พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1139 เขาก็ไม่มีปัญญาทำอะไรฉันเหมือนกัน
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1139 เขาก็ไม่มีปัญญาทำอะไรฉันเหมือนกัน
หลังจากที่ดนัทธ์โดนรพีพงษ์จับได้ เขาก็มีสีหน้าสลดและเดินกลับไปนั่งที่ตัวเองด้วยความหงุดหงิด เขาจ้องรพีพงษ์เขม็ง ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่เชื่อว่าคนกระจอกอย่างรพีพงษ์จะรับมือกับพละกำลังทั้งหมดเมื่อครู่ได้ แถมยังไม่แสดงท่าทีอะไรออกมาด้วย เขากำลังคิดอยู่ในใจ
ไม่แน่ว่าไอ้กระจอกนี่อาจจะยกอิฐมาหลายปี จึงมีพละกำลังต่อสู้กับแรงของเขา ถึงเป็นแบบนี้แล้วยังไง ตอนที่เขาเป็นทหารได้เรียนรู้เทคนิคการฆ่าคนมา ส่วนไอ้กระจอกนี่ไม่รู้อะไรเลย
พอถึงตอนนั้นก็แค่สร้างเรื่องขึ้นมาให้ไอ้กระจอกนี่ลงมือเขา เขาจะได้จัดการกับไอ้กระจอกนี่ได้อย่างง่ายดาย
เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาก็แสยะยิ้มเย็นชาในใจ ให้ไอ้กระจอกนี่ได้ใจไปก่อนแล้วจะเป็นอะไรไปล่ะ
ส่วนรพีพงษ์มองด้วยสายตาเย็นชาเท่านั้น ธีรเดชกำลังชี้หน้าเขา รพีพงษ์พูดด้วยสีหน้าไม่พอใจว่า
“แกไม่มีปัญญาหรอก!”
น้ำเสียงของรพีพงษ์เหมือนกระบี่อันแหลมคมที่เฉี่ยวไปที่หูของธีรเดช ตอนแรกธีรเดชจะอ้าปากเถียงและจะสั่งสอนรพีพงษ์ แต่ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ เหงื่อก็ไหลออกมาเต็มหลัง จนทำให้ความคิดที่จะลงมือหายวับไป และทำได้เพียงเดินกลับไปนั่งด้วยความหงุดหงิด
เพราะที่นั่งของรพีพงษ์อยู่ข้างประตูพอดี ด้วยเหตุนี้ทำให้พนักงานที่เข้ามาเสิร์ฟอาหารเดินผ่านรพีพงษ์ เมื่อเห็นดังนั้นดนัทธ์จึงมีแผนขึ้นมาในใจ ขณะที่ประตูเปิดออกและมีพนักงานยกซุปร้อนๆ เข้ามา ดนัทธ์ลุกขึ้นมาในขณะนั้นพอดี และทำเป็นว่าจะไปเอาไวน์แดงที่อยู่ไม่ไกล เขาเดินผ่านที่นั่งของรพีพงษ์
แต่ทว่ารพีพงษ์กำลังสังเกตความเคลื่อนไหวทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนโต๊ะอาหาร แน่นอนว่าเขาสังเกตเห็นพฤติกรรมของดนัทธ์ และมองพนักงานที่กำลังเดินเข้ามาข้างตัวเอง จู่ๆ รพีพงษ์ก็แสยะยิ้มมุมปาก วิธีสกปรกแบบนี้เขาเห็นมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว
เป็นไปตามที่เขาคาดไว้ ดนัทธ์เดินเข้าไปหาพนักงาน ตอนที่เขาเดินเข้าไปใกล้พนักงาน จู่ๆ เขาก็แสร้งทำเป็นไม่ระวังไปโดนถ้วยซุปในมือของพนักงาน พนักงานร้องอุทานออกมา ซุปร้อนๆ กำลังหกไปทางที่รพีพงษ์นั่งอยู่
ส่วนคนที่รู้อยู่แล้วอย่างรพีพงษ์ทำเพียงแค่ถอยหลังไป ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่ลืมที่จะยกขาขึ้นมาข้างหนึ่ง ไม่เพียงแต่จะหลบซุปร้อนๆ นั่นได้ แถมยังใช้เท้าเตะไปที่ก้นถ้วยก่อนที่มันจะหกลงมา ซุปร้อนๆ ถูกรพีพงษ์ควบคุมได้อย่างงดงาม และมันเปลี่ยนทิศทางไปหาดนัทธ์
เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ดนัทธ์ตกใจไม่น้อย ใบหน้าที่มีรอยยิ้มแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่หวาดกลัวและส่งเสียงร้องออกมา เขาอยากจะถอยหลังหลบ แต่ทว่าอย่างเขาจะหลบได้อย่างไร จู่ๆ ซุปร้อนๆ ก็ลวกใบหน้าของเขา
เขาโดนลวกไม่น้อยเลย ดนัทธ์ดิ้นไปมาบนพื้นด้วยสีหน้าเจ็บปวด ภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าทำให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมาก ธีรเดชรีบลุกขึ้นและวิ่งไปหาดนัทธ์ เขาประคองดนัทธ์ขึ้นมาพลางถามขึ้นอย่างเป็นห่วง
“เป็นไงบ้าง นายไหวไหม”
ตอนนี้สีหน้าของดนัทธ์เต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขาไม่มีแม้แต่แรงพูด
ธีรเดชเห็นดังนั้นก็หันไปตวาดรพีพงษ์ “เป็นเพราะแกไอ้กระจอก ดูสิ่งที่แกทำสิ ถ้าแกไม่หลบถ้วยซุปนั่น ดนัทธ์จะเป็นแบบนี้ไหม แกนี่มันเป็นตัวซวยจริงๆ!”
