พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1104 บททดสอบสุดท้าย
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1104 บททดสอบสุดท้าย
หญิงสาวกระแทกล้มลงอยู่บนพื้น มองไปที่รพีพงษ์ด้วยใบหน้าที่ตกตะลึง เมื่อกี้นี้เธอคิดว่าตัวเองยั่วยวนรพีพงษ์สำเร็จแล้ว โดยที่คาดไม่ถึงว่า รพีพงษ์จะโยนเธอลงบนพื้น และวิ่งไปข้างหน้า
ที่สำคัญเธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน ฉากจินตนาการที่เธอคิดออกมาว่าจะยั่วยวนรพีพงษ์ ความจริงมันถูกแสดงหลายร้อยครั้งในภาพยนตร์หลายเรื่องมากมาย ต่อให้รพีพงษ์ไม่เคยดูมาทั้งหมด อย่างน้อยก็เคยดูมาหนึ่งในสิบ
สิ่งเหล่านี้ก็เพียงพอให้เขาเกิดความระมัดระวังต่อเหตุการณ์แบบนี้แล้ว
ดังนั้นการยั่วยวนในครั้งนี้ของหญิงสาวถึงได้ไม่สำเร็จ
เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน สิ่งที่เอาชนะเธอได้ ไม่ใช่พลังจิตตานุภาพของรพีพงษ์ แต่เป็นจินตนาการช่างล้ำเลิศของผู้สร้างภาพยนตร์ส่วนใหญ่
หลังจากที่ไปถึงปลายทาง รพีพงษ์ก็ถอนหายใจยาวๆด้วยความโล่งอก ในใจเกิดความหวาดกลัวเล็กน้อย
ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นเนื้อเรื่องแบบนี้ในภาพยนตร์บ่อยๆ ทำให้สัญชาตญาณของเขารู้สึกไม่ชอบมาพากล ไม่อย่างนั้นตอนนั้นเขาอาจจะถูกหญิงสาวคนนั้นทำให้หลงเสน่ห์จริงๆ
ตอนนี้นึกดูฉากเมื่อกี้นี้ รพีพงษ์รู้สึกอารมณ์ยังติดค้างอยู่บ้าง
เขาหันหน้ามองไปที่ด้านหลังของตัวเองแวบหนึ่ง เห็นว่าหญิงสาวคนนั้นยังล้มอยู่ที่บนพื้น จ้องมองมาที่ตัวเองด้วยความตกตะลึง และในใจก็เกิดความสยดสยองขึ้นมาทันที
เมื่อกี้นี้เขาคิดว่าหญิงสาวคนนี้เป็นภาพลวงตาของตัวเอง คาดไม่ถึงว่าหญิงสาวคนนี้จะเป็นของจริง!
ไม่แปลกใจที่เขาจะเกิดความรู้สึกสัมผัสที่แท้จริง หรือว่าหุ่นเชิดในช่องทางนี้ก้าวหน้ามากถึงระดับนี้แล้วจริงๆเหรอ กลับริเริ่มที่จะเข้าร่วมการทดสอบเอง?
ที่สำคัญในเวลานี้ในแววตาของหญิงสาวคนนี้ที่มองไปทางตัวเองมีความคับแค้นใจอยู่เล็กน้อย สิ่งนี้ทำให้รพีพงษ์อดสงสัยไม่ได้ว่าเธอเป็นเพราะตัวเองต้านทานการทดสอบไหว ดังนั้นรู้สึกว่าไม่มีเกียรติมาก
ถ้าอย่างนั้นเธอจะโกรธด้วยเหตุผลนี้หรือไม่ และจัดการกับตัวเองทันทีเหรอ?
หุ่นเชิดที่อยู่ในช่องทางนี้เป็นสิ่งที่รพีพงษ์ไม่ควรมีปัญหาด้วย เขาไม่ได้คิดว่าตัวเองอยู่ในเงื้อมมือของหญิงสาวคนนี้จะมีพลังที่เอาชีวิตรอดได้
“ผู้……ผู้อาวุโส คุณยังสบายดีมั้ย?” แม้ว่าจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายเป็นหุ่นเชิด แต่ว่ารพีพงษ์ยังถามอย่างมีมารยาท
หญิงสาวถึงค่อยตอบสนองกลับคืนมา จากนั้นรีบลุกขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็ว และเดินไปที่รพีพงษ์
รพีพงษ์วิตกกังวลอย่างฉับพลัน กลัวว่าหญิงสาวคนนี้จะลงมือกับตัวเองทันที
“โปเยโปโลเย เย้ยฟ้าแล้วก็ท้าคืออะไรเหรอ?”หลังจากที่หญิงสาวเดินมาถึงตรงหน้ารพีพงษ์ เอ่ยปากถาม
เธอไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองยั่วยวนรพีพงษ์ไม่สำเร็จ ต้นตอทั้งหมดนี้ ก็น่าจะอยู่ในโปเยโปโลเย เย้ยฟ้าแล้วก็ท้าที่รพีพงษ์พูดถึง
รพีพงษ์รีบอธิบายอย่างรวดเร็ว: “นั่นเป็นภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ด้านในมีเนื้อหาเรื่องราวที่คล้ายกับของผู้อาวุโสเมื่อกี้นี้”
ขณะที่พูด เขายังชำเลืองมองบนร่างกายของหญิงสาวแวบหนึ่ง จากนั้นก็รีบละสายตาออกไป
หญิงสาวเพิ่งจะลุกขึ้นมาจากบนพื้น ดังนั้นยังไม่ทันได้เปลี่ยนเสื้อผ้า
“ภาพยนตร์เหรอ? นั่นมันคืออะไร?”ผู้หญิงคนนั้นแสดงความสงสัยออกมาอย่างเห็นได้ชัด
รพีพงษ์กระแอมเบาๆ แล้วพูดว่า: “ผู้อาวุโส นั่นคือเทคโนโลยีการถ่ายภาพอย่างหนึ่ง และผมไม่สามารถอธิบายให้คุณได้อย่างละเลียด”
“ผู้อาวุโส? เอ่อ คุณไปใส่เสื้อก่อนมั้ย?”
หญิงสาวถึงค่อยรู้ตัวว่าตัวเองยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นเธอก็สะบัดฝ่ามือ บนร่างกายก็เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าเซ็กซี่ที่เคยสวมใส่ก่อนหน้านั้น
ใบหน้าของรพีพงษ์เต็มไปด้วยความประหลาดใจ คาดไม่ถึงว่าหุ่นเชิดตัวนี้จะมีพลังมากขนาดนี้ เพียงในพริบตาเดียว กลับเปลี่ยนเสื้อผ้าของตัวเองได้แล้ว
หญิงสาวคนนั้นกลับมาเป็นปกติ ไม่ไปเซ้าซี้กับเรื่องที่ตัวเองยั่วยวนรพีพงษ์ไม่สำเร็จอีกต่อไป เนื่องจากการทดสอบที่เจ้านายทิ้งไว้ให้ ในที่สุดก็มีคนผ่านไปได้ ต่อให้วิชายั่วยวนของเธอจะทรงพลังแค่ไหน คงจะมีคนที่สามารถต้านทานได้อย่างแน่นอน สิ่งนี้ไม่มีอะไรที่คุ้มค่ากับการไปเซ้าซี้
“นายสุดยอดมาก การทดสอบสองครั้งก่อนก็ผ่านแล้ว ตอนนี้นายยังเหลือการทดสอบครั้งสุดท้าย ตราบใดที่นายสามารถผ่านการทดสอบครั้งสุดท้ายนี้ไปได้ ก็สามารถที่จะเข้าถึงพื้นที่หลักได้” หญิงสาวพูดกับรพีพงษ์
รพีพงษ์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดูเหมือนว่าหญิงสาวคนนี้ไม่ได้ตั้งใจที่จะลงมือกับตัวเอง
“ผู้อาวุโส ไม่ทราบว่าการทดสอบครั้งสุดท้าย คืออะไร?”รพีพงษ์เอ่ยปากถาม
หญิงสาวชี้นิวไปที่ช่องทางด้านหน้า เอ่ยปากพูดว่า: “การทดสอบครั้งสุดท้าย ก็คือเหลือเพียงช่องทางนี้เส้นนี้ ตราบใดที่นายสามารถเดินออกไปได้ ก็ถือว่าผ่าน”
รพีพงษ์เลิกคิ้ว คิดในใจการทดสอบครั้งสุดท้ายนี้ง่ายเกินไปหรือเปล่า หรือว่าหญิงสาวคนนี้เห็นว่าตัวเองผ่านการทดสอบของเธอ ดังนั้นจึงตั้งใจลดความยากลงให้กับตัวเองเหรอ?
