CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

พลิกชะตาหมอยา - บทที่ 300 เจ้าอัปลักษณ์ข้าตาบอด

  1. Home
  2. พลิกชะตาหมอยา
  3. บทที่ 300 เจ้าอัปลักษณ์ข้าตาบอด
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว บทที่ 300 เจ้าอัปลักษณ์ข้าตาบอด

จ้านเป่ยเซียวจ้องไปยังเฟิ่งชิงหัว เห็นสีหน้าของนางจริงจัง ความสงสัยก็ยังแขวนอยู่บนใบหน้า เขาก็เลยผิดหวังอยู่บ้างเล็กน้อย อีกทั้งยังนับว่าทำให้ถอนหายใจออกมาได้ ก็เลย “อืม” ออกมาสั้นๆ คำหนึ่ง

“ก็ได้ เจ้าดื่มยาในตอนที่ยังร้อนอยู่ไปก่อน ข้านวดให้เจ้าเสร็จแล้วค่อยไปดูสถานการณ์ของเขา”

จ้านเป่ยเซียวขมวดคิ้วแล้วก็ดื่มยาจนหมด เฟิ่งชิงหัวก็เลยรับข้ามมือมาแล้วกล่าวว่า: “งั้นเริ่มใหม่แล้วนะ เจ้าอย่าตื่นเต้นจนเกินไป”

ในขณะที่พูดอยู่ก็เริ่มจับไปยังจุดชีพจรใหม่อีกครั้งตั้งแต่เริ่มเลย

ก็ยังคงมีความรู้สึกเจ็บปวดเหมือนเมื่อครู่อยู่ดี แต่ว่าครั้งนี้จ้านเป่ยเซียวกลับไม่ใช่อึมครึมและไม่ส่งเสียง แต่กลับเริ่มพูดคุยออกมาทันที

“เฟิ่งชิงหัว มือของเจ้าทำไมถึงได้หนักเช่นนั้น” จ้านเป่ยเซียวไม่พอใจ

“แรงที่ลงไปก็เหมือนเดิม เป็นเพราะยาได้ซึมซาบเข้าไปในร่างของเจ้าแล้ว ดังนั้นความเจ็บปวดก็เลยยิ่งหนักขึ้นอีก” เฟิ่งชิงหัวกล่าวออกมาอย่างละเอียด

“เฟิ่งชิงหัว เจ้าจะลอบสังหารสวามีตัวเองหรือไง?” จ้านเป่ยเซียวซื้ดไปหนึ่งคำ

“นั่นจะเป็นไปได้ยังไง ลอบสังหารเจ้า ข้าไม่กลายเป็นนักโทษไปเหรอ เจ้าทนเอาหน่อย นวดเสร็จก็ดีขึ้นแล้ว” เฟิ่งชิงหัวกล่าวปลอบใจ

“เฟิ่งชิงหัว เจ้าสำรวมหน่อย จะนวดก็นวดให้ดีๆ อย่าลูบคลำส่งเดช” สีหน้าของจ้านเป่ยเซียวยากแค้นแสนเข็ญ เพียงแต่ว่าใส่หน้ากากเอาไว้มองไม่ออก เสียงที่เปล่งออกมาก็เข้มขึ้นอีกด้วย

เนี่ยหานซิงที่ถูกยังโดยฉากกั้นลมไว้แม้ว่าจะไม่เห็นฉากอีกด้านหนึ่ง แต่ว่าแค่ฟังน้ำเสียงนั้นก็รู้สึกว่าตนเองอยู่ตรงนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นส่วนเกินไปเลย

ที่แท้คนผู้นั้นที่อยู่อีกด้านหนึ่งของฉากกั้นลมเป็นสามีของอาจารย์ งั้นก็ควรจะเป็นอาจารย์อาของเขาน่ะสิ

พวกเขาดูไปแล้วเหมือนว่าจะรักใคร่กันมาก ตอนนี้รูปลักษณ์ของอาจารย์แตกต่างอย่างมากกับรูปลักษณ์ยากจะหยั่งลึกก่อนหน้านี้ที่เขาเห็นพบเจอมาก่อนเลย

เนี่ยหานซิงก็เลยอดที่จะสงสัยอยู่บ้างไม่ได้ ชายที่สามารถอภิเษกกับอาจารย์ได้นั้นที่แท้แล้วเป็นใครกัน ควรจะเป็นหงส์หรือมังกรในฝูงชนเป็นแน่

