พลิกชะตาหมอยา - บทที่ 117 เล่นเกม
รอจนหนานกงเยว่หลีจากไปแล้ว สีหน้าของเฟิ่งชิงหัวค่อย ๆ กลายเป็นเข้าใจความหมาย
“น้องสาวของเจ้าผู้นี้ ช่างเจ้าเล่ห์เพทุบายยิ่งนัก เจ้าคิดที่จะช่วยนางจริง ๆ หรือ?” ด้านหลัง มีเสียงล้อเก้าอี้รถเข็นเข้ามาใกล้ เฟิ่งชิงหัวหมุนตัวกลับไปก็เห็นจ้านเป่ยเซียวที่ปรากฏตัวขึ้นภายในพลับพลา
เฟิ่งชิงหัวมุมปากยกขึ้นเล็กน้อย “ท่านอ๋อง แอบฟังผู้อื่นสนทนา ไม่ค่อยดีเลยหนา?”
จ้านเป่ยเซียวเลิกคิ้ว “เจ้าต้องการจะพูดว่า เมื่อครู่นี้เจ้าไม่รู้ว่ามีข้าอยู่ตรงนี้ตลอดเช่นนั้นหรือ? ไม่ใช่ว่าจงใจให้ข้าได้ยิน?”
เฟิ่งชิงหัวสองมือกอดอก “แน่นอนว่าจงใจให้ท่านได้ยินอยู่แล้ว เป็นเช่นไร ได้ยินว่าพี่สาวใหญ่ของข้าวางแผนจะใส่ร้ายคุณหนูเจียง รู้สึกเจ็บปวดใจหรือไม่? คิดจะออกโรงปกป้องคุณหนูเจียง?”
จ้านเป่ยเซียวราวกับว่าไม่ได้คำพูดของนาง สายตาของเขาจ้องไปที่ใบหน้าของเฟิ่งชิงหัวอย่างผิดสังเกต พูดตามจริง มันคือริมฝีปากของนาง
เมื่อเห็นรอยบวมแดงตรงนั้น ดวงตาของเขาก็หรี่ลง
เฟิ่งชิงหัวถูกเขาจ้องจนต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าว ขมวดคิ้วพูด “ท่านอ๋อง สีหน้าอะไรของท่าน ใช่ว่าข้าจะจัดการกับคนในใจของท่านเสียที่ไหน”
“คดีนี้ของเจ้า ยังต้องใช้เวลาอีกนานเพียงใดจึงจะมีผลลัพธ์?” จ้านเป่ยเซียวดึงสายตากลับมา พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“นี่น่ะหรือ จะว่าเร็วก็เร็ว จะว่าช้าก็ช้า ท่านอ๋องคิดว่าอย่างไร?”
“เช่นนั้นก็เร่งมือเสีย ที่นี่ไม่ได้น่าอยู่สักเท่าใด”
“ท่านอ๋องเบื่อแล้วอย่างนั้นหรือ? ไม่เช่นนั้น? คืนนี้พวกเรามาเล่นเกมกัน?” เฟิ่งชิงหัวพูดพร้อมรอยยิ้ม
“เกม?” จ้านเป่ยเซียวขมวดคิ้ว
เมื่อตกกลางคืน จ้านเป่ยเซียวจึงได้รู้ว่า เกมที่เฟิ่งชิงหัวพูดนั้น หมายความว่าอย่างไร
องค์ราชทายาท หนานกงเยว่หลี เจียงหยูหวัน เจียงเทา รวมถึงจ้านเป่ยเซียวก็ถูกเฟิ่งชิงหัวนัดมายังห้องของเจียงหยูหวัน เพื่อดูว่าคืนนี้จะมีวิญญาณอาฆาตมาเอาชีวิตหรือไม่
คนเหล่านี้เห็นด้วยโดยไม่พูดอะไรสักคำ อยู่ด้วยกันหลายคน ย่อมปลอดภัยกว่าการแยกกันอยู่
