พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1152 หญ้าบริสุทธิ์
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1152 หญ้าบริสุทธิ์
ไม่นานรพีพงษ์ก็เดินชมที่นี่ครบหนึ่งรอบ ถึงแม้ว่าที่นี่จะมียาสมุนไพรคุณภาพดี แต่สำหรับรพีพงษ์ ยาสมุนไพรพวกนี้ไม่เข้าตาเขาสักอย่าง ไม่มีประโยชน์อะไรเลยสักนิด
เขาเดินมาถึงชายร่างผอมอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว เขาเตรียมที่จะขึ้นไปดูบนชั้นสอง
“คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าพ่อหนุ่มจะกลับมา คิดว่าเห็นหลินจือที่ผมแนะนำให้คุณไม่เลวใช่ไหม คุณอยากซื้อใช่ไหม คุณว่าราคามาได้เลยนะ”
ชายคนนั้นพูดกับรพีพงษ์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ทว่ารพีพงษ์กลับตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“อย่ามาล้อเล่นกับผมอีก เห็ดหลินจือของคุณ หลอกคนที่ไม่รู้เกี่ยวกับด้านนี้ยังยากเลย แต่คุณหลอกผมไม่ได้หรอก นี่เป็นแค่เห็ดธรรมดาที่เหมาะสำหรับทำอาหารเท่านั้น”
“แต่คุณบอกว่ามันคือเห็ดหลินจือ นี่กำลังโกหกตาใสชัดๆ งานเสวนาครั้งนี้โพธิสุทธิ์เป็นคนจัดขึ้นมากับมือ แต่คุณกลับใช้ของปลอมแบบนี้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนมีความรู้ทำกันหรอกนะ ถ้าเกิดวัตถุดิบของยาผสมกันมั่ว นั่นคือชีวิตของคนเชียวนะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ คนคนนั้นถึงกับอึ้งไป เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่ารพีพงษ์จะมองเห็ดของเขาออก
คนอายุแบบรพีพงษ์ ไม่มีทางมีความรู้ขนาดนี้ ดังนั้นเขาไม่น่าจะมองเห็ดนี่ออกได้
เขาคิดว่าต้องอยู่ในวงการนี้มาหลายปี ถึงจะมองเห็นสิ่งผิดปกติของเห็ดนี้ ไม่นานเขาก็หัวเราะออกมาแล้วพูดกับรพีพงษ์ว่า
“สายตาของคุณเฉียบแหลมยิ่งนัก แต่คุณวางใจเถอะ ถึงของพวกนี้จะเป็นของปลอม แต่มันสามารถทานได้ ดูท่าทางของคุณแล้ว น่าจะตั้งใจมาหาของดีที่นี่สินะ”
“ใช่ ผมมาดูว่ามีสิ่งที่ผมอยากได้หรือเปล่า แต่ผมเดินดูชั้นหนึ่งหมดแล้ว ยังไม่เห็นอะไรเข้าตาเลยสักอย่าง”
น้ำเสียงของรพีพงษ์เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา แต่ทว่าชายหนุ่มคนนั้นกลับเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นเหมือนเขาตัดสินใจอะไรบางอย่างได้ เขากัดฟันพูดกับรพีพงษ์ว่า
“ในเมื่อคูณเป็นคนที่รู้เรื่องสินค้า งั้นวันนี้ผมจะเชื่อคุณ ผมมีสิ่งล้ำค่าอยู่ในมือ ตอนแรกผมจะไปขายที่ชั้นบน แต่การที่จะไปชั้นบนจะต้องเสียเงิน แต่ตอนนี้ผมมีเงินไม่มาก เลยกะจะขายของปลอมที่มีอยู่ออกไปก่อน เมื่อมีเงินผมจะได้ไปขายของที่ชั้นสอง”
เมื่อพูดจบ ชายคนนั้นก็เปิดกล่องที่อยู่ข้างตัวออก รพีพงษ์มองเข้าไปในกล่อง ก็รู้ว่าของในกล่องดีกว่าของที่โชว์อยู่ไม่น้อย แต่ไม่ได้น่าตกตะลึงอะไร มันเป็นสินค้าที่แท้จริงเท่านั้น
“แค่นี้เรียกว่าเป็นของดีเหรอ”
เดิมทีรพีพงษ์ยังตั้งตารอกับคำพูดของชายคนนั้น แต่ทว่าหลังจากที่ได้เห็น เขาถึงกับขมวดคิ้ว จู่ๆ ชายคนนั้นก็หัวเราะออกมา แล้วพูดขึ้นอีกครั้งว่า
“ในเมื่อคุณรู้ว่าผมมีอยู่เท่านี้ คุณดูเอาเองเถอะ ถ้าคุณต้องการอะไรก็ให้ผมมาเล็กๆ น้อยๆ ก็ได้”
เดิมทีรพีพงษ์ไม่อยากเสียเวลาพูดกับชายคนนี้ต่อ แต่ทว่าเขาเห็นสมุนไพรที่อยู่ในกล่องของชายคนนั้น
“หญ้าบริสุทธิ์อย่างนั้นเหรอ”
เมื่อเห็นยาสมุนไพร รพีพงษ์ถึงกับอึ้งไป เขาคาดไม่ถึงว่าจะเจอหญ้าบริสุทธิ์ที่นี่ เมื่อเขาใช้พลังจิตตรวจดูประสิทธิภาพของยาสมุนไพรชนิดนี้ เขาก็แสดงความปลาบปลื้มออกมา