แม้ว่าจะได้เพียงไม่กี่ประโยค แต่เขาก็สามารถรับรู้ได้ถึงความแตกต่างของพลังอำนาจของคนผู้นั้น

เฟิ่งชิงหัวหนึ่งฝ่ามือกดลงไปบนบ่าของฝ่ายชาย เปล่งเสียงดังสนั่นขึ้นมา

“คำพูดไร้สาระของเจ้าทำไมถึงได้เยอะเช่นนั้น ทนเอา!” เฟิ่งชิงหัวถูกเขาเอะอะโวยวายจนไม่ไหว

จ้านเป่ยเซียวขบกราม: “ไม่ใช่เจ้าบอกว่าอย่าทนหรือ ตอนนี้ก็ให้ทนอีก ผู้หญิงอย่างเจ้าเช่นนี้ทำไมถึงได้กะล่อนเช่นนี้!”

“เมื่อครู่ข้าให้เจ้าทนคืออย่าเกร็งกล้ามเนื้อในร่างกาย เช่นนี้ข้าหาจุชีพจรไม่ง่ายเลย ตอนนี้ให้เจ้าทนคือเพราะว่าเจ้าโวยวายเกินไป ด้านข้างยังมีคนอยู่ เจ้าร้องซะขนาดนี้ คนอื่นยังคิดว่าข้าทำอะไรเจ้าอีก” สีหน้าของเฟิ่งชิงหัวเปี่ยมไปด้วยการไร้ซึ่งคำพูดใด

จ้านเป่ยเซียวเปล่งวาจาเย็นชาออกมา: “ในเมื่อรู้ว่าไม่ดี เจ้าก็ไม่ควรนำคนเข้ามาในนี้”

เขาเป็นคนรักความสะอาดเป็นชีวิตจิตใจแต่ไหนแต่ไร ไม่เคยแช่น้ำกับคนอื่นเลย แม้ว่าในตอนนี้มีฉากกั้นลมบังเอาไว้อยู่ แต่ยังไงก็ยังอยู่ใต้ชายคาห้องเดียวกัน ในใจของเขาย่อมไม่สบอารมณ์เป็นแน่

เฟิ่งชิงหัวยื่นมือไปอุดปากของเขาเอไว้แน่น: “เจ้าไม่พูดก็ไม่มีใครว่าเจ้าเป็นใบ้หรอกนะ”

ถูกมือที่เปียกปอนอีกทั้งยังอาบกลิ่นยาไว้อย่างเข้มข้นของนางมาอุดไปที่ปากแน่น จ้านเป่ยเซียวจ้องมาที่นางอย่างโมโห สายตานั้นอยากจะฆ่าคนเลย

เฟิ่งชิงหัวค่อยๆ ปล่อยมือออก: “ใจร้อนไปชั่วขณะ ฮ่าๆ อย่าสนใจกับรายละเอียดเล็กน้อยพวกนี้เลย ตอนนี้เจ้าทั้งตัวก็มีแต่กลิ่นประมาณนี้ไม่ใช่หรือ เมื่อครู่ที่ดื่มลงไปก็ไม่ได้ต่างกันมาก”

รอจนนวดครบกระบวนการเสร็จสิ้นหนึ่งรอบ เฟิ่งชิงหัวเหนื่อยจนมือทั้งสองข้างยกไม่ขึ้น เช็ดมืออย่างขอไปทีแล้วกล่าวว่า: “เจ้าแช่ไปอีกสิบห้านาทีก็ลุกขึ้นได้แล้ว ข้าจะข้ามไปดูสถานการณ์ทางนั้นหน่อย”

“ดูอะไรนักหนา ในนี้มีเพียงเจ้าที่เรียนแพทย์มาคนเดียวหรือไง?” จ้านเป่ยเซียวสบตาด้วยความโกรธ

“ดวงตานั้นของเจ้า อย่างจ้องอีกเลย หากจ้องถลึงตาอีกจะหลุดออกมาแล้ว จะให้ข้าเอาชามมารับไว้ไหมล่ะ? เพียงแต่ข้าไม่อาจใส่ลูกกระตาเข้าไปให้คนได้นะ ต่อไปเจ้าก็จะกลายเป็นท่านอ๋องที่ขาพิการตาบอดอารมณ์ร้าย ยิ่งไม่มีคนยินดีจะมาสนใจเจ้าเลย” เฟิ่งชิงหัวกล่าวยั่วเย้าออกมา

จ้านเป่ยเซียวเปล่งเสียงเย็นชาออกมาว่า: “เจ้าอัปลักษณ์ข้าตาบอด ไม่ใช่ว่าเข้ากันดีหรือ?”

