พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1095 ปัญหาของนนทภู
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1095 ปัญหาของนนทภู
เทือกเขากิสนา
หลังจากลงจากเฮลิคอปเตอร์ รพีพงษ์ไม่ได้เสียเวลามากนัก และรีบมุ่งหน้าไปยังเกาะศูนย์กลาง
เจ้าหน้าที่ในเทือกเขากิสนารู้จักตัวตนของรพีพงษ์ดีมานานแล้ว หลังจากที่เห็นเขา ใบหน้าก็แสดงความเคารพ หลังจากที่รู้ว่าเขาต้องการไปที่เกาะศูนย์กลาง ก็รีบจัดเตรียมเรือให้เขาทันที
ไม่นาน รพีพงษ์ก็มาถึงเกาะศูนย์กลางและรีบตรงไปยังสถานที่ที่นนทภูอยู่
ในพริบตาเดียว รพีพงษ์ก็มาถึงที่หน้าห้องหนังสือของนนทภูแล้ว
เขาเอื้อมมือไปเคาะประตู ประตูก็เปิดออกทันที และรพีพงษ์ก็เดินเข้าไปข้างใน
ในเวลานี้นนทภูกำลังยืนอยู่ที่ด้านหน้าของหน้าต่าง และจ้องมองทิวทัศน์ด้านนอกอย่างเพลิดเพลิน
หลังจากที่รพีพงษ์เข้ามาก็ไม่ได้พูดอะไร ก็ยืนอยู่ในห้องหนังสือแบบนี้ และรออย่างเงียบๆ
หลังจากนั้นไม่นาน นนทภูเอ่ยปากพูดเน้นยำว่า: “ลูกมาแล้ว”
เขาไม่ได้หันกลับมา รพีพงษ์จ้องไปที่ด้านหลังของเขาและเอ่ยปากพูดว่า: “ใช่ครับพ่อ”
“ผมได้ยินน้ำเสียงของพ่อทางโทรศัพท์ก่อนหน้านั้น ดูราวกับว่าไม่ค่อยปกติ หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกเหรอครับ?”
นนทภูถึงค่อยๆหันกลับมา เมื่อตอนที่รพีพงษ์เห็นใบหน้านั้นของเขา ทั้งร่างกายก็แข็งทื่อ ในใจก็รู้สึกขนพองสยองเกล้าขึ้นมา
ในเวลานี้เห็นเพียงใบหน้าทั้งหน้าของนนทภูเต็มไปด้วยเส้นเลือดสีดำถี่ยิบหนาแน่น ในดวงตาทั้งสองข้างก็เต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย คนทั้งคนก็เหมือนปีศาจที่หมกมุ่นหลงผิด ค่อนข้างทำให้คนหวาดกลัว
ถ้าหากเมื่อกี้นี้ไม่ใช่ว่านนทภูยังคงพูดคุยกับรพีพงษ์อย่างตามปกติ รพีพงษ์คงจะคิดว่านนทภูถูกปีศาจเข้าสิงร่าง
“พ่อ ใบหน้าของพ่อ…..”
นนทภูยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า: “รูปลักษณ์แบบนี้ของพ่อไม่ได้ทำให้ลูกกลัวใช่มั้ย?”
รพีพงษ์หายใจเข้าลึกๆ รูปลักษณ์แบบนี้ของนนทภูในเวลานี้ ถือได้ทำให้คนหวาดกลัวอย่างแน่นอน เขายิ้มขึ้นมาอีก ก็เห็นได้ชัดว่ายิ่งน่าสยดสยองขึ้นไป
“ตกลงว่ามันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนี้?”