ถึงแม้มันจะไม่ได้มีประสิทธิภาพถึงขนาดที่ชุบชีวิตของคนขึ้นมาได้ แต่เมื่อใช้ควบคู่กับพลังจิตของเขา มันจะส่งผลดีต่อผู้ป่วยอย่างแน่นอน
ตอนนี้ในใจของรพีพงษ์เต็มไปด้วยความตกตะลึง แต่เขาไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาทางสีหน้า เขาชี้ไปที่หญ้าบริสุทธิ์แล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ผมคิดว่ายาสมุนไพรชนิดนี้สามารถใช้ได้ ผมจะเอาอันนี้ คุณว่าราคามาเลย”
ชายคนนั้นมองรพีพงษ์ แล้วมองไปที่สมุนไพรในกล่องที่แม้แต่เขาก็ไม่รู้จัก เขารู้สึกพออกพอใจขึ้นมาทันที ของสิ่งนี้เป็นของที่เขายัดเข้ามาเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กล่องนี้เท่านั้น
เขาไม่รู้อะไรเลยแต่ทำเหมือนรู้ คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะซื้อสมุนไพรชิ้นนี้
“ผมกับคุณเหมือนมีโชคชะตาต่อกัน คุณคือคนแรกที่ซื้อของจากมือของผม งั้นให้คุณ 999 หยวนแล้วกัน”
ชายคนนั้นตื่นเต้นขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินคำพูดของชายคนนั้น รพีพงษ์รู้สึกตลกมาก เพราะหญ้าบริสุทธิ์เมื่อเข้าไปอยู่ในการประมูลมีมูลค่าหลายล้าน แต่ทว่าชายคนนี้กลับขายให้เขาในราคา 999 หยวน นี่มันเสียของชัดๆ
แน่นอนว่าเขาไม่บอกเรื่องนี้ให้ชายคนนั้นรู้ เขาจ่ายเงินและรับสมุนไพรมา
ขณะที่รพีพงษ์รับหญ้าบริสุทธิ์มา จารุดาเดินผ่านมาพอดี เมื่อเธอเห็นว่ารพีพงษ์ใช้เงิน 999 หยวนซื้อหญ้าที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน เธอจึงตะโกนออกมาด้วยความหงุดหงิด
“รพีพงษ์ สมองของนายมีปัญหาหรือเปล่า ถึงใช้เงินจำนวนมากซื้อหญ้าแบบนี้ ฉันว่านายนี่โง่จริงๆ”
เมื่อได้ยินเสียงของจารุดา รพีพงษ์ก็หันหน้ากลับไปมองด้วยสีหน้าไม่พอใจ จากนั้นจึงพูดขึ้นมาว่า
“ฉันจะซื้ออะไรก็เรื่องของฉัน เกี่ยวอะไรกับเธอ เธอมีสิทธิ์อะไรมาก้าวก่าย อีกอย่างเธอจะรู้อะไรเกี่ยวกับสมุนไพรพวกนี้”
เมื่อผู้ชายคนนั้นเห็นว่ามีคนมาพูดแบบนี้กับรพีพงษ์ เขากลัวว่ารพีพงษ์จะดูออกว่ามันเป็นแค่หญ้าธรรมดา แล้วจะเอาเงินคืน เขาจึงรีบพูดขึ้นมาว่า
“เธอรู้ไหมว่ากำลังพูดอะไรอยู่ อย่าบอกนะว่าผู้หญิงอย่างเธอรู้เรื่องสมุนไพร คิดไม่ถึงว่าจะกล้าต่อว่าคุณผู้ชายท่านนี้ คุณผู้ชายอย่าไปสนใจผู้หญิงที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยครับ ดูก็รู้ว่าเธอมีตาหามีแววไม่ ไม่รู้จักโลกภายนอกอีกด้วย สมุนไพรของผมเป็นของดีแน่นอนครับ”
ชายวัยกลางคนร้อนใจขึ้นมาทันที น้ำเสียงที่พูดออกมารวดเร็วเป็นอย่างมาก
“เหอะๆ ถ้าไอ้หมอนี่รู้เรื่องสมุนไพร พวกคนตามข้างถนนก็รู้เรื่องสมุนไพรเหมือนกันน่ะสิ นายไม่รู้หรอกว่าไอ้หมอนี่มันก็แค่สวะ เขาไม่รู้เรื่องพวกนี้ด้วยซ้ำ มาทำตัวตลกเท่านั้นแหละ”
สีหน้าของจารุดาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เธอคิดว่ารพีพงษ์เป็นแค่คนที่เกาะผู้หญิงกิน ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นแค่สวะเท่านั้น
“ผมไม่สนว่าเขาจะเป็นสวะหรือไม่ อีกอย่างเราได้ทำการซื้อขายกันแล้ว”
จากที่เคยคุยกันก่อนหน้านี้ ชายคนนี้รู้ว่ารพีพงษ์ไม่ใช่คนที่ไม่รู้เรื่องสมุนไพร ถ้าเขาเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรจริงๆ ทำไมเขาถึงมองแวบเดียวก็รู้ว่าเห็ดที่ตัวเองเอามาไม่ใช่เห็ดหลินจือ อีกทั้งบนสนทนาก่อนหน้านี้ของพวกเขาก็ล้วนเกี่ยวข้องกับสมุนไพรทั้งนั้น