พลิกชะตาชายาสยบแค้น - ตอนที่ 73 เหตุเกิดจากแม่นม
ตอนที่ 73 เหตุเกิดจากแม่นม เรื่องที่ฮูหยินผู้เฒ่าไปตักเตือนหลี่ซื่อถึงเรือนก็ลอยมาเข้าหูอันหลิงเกอที่อยู่เรือนฉีอู๋ ปี้จูกำลังช่วยอันหลิงเกอทำยาสมุนไพรเผื่อไว้ใช้ในยามจำเป็นจนบริเวณหน้าผากของพวกนางมีเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นมา และตอนนี้นางขมวดคิ้วคล้ายกำลังสงสัยอันใดอยู่ “คุณหนู เหตุใดคุณหนูรองจึงคิดสั้นเจ้าคะ?” ปี้จูเช็ดเหงื่อตรงหน้าผากแล้วเอ่ยถามอย่างอดมิได้ ตอนนี้ตำแหน่งภายในจวนของอันหลิงเกอค่อย ๆ มั่นคงขึ้น เป็นเหตุให้เรื่องที่อันหลิงเฉว่คิดสั้นก็มีสาวใช้รีบมารายงานทันที ปี้จูได้รับรู้พร้อมอันหลิงเกอ ทว่านางมิเข้าใจเหตุใดฮูหยินรองสนทนากับคุณหนูรองมิกี่คำก็ทำให้คุณหนูรองผูกคอตายได้แล้ว เดิมทีคุณหนูรองก็มิใช่คนอ่อนแอถึงเพียงนั้น อันหลิงเกอส่งยิ้มให้นางอย่างเอ็นดู “น้องรองมิได้คิดสั้นจริง ๆ หรอก นางสั่งให้สาวใช้ไปเรียกท่านย่ามาก่อน ในระหว่างที่ท่านย่าเปิดประตูเข้ามา นางจึงถีบเก้าอี้ทิ้ง เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ผ่านการจัดเตรียมเอาไว้แล้ว” “คุณหนูหมายความว่าคุณหนูรองวางแผนทั้งหมดเลยหรือเจ้าคะ ? ” เมื่อปี้จูได้รับฟังและเข้าใจถึงแผนการของอันหลิงเฉว่ ก็เป็นเหตุให้นางรู้สึกเย็นวาบไปทั้งกาย หากคนผู้หนึ่งสามารถใช้ชีวิตของตนมาใส่ร้ายอื่น… คนผู้นั้นต้องโหดเหี้ยมเพียงใดถึงจักทำเยี่ยงนี้ได้ “เจ้าอย่าลืมสิ แม้ว่าภายนอกของน้องรองจักดูใสซื่อไร้เดียงสา ทว่าในคราแรกที่นางมาถึงจวนก็มอบถุงหอมกลิ่นชะมดเป็นของขวัญแก่ข้าแล้ว” ในตอนนั้นอันหลิงเฉว่ยังคิดกลลวงทำร้ายนางได้ แล้วคนเยี่ยงนี้หรือจักคิดสั้นทำร้ายตนเองเพราะคำพูดมิกี่คำ “ยิ่งไปกว่านั้นคือนางผูกคอต่อหน้าท่านย่า เพราะนางคิดเอาไว้แล้วว่าท่านย่าจักช่วยนางอย่างแน่นอน เมื่อเป็นเช่นนั้นนางย่อมมิเป็นอันตรายถึงชีวิตทั้งยังสามารถได้รับความห่วงใยจากท่านย่า เมื่อท่านย่าทราบสาเหตุว่าอี๋เหนียงทำให้น้องรองคิดสั้น ท่านย่าต้องไปกล่าวโทษอี๋เหนียงเป็นแน่ ทุกสิ่งจึงสมปรารถนาของนาง” การกระทำของอันหลิงเฉว่เป็นการเตือนหลี่ซื่อที่ดูถูกฐานะบิดา นางจักทำให้หลี่ ซื่อรู้ว่าแม้นางมิใช่บุตรสาวของท่านโหวแต่ก็มิใช่คนที่อนุภรรยาจักมาตักเตือนได้โดยง่าย หลี่ซื่อคือผู้อาวุโสที่ดูแลจวนมาหลายสิบปี