แน่นอนว่า เขารู้ว่าเรื่องแบบนี้คงจะไม่มีทางตกหล่นมาถึงบนตัวของตัวเองอย่างแน่นอน
ดังนั้นช่องทางเส้นสุดท้ายนี้ คงจะไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เขาคิดอย่างแน่นอน
“ถ้าอย่างผู้อาวุโสสามารถบอกได้มั้ย ในช่องทางนี้มีอันตรายแบบไหนเหรอ?”รพีพงษ์เอ่ยปากถาม
“ช่องทางเดินเส้นนี้ เรียกว่าช่องทางเดินเกิดใหม่ สำหรับอันตราย กลับไม่มี แต่ว่าอยากจะเดินออกไป ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น โดยรายละเอียดจะออกไปได้อย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับตัวของนายเอง”
หญิงสาวพูดกับรพีพงษ์ จากนั้นก็หายตัวไปจากที่เดิม
รพีพงษ์รู้สึกมึนงง หญิงสาวบอกเขาเพียงว่าช่องทางเส้นนี้เรียกว่าช่องทางเดินเกิดใหม่ แต่ว่าไม่ได้บอกว่าช่องทางนี้ใช้มาทำอะไร ซึ่งค่อนข้างลำบาก
แต่ด้วยประสบการณ์จากการทดสอบทั้งสองครั้งก่อนหน้านั้น ในใจรพีพงษ์ก็รู้ดีว่า บทบาทของช่องทางนี้น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับชื่อ หรือว่าเข้าสู่ช่องทางนี้ ก็จะเข้าสู้การเกิดใหม่เหรอ?
ถ้าอย่างนั้นตัวเองก็ต้องเกิดใหม่เหรอ?
แน่นอนแล้วว่า สถานการณ์ข้างในไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่ตัวเองคิดไว้แน่ๆ ถ้าหากเข้าสู่ช่องทางข้างหน้าก็สามารถเกิดใหม่ได้ ถ้าอย่างนั้นเจ้าของสถานที่แห่งนี้น่าจะเป็นเทพเจ้าที่สร้างสรรพสิ่งแล้ว
สิ่งที่สามารถแน่ใจได้คือ อันตรายในช่องทางนี้ คงจะไม่เกี่ยวกับความแข็งแกร่งของตัวเองอย่างแน่นอน การทดสอบสองครั้งก่อนหน้านั้นทำให้รพีพงษ์คาดเดาได้ เจ้านายคนนี้น่าอยากจะเลือกคนที่สายพันธุ์และจิตตานุภาพที่ดีออกมา แต่ไม่ใช่เลือกคนที่พลังแข็งแกร่งออกมา
ดังนั้นการทดสอบครั้งสุดท้าย น่าจะเกี่ยวกับคุณค่าภายในของตัวเอง
แต่ว่าการคาดเดาแบบนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะคาดเดาออกมาได้ว่าช่องทางนี้ใช้มาทำอะไรกันแน่ ต้องการรู้ให้ชัดเจน ก็ทำได้เพียงเข้าสู่ในช่องทางนี้
หลังจากที่ปรับตัวเล็กน้อย รพีพงษ์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ หลังจากที่จ้องมองช่องทางนั้นสักพัก และก้าวเดินเข้าไปข้างหน้า
ในเวลานี้ชายวัยกลางคนและหญิงสาวคนนั้นปรากฏตัวขึ้นที่ทางเข้าพร้อมกัน และมองไปที่ข้างใน
“นายว่าเขาจะผ่านช่องทางเดินเกิดใหม่นี้ไปได้มั้ย?”หญิงสาวเอ่ยปากถาม
“สิ่งนี้ยังต้องถามต้องถามตัวของเขาเอง เจ้านายตั้งช่องทางเดินเกิดใหม่ เพื่อทดสอบคนคนหนึ่ง สามารถยึดมั่นจิตใจของตัวเองได้หรือเปล่า คนที่เข้าสู่ช่องทางนี้ จะเริ่มต้นวัฏจักรเกิดใหม่ในจิตใต้สำนึก ตามหาชีวิตที่สมบูรณ์ที่สุดแบบในจิตใจของเขา”
“สิ่งที่น่ากลัวที่สุดเกี่ยวกับช่องทางนี้ มันจะทำให้เธอรู้ว่าตัวเองอยู่ในการเกิดใหม่ แต่ว่าเธอจะค่อยๆหลงติดเข้าไป ตามหาชีวิตที่ตัวเองปรารถนา สุดท้ายจะหลงใหลเข้าไป และไม่สามารถตื่นขึ้นมาจากมันได้อีกตลอดกาล”
“แม้แต่ตอนที่เจ้านายยังมีชีวิตอยู่ ฉันก็ไม่เคยเห็นใครสามารถเดินออกมาจากในช่องทางเดินเกิดใหม่นี้ได้เลย”
“คิดว่าทุกอย่างที่มันให้เธอ มันสวยงามมากจริงๆ ชีวิตของเธอสมบูรณ์แบบแล้ว จะตื่นขึ้นมาอีกทำไม ทนรับกับความเจ็บปวดของโลกใบนี้เหรอ?”