เฟิ่งชิงหัวจุกไปเลย ผ่านไปนานมากจึงพูดออกมาหนึ่งประโยค: “ตอนนี้เจ้าปากร้ายขึ้นมาจริงๆ แม้แต่ตัวเองก็ยังน่าเกลียดเลย”

จ้านเป่ยเซียวไม่ได้พูดอะไร แล้วก็ดีดนิ้วขึ้นมาในบัดดล หลิวหยิ่งที่อยู่ด้านนอกรีบห้วอู่ตู๋จื่อเข้ามาทันที

“อย่ามาดึงเสื้อผ้าของข้า ข้าจะบอกเจ้าให้ว่าข้าเป็นหมอเทวดาเชียวนะ เจ้ากล้าไม่นอบน้อมต่อหมอเทวดาหรือ!” อู่ตู๋จื่อกล่าวออกมาด้วยความโหวกเหวกโวยวาย และในตอนนี้หลิวหยิ่งก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร

เฟิ่งชิงหัวนวดขมับไปมา: “ในเมื่อมาแล้ว เจ้าก็ไปช่วยหานซิงดูหน่อย แช่ไปพอประมาณแล้วก็ออกมาได้แล้วล่ะ หลิวหยิ่ง ดูนายท่านของเจ้าให้ดี อีก 15 นาทีค่อยล้างตัวให้เขาด้วย”

หลิวหยิ่งยืนอยู่ตรงหน้าประตู: “พระชายา ข้านี่ ก็ไม่เข้าใจอะไรเท่าไร ท่านดูนายท่านเองจะดีกว่า ท่านจะทำอะไร ข้าน้อยจะช่วยไปจัดการให้ท่านเอง”

เฟิ่งชิงหัวไม่ได้สบอารมณ์มากนัก: “ข้าจะไปพักผ่อน หรือว่าเจ้าจะช่วยพักผ่อนแทนข้างั้นหรือ?”

“ข้าน้อยมิกล้า พระชายาเชิญขอรับ” หลิวหยิ่งรับโค้งเอวแล้วยกมือขึ้นทันที

เฟิ่งชิงหัวบิดแขนที่ปวดเมื่อยแล้วก็เดินออกด้านนอกไปพลางกล่าวออกมาพลางว่า: “ไม่มีแรงทำอาการแล้ว อาหารการกินพวกเจ้าจัดการกันเองละกัน แล้วก็ถือโอกาสทำส่งมาที่ห้องข้าชุดหนึ่งด้วย”

หลังจากเฟิ่งชิงหัวกลับห้องก็ล้างเนื้อล้างตัวอย่างเรียบง่ายแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทั้งชุด จากนั้นก็เอนหลับไปบนเตียง ในความฝันกลับฝันถึงตอนที่นางจับเหลียนเจี้ยงไว้ กลีบดอกสีแดงกระจายเต็มไปหมด

กลีบดอกหนาแน่นขึ้น แทบจะปกคลุมนางเอาไว้จนมิดศีรษะ ไม่เหลือที่ว่างให้ได้หายใจเลยแม้แต่นิด

เฟิ่งชิงหัวยกมือขึ้นอยากจะเบียดฝ่าวงล้อนี้ออกไป แต่มือเท้ากลับดูเหมือนว่าถูกมัดเอาไว้แน่นขยับเขยื้อนไม่ได้เลย กลีบดอกรอบๆ จู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นเปลวเพลิง แผดเผาร่างของนางไม่หยุด

มีคนยืนอยู่บนที่สูงมองมาที่นาง แสยะยิ้มแปลกๆ ออกมา: “เฟิ่งชิงหัว เจ้าไม่ใช่ว่าเป็นศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงที่สุดหรือ ทำไมถึงได้มีความอดทนได้เพียงเท่านี้เอง พวกเฒ่าที่ดื้อดึงกลุ่มนั้นบ่มเพาะสวะคนหนึ่งเช่นนี้ออกมาอย่างทะนุถนอม ช่างทำให้คนผิดหวังจริงๆ”

