พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1097 สำรวจ
หลังจากที่นนทภูได้ยินคำถามของรพีพงษ์ บนใบหน้าก็แสดงสีหน้าจริงจัง แล้วพูดว่า: “เรื่องนี้พ่อก็ต้องเคยตรวจสอบมาก่อนเป็นธรรมดา สถานที่แห่งนี้ของเทือกเขากิสนา ค่อนข้างมีความพิเศษในตัวของมันเอง และตำแหน่งที่ตั้งเกาะ??นี้ ก็เคยเกิดเรื่องราวบางอย่างที่ทำให้คนคาดไม่ถึง”
“หลายปีมานี้พ่อพักอาศัยอยู่ที่นี่มาโดยตลอด มีหลายคืน พ่อก็จะฝันถึงเรื่องราวแปลกๆ บางครั้งคนที่ทั้งร่างกายเปื้อนด้วยเลือดก็จะวิ่งมาทางพ่อ ต้องการจะจับตัวพ่อไว้ บางครั้งมันก็เป็นฉากการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่กว้างมาก และฉากแบบนั้น มีเพียงในโทรทัศน์ถึงจะมี”
“ที่สำคัญพ่อมักจะได้ยินเสียงหนึ่งเสียง เสียงนั้นทำให้พ่อดำดิ่งลงสู่ก้นทะเลสาบ ที่นั่นมีคนกำลังรอพ่ออยู่”
“ต่อมาเพื่อตรวจสอบให้ชัดเจนว่าที่นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่ พ่อหาผู้คนมากมาย ให้พวกเขาดำน้ำลงไปที่ก้นทะเลสาบ ไปดูว่าที่นั่นมีของอะไรอยู่กันแน่ ถือโอกาสตรวจสอบว่าทำไมสถานที่นี้ถึงได้มีประสิทธิผลในการปราบไอพิฆาตในร่างกายของพ่อ”
“แต่สิ่งที่ทำให้พ่อคาดไม่ถึงก็คือ ใต้ก้นทะเลสาบนี้ มีไอพิฆาตรวมอยู่ด้วยกันจำนวนมากมาย คนเหล่านั้นที่ดำลงไป ไม่มีใครที่รอดชีวิต”
“ต่อมาพ่อก็มุ่งเน้นความสนใจมาที่บนเกาะศูนย์กลาง ในเมื่อไม่สามารถตรวจสอบใต้น้ำได้ พ่อจึงขุดหลุมจากบนเกาะโดยตรง ดูว่าสามารถขุดเจออะไรได้บ้าง”
“ต่อมาพ่อยังขุดช่องทางเดินบนเกาะออกมาได้หนึ่งเส้นทาง แต่ว่าในช่องทางนั้นก็เต็มไปด้วยไอพิฆาต ที่สำคัญเป็นหลายเท่าของในทะเลสาบ คนเหล่านั้นที่ขุดหลุม ทั้งหมดถูกไอพิฆาตกัดกร่อนจนเป็นปีศาจ พ่อไม่มีทางเลือกทำได้เพียงฆ่าพวกเขาทั้งหมด”
“ตั้งแต่นั้นมา พ่อก็ล้มเลิกความคิดที่จะตรวจสอบหาสาเหตุ เกาะทั้งเกาะนี้ เกือบแทบจะถูกล้อมรอบไปด้วยไอพิฆาต นอกจากอยู่บนพื้นดินไม่เป็นอะไรที่สำคัญยังมีประสิทธิผลในการปราบไอพิฆาต ไอพิฆาตในทะเลสาบและไอพิฆาตในช่องทางเส้นนั้น ไม่เคยรั่วไหลออกมาก่อน”
“สำหรับเหตุผล พ่อก็ไม่มีทางรู้แล้ว ไอพิฆาตเหล่านั้นน่ากลัวเกินไปจริงๆ และไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะสามารถสัมผัสได้”
หลังจากที่รพีพงษ์ฟังคำพูดของนนทภูจบ ในใจก็รู้สึกแปลกๆอย่างฉับพลัน คิดไม่ออกว่าทำไมถึงมีไอพิฆาตอยู่ในทะเลสาบและใต้ดิน แต่บนผิวพื้นกลับไม่มีไอพิฆาตแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามยังมาประสิทธิผลในการปราบไอพิฆาต
ที่สำคัญจากคำพูดของนนทภูรพีพงษ์ก็คาดเดาได้ว่า ใต้เกาะนี้ ดูเหมือนว่ามีบางอย่างอยู่จริงๆ ไม่อย่างนั้นพวกเขาไม่มีทางที่จะขุดช่องทางเดินบนเกาะนี้ได้
ถ้าอย่างนั้นช่องทางเดินนี้ทะลุไปที่ไหน? มีไอพิฆาตมากมายอยู่ขนาดนี้ ซึ่งหมายความว่าใต้เกาะนี้ ความจริงเป็นสุสานแห่งหนึ่งเหรอ?