บัดนี้ถูกอันหลิงเฉว่เล่นงานและโดนฮูหยินผู้เฒ่าต่อว่าจนอับอายจึงเป็นเหตุให้ทุกคนในจวนรับรู้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าคอยปกป้องอันหลิงเฉว่อยู่ ต่อจากนั้นคงมิมีผู้ใดกล้าหาเรื่องอันหลิงเฉว่อีกต่อไป ปี้จูได้ฟังอันหลิงเกออธิบายออกมาเยี่ยงนี่พลันรู้สึกเกรงกลัวอันหลิงเฉว่ขึ้นมา “โชคดีที่คุณหนูมีไหวพริบ ล่วงรู้ความคิดชั่วร้ายของคุณหนูรองเสียก่อน ท่านจึงมิโดนนางเล่นงานไปด้วยเจ้าค่ะ” อันหลิงเกอแสดงท่าทางคล้ายจักเอ่ยบางอย่างออกมา แต่เห็นแม่นมจ้าวเดินเข้ามาเสียก่อน “คุณหนูของข้า นี่ท่านกำลังทำอันใดอยู่เจ้าคะ?” นางชี้ไปทางหญ้าสมุนไพรบนพื้นแล้วกล่าวเสียงดังออกมา จากนั้นก็ยกมือเท้าสะเอวแล้วตำหนิปี้จู “เจ้าดูแลคุณหนูเยี่ยงไร เหตุใดจึงปล่อยคุณหนูทำสิ่งเหล่านี้โดยมิห้ามปราม ? “ ปี้จูและแม่นมจ้าวมิค่อยลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อโดนแม่นมจ้าวต่อว่าก็ทำให้ปี้จูรู้สึกมิพอใจ “แม่นมมิธุระอันใด?” อันหลิงเกอเห็นแม่นมจ้าวจงใจทำให้ปี้จูอามรมณ์เสีย นาง จึงออกหน้าเอ่ยถาม แม่นมจ้าวก็ตอบด้วยท่าทีนอบน้อม “ข้าน้อยได้ยินว่าคุณหนูรองคิดสั้น โชคดีที่ฮูหยินผู้เฒ่าไปเห็นเสียก่อนจึงช่วยเหลือนางไว้ทัน ในตอนนี้คุณหนูรองฟื้นขึ้นมาแล้วเจ้าค่ะ ข้าน้อยคิดว่าคุณหนูสนิทกับคุณหนูรองมาตลอดก็ควรไปเยี่ยมนางเสียหน่อยเจ้าค่ะ” อันหลิงเกอแสร้งทำหน้าตกใจแล้วรีบถามอย่างร้อนใจ “น้องรองฆ่าตัวตายเยี่ยงนั้นหรือ มันเกิดเรื่องอันใดขึ้น ? ตอนนี้นางเป็นเยี่ยงไรบ้าง เร็วเข้า ! แม่นมรีบพาข้าไปดูน้องรองเดี๋ยวนี้” ท่าทีตกตะลึงของอันหลิงเกอทำให้แม่นมจ้าวหัวเราะเยาะในใจ รู้สึกโชคดีที่ตนได้พึ่งพิงฮูหยินรอง เพราะถ้าให้นางพึ่งพิงเจ้านายที่โง่เขลาเยี่ยงนี้ มิช้าต้องถูกฮูหยินรองและคุณหนูสามเล่นงานเป็นแน่ แม้ภายในใจของนางจักคิดเยี่ยงนี้ ทว่าใบหน้ากลับแสดงความเป็นห่วงออกมา “คุณหนูรองได้ฮูหยินผู้เฒ่าช่วยได้ทัน ตอนนี้มิมีปัญหาอันใดแล้วเจ้าค่ะ แต่ทุกคนกลัวว่าคุณหนูรองจักคิดสั้นอีก ข้าน้อยคิดได้ว่าคุณหนูสนิทสนมกับคุณหนูรองที่สุด จึงมาถามความเห็นของคุณหนูเจ้าค่ะ” อันหลิงเกอได้ฟังก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก “ได้ทราบว่าน้องหญิงมิเป็นอันใด ข้าก็สบายใจแล้ว” “แม่นมไปหาน้องหญิงกับข้าดีหรือไม่ ท่านดูแลข้ามานานหลายปีย่อมรู้ว่าควรปลอบใจน้องหญิงเยี่ยงไร” “ข้าน้อยมิมีความสามารถเยี่ยงนั้นหรอกเจ้าค่ะ ที่ดูแลคุณหนูมาได้หลายปีก็เพราะคุณหนูรู้ความและเลี้ยงง่าย มิเช่นนั้นเกรงว่าข้าน้อยคงดูแลคุณหนูได้มิดีพอเจ้าค่ะ” “ถ้าเยี่ยงนั้นข้าให้ปี้จูไปด้วยแล้วกัน” อันหลิงเกอกล่าวออกไป พร้อมเลิกคิ้วด้วยความสงสัยในตัวแม่นมจ้าวเล็กน้อย แม่นมจ้าวรีบพยักหน้าแล้วสั่งให้ปี้จูดูแลอันหลิงเกอให้ดี “ปี้จูอยู่ข้างกายคุณหนูมาโดยตลอด คาดว่าพอเข้าใจคุณหนูรองอยู่บ้าง หากให้นางไปพร้อมคุณหนู ข้าน้อยคิดว่าเหมาะสมที่สุดเจ้าค่ะ” แม่นมจ้าวเอาแต่เร่งให้อันหลิงเกอไปเยี่ยมอันหลิงเฉว่ เป็นเหตุให้อันหลิงเกอเกิดความสงสัยว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอันใดอยู่ “ปี้จูมิเคยดูแลนางมาก่อน ข้าเกรงว่านางจักดูแลน้องรองได้มิดี” “คุณหนูอย่าคิดมากเลยเจ้าค่ะ” แม่นมจ้าวส่ายศีรษะแล้วพูดจริงจัง “หากท่านไปเยี่ยม คุณหนูรองต้องดีใจแน่ นี่เป็นน้ำใจที่มิมีสิ่งใดแลกได้ คุณหนูรองรู้ว่าคุณหนูเป็นห่วงจักคิดสั้นอีกได้เยี่ยงไรเจ้าคะ” อันหลิงเกอขมวดคิ้ว จากนั้นก็พยักหน้ารับ “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าจักพาปี้จูไปเยี่ยมน้องรอง” นางมิลืมกำชับให้ปี้จูเตรียมของขวัญ “เรื่องเก็บกวาดห้องนี้ก็ให้แม่นมจัดการต่อ ส่วนข้ากับปี้จูจักรีบกลับมา” “คุณหนูมิต้องเป็นห่วง ข้าน้อยจักจัดการอย่างดีเจ้าค่ะ” เมื่อแม่นมจ้าวเห็นอันหลิงเกอและปี้จูเดินลับตาไป นางก็เดินเข้าห้องนอนของอันหลิงเกอแล้วเริ่มทำบางอย่างจนลืมสังเกตว่าหน้าประตูมีคนผู้หนึ่งยืนอยู่
ตอนที่ 73 เหตุเกิดจากแม่นม
เรื่องที่ฮูหยินผู้เฒ่าไปตักเตือนหลี่ซื่อถึงเรือนก็ลอยมาเข้าหูอันหลิงเกอที่อยู่เรือนฉีอู๋
ปี้จูกำลังช่วยอันหลิงเกอทำยาสมุนไพรเผื่อไว้ใช้ในยามจำเป็นจนบริเวณหน้าผากของพวกนางมีเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นมา และตอนนี้นางขมวดคิ้วคล้ายกำลังสงสัยอันใดอยู่
“คุณหนู เหตุใดคุณหนูรองจึงคิดสั้นเจ้าคะ?”
ปี้จูเช็ดเหงื่อตรงหน้าผากแล้วเอ่ยถามอย่างอดมิได้
ตอนนี้ตำแหน่งภายในจวนของอันหลิงเกอค่อย ๆ มั่นคงขึ้น เป็นเหตุให้เรื่องที่อันหลิงเฉว่คิดสั้นก็มีสาวใช้รีบมารายงานทันที
ปี้จูได้รับรู้พร้อมอันหลิงเกอ ทว่านางมิเข้าใจเหตุใดฮูหยินรองสนทนากับคุณหนูรองมิกี่คำก็ทำให้คุณหนูรองผูกคอตายได้แล้ว เดิมทีคุณหนูรองก็มิใช่คนอ่อนแอถึงเพียงนั้น