เปลวเพลิงนั้นทะลวงเข้าไปในร่างกาย แผดเผาไม่หยุด เจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งเนื้อทั้งตัว รอที่จะขุดเพลิงก้อนนั้นออกมาไม่ไหวแล้ว

และในตอนนี้เอง คมกระบี่อันแหลมคมเล่มหนึ่งที่พาดผ่าน กวัดแกว่งเพลิงที่อยู่รอบร่างของนางออกไป แล้วพานางออกจากกลางเปลวเพลิงนั้นมา

เฟิ่งชิงหัวมองดูอย่างละเอียดกลับพบว่าคนที่มานั้นสวมหน้ากากเอาไว้ รอบกายถูกเผาจนมอดไหม้ผมเผ้ารุงรังมีกลิ่นเหม็นไหม้ไปหมดแล้ว

หน้ากากหลุดออก เผยให้เห็นใบหน้าที่แยกแยะได้ไม่ชัดนักออกมา เฟิ่งชิงหัวกรีดร้องออกมาแล้วก็ลุกนั่งขึ้นมาเลย อ้าปากหายใจหอบอย่างหนัก

คราวนี้ถึงรู้สึกตัวได้ว่าตนเองกำลังนอนอยู่บนเตียงดีๆ รอบด้านมืดครึ้มไปหมด ไม่มีแสงสว่างแม้แต่นิดเดียว

เฟิ่งชิงหัวคลุมเสื้อแล้วลงจากเตียงมายังในลานนั่งลงตรงโต๊ะหิน ในหัวสมองยังคงหวนคิดถึงฉากในความฝันอยู่ ยังคงมีความหวาดผวาที่หลงเหลือไว้อยู่

ศิษย์ทรยศสำนักและคนผู้เรียกตนเองว่าล่วงรู้อนาคตผู้นั้นแห่งวัดหานซาน ยังมีหนานกงจี๋และเผ่าเซียนเปย์อีก แม้แต่คนที่อยู่เบื้องหลังที่สังหารซุนผินในวังหลวง ต่างก็มีความเกี่ยวพันกับกลีบดอกสีแดงนั้น ต้องมีอะไรที่เชื่อมโยงกันในนี้เป็นแน่

รู้สึกว่าหลังจากที่นางมาถึงเทียนหลิงก็พบเจอเรื่องราวไม่น้อยที่เกี่ยวพันกับเรื่องพวกนี้ ก็เหมือนกับว่ามีเส้นใยที่ไร้ตัวตนกำลังบงการอยู่เบื้องหลัง

คนที่อยู่เบื้องหลังนี้จะทำอะไรกันแน่?

เฟิ่งชิงหัวคิดจนสมองแทบจะระเบิดก็ยังคิดไม่ออกอยู่ดี อดไม่ได้ที่จะเริ่มกำมือเคาะศีรษะของตนขึ้นมา

“ค่ำมืดขนาดนี้แล้วทำร้ายตัวเองทำไม เจ้าเป็นคนบ้าหรือไง?” จ้านเป่ยเซียวเลื่อนเก้าอี้รถเข็นจากระยะไกลเข้ามาใกล้พร้อมกับเสียงที่ตามมา

เฟิ่งชิงหัวหันศีรษะไปมองเขา: “เจ้าก็ไม่ใช่ว่าดึกดื่นป่านนี้แล้วยังไม่นอนเช่นกันหรือ?”

ในขณะที่กำลังพูดอยู่กลับพบว่าบนขาของฝ่ายชายมีกล่องอาหารวางอยู่ ไม่รีรอให้เขาพูด เฟิ่งชิงหัวก็รับข้ามมือไปเลย เปิดออกดู กล่าวออกมาอย่างประหลาดใจว่า: “เปี๊ยะดอกบัว? เค้กกระต่าย? จ้านเป่ยเซียว ทำไมข้าถึงไม่รู้มาก่อนว่าจวนอ๋องยังมีพ่อครัวที่ร้ายกาจเช่นนี้? ยังร้อนอยู่เลย แค่ดูก็รู้ว่าเพิ่งจะทำออกมาเลยใช่เปล่า?”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 300 เจ้าอัปลักษณ์ข้าตาบอด"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์