นนทภูไม่ได้รีบร้อน และพูดกับรพีพงษ์ว่า: “นั่งลงมาก่อนเถอะ แม้ว่ารูปลักษณ์ตอนนี้ของพ่อจะดูน่ากลัว แต่ในชั่วครู่ชั่วยามยังไม่ตาย”
รพีพงษ์พยักหน้าเล็กน้อย และนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องหนังสือของนนทภู
นนทภูนั่งอยู่ข้างๆรพีพงษ์ บนใบหน้าปรากฏความทอดถอนใจ แล้วพูดว่า: “ลูกยังจำได้มั้ย ชื่อเทพสังหารของพ่อนี้มาได้อย่างไร”
รพีพงษ์พยักหน้า ตอนนั้นที่นนทภูเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง ในเวลานั้นรพีพงษ์เพิ่งมาถึงที่เทือกเขากิสนา เพื่อที่จะควบคุมเทือกเขากิสนาให้อยู่ในมือของตัวเอง เขามีช่วงหนึ่งที่บ้าคลั่งมาก เขาแทบจะฆ่าคู่ต่อสู้ทั้งหมดที่เคยเผชิญหน้ากับเขา
ต่อมาเมื่อปีนบันไดสูง เขาก็ยังคงรักษาความโหดร้ายนี้ไว้เหมือนเดิม ไม่มีปล่อยใครที่ยืมอยู่บนเวทีประลองเดียวกันรอดไปทั้งนั้น จนถึงปีนบันไดสูงประสบความสำเร็จในที่สุด แม้กระทั่งจัดการกับเจ้าของคนก่อนของเทือกเขากิสนา ได้ควบคุมเทือกเขากิสนาอย่างแน่นหนาอยู่ในมือของตัวเอง
ชื่อเทพสังหารนี้ อยู่ในตอนนั้นก็ใครๆได้ยินก็หวาดกลัว และน่าเกรงขาม
ตอนนั้นรพีพงษ์คิดว่านนทภูเพื่อใช้ชีวิตอยู่ในเทือกเขากิสนาต่อไป ดังนั้นจึงจำใจต้องเลือกทำแบบนี้
แต่ตอนนี้ดูท่าทางของนนทภู เรื่องนี้ เหมือนว่าจะยังมีเรื่องอื่นที่ปิดบังไว้อยู่
“พ่อ หรือว่าปีนั้นที่พ่อฆ่าคนทั้งหมดที่ต่อสู้กับพ่อ คือมีเหตุผลอื่นเหรอ?”รพีพงษ์เอ่ยปากถาม
นนทภูพยักหน้าเล็กน้อย แล้วพูดว่า: “ถูกต้อง ปีนั้นความแข็งแกร่งของพ่อแข็งแกร่งกว่ายอดฝีมือเหล่านั้นของเทือกเขากิสนา แต่ว่าต่อให้พ่อจะชนะพวกเขา ก็ไม่จำเป็นต้องเข่นฆ่าพวกเขาทั้งหมด ที่สำคัญด้วยจิตใจของพ่อ จะไปฆ่าคนมากมายขนาดนั้นได้อย่างไร”
“ปีนั้นเหตุผลที่พ่อกลายเป็นบ้าคลั่งแบบนั้น ความจริงเพราะตอนที่อยู่คุกใต้ดิน พ่อถูกไอพิฆาตที่มาจากใต้ดินกัดกร่อน”
“ไอพิฆาตใต้ดินเหรอ?”รพีพงษ์ขมวดคิ้วทันที มองไปที่นนทภูอย่างสงสัย ครั้งก่อนที่เขาได้ยินไอพิฆาตสองคำนี้ ยังเป็นอยู่ในสุสานของชัชพิสิฐ
โดยปกติหลังจากการตายของผู้มีพลังแข็งแกร่ง พลังในร่างกายจะไม่สลาย ถึงจะค่อยๆเกิดเป็นไอพิฆาตออกมา นนทภูจะถูกไอพิฆาตกัดกร่อนได้อย่างไร?
“ถูกต้อง เป็นเพราะการกัดกร่อนของไอพิฆาตแบบนี้ ทำให้พ่อคนทั้งคนกลายเป็นบ้าคลั่งยากที่จะควบคุมตัวเอง ในใจมักจะมีความคิดกระหายเลือดและการฆ่าฟันอยู่ตลอด ดังนั้นพ่อถึงได้ฆ่าทุกคนที่ต่อสู้กับพ่อ แม้กระทั่งฆ่าคนเหล่านั้นที่อยู่ในคุกใต้ดินเดียวกันกับพ่อทั้งหมด”นนทภูพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความทอดถอนใจ
“ที่สำคัญไอพิฆาตไม่ได้ธรรมดาเหมือนอย่างที่คิด ตอนนี้เหตุผลที่พ่อยังมีสติสัมปชัญญะที่ชัดเจน เป็นเพราะสถานที่เทือกเขากิสนาแห่งนี้ มีประสิทธิผลในการปราบไอพิฆาตแบบนี้ โดยเฉพาะตำแหน่งที่ตั้งของเกาะศูนย์กลางนี้”
