พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1151 อิจฉาพวกเธอ
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1151 อิจฉาพวกเธอ
“บางครั้งฉันล่ะอิจฉาพวกเธอจริงๆ ที่สามารถใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา สามารถนั่งรถบัสแบบนี้”
รพีพงษ์ส่ายหน้าแล้วถอนหายใจออกมา จากนั้นเขาจึงรับกุญแจรถแลมโบกินีมาจากมือของชายหนุ่มคนนั้น เขาแสร้งทำท่าทางเสียใจ
เมื่อคนรอบๆ เห็นท่าทีที่ชายหนุ่มคนนั้นปฏิบัติกับรพีพงษ์ บวกกับกุญแจรถนั่น มันเป็นรูปวัวตัวใหญ่ ทุกคนถึงกับตกตะลึง
ใครก็คิดไม่ถึงว่าคนที่ใส่เสื้อผ้าตามตลาดและดูบ้านนอกอย่างรพีพงษ์จะขับรถแลมโบกินี คนที่พูดจาไร้มารยาทใส่รพีพงษ์เมื่อครู่ถึงกับกระอักกระอ่วน
ตอนนี้ในใจของชายคนนั้นไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย มันถูกแทนที่ด้วยความเจ็บแสบ เหมือนถูกตบหน้าอย่างไรอย่างนั้น
รถแลมโบกินีเป็นรถหรู แถมพวกเขายังเป็นแค่คนธรรมดายังกล้ามาพูดแบบนี้กับรพีพงษ์
ตอนนี้สีหน้าของจารุดาไม่สู้ดี เธอคิดไม่ถึงจริงๆ ว่ารพีพงษ์จะขับรถแลมโบกินี
“ตอนนี้ฉันมีสิทธิ์เข้าไปได้หรือยัง”
สีหน้าของรพีพงษ์เต็มไปด้วยความยียวน และพูดกับชายหนุ่มคนนั้น
“คุณกำลังพูดอะไรอยู่ครับ ทำไมแขกวีไอพีแบบคุณจะเข้าไปข้างในไม่ได้ล่ะครับ เชิญครับ เดี๋ยวผมจะพาคุณไป”
ชายหนุ่มที่นำรถไปจอดให้รพีพงษ์พูดอย่างนอบน้อม เขาผายมือออกข้างหนึ่งเพื่อพารพีพงษ์เข้าไปข้างใน
ตอนนี้รพีพงษ์ไม่อยากสนใจจารุดากับคนพวกนั้นอีก เขาเดินเข้าไปข้างในพร้อมกับพนักงานคนนั้น จารุดามองแผ่นหลังของรพีพงษ์ เธอเกือบจะเป็นลมลงตรงนั้นและเอาแต่กัดฟันกรอด
“จารุดา ไอ้หมอนั่นเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงมีเงินเยอะขนาดนี้ แถมยังขับแลมโบกินีอีก เธอรู้จักคนแบบนี้แต่ไม่แนะนำให้พวกเรารู้จักเหรอ หรือเธอจะเก็บเอาไว้ใช้คนเดียว”
พวกผู้หญิงที่มองรพีพงษ์หันหลังเดินออกไป แววตาของพวกเธอไม่ได้ดูถูกการแต่งตัวของรพีพงษ์อีกแล้ว มันกลายเป็นท่าทางแห่งการเลื่อมใสศรัทธา สีหน้าของพวกเธอเต็มไปด้วยความหลงรัก ราวกับเป็นคนละคน เพราะรพีพงษ์เป็นคนที่ขับรถแลมโบกินี เขาเป็นคนที่ดีที่สุดที่จะเป็นสามีของพวกเธอ
“นี่มันดีตรงไหน ไม่แน่มันอาจจะถูกหวยมาก็ได้ ไม่ช้าก็เร็วมันก็จะกลับไปสิ้นเนื้อประดาตัวและยากจนอีก”
บางคนทีเคยเยาะเย้ยรพีพงษ์ เต็มไปด้วยความหงุดหงิดและพูดออกมาอย่างโมโห
แต่ทว่าจารุดาเป็นคนที่ไม่พอใจที่สุด เธอคิดไม่ถึงจริงๆ รพีพงษ์ไม่เพียงแต่พูดจาไร้มารยาทใส่เธอ อีกทั้งเขายังขับรถแลมโบกินีอีกด้วย
ไม่นานเธอก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ นั่นก็คือรพีพงษ์เป็นไอ้ละอ่อน รถคันนี้ต้องเป็นของผู้หญิงรวยคนนั้นแน่นอน
จารุดาสบายใจขึ้นมาก เธอคิดว่ารถแลมโบกินีคันนี้ต้องเป็นของผู้หญิงรวยคนนั้นให้รพีพงษ์ยืมมา
“ไอ้หมอนี่ก็ยังเป็นสวะอยู่วันยังค่ำ ไม่มีความสามารถอะไร เอาแต่เกาะผู้หญิงกิน ฉันจะทำให้นายมาคุกเข่าต่อหน้าฉันและขอร้องไม่ให้ฉันปล่อยรูปพวกนี้ออกไป ตอนนั้นฉันล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าคนพวกนั้นจะมองนายยังไง!”