พวกลูกคนรวยเริ่มพากันตำหนิรพีพงษ์
“ใช่ เพราะนายเตะถ้วยซุปนั่นจนทำให้ดนัทธ์เป็นแบบนี้ นายต้องรับผิดชอบเรื่องนี้!”
“ฉันว่าดนัทธ์อาการสาหัสเลยนะ ฉันจะแจ้งตำรวจ ไอ้กระจอกเตรียมตัวไปกินข้าวแดงในคุกเถอะ!”
“ไม่ใช่แค่กินข้าวแดงในคุกนะ ต้องแจ้งข้อหามันด้วย มันจงใจทำให้คนบาดเจ็บ ให้มันชดใช้ด้วยเงิน ให้มันอยู่ในคุกไปตลอดชีวิต!”
ส่วนรพีพงษ์ที่ได้ยินคำพูดของคนพวกนี้ก็รู้สึกตลกอยู่ในใจ เขาอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาอย่างเย็นชา
“เหอะ เหอะ จากที่พวกนายพูด พวกนายจะบอกว่าฉันไม่ควรหลบถ้วยซุปเหรอ ให้เขาข่มเหงฉันอย่างไม่ยุติธรรม พวกนายถึงจะพอใจใช่ไหม”
“ก็ควรจะเป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ คนกระจอกแบบแกอยู่ไปก็เปลืองอากาศหายใจ ทำไมไม่รีบโดนลวกแล้วตายๆ ไปซะล่ะ นี่เป็นการเสียสละเพื่อชาติเลยนะ ดนัทธ์เป็นเพื่อนของเรา แล้วแกเป็นใครไม่ทราบ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น รพีพงษ์ก็โมโหขึ้นมาทันที เขายังไม่ทันได้พูดอะไร ดนัทธ์ก็ตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาจากพื้นและพุ่งเข้ามาจับคอเสื้อของรพีพงษ์และตวาดใส่เขา
“ให้ตายเถอะ ไอ้กระจอก ฉันว่าแกรนหาที่ตายนะ ถึงกล้าทำกับฉันแบบนี้ ฉันฆ่าแกแน่”
“เหอะ เหอะ”
เมื่อเห็นคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างดนัทธ์ ทำให้รพีพงษ์โมโหขึ้นมาทันที ถ้าไม่ใช่เพราะดนัทธ์จะจัดการเขา เขาจะทำแบบนี้ไปทำไมกัน การที่ดนัทธ์ได้รับกรรมก็เพราะบาปที่ก่อเอาไว้ เมื่อเห็นว่าจัดการกับรพีพงษ์ไม่ได้ คิดไม่ถึงว่าจะทำเรื่องแบบนี้กับเขา นี่มันเกินไปจริงๆ ถึงวันนี้เขากะจะมาเล่นสนุกกับคนพวกนี้ แต่ตอนนี้เขาอดทนจนทนไม่ไหวแล้ว
ขณะนั้นดนัทธ์ก็ง้างมือขึ้นมาเพื่อจะตบรพีพงษ์ มองด้วยตาเหมือนฝ่ามือนั่นกำลังจะตบลงไปที่หน้าของรพีพงษ์ ทุกคนแทบจะหยุดหายใจ ราวกับว่าพวกเขาเห็นภาพที่รพีพงษ์โดนดนัทธ์ตบจนหน้าคว่ำและกระเด็นออกไป ในขณะที่ทุกคนกำลังรอคอยภาพที่จะเกิดขึ้น
วินาทีต่อมาสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนเบิกตาโพลง ไม่มีใครเห็นว่ารพีพงษ์เคลื่อนไหวอย่างไร ได้ยินเพียงเสียงฝ่ามือที่ดังสนั่นจนไม่มีอะไรสามารถเปรียบได้ ร่างกายอันกำยำของดนัทธ์กระเด็นออกไปกระแทกกับกำแพงที่อยู่ไม่ไกลจนทำให้กำแพงยุบลงไปและพังลงมา
ร่างของดนัทธ์กระตุกอยู่บนพื้นไม่หยุด ลมหายใจของเขารวยรินเหมือนใกล้จะสิ้นใจ
“ให้ตายเถอะ ไอ้กระจอก แกกล้าดียังไง”
ธีรเดชเห็นภาพที่เกิดขึ้นก็สูดหายใจลึก เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าไอ้กระจอกอย่างรพีพงษ์จะเป็นฝ่ายทำร้ายดนัทธ์ก่อน แถมยังทำร้ายจนดนัทธ์ตกอยู่ในสภาพแบบนี้ แค่ฝ่ามือเดียวเท่านั้น ดนัทธ์เป็นคนที่ฝึกฝนมาตลอด ไอ้กระจอกนี่ทำได้ยังไง