“ดังนั้นพ่อไม่สามารถที่จะออกจากเทือกเขากิสนาได้ ทำได้เพียงรอให้ลูกมาหาพ่อ เกิดพ่อออกจากที่นี่ ไอพิฆาตในร่างกายของพ่อก็จะสูญเสียการควบคุมโดยสิ้นเชิง พ่อจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งที่รู้เพียงแต่การฆ่าเท่านั้น”
“และเมื่อไม่นานนี้ ไอพิฆาตในร่างกายของพ่อยิ่งอยู่ก็ยิ่งที่ปราบยากมากขึ้น มันทำให้พ่อกลายเป็นรูปลักษณ์อย่างที่ลูกเห็น น่าจะใช้เวลาอีกไม่นาน ต่อให้พ่อจะอยู่ที่นี่ต่อไป ก็ไม่มีทางที่จะปราบไอพิฆาตของร่างกายได้และสูญเสียการควบคุม”
“ครั้งนี้ที่พ่อตามลูกมา หนึ่งคือเพื่อที่จะบอกเรื่องนี้ให้กับลูก อีกหนึ่งอย่าง คืออยากให้ลูกก่อนที่พ่อจะสูญการควบคุมทั้งหมดไป ฆ่าพ่อซะ เพื่อหลีกเลี่ยงที่พ่อจะทำเรื่องอันตรายร้ายแรงอะไรออกมา”
เมื่อนนทภูพูดสิ่งเหล่านี้ด้วยใบหน้าที่สงบ เหมือนราวกับว่ามองแวบเดียวก็เข้าใจแล้ว
แต่ในใจของรพีพงษ์กลับไม่สบอารมณ์ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่มีทางที่จะฆ่าพ่อของตัวเองด้วยมือของตัวเอง
รพีพงษ์มองไปที่นนทภูอย่างวิตกกังวล เอ่ยปากพูดว่า: “พ่อ พ่ออย่าเพิ่งมองโลกในแง่ร้ายไปก่อน ก็แค่ไอพิฆาตเท่านั้นเอง มีทางออกอยู่เสมอ”
นนทภูยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า: “หลายปีมานี้พ่อได้พยายามลองหลากหลายวิธีแล้ว ก็ไม่มีผลเลยแม้แต่น้อย ไอพิฆาตแบบนี้เกิดเข้าสู่ร่างกาย นอกจากอาศัยสถานที่แห่งนี้ของเทือกเขากิสนาปราบไว้แล้ว ก็ไม่มีทางใดที่จะแก้ไขได้”
ถ้าหากเป็นที่ผ่านมา รพีพงษ์อาจเกิดความแบบเดียวกันกับนนทภู แต่ว่าตอนที่ได้สัมผัสกับเน่ยจิ้ง และหลังจากที่กลายเป็นปรมาจารย์แดนดั่งเทพผู้แข็งแกร่ง รพีพงษ์ก็ไม่คิดเช่นนั้น
นนทภูคิดแบบนี้ เป็นเพราะต่อให้เขาจะแข็งแกร่ง ท้ายที่สุดก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาไม่เคยสัมผัสกับเน่ยจิ้ง และพลังลึกลับมหัศจรรย์แบบนี้ของพลังวิเศษเสน
ตอนนั้นปีนบันไดสูงสำหรับรพีพงษ์ เป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องใช้ชีวิตไปวางเดิมพัน แต่ว่าถ้าหากตอนนี้ยอดฝีมือบันไดสูงเหล่านั้นทั้งหมดของตอนนั้นยืนอยู่ตรงหน้ารพีพงษ์ นิ้วเดียวของรพีพงษ์ ก็สามารถบดขยี้พวกเขาทั้งหมดให้ตายได้
ดังนั้นรพีพงษ์ไม่คิดว่าไอพิฆาตที่นนทภูโดนจะไม่มีทางรักษาหาย
นนทภูไม่ที่จะสามารถจินตนาการได้ว่าตอนนี้รพีพงษ์อยู่ในระดับไหนกันแน่
รพีพงษ์จ้องมองไปที่ใบหน้าของนนทภูสักพัก ตอนนั้นในสุสานของชัชพิสิฐ เขาเพราะเชื่อชัชพิสิฐ ดังนั้นทานยาที่ชัชพิสิฐให้มาต้านทานไอพิฆาตลงไปทันที
แต่หลังจากนั้นเขาก็ค้นพบว่า อาศัยพลังในร่างกายของตัวเอง ความจริงก็สามารถต้านทานไอพิฆาตเหล่านั้นได้
ชัชพิสิฐพูดแบบนั้น เพียงเพื่อหลอกให้พวกเขาทานยาลงไปเท่านั้นเอง
ดังนั้นใช้พลังวิเศษเสนมาคลี่คลายไอพิฆาต ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาจึงเอ่ยปากพูดกับนนทภูว่า: “พ่อ ยื่นมือของพ่อออกมา”