อันหลิงเกอส่งยิ้มให้นางอย่างเอ็นดู “น้องรองมิได้คิดสั้นจริง ๆ หรอก นางสั่งให้สาวใช้ไปเรียกท่านย่ามาก่อน ในระหว่างที่ท่านย่าเปิดประตูเข้ามา นางจึงถีบเก้าอี้ทิ้ง เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ผ่านการจัดเตรียมเอาไว้แล้ว”
“คุณหนูหมายความว่าคุณหนูรองวางแผนทั้งหมดเลยหรือเจ้าคะ ? ”
เมื่อปี้จูได้รับฟังและเข้าใจถึงแผนการของอันหลิงเฉว่ ก็เป็นเหตุให้นางรู้สึกเย็นวาบไปทั้งกาย
หากคนผู้หนึ่งสามารถใช้ชีวิตของตนมาใส่ร้ายอื่น…
คนผู้นั้นต้องโหดเหี้ยมเพียงใดถึงจักทำเยี่ยงนี้ได้
“เจ้าอย่าลืมสิ แม้ว่าภายนอกของน้องรองจักดูใสซื่อไร้เดียงสา ทว่าในคราแรกที่นางมาถึงจวนก็มอบถุงหอมกลิ่นชะมดเป็นของขวัญแก่ข้าแล้ว”
ในตอนนั้นอันหลิงเฉว่ยังคิดกลลวงทำร้ายนางได้ แล้วคนเยี่ยงนี้หรือจักคิดสั้นทำร้ายตนเองเพราะคำพูดมิกี่คำ
“ยิ่งไปกว่านั้นคือนางผูกคอต่อหน้าท่านย่า เพราะนางคิดเอาไว้แล้วว่าท่านย่าจักช่วยนางอย่างแน่นอน เมื่อเป็นเช่นนั้นนางย่อมมิเป็นอันตรายถึงชีวิตทั้งยังสามารถได้รับความห่วงใยจากท่านย่า เมื่อท่านย่าทราบสาเหตุว่าอี๋เหนียงทำให้น้องรองคิดสั้น ท่านย่าต้องไปกล่าวโทษอี๋เหนียงเป็นแน่ ทุกสิ่งจึงสมปรารถนาของนาง”
การกระทำของอันหลิงเฉว่เป็นการเตือนหลี่ซื่อที่ดูถูกฐานะบิดา นางจักทำให้หลี่
ซื่อรู้ว่าแม้นางมิใช่บุตรสาวของท่านโหวแต่ก็มิใช่คนที่อนุภรรยาจักมาตักเตือนได้โดยง่าย
หลี่ซื่อคือผู้อาวุโสที่ดูแลจวนมาหลายสิบปี บัดนี้ถูกอันหลิงเฉว่เล่นงานและโดนฮูหยินผู้เฒ่าต่อว่าจนอับอายจึงเป็นเหตุให้ทุกคนในจวนรับรู้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าคอยปกป้องอันหลิงเฉว่อยู่ ต่อจากนั้นคงมิมีผู้ใดกล้าหาเรื่องอันหลิงเฉว่อีกต่อไป
ปี้จูได้ฟังอันหลิงเกออธิบายออกมาเยี่ยงนี่พลันรู้สึกเกรงกลัวอันหลิงเฉว่ขึ้นมา
“โชคดีที่คุณหนูมีไหวพริบ ล่วงรู้ความคิดชั่วร้ายของคุณหนูรองเสียก่อน ท่านจึงมิโดนนางเล่นงานไปด้วยเจ้าค่ะ”
อันหลิงเกอแสดงท่าทางคล้ายจักเอ่ยบางอย่างออกมา แต่เห็นแม่นมจ้าวเดินเข้ามาเสียก่อน
“คุณหนูของข้า นี่ท่านกำลังทำอันใดอยู่เจ้าคะ?”
นางชี้ไปทางหญ้าสมุนไพรบนพื้นแล้วกล่าวเสียงดังออกมา จากนั้นก็ยกมือเท้าสะเอวแล้วตำหนิปี้จู
“เจ้าดูแลคุณหนูเยี่ยงไร เหตุใดจึงปล่อยคุณหนูทำสิ่งเหล่านี้โดยมิห้ามปราม ? “
ปี้จูและแม่นมจ้าวมิค่อยลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อโดนแม่นมจ้าวต่อว่าก็ทำให้ปี้จูรู้สึกมิพอใจ
“แม่นมมิธุระอันใด?”
