียงอวี่โหรวก็จะได้ออกจากตระกูลเจียงอย่างสมบูรณ์แบบแน่นอนค่ะ!”
เจียงเหวินฉีเองก็หัวเราะ ทั่วทั้งห้องโถงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะชั่วร้ายของสองพ่อลูก
และในขณะเดียวกัน ครอบครัวเจียงเสวโป๋ทั้งสามคน อาศัยอยู่ในพื้นที่ขนาดร้อยตารางเมตรในมุมทางทิศเหนือของคฤหาสน์ตระกูลเจียง
เจียงเฉินโอกครวญไม่หยุด กำลังออดอ้อนแม่ของตัวเองว่า “แม่ครับ ดูสิ แขนของผม ไอ้ขยะเซียวจ้านคนนั้นทำ!เจ็บมากเลยครับ!”
สวีเฟินเองก็สงสารอย่างมาก “โอ๋ๆๆ เฉินเอ๋อร์ลูกแม่ ไม่ต้องกังวล แม่เข้าข้างลูกเอง!”
พูดจบ สวีเฟินก็ตะคอกใส่เจียงเสวโป๋ที่เดินไปเดินมาในห้องรับแขกว่า “พอแล้ว! เดินซะจนฉันเวียนหัว! คุณดูสิ นี่เป็นผลงานที่ลูกสาวของคุณพาไอ้หมาไร้บ้านคนนั้นมันทำ! เรื่องนี้ ถ้าคุณไม่จัดการให้พวกเราสองแม่ลูก ฉันไม่ให้อภัยคุณแน่!”
เจียงเสวโป๋เองก็จนใจอย่างมาก อยู่ภายนอกนั่นคือสวีเฟินให้เกียรติตัวเอง แต่เมื่ออยู่ในบ้าน เขาก็คือคนกลัวเมีย กลัวอย่างมาก!
ไม่อย่างนั้น ตอนนั้นตัวเองก็คงไม่มีทางหย่าร้างกับแม่ของเจียงอวี่โหรวแล้ว แต่งงานกับสวีเฟินหรอก!
“ที่รัก อวี่โหรวถถูกขับไล่ออกจากตระกูลเจียงไปแล้ว คุณยังจะให้ผมทำยังไงอีก?” เจียงเสวโป๋ผายมือ “คุณก็เห็นอยู่ว่าเซียวจ้านคนนั้นมันคือคนบุ่มบ่ามไร้สมอง!”
“เหอะๆ ใครจะไปรู้ว่าภายในใจของคุณจะยังคิดถึงยัยเด็กบ้านั่นอยู่หรือเปล่า! ฉันจะบอกคุณไว้นะ เจียงอวี่โหรวห้ามได้ก้าวเข้าสู่บ้านตระกูลเจียงเด็ดขาด! บ้านหลังนี้ ไม่มีที่สำหรับหล่อน! อีกอย่าง เรื่องที่จะไปเยี่ยมเยียนหานลี่หมินวันพรุ่งนี้ คุณเตรียมตัวไปถึงไหนแล้ว? คุณยังมีเพื่อนอีกไม่ใช่หรือไง ตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงกันบ้างแล้ว? เฉินเอ๋อร์ของเราไปได้หรือเปล่า?” สวีเฟินถาม
“ไม่ได้หรอก หานลี่หมินไม่ใช่คนที่จะพบเจอกับใครไปทั่ว ตำแหน่งของฉันในตระกูลเจียงก็ไม่สูง พ่อเราก็ไม่ให้ความสำคัญกับครอบครัวเรา เพื่อนของฉันพวกนั้นเองก็ไม่มีโอกาสที่จะได้เจอกับผู้พันหาน เรื่องนี้คงจะทำไม่ได้แล้วละ” เจียงเสวโป๋ส่ายหน้าถอนหายใจอย่างจนใจ
“อะไรนะ? เจียงเสวโป๋นะเจียงเสวโป๋ คุณนี่มันเป็นขยะจริงๆ! คุณไร้ประโยชน์มากกว่าเซียวจ้านนั่นเสียอีก! ตอนนั้นฉันมาแต่งงานกับคุณได้ยังไงกัน! หากว่าเรื่องนี้จัดการไม่เรียบร้อย แล้วเฉินเอ๋อร์ของเราจะทำยังไง? ตอนนี้ในสายตาของคุณท่านเต็มไปด้วยยัยเจียงเหม่ยเหยียนบ้านั่น ไม่มีที่ให้เฉินเอ๋อร์ของเราเลยสักนิด! ต่อไป ถ้าคุณท่านไม่สนใจแล้ว ครอบครัวเราคงจะถูกเจียงเหวินฉีขับไล่ออกจากตระกูลเจียงนะสิ?” สวีเฟินชี้หน้าด่าเจียงเสวโป๋ คำพูดหยาบคายอย่างมาก
