พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1073 อารียาสลบ
เกียวโต คฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์
ในห้องนอนของอารียา
ดวงตาแดงก่ำทั้งสองของรพีพงษ์มองไปที่อารียาที่สลบไม่ฟื้นอยู่บนเตียง ถ้วยชาในมือถูกบีบขย้ำจนกลายเป็นผง กระจัดกระจายไปในอากาศ
“ทำไม? ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้? ก่อนหน้าที่ฉันจะไปเธอยังดีๆ ทำไมตอนนี้เธอถึงสลบไม่ฟื้น?”
สีหน้าท่าทางของรพีพงษ์ค่อนข้างโกรธ ชลาธิปและท่านคทาทั้งสองคนที่อยู่ข้างๆมองดูเขาด้วยความเป็นห่วง กลัวว่าเขาจะเป็นเพราะโกรธเกินไปทำเรื่องอะไรที่ไม่สามารถควบคุมได้
“รพีพงษ์ นายใจเย็นๆก่อน ตอนนี้อารียาแค่สลบไป ชีวิตไม่เป็นอะไรร้ายแรง พวกเราค่อยคิดหาทาง เธอจะฟื้นขึ้นมาเสมอ ”ชลาธิปปลอบใจ
รพีพงษ์สุดลมหายใจเข้าลึกๆ เดินไปข้างเตียง นั่งลงไป มือข้างหนึ่งจับของอารียาไว้
อารียาในเวลานี้หลับตาทั้งสองข้าง บนหน้าผาก เส้นเลือดสีดำขนาดเล็กปรากฏขึ้นมา ริมฝีปากของเธอเริ่มกลายเป็นสีม่วง และมองแวบแรกก็รู้ว่าโดนวางยาพิษ
แต่ในตอนนั้นชลาธิปได้บอกกับเขาแล้วว่า พวกเขาได้ว่าเชิญแพทย์ชั้นนำของโลกให้ช่วยตรวจอารียาแล้ว แม้ว่าเธอจะโดนวางยาพิษ แต่พิษนี้ไม่ได้คร่าชีวิตของเธอ ทำให้เธอตกอยู่ในการหลับใหล ไม่ทางฟื้นขึ้นมาอีก
และขณะที่อารียาหลับใหล สารพิษเหล่านั้นในร่างกายของเธอก็จะสะสมลึกลงไปเรื่อยๆ และในที่สุดก็จะคร่าชีวิตของเธอไป แต่กระบวนการนี้ใช้เวลานานมาก ตามการคาดการณ์ของแพทย์ สารพิษเหล่านี้ต้องการที่จะคร่าชีวิตของอารียา อย่างน้อยก็เป็นเวลาสิบปีขึ้นไป
ท่านคทาก็บอกกับรพีพงษ์ว่า พวกเขาได้ตรวจสอบผ่านกล้องวงจรปิด พบว่าปวัตรปวิชทั้งสองคนพี่น้องเป็นคนทำเรื่องนี้
สำหรับเหตุผลที่พวกเขาทำเช่นนี้ ทุกคนในตระกูลลัดดาวัลย์ต่างมึนงง แต่หลังจากที่รพีพงษ์ได้ยินว่าปวัตรปวิชทั้งสองคนเป็นคนทำ ในใจก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ไม่ว่าอย่าง รพีพงษ์ก็คาดไม่ถึงว่า ชัชพิสิฐจะให้ปวัตรปวิชมาคุมกันความปลอดภัยของทุกคนในตระกูลลัดดาวัลย์ แต่ในความเป็นจริงคือให้ทั้งสองคนมาเฝ้าติดตามคนของตระกูลลัดดาวัลย์
เมื่อชัชพิสิฐเกิดเรื่องทันที ปวัตรปวิชทั้งสองคนก็จะดำเนินการลงมือทันที
ที่สำคัญคือพวกเขาไม่ได้ลงมือกับคนอื่นในตระกูลลัดดาวัลย์ เพียงแค่ให้อารียาทานยาพิษหนึ่งเม็ด ดังนั้นสามารถมองออกมาได้ว่า ชัชพิสิฐรู้จุดอ่อนของรพีพงษ์เป็นอย่างดี เขารู้ว่าควรทำอย่างไรให้รพีพงษ์เจ็บปวด
ทำแบบนี้ ทำให้รพีพงษ์เจ็บปวดมากกว่าการฆ่าในทุกคนตระกูลลัดดาวัลย์
“ตรวจสอบเบาะแสของปวัตรปวิชทั้งสองพี่น้องเจอหรือยัง?”น้ำเสียงของรพีพงษ์เยือกเย็น กลิ่นอายแห่งการสังหารที่ไม่มีที่สิ้นสุดได้ถูกปลดปล่อยออกมา
“หลังจากวันนั้น พวกเราตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งเมือง รู้ว่าพวกเขาจากไปทางชานเมือง เบาะแสหลังจากนั้นก็ตรวจไม่พบ”ท่านคทาเอ่ยปากพูด
รพีพงษ์พยักหน้า เขารู้ว่าหลังจากที่ปวัตรปวิชทั้งสองพี่น้องทำเรื่องแบบนี้แล้วเป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ที่เกียวโต พวกเขาคงจะหลบซ่อนตัวอย่างแน่นอน รอโอกาสดำเนินการแก้แค้นรพีพงษ์อีกครั้ง
“ตอนนี้ช่วยฉันจับตาดูเบาะแสของทั้งสองคนอยู่เสมอ เกิดพบเบาะแสของพวกเขาสองคน รีบแจ้งให้ฉันทราบ ต่อให้พวกเขาจะหนีไปถึงวันสิ้นโลก ฉันก็จะหาตัวพวกเขาออกมาให้ได้อย่างแน่นอน!”
