พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1145 รปภ.จับมันเลย
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1145 รปภ.จับมันเลย
จารุดาพูดใส่ไฟขึ้นเรื่อยๆ เมื่อรปภ.ทั้งสองคนเห็นว่าจารุดารู้จักกับรพีพงษ์ แถมยังรู้จักดีด้วย บวกกับการแต่งตัวของรพีพงษ์ที่เหมือนกับคนจนจริงๆ
การแต่งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าของเขารวมๆ กันแล้วไม่น่าจะเกินร้อยสองร้อยหยวน คนแบบนี้อย่าว่าแต่ขับเฟอร์รารี่เลย แค่จับเฟอร์รารี่ยังไม่น่าจะทำได้
“ขอโทษด้วยนะ พวกเราคิดว่านายเป็นผู้ต้องสงสัยในการขโมยจริงๆ ตั้งแต่ตอนนี้นายห้ามไปไหน เราจะโทรให้สารวัตรมาที่นี่ มีคนแจ้งว่านายขโมยรถคันนี้ ทางที่ดีนายอย่าคิดที่จะหนี กล้องวงจรปิดของที่นี่จับภาพความเคลื่อนไหวของนายเอาไว้หมดแล้ว”
หนึ่งในรปภ.ถืออาวุธอยู่ในมือ และมองรพีพงษ์เหมือนจะลงมือกับเขาได้ตลอดเวลา
เมื่อได้ยินคำพูดและท่าทางของคนพวกนี้ จู่ๆ สีหน้าของรพีพงษ์ก็โมโหขึ้นมาทันที น้ำเสียงของเขาแปรเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงเย็นยะเยือก
“ทางที่ดีพวกนายอย่ามาขัดขวางฉัน วันนี้ฉันมีเรื่องด่วน ถ้าพวกนายยังจะดึงดัน หลังจากนี้ก็อย่ามาว่าฉันก็แล้วกัน”
“เหอะๆ รพีพงษ์นายรู้ไหมว่ากำลังพูดอะไรอยู่ สมองนายมีปัญหาหรือไง คนอย่างแกเนี่ยนะจะมาจัดการพวกเรา แกคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน รปภ.สองคนนี้ไม่ต้องไปกลัวมันนะ ไอ้หมอนี่ไม่เพียงแต่จะทำความผิดโดยการขโมยรถคนอื่น อีกอย่างสมองของมันยังมีปัญหาอีกด้วย อย่าให้มันหนีไปเด็ดขาด ถ้าพวกคุณสามารถจับมันได้ เมื่อเจ้าของรถคันนี้รู้ว่าเป็นฝีมือของพวกคุณ เขาจะต้องขอบคุณพวกคุณแน่ๆ คนที่สามารถซื้อรถเฟอร์รารี่ได้ จะต้องตอบแทนพวกคุณอย่างดีแน่นอน”
สีหน้าของจารุดาเต็มไปด้วยความมั่นอกมั่นใจ เมื่อรปภ.ทั้งสองคนได้ยินคำพูดของจารุดาก็พากันตื่นเต้น คนที่สามารถซื้อเฟอร์รารี่ได้ จะตอบแทนพวกเขาเล็กๆ น้อยๆ ก็น่าจะเป็นจำนวนเงินที่สูงไม่ใช่หรือไง
“ใช่ นายอย่ามาทำให้พวกเรากลัวเลย พวกเราทั้งสองคนได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี”
รปภ.ทั้งสองคนตัดสินใจได้แล้ว จึงตวาดใส่รพีพงษ์ และตอนนี้นลินยังคงนั่งอยู่ในรถ เดิมทีเธอไม่คิดที่จะลงจากรถ เพราะรพีพงษ์บอกให้เธอนั่งรออยู่ในรถ แต่ตอนนี้เธอเห็นรพีพงษ์โดนผู้หญิงคนหนึ่งจับเอาไว้ แถมรปภ.ที่มีสีหน้าไม่รับแขกก็กำลังพูดกับเขา จู่ๆ นลินก็โกรธขึ้นมา
เธอเปิดประตูและลงจากรถ จากนั้นจึงพูดกับกลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ฉันเป็นคนให้เขาขับเอง ฉันอยากรู้ว่าพวกนายจะพูดอะไรอีก”
หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่นลินพูด ทุกคนพากันมองไปที่นลิน นลินมีสง่าราศีเป็นอย่างมาก บวกกับการแต่งหน้าแต่งตัวที่สวยงามของเธอ เมื่อดูแวบแรกดูไม่ออกว่าเป็นใคร แค่รู้ว่าน่าจะเป็นคุณหนูของตระกูลใดตระกูลหนึ่ง