เพียงแค่นั่งอยู่เฉย ๆ ก็ไม่ใช่เรื่อง ฉะนั้นเฟิ่งชิงหัวจึงได้ยกเรื่องเล่นเกมขึ้นมาพูด นั่นก็คือมนุษย์หมาป่า
ในนี้มีมนุษย์หมาป่าสองคน เทพสองคน ชาวบ้านสองคน เพียงแค่ชาวบ้านสองคนหรือว่าเทพสองคนตายไป เช่นนั้นก็จะถือว่ามนุษย์หมาป่าชนะหากมนุษย์หมาป่าสองคนถูกฆ่าตาย เช่นนั้นชาวบ้านก็จะชนะ
คนเหล่านี้ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเกมดังกล่าว ต่างก็รู้สึกว่าแปลกและพบได้ยาก ทุกคนจึงมีความกระตือรือร้นที่จะลอง
หลังจากตั้งกฎเสร็จ ก็เริ่มหยิบกระดาษเพื่อกำหนดสถานะของตนเอง
เฟิ่งชิงหัวเอ่ยปากพูด “ฟ้ามืดแล้ว ทุกคนหลับตา มนุษย์หมาป่าโปรดลืมตา เจ้าต้องการฆ่าใคร แน่ใจแล้วว่าจะฆ่าใครก็ยื่นมืออกมาชี้ไปที่คนนั้น แม่มดแน่ใจหรือไม่ว่าจะช่วยคน นักพยากรณ์ตรวจสอบ เรียบร้อย ฟ้าสว่างแล้ว”
เมื่อพูดจบ เหล่าผู้คนก็พากันลืมตา พบว่าเจียงเทานอนอยู่บนพื้น ถือว่าถูกมนุษย์หมาป่าฆ่าตาย ไม่มีใครช่วย
“เอาล่ะ นักพยากรณ์ณ์สามารถรายงานการตรวจสอบได้”
หนานกงเยว่หลีชี้ไปทางองค์ราชทายาทด้วยความระมัดระวัง “ข้าพบว่า บนกระดาษขององค์ราชทายาทเขียนว่าเป็นมนุษย์หมาป่า”
จ้านถิงเฟิง:“……”
จ้านถิงเฟิงถูกลงคะแนนให้ฆ่า
จากนั้นก็ฟ้ามืดลงอีกครั้ง ตามที่คาดการณ์ไว้ หนานกงเยว่หลีถูกฆ่า จากนั้นก็ถูกแม่มดช่วยไว้
หนานกงเยว่หลีชี้ไปยังเฟิ่งชิงหัว “ข้าพบว่า ผู้ชันสูตรเฟิ่งเป็นคนดี”
เฟิ่งชิงหัวยิ้มไปทางนาง “ขอบใจ ตอนนี้เรามาลงคะแนนเสียงฆ่าหมาป่ากันเถอะ ข้ากับคุณหนูหนานกงคือคนดี เช่นนั้นมนุษย์หมาป่าที่เหลือก็เริ่มจากคะแนนเสียงของเจียงหยูหวันและเจียงเทา รวมถึงท่านอ๋องด้วย ตอนนี้ใครเป็นแม่มดสามารถเปิดเผยตัวได้”
จากนั้น เจียงหยูหวันที่เป็นแม่มดก็ออกมา เหลือแค่เพียงเจียงเทากับจ้านเป่ยเซียว
เฟิ่งชิงหัวเหลือบมองทั้งสองคน “ลงคะแนนเถอะ หากลงผิดคืนนี้มนุษย์หมาป่าก็จะฆ่าข้า เช่นนั้นพวกเราคนดีก็จะแพ้ พวกเจ้าคิดว่าจะลงคะแนนที่ใคร?”
จ้านเป่ยเซียวกวาดตาไปทั่วทั้งสี่ทิศ สายตาเย็นยะเยือก เจียงหยูหวันกับหนานกงเยว่หลีต่างก็พากันก้มหน้าโดยสัญชาติญาณ ไม่กล้าสบตาเขา กระทั่งเฟิ่งชิงหัวชี้ไปยังจ้านเป่ยเซียวพร้อมพูด “เช่นนั้นก็ลงคะแนนที่ท่านอ๋องแล้วกัน”