ทุกคนในตระกูลลัดดาวัลย์ต่างพยักหน้า รู้ว่าในเวลานี้รพีพงษ์อยู่ในอาการโกรธ เขาได้ถือว่าปวัตรปวิชทั้งสองคนพี่น้อง กลายเป็นศัตรูของตัวเอง
แล้วจ้องมองดูอารียาที่นอนอยู่บนเตียงเวลานาน หลังจากที่พยายามลองปลุกเธอหลายวิธีก็ไม่ได้ผล รพีพงษ์ทำได้เพียงถอนหายใจอย่างหมดหนทาง และลุกขึ้นจากข้างเตียง
“หนูลินล่ะ?”รพีพงษ์เอ่ยปากถาม
“สองวันนี้พี่สาเป็นคนเลี้ยงหนูลิน สองวันมานี้หนูน้อยคิดถึงแม่มาก มักจะร้องไม่หยุด”ชลาธิปเอ่ยปากพูด
รพีพงษ์พยักหน้า จากนั้นไปที่พี่สาเพื่อดูหนูลิน
เมื่อหนูลินเห็นรพีพงษ์เป็นอันดับแรก จึงยื่นมือออกไปให้รพีพงษ์ ให้รพีพงษ์อุ้ม
รพีพงษ์อุ้มเธอเข้ามาให้อ้อมกอด หนูน้อยก็ร้องไห้น้ำตาไหลพรากทันที
รพีพงษ์รีบปลอบเธอ ยื่นมือไปลูบหลังของเธอ
“หนูลินเป็นเด็กดี แม่จะฟื้นขึ้นมาในเร็วๆนี้ พ่อขอสัญญากับลูก จะไม่ให้แม่ของลูกเป็นอะไรไปทั้งนั้น”รพีพงษ์เอ่ยปากพูด
หนูน้อยไม่สนใจ ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดหัวใจ รพีพงษ์ที่ได้ยินก็เจ็บปวดใจ
ในเวลาเดียวกันเขาก็โชคดีอยู่บ้าง แม้ว่าปวัตรปวิชสองพี่น้องจะน่ารังเกียจ แต่ยังก็ยังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเล็กน้อย ไม่ได้ลงมือกับหนูลิน
ถ้าหากหนูลินก็ถูกพวกเขาทั้งสองคนทำร้ายด้วย ต่อให้รพีพงษ์ต้องพลิกแผ่นดินตามหา ก็จะหาตัวพวกเขาสองคนออกมาฆ่าทิ้งให้ได้
หลังจากที่ปลอบหนูลินสักพัก รพีพงษ์ก็เดินออกจากคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ หาชุติเทพมา อยากจะดูว่าเขาวิธีที่จะรักษาอารียาหรือไม่
หลังจากที่ชุติเทพได้ทำการวินิจฉัยและรักษาอารียา สีหน้าค่อนข้างแน่วแน่ บอกกับรพีพงษ์ว่าเขาไม่เคยเห็นพิษแบบนี้ในโลกนี้มาก่อน สามารถทำให้คนสลบไม่ฟื้น แต่ก็ไม่ได้ทำร้ายชีวิต ระยะเวลาออกฤทธิ์ของพิษจะนานถึงสิบปี สิ่งนี้สำหรับเขาแล้วเป็นเรื่องแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน
สำหรับวิธีการรักษา ชุติเทพก็ยิ่งไม่รู้จะรักษาอย่างไร เขาไม่สามารถบอกได้ว่าสารพิษอะไรอยู่ในร่างกายของอารียากันแน่
จากข้อมูลเชิงลึกของชุติเทพ เขาไม่เคยสัมผัสกับสารพิษแบบนี้มากก่อน ตามคำบอกเล่าของเขา เขาเดาว่าสารพิษแบบนี้ ไม่มีอยู่บนโลก