ปกติแล้วพวกรปภ. เจอคนมามากมาย ดูท่าทางของนลินก็รู้ทันที ไม่แน่นลินอาจจะเป็นคุณหนูของตระกูลร่ำรวยสักตระกูล บวกกับรถเฟอร์รารี่คันนี้ รปภ.ทั้งสองเริ่มรู้สึกว่ารพีพงษ์อาจจะเป็นเพื่อนของคุณหนูคนนี้ก็ได้
จารุดาหันมาเห็นนลิน หลังจากที่เธอเห็นนลิน เธอก็รู้สึกหดหู่ใจ เพราะเมื่อเธอยืนต่อหน้านลิน เธอเหมือนเด็กบ้านนอก ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวหรือบุคลิก เธอเทียบนลินไม่ติดเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่สิ่งสำคัญไปกว่านั้นนลินปรากฏตัวออกมาแล้ว งั้นก็แสดงว่ารพีพงษ์ไม่ได้เป็นคนขโมยรถคันนี้ งั้นสิ่งที่เธอพูดมาก่อนหน้านี้ก็กลายเป็นคำพูดไร้สาระน่ะสิ เธอรู้สึกเหมือนหน้าของตัวเองหล่นไปบนพื้นและให้คนที่อยู่รอบๆ พากันเหยียบย่ำซ้ำเติม
“อย่าบอกนะว่าพวกนายก็คิดว่าฉันเป็นขโมย”
นลินมองพวกตรงหน้าที่พูดอะไรไม่ออก จากนั้นเธอก็แผดเสียงออกมา เมื่อได้ยินเสียงของนลิน รปภ.ทั้งสองคนต่างพากันหวาดกลัวและส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว สุดท้ายจึงเอาแต่พูดว่าไม่กล้า รพีพงษ์เห็นนลินลงมา จู่ๆ เขาก็พูดกับรปภ.ทั้งสองคนว่า “ตอนนี้ฉันไปได้หรือยัง”
“ขอโทษจริงๆ ครับคุณผู้ชาย พวกเราเข้าใจคุณผิด ขอโทษที่ทำให้คุณเสียเวลาครับ”
สีหน้าของรปภ.ทั้งสองคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เธอเหมือนคุณหนูของตระกูลร่ำรวยสักตระกูล ถ้านลินโมโหพวกเขาขึ้นมา พวกเขาต้องตกงานอย่างแน่นอน
“เธอด้วย รีบเอาเล็บของเธอออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้”
รพีพงษ์หันไปมองจารุดาด้วยสีหน้าเย็นชา เมื่อได้ยินเสียงของรพีพงษ์ จารุดารีบเก็บมือของตัวเองทันที หน้าของเธอแดงก่ำ อีกทั้งเธอยังขายหน้าต่อหน้าเพื่อนของเธออีกด้วย
แต่ทว่าเมื่อเห็นรพีพงษ์กับนลินลงมาจากรถคันเดียวกัน จารุดาก็หัวเราะเยาะอยู่ในใจ เธอรู้ว่าตัวเองควรทำอย่างไร ไม่เพียงแต่จะได้แก้แค้นรพีพงษ์ แถมยังกู้หน้าของตัวเองกลับมาได้อีก
เมื่อคิดได้เช่นนั้น จารุดาจึงพูดกับรพีพงษ์ด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“รพีพงษ์ ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ ว่านายจะตกต่ำจนมาเป็นสุนัขรับใช้แบบนี้ มิน่าล่ะช่วงนี้บ้านของนายถึงโชคดีขนาดนี้ ที่แท้นายใช้ร่างกายของตัวเองประจบประแจงนี่เอง ฉันล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าอารียาจะเสแสร้งต่อหน้าฉันยังไงอีก ดูเหมือนพวกนายจะเป็นคู่แท้กันนะ”
จารุดาไม่ทันได้พูดจบก็มีเสียงดังสนั่นขึ้นมา รอยนิ้วมือสีแดงทั้งห้านิ้วประทับอยู่บนใบหน้าของเธอ รพีพงษ์โดนจารุดาพูดราวี จนทำให้เขาหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
อีกทั้งนานมากแล้วที่เขาไม่รู้ว่าอารียาเป็นอย่างไรบ้าง ตอนแรกเขาเตรียมที่จะซื้อวัตถุดิบทำยาอย่างรวดเร็วและกลับไปรักษาอารียา แต่จารุดากลับมาทำให้เสียเวลาอย่างมาก
ตอนแรกเขากะจะไม่ทำอะไรจารุดา แต่จารุดายิ่งเหิมเกริมขึ้นเรื่อยๆ ไม่เพียงแต่จะดูถูกเขา แต่ยังกล้าพูดจาไร้มารยาทใส่อารียาด้วย สุดท้ายเขาจึงไม่สามารถสะกดกลั้นอารมณ์โกรธของตัวเองได้และตบไปที่หน้าของจารุดา