หรือบางที ใต้กลางเกาะ ก็คือดินแดนลึกลับที่จีรภัทรพูดถึงเหรอ?
คำถามเหล่านี้ทำให้รพีพงษ์สงสัยว่าสถานที่เทือกเขากิสนานี้ ความจริงมีต้นกำเนิดที่ยิ่งใหญ่ และทำให้เขาเกิดความอยากรู้อยากเห็นมากมายต่อช่องทางเดินใต้เกาะ??นั้น
ถ้าหากมีดินแดนลึกลับแห่งหนึ่งอยู่ใต้เกาะช่องทางเดิน ถ้าอย่างนั้นรพีพงษ์ก็จะเข้าใกล้เครื่องยาสมุนไพรที่จีรภัทรต้องการไปอีกก้าวหนึ่ง
สำหรับพื้นที่บนพื้นดินที่มีประสิทธิผลในการปราบไอพิฆาต ก็ทำให้รพีพงษ์คิดไม่ออก
อย่างไรก็ตามเขามั่นใจได้ว่า คงจะไม่ใช่ความพิเศษของอากาศบนพื้นดินที่มีผลในการปราบไอพิฆาตด้านล่าง คงจะเป็นบนเกาะศูนย์กลางนี้ มีสิ่งของที่สามารถปราบไอพิฆาตเหล่านี้ได้
เดิมทีเขาต้องการปลดปล่อยพลังจิตของตัวเองออกมา และมาตามหาว่าที่นี่มีสิ่งของอะไรเป็นพิเศษมั้ย
แต่การใช้พลังไปทั้งวันทำให้เขาก็ต้านทานไม่ไหว จิตวิญญาณก็อ่อนเพลียอย่างฉับพลัน และไม่มีทางที่จะปลดปล่อยพลังจิตออกมาได้
“พ่อ ผมจะอยู่ที่นี่สักพัก มาตรวจสอบว่าที่นี่ทำไมถึงได้พิเศษขนาดนั้น เพียงแต่ว่าวันนี้ผมเหนื่อยมาก ต้องการพักผ่อนก่อน จัดเตรียมสถานที่พักให้ผมก่อนเถอะ”รพีพงษ์เอ่ยปากพูด
นนทภูรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นยืนขึ้น และตบมือ
ชายในชุดสูทสีดำเดินมาจากด้านนอกทันที หลังจากที่เขาเห็นหน้าของนนทภูกลับมาเป็นปกติแล้ว ก็นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ
“รีบจัดเตรียมห้องให้นายน้อยอย่างรวดเร็ว และจัดเด็กผู้หญิงที่ละเอียดรอบคอบดูแลแนบชิดใกล้เขา ไปจัดการเดี๋ยว”นนทภูเอ่ยปากพูด
รพีพงษ์รีบเอ่ยปากพูดอย่างรวดเร็ว: “จัดเตรียมห้องให้ก็พอแล้ว เด็กผู้หญิงก็ช่างเถอะ”
นนทภูยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ โดยคิดว่าลูกชายของตัวเองเป็นคนรักเดียวใจที่หาพบได้ยาก ไม่ว่าเวลาไหนก็ตาม ก็จะซื่อสัตย์ต่อภรรยาเพียงคนเดียว
หลังจากที่ชายคนนั้นได้รับคำสั่ง ก็รีบไปจัดห้องให้รพีพงษ์หนึ่งห้อง หลังจากที่รพีพงษ์เข้าไปในห้องพอหัวถึงนอนก็หลับ มีแนวโน้มว่าจะนอนเป็นเวลาสามวันสามคืน
แม้ว่ารพีพงษ์จะไม่ต้องการให้ผู้หญิงมาดูแล แต่ว่าผู้ชายคนนั้นก็ยังจัดเตรียมผู้หญิงหลายคนเฝ้าอยู่นอกประตู ถ้าหากรพีพงษ์มีอะไรที่ต้องการ พวกเขาก็จะบริการรพีพงษ์เป็นอันดับแรก
เมื่อรพีพงษ์นอนหลับไป ก็นอนหลับไปนานจริงๆ จนกระทั่งถึงตอนเที่ยงวันที่สาม เขาถึงค่อยตื่นมา