แน่นอนว่าตอนนี้จารุดายังไม่อยากใช้ไพ่ที่อยู่ในมือ เธอพูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์
“ไอ้กระจอกนั่นมันก็แค่คนจนที่อวดดี ที่มันขับรถหรูก็แค่เสแสร้งเท่านั้นแหละ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเราสักหน่อย”
ตอนนี้รพีพงษ์นั่งอยู่บนเรือด่วนที่กำลังมุ่งหน้าไปที่เกาะ บนเกาะแห่งนี้เต็มไปด้วยบริการท่องเที่ยวและจัดเลี้ยง ปกติแล้วเกาะแห่งนี้เป็นที่ที่เหล่าไฮโซมาจัดงานเลี้ยง คนมีหน้ามีตาเท่านั้นถึงจะมาที่นี่ได้ แต่ว่าชื่อเสียงของโพธิสุทธิ์โด่งดังมาถึงที่นี่
ดังนั้นเมื่อคนบนเกาะได้ยินว่างานเสวนาครั้งนี้จัดโดยโพธิสุทธิ์ แน่นอนว่าพวกเขาต้องตอบตกลงอยู่แล้ว
เพราะถ้าพวกเขาเกิดเจ็บป่วยขึ้นมา จะได้ขอความช่วยเหลือจากโพธิสุทธิ์ได้ พวกเขาไม่อยากพลาดโอกาสในการสร้างคอนเนคชั่น
ตอนนี้รพีพงษ์เดินเข้ามาในห้องโถง เขาอดอุทานออกมาในใจไม่ได้ นี่มันไม่ใช่งานเสวนาแล้ว มันเหมือนกับตลาดผักอย่างไรอย่างนั้น มันมีสมุนไพรหายากมากมาย ตอนนี้มันถูกรวบรวมมาไว้ที่นี่หมดแล้ว แถมยังมีคนขายสินค้าอีกด้วย
ใครๆ ก็รู้ว่างานเสวนาครั้งนี้จัดโดยโพธิสุทธิ์ เรียกได้ว่าคนมีหน้ามีตาล้วนมาที่นี่ ถ้าสมุนไพรที่อยู่ในมือของคนพวกนี้ได้รับความสนใจ ไม่แน่พวกเขาอาจจะได้เงินก้อนโตก็เป็นได้
มันดีกว่าปกติที่พวกเขามักจะเร่ไปทั่วและป่าวประกาศว่าสมุนไพรของตัวเองดี
เพราะการที่พวกเขาไปเร่ขาย มักจะถูกบีบบังคับอย่างไม่สามารถเลี่ยงได้ แต่เมื่ออยู่ที่นี่พวกเขาไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น เพราะคนที่มาร่วมงานมีแต่พวกคนรวย
“พ่อหนุ่ม มาดูสิ นี่เป็นเห็ดหลินจือที่ตระกูลของผมเก็บเอาไว้มาหลายปี มันมีอายุขัยหลายร้อยปีแล้ว”
คนที่พูดเป็นต่อยหอยคนหนึ่ง เมื่อเห็นรพีพงษ์กำลังเดินชมที่นี่ แถมยังแต่งตัวธรรมดาๆ จู่ๆ เขาก็คิดจะหลอกเงินรพีพงษ์ เขาดึงรพีพงษ์และพูดออกขายสินค้า
แต่เมื่อรพีพงษ์ได้ฟังคำพูดของคนนี้ เขาปรายตามองแผงขายของด้วยแววตานิ่งเฉย หลังจากที่เขาเห็นเห็ดหลินจือ สีหน้าก็ไม่พอใจขึ้นมาทันที เขาคิดในใจว่านี่เรียกว่าสินค้าระดับสูงได้อย่างนั้นเหรอ แถมยังบอกว่าหลายร้อยปีอีก นี่กำลังหลอกลวงชัดๆ สิ่งนี้ไม่สมควรเรียกว่าเห็ดหลินจือ
มันเป็นแค่เห็ดธรรมดาเท่านั้น แต่มันแค่มีรูปร่างเหมือนเห็ดหลินจือ ยังดีที่ไม่มีพิษ ถ้านำไปทำอาหารน่าจะไม่เลว แต่อย่าเอาไปทำยาเลย
แต่รพีพงษ์ไม่ได้พูดอะไร เขาส่ายหน้าแล้วเดินต่อไป
ตอนนี้คนที่อยู่ในห้องโถงล้วนมีอะไรแอบแฝงอยู่ในใจและทำตัวอวดดี เหมือนกับพวกที่ขายวัตถุโบราณตามข้างทาง ที่มีทั้งคนดีและคนเลวปะปนกันไป
แต่นี่มันง่ายดายสำหรับเขามา เขาแค่ใช้พลังจิตมองดูก็สามารถมองทะลุทุกอย่างได้
เหมือนกับคนที่พูดเป็นต่อยหอยเมื่อครู่ กล้าเอาเห็ดที่หยิบติดมือมาหลอกว่าเป็นเห็ดหลินจือ นี่ถือว่ากล้ามากจริงๆ
พวกคนหลอกลวงเจ้าเล่ห์ ชอบเอาของมาย้อมแมว บางทีก็บอกว่ามีอายุขัย แต่ทว่าสมุนไพรที่มีอายุหลายร้อยปี ด้วยสภาพการเจริญเติบโตที่แตกต่างจากปกติ คุณภาพของมันก็ค่อนข้างจะแตกต่างกันมาก ถ้าไม่ใช่คนที่มีแววตาเฉียบแหลม ไม่สามารถแยกออกได้ในระยะเวลาอันสั้น