เจียงเสวโป๋เองก็จนปัญญา ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นเหมือนขยะที่ระบาย แล้วพูดว่า “….ฉันคิดหาวิธีดูแล้วกัน”
หันกลับมามองทางด้านเซียวจ้าน เช้าวันที่สอง เซียวจ้านก็บอกกับเจียงอวี่โหรวไว้ว่า “อวี่โหรว ฉันติดต่อไปที่เพื่อสมัยก่อนของฉัน วันนี้พวกเรามีโอกาสไปเยี่ยมเยียนผู้พันหานลี่หมิน พูดคุยกันเรื่องรับช่วงต่อโครงการ”
“ฮืม? หาน….หานลี่หมิน? นายหมายถึงหานลี่หมินที่รับผิดชอบกองทหารรักษาการณ์สามแสนนายของซูหางคนนั้น?” เจียงอวี่โหรวเบิกตาโตอย่างตกตะลึง
“ใช่ รีบตื่นเร็ว ฉันไปส่งเธอ” เซียวจ้านไม่ให้เวลาเจียงอวี่โหรวได้ตั้งสติ รีบดึงเจียงอวี่โหรวไปอาบน้ำแต่งตัว สวมใส่เดรสสีดำ แล้วก็เดินทางไปยังองค์กรที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งที่หานลี่หมินอยู่ นั่นคือลี่หมินกรุ๊ป
นี่คือบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อสามวันก่อนเพื่อสืบทอดธุรกิจโครงการของตระกูลจิน!
ในเวลานี้ ตรงหน้าอาคารบริษัท มีรถหรูมากมายจอดอยู่ หน้าประตูมีนักธุรกิจและตัวแทนบริษัทเล็กๆใหญ่ๆมากมายมาดักรอ ต่างก็นำเอาของขวัญมากมายมาด้วย
พวกเขาล้วนมาเยี่ยมเยียนหานลี่หมินทั้งนั้น หน้าประตูวุ่นวายกันเป็นอย่างมาก
เมื่อเซียวจ้านขับรถมาส่งเจียงอวี่โหรวถึงที่แห่งนี้ เพียงแค่เพิ่งลงจากรถก็ต้องตกใจกับภาพตรงหน้า
“เซียวจ้าน คนเยอะจังเลย จะทำได้จริงๆงั้นหรอ? อีกอย่างพวกเขาล้วนมีของขวัญมาทั้งนั้น พวกเรามามือเปล่าแบบนี้คงจะไม่ค่อยดีหรือเปล่า?” มือเรียวนุ่มของเจียงอวี่โหรวจับมือใหญ่ของเซียวจ้านไว้แน่น สีหน้าเป็นกังวลและประหม่า
จนตอนนี้เธอเพิ่งรู้ว่า ที่แท้ผู้ที่รับผิดชอบโครงการมรดกของตระกูลจินก็คือหานลี่หมิน!
นั่นเป็นถึงผู้มีอิทธิพลอันดับต้นของซูหาง ไม่ใช่ผู้ที่ใครก็จะสามารถพบเจอเยี่ยมเยียนได้!
“สบายใจได้ เพื่อนของฉันทำงานที่ลี่หมินกรุ๊ป ติดต่อไว้เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวเธอแค่เข้าไปก็พอแล้วละ” เซียวจ้านบีบมือของเจียงอวี่โหรว ให้กำลังใจกับเธอ
แววตาของเจียงอวี่โหรวมีความหวาดกลัว สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพยักหน้า “อื้อ! เพื่อเข่อเข่อ เพื่อนาย! ฉันสู้สุดชีวิต!”
แต่ว่า ในเวลานี้ ด้านข้างมีรถหรูสองคันเข้ามาจอด ผู้ที่ลงมาจากรถก็คือเจียงเหม่ยเหยียนและอู๋ควนเย่ที่ถือกล่องของขวัญล้ำค่ามาด้วย
ส่วนคันด้านหลัง ก็คือครอบครัวเจียงเสวโป๋ทั้งสามคน
“โอ๊ะๆๆ นี่มันน้องสาวที่แสนดีของฉันไม่ใช่หรือไงกัน ไม่คิดเลยว่า เธอจะกล้ามาจริงๆด้วย?” เจียงเหม่ยเหมียนเพิ่งรถจากรถก็มาพูดเยาะเย้ยจิกกัดทันที