เขาบิดขี้เกียจ รู้สึกกระปรี้กระเปร่าสดชื่น และเห็นได้ชัดว่าพักผ่อนได้ค่อนข้างดี
เขาเปิดประตูแล้วเดินออกไปด้านนอก พบว่าเด็กผู้หญิงหลายคนในชุดสาวกระต่าย
กำลังเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู ในมือของพวกเธอถืออาหารมากมาย เห็นรพีพงษ์เปิดประตูออกมาจากในห้อง ก็ล้อมรอบมาทันที
“เจ้านาย ท่านหิวแล้วใช่มั้ยค่ะ? รีบทานอาหารเหล่านี้เถอะ”
รพีพงษ์มองไปที่สาวกระต่ายหลายคน อาการขนลุกบนร่างกายก็ลุกขึ้นมาทันที คิดในใจว่าตัวเองบอกแล้วว่าไม่ต้องการเด็กผู้หญิงมาดูแล คาดไม่ถึงว่าพ่อของตัวเองยังจัดเตรียมให้กับเขา ที่สำคัญยังเป็นสาวกระต่าย
แต่เขาหิวจริงๆ หลังจากจ้องมองอาหารในมือขอสาวกระต่ายหลายคนแล้ว เขาก็หยิบจานในนั้นมาหนึ่งใบ จากนั้นก็ออกจากที่นี่ โดยปล่อยให้สาวกระต่ายที่เหลือหลายคนได้แต่จ้องมองดูกันไปมา
หลังจากที่เขาทานอิ่มดื่มพอ รพีพงษ์ก็เริ่มงานสำรวจบนเกาะ?? แม้ว่าในเวลานี้ขอบเขตของพลังจิตของเขาจะห่างไกลกว่าที่ผ่านไม่สามารถเทียบได้ แต่ว่าพื้นที่ของเกาะศูนย์กลางนั้นไม่เล็ก เขาไม่มีความสามารถปกคลุมทั้งหมดได้ทันที ทำได้เพียงตรวจสอบทีละเล็กนิด
ยิ่งไปกว่านั้นตามที่นนทภูบอก พื้นดินบนเกาะ ขุดลงไปลึกถึงสามเมตร ก็ไม่ได้มีไอพิฆาตอยู่ ดังนั้นไม่ค้นพบของสิ่งนั้นที่สามารถปราบไอพิฆาตได้ คือฝังอยู่ในพื้นดิน
แม้ว่าความยากของพลังจิตจะทะลุพื้นดินได้ไม่มาก แต่สำหรับการใช้ของพลังจิตวิญญาณเทพนั้นมาก ดังนั้นสิ่งนี้สำหรับรพีพงษ์เป็นงานที่ใหญ่
จนกระทั่งในตอนเย็น ในที่สุดรพีพงษ์อยู่ในสถานที่บนเกาะที่ปกติไม่มีใครไป ก็พบความผิดปกติเล็กน้อย
เขาปกคลุมบริเวณรอบๆด้วยพลังจิต จากนั้นก็เจาะลงไปในพื้น หลังจากนั้นไม่นาน พลังจิตของรพีพงษ์ก็สัมผัสกับสถานที่แปลกประหลาดแห่งหนึ่ง
สถานที่แห่งนั้นกลับปิดกั้นพลังจิตของรพีพงษ์ไว้ทันที เขารู้สึกไม่ได้เลยว่าที่นั่นมีของสิ่งใด เหมือนราวกับว่าส่วนหนึ่งของพื้นที่หายไปจากอากาศ ค่อนข้างแปลก
เขาหาผู้คนเหล่านั้นมาทันที ให้พวกเขาขุดสถานที่ที่ค้นพบความผิดปกติ
เมื่อกี้นี้
หลังจากนั้นไม่นาน คนเหล่านั้นก็ขุดสิ่งของบางอย่างขึ้นมาจากพื้นดิน
รพีพงษ์รีบเข้ามาอย่างรวดเร็ว จากนั้นเอาดินด้านบนออก พบว่าสิ่งที่ฝังอยู่ที่นี่ กลับเป็นจี้หยกที่แกะสลักลวดลายสลับซับซ้อน