ในใจรพีพงษ์ค่อนข้างนับถือชื่นชมทักษะทางการแพทย์ของชุติเทพ คาดไม่ถึงเขาจะสามารถตัดสินออกมาได้ว่าสารพิษนี้ไม่มีอยู่บนโลก
รพีพงษ์ก็เดาได้พิษแบบนี้ชัชพิสิฐน่าจะนำมาจากในทวีปโอชวิน
ด้วยระดับทักษะทางการแพทย์ของโลก ต้องการจะถอนพิษ เป็นเรื่องยากมากจริงๆ
เขาแอบหัวเราะเยาะตัวเองอยู่ในใจ สิ่งที่ชัชพิสิฐอยากเห็น ก็คงจะเป็นตัวเองมีความหวังอยู่ในใจ แต่กลับทำอะไรไม่ได้
แต่ต่อให้พิษที่อารียาโดนจะเป็นของทวีปโอชวิน รพีพงษ์ก็จะหายาถอนพิษมาให้ได้อย่างแน่นอน จะช่วยเธอกลับมา
ต่อให้ต้องบุกป่า ฝ่าดง รพีพงษ์ก็ไม่มีทางลังเลแม้แต่น้อย
ชุติเทพไม่มีวิธีรักษา รพีพงษ์ฝากความไว้ที่บนตัวธัชธรรมและธีรพัฒน์ที่มีความรู้และประสบการณ์มากมาย
หลังจากที่อยู่ในตระกูลลัดดาวัลย์เป็นเวลาสองวัน รพีพงษ์ก็พาอารียา ไปยังเทือกเขาคุนหลุน หนึ่งคือพิจารณาถึงความปลอดภัยของสำนักงานใหญ่ของกลุ่มสิงโต อีกหนึ่งอย่างเพื่อให้ธัชธรรมและธีรพัฒน์สามารถรู้อาการตอนนี้ของอารียา
แน่นอนว่า หนูลินก็ถูกรพีพงษ์พาตัวมาด้วย ตอนนี้ ในใจของเขาสำนักงานใหญ่ของกลุ่มสิงโตเป็นสถานที่ที่ปลอดภัย ถ้าทิ้งหนูลิน ไว้ที่เกียวโต เขาไม่สบายใจ
หลังจากที่ธีรพัฒน์ทั้งสองคนดูอาการของอารียาเสร็จ ก็ขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าไม่มีวิธีถอนพิษได้
แต่ธีรพัฒน์กลับมองที่มาของยาพิษนี้ออก
“ถ้าหากฉันเดามาผิด สิ่งที่เธอทานลงไป น่าจะเป็นยาพันพิษ ยาพิษแบบนี้ เป็นของทวีปโอชวิน และยาถอนพิษมีแต่ที่ทวีปโอชวินมี นายต้องการถอนพิษให้กับเธอ คงต้องไปที่ทวีปโอชวินหนึ่งรอบ”ธีรพัฒน์ถอนหายใจแล้วพูด
เขาพูดแบบนี้ เพียงแค่ไม่อยากพูดมากเกินไป เนื่องจากเขาไม่สามารถทำให้รพีพงษ์ปล่อยวางไปได้ และตัวรพีพงษ์เองก็รู้ดี ไปทวีปโอชวินหนึ่งรอบ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ใบหน้าของรพีพงษ์เต็มไปด้วยความผิดหวัง พึมพำว่า: “หรือว่า ไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆเหรอ?”
ในขณะนี้ ธัชธรรมมองไปที่รพีพงษ์แวบหนึ่ง เอ่ยปากพูดว่า: “ฉันรู้จักคนคนหนึ่ง บางทีเขาอาจจะรู้ว่าควรถอนยาพิษนี้ได้อย่างไร”