พลิกชะตาหมอยา - บทที่ 134 ไม่ใช่พี่น้อง
ในห้องมืดทึม ถ้าหากตอนนี้องค์หญิงซีหลันตกใจตื่น จะต้องจะต้องตกใจกลัวสภาพการณ์ข้างหน้าเป็นแน่
กลางห้องยังคงเหลือกลิ่นหอมของต้นดาตูราจาง ๆ กลิ่นนี้นำมาซึ่งผลที่ทำให้เคลิบเคลิ้ม โดยทั่วไปแล้วแม้แต่นายพลที่จิตใจเด็ดเดี่ยวก็ยังมิอาจต้านทาน ทว่าองค์หญิงซีหลันผู้นี้กลับไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย พอที่จะเห็นได้ว่าคนตรงหน้าที่เคยป้องกันการสะกดจิตคือคนที่ระงับนางพูดความลับอะไรออกไป
แต่นี่ไม่ใช่เรื่องยากกับเฟิ่งชิงหัว เพียงเห็นนางเปิดเข็มเงินแผงหนึ่ง จากนั้นหยิบเข็มสองเล่มที่บางที่สุดแทงไปที่หว่างคิ้วขององค์หญิงซีหลันตลอดจนร่อมริมฝีปากสองจุด ต่อมาก็แทงเข็มเงินเข้าไปกลางศีรษะ
มือทั้งสองข้างถ่ายทอดแรงภายในที่เข็มเงินทั้งสาม ก็เห็นว่าเข็มเงินไม่หยุดสั่นไหวเบา ๆ
เดิมทีองค์หญิงซีหลันที่นอนหลับใหลคร่ำครวญ ท้ายที่สุดก็ลืมตาขึ้นช้า ๆ นัยน์ตาคู่นั้นว่างเปล่า รูม่านตาหย่อนยาน
เฟิ่งชิงหัวปล่อยมือ นั่งอยู่ข้าง ๆ รินชาให้ตนเอง เห็นองค์หญิงซีหลันยังคงไม่ถูกปลดปล่อยจากการคุมขัง ก็รู้ว่าตนเองสะกดจิตนางได้สำเร็จ
“เจ้าชื่ออะไร ?”
“ซีหลัน” น้ำเสียงองค์หญิงซีหลันแข็งทื่อ กล่าวอย่างอยู่ในกรอบ
เฟิ่งชิงหัวพยังหน้า กล่าวถามต่อ : “คราวนี้มาที่นครหลวงเพราะเหตุใด ?”
“ก่อการต่อสู่ในเทียนหลิง เป่ยเว่ยจะได้รับผลประโยชน์”
เฟิ่งชิงหัวถูคางไปมา ไม่เหนือการคาดหมายสักนิด
ถึงอย่างไรเป่ยเว่ยและเทียนหลิงก็ต่อสู้ทั้งต่อหน้าและลับหลังมาเป็นสิบปี จู่ ๆ จะมาเกี่ยวดองกันได้อย่างไร แน่นอนว่าต่อหน้าทำเป็นห่วงใยลับหลังมุ่งร้าย วางใจไม่ได้
เรื่องนี้นางมิได้เกี่ยวข้องอะไร เพียงแค่จ้องโฉมหน้าขององค์หญิงซีหลันจึงเอ่ยปากถาม : “เจ้ารู้จักคนคนหนึ่งที่เหมือนกับเจ้า หรือจะพูดว่าคล้ายคลึงกับเจ้าไหม ?”
องค์หญิงซีหลันส่ายหน้าแข็งทื่อ
เฟิ่งชิงหัวคิ้วขมวด คาดไม่ถึงว่าไม่ เป็นไปได้เช่นไร
รูปโฉมของแม่นางคล้ายคลึงกับนางไม่น้อยกว่าแปดส่วน ทั้งองค์หญิงซีหลันผู้นี้เกือบจะเหมือนนางทุกประการ เพียงแค่รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นไปไม่ได้ เหตุใดจึงไม่มีความสัมพันธ์ใดกับนางเลย
ถ้าเป็นปัจจุบันก็คงดี สามารถเทียบ DNA ได้โดยตรงเพื่อดูว่านางมีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดหรือไม่
น่าเสียดายเป็นสมัยโบราณสถิติหยดเลือดพิสูจน์สายเลือดนั้นต่ำเกินไป สำหรับระหว่างคนรุ่นก่อนและรุ่นหลังยังถือว่ามีประสิทธิผลอยู่บ้าง ถ้าเป็นพี่น้องคนละยุคผลคงไม่มากนัก
เฟิ่งชิงหัวครุ่นคิด จู่ ๆ ก็กล่าว : “วันเกิดเจ้าเมื่อไหร่ ?”
“วันที่แปด เดือนเจ็ด ปีเจ๋อหลิง46” องค์หญิงซีหลันกล่าวแข็งทื่อ
เฟิ่งชิงลูบคางไปมา ส่ายหน้า : “ถ้าหากเป็นเช่นนี้ ก็คงจะไม่ใช่ความสัมพันธ์พี่น้องฝาแฝดกับข้าแล้ว ถึงแม้ไม่รู้ว่าเจ๋อหลิงคือกี่ปี แต่ข้าเกิดเดือนสอง นี่ก็ห่างกันมากแล้ว”
ดูเหมือนจริง ๆ จะเป็นคนที่มีความคล้ายสินะ นางคงคิดมากเกินไปแล้ว แม่ของนางคงไม่ใช่คนเป่ยเว่ย
เฟิ่งชิงหัวคิดเช่นนี้ ก็ยกแขนเสื้อขึ้นและกวาดใบหน้าขององค์หญิงซีหลัน นางถอยหลังสองสามก้าวและกลับไปที่เตียง
เฟิ่งชิงหัวเก็บเข็มและจากไป นอกประตู อู่ตู๋จื่อรีบเร่งตามมา อารมณ์บนสีหน้าเต็มไปด้วยความเลื่อมใส
“อาจารย์ย่า ต่อไปจะทำเช่นไรดีขอรับ ? ยังจะรักษานางไหม ?” อู่ตู๋จื่อกล่าวถาม
เฟิ่งชิงหัวลูบคางพลางกล่าว : “รักษาแน่นอนว่าต้องรักษา ถ้าหากไม่รักษา ป้ายร้านค้าของเราจะไม่เสียหายหรือ ? ทว่ามองดูรูปโฉมที่คล้ายกับข้าเช่นนี้ ในใจยังรู้สึกแปลก ๆ”
อู่ตู๋จื่อรู้กัน : “เข้าใจขอรับ อาจารย์ย่าท่านวางใจได้ รับรองว่าจะทำให้ท่านพึงพอใจ”