อันหลิงเกอเห็นแม่นมจ้าวจงใจทำให้ปี้จูอามรมณ์เสีย นาง
จึงออกหน้าเอ่ยถาม
แม่นมจ้าวก็ตอบด้วยท่าทีนอบน้อม
“ข้าน้อยได้ยินว่าคุณหนูรองคิดสั้น โชคดีที่ฮูหยินผู้เฒ่าไปเห็นเสียก่อนจึงช่วยเหลือนางไว้ทัน ในตอนนี้คุณหนูรองฟื้นขึ้นมาแล้วเจ้าค่ะ ข้าน้อยคิดว่าคุณหนูสนิทกับคุณหนูรองมาตลอดก็ควรไปเยี่ยมนางเสียหน่อยเจ้าค่ะ”
อันหลิงเกอแสร้งทำหน้าตกใจแล้วรีบถามอย่างร้อนใจ
“น้องรองฆ่าตัวตายเยี่ยงนั้นหรือ มันเกิดเรื่องอันใดขึ้น ? ตอนนี้นางเป็นเยี่ยงไรบ้าง เร็วเข้า ! แม่นมรีบพาข้าไปดูน้องรองเดี๋ยวนี้”
ท่าทีตกตะลึงของอันหลิงเกอทำให้แม่นมจ้าวหัวเราะเยาะในใจ รู้สึกโชคดีที่ตนได้พึ่งพิงฮูหยินรอง เพราะถ้าให้นางพึ่งพิงเจ้านายที่โง่เขลาเยี่ยงนี้ มิช้าต้องถูกฮูหยินรองและคุณหนูสามเล่นงานเป็นแน่
แม้ภายในใจของนางจักคิดเยี่ยงนี้ ทว่าใบหน้ากลับแสดงความเป็นห่วงออกมา “คุณหนูรองได้ฮูหยินผู้เฒ่าช่วยได้ทัน ตอนนี้มิมีปัญหาอันใดแล้วเจ้าค่ะ แต่ทุกคนกลัวว่าคุณหนูรองจักคิดสั้นอีก ข้าน้อยคิดได้ว่าคุณหนูสนิทสนมกับคุณหนูรองที่สุด จึงมาถามความเห็นของคุณหนูเจ้าค่ะ”
อันหลิงเกอได้ฟังก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ได้ทราบว่าน้องหญิงมิเป็นอันใด ข้าก็สบายใจแล้ว”
“แม่นมไปหาน้องหญิงกับข้าดีหรือไม่ ท่านดูแลข้ามานานหลายปีย่อมรู้ว่าควรปลอบใจน้องหญิงเยี่ยงไร”
“ข้าน้อยมิมีความสามารถเยี่ยงนั้นหรอกเจ้าค่ะ ที่ดูแลคุณหนูมาได้หลายปีก็เพราะคุณหนูรู้ความและเลี้ยงง่าย มิเช่นนั้นเกรงว่าข้าน้อยคงดูแลคุณหนูได้มิดีพอเจ้าค่ะ”
“ถ้าเยี่ยงนั้นข้าให้ปี้จูไปด้วยแล้วกัน”
อันหลิงเกอกล่าวออกไป พร้อมเลิกคิ้วด้วยความสงสัยในตัวแม่นมจ้าวเล็กน้อย
แม่นมจ้าวรีบพยักหน้าแล้วสั่งให้ปี้จูดูแลอันหลิงเกอให้ดี
“ปี้จูอยู่ข้างกายคุณหนูมาโดยตลอด คาดว่าพอเข้าใจคุณหนูรองอยู่บ้าง หากให้นางไปพร้อมคุณหนู ข้าน้อยคิดว่าเหมาะสมที่สุดเจ้าค่ะ”
แม่นมจ้าวเอาแต่เร่งให้อันหลิงเกอไปเยี่ยมอันหลิงเฉว่ เป็นเหตุให้อันหลิงเกอเกิดความสงสัยว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอันใดอยู่
“ปี้จูมิเคยดูแลนางมาก่อน ข้าเกรงว่านางจักดูแลน้องรองได้มิดี”
“คุณหนูอย่าคิดมากเลยเจ้าค่ะ”
แม่นมจ้าวส่ายศีรษะแล้วพูดจริงจัง
“หากท่านไปเยี่ยม คุณหนูรองต้องดีใจแน่ นี่เป็นน้ำใจที่มิมีสิ่งใดแลกได้ คุณหนูรองรู้ว่าคุณหนูเป็นห่วงจักคิดสั้นอีกได้เยี่ยงไรเจ้าคะ”
อันหลิงเกอขมวดคิ้ว จากนั้นก็พยักหน้ารับ
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าจักพาปี้จูไปเยี่ยมน้องรอง”
นางมิลืมกำชับให้ปี้จูเตรียมของขวัญ
“เรื่องเก็บกวาดห้องนี้ก็ให้แม่นมจัดการต่อ ส่วนข้ากับปี้จูจักรีบกลับมา”
“คุณหนูมิต้องเป็นห่วง ข้าน้อยจักจัดการอย่างดีเจ้าค่ะ”
เมื่อแม่นมจ้าวเห็นอันหลิงเกอและปี้จูเดินลับตาไป นางก็เดินเข้าห้องนอนของอันหลิงเกอแล้วเริ่มทำบางอย่างจนลืมสังเกตว่าหน้าประตูมีคนผู้หนึ่งยืนอยู่