พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1167 ไสหัวออกไปให้พ้น
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1167 ไสหัวออกไปให้พ้น
เมื่อรพีพงษ์ได้ยินเสียงดังมาจากโทรศัพท์ เพียงรู้สึกเต็มไปด้วยความหมดหนทาง
“พ่อ คุณน้า พวกคุณรู้มั้ยว่าพวกคุณกำลังพูดอะไร? ทุกครั้งที่ครอบครัวพวกเรามีปัญหารพีพงษ์ก็ยังเป็นคนช่วยพวกเราจัดการไม่ใช่เหรอ?”
อารียาเอ่ยปากพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยไม่พอใจ
ในช้าไม่ก็อารียาก็ขับรถเบนซ์ของเธอ ไปที่งานเลี้ยงในโรงแรม ก่อนหน้าที่จะขึ้นรถเธอได้ส่งตำแหน่งที่อยู่ของงานเลี้ยงให้รพีพงษ์
พนักงานเสิร์ฟที่ทางเข้าโรงแรมก็เคยเห็นรถหรูนับมาไม่ถ้วนเป็นธรรมดา หลังจากที่เห็นรถเบนซ์คันนี้ พวกเขาก็เข้าใจโดยธรรมชาติว่าสถานะของคนที่สามารถขับรถแบบได้ไม่มีทางที่จะต้อยต่ำอย่างแน่นอน
ผลเป็นอย่างที่คาดไว้ หลังจากนั้นสักครู่ พวกเขาก็เห็นหญิงสาวที่เทียบเท่ากับสามารถใช้เทพธิดามาอธิบายได้ เดินลงมาจากรถเบ้นซ์
วันนี้อารียาสวยมากจริงๆ การปรากฏตัวของเธอดึงดูดสายตาของผู้ชายนับไม่ถ้วน เมื่อเห็นฉากนี้ ในใจของโสรญาก็ยิ่งหลงตัวเองอย่างไร้ที่เปรียบ
ในห้องวีไอพีของชั้นบน จักรินกำลังชนแก้วกับวิลเลียมอย่างไม่หยุด และในขณะนี้ คนในครอบครัวของอารียากำลังเดินเข้ามาในห้องวีไอพี ชั่วพริบตาที่เห็นอารียา วิลเลียมก็นิ่งอึ้งไปทันที
เนื่องจาก หญิงสาวที่สวยบาดตาอย่างอารียา ต่อให้เขาจะไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อมองไปแวบเดียวแบบนี้ จารุดาที่นั่งอยู่ข้างๆของตัวเอง ดูเหมือนเทียบเท่ากับหญิงสาวในชนบท
วิลเลียมรีบลุกขึ้นยืนทันที ถามอารียาว่า: “คนคนนี้เป็นใคร?”
เมื่อจารุดาเห็นฉากนี้ ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความโกรธในทันที ตอบกลับด้วยความโกรธว่า
“เธอคืออารียา เป็นลูกของญาติครอบครัวพวกเรา”
วิลเลียมถึงได้ตระหนักว่ากระทำเมื่อกี้นี้ของเขาไม่เหมาะสนมากแค่ไหน ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเขาก็เป็นคนของตระกูลวอลบิลซีเป่ย สาวสวยแบบไหนที่ไม่เคยเห็นมาบ้าง ไม่นึกเลยว่าจะควบคุมตัวเองไม่อยู่เพราะหญิงสาวแบบนี้
กระแอมอย่างกระอักกระอ่วนไม่กี่ครั้ง เขาก็นั่งลงไปที่ในที่นั่งของตัวเองอีกครั้ง
ซูโก๋แนะนำหลายคนนี้ให้กับวิลเลียมอย่างรวดเร็ว ตอนที่เขาแนะนำคนในครอบครัวของอารียาให้วิลเลียม แม้แต่จมูกก็แทบจะเชิดลอยขึ้นไปบนฟ้าแล้ว
เนื่องจากฐานะตำแหน่งของวิลเลียมวางอยู่ที่นี่ นับประสาอะไรกับรพีพงษ์ ไม่ใช่ว่ารพีพงษ์จะสามารถพอที่จะเทียบได้
เดิมทีศักดายังคิดว่า ครั้งนี้ที่เชิญพวกเขามาเพื่อจะเชื่อมสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวพวกเขา คาดไม่ถึงนี่เพิ่งจะปรากฏตัว ซูโก๋ก็แนะนำลูกเขยใหม่ของครอบครัวพวกเขาไม่หยุด
เขาก็นึกถึงลูกเขยของครอบครัวตัวเองในทันที เป็นเศษสวะจริงๆ ไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องถูกไล่ออกจากบ้าน!
ในขณะนี้รพีพงษ์ก็มาถึงที่ชั้นล่างของโรงแรมอย่างรวดเร็ว
ถ้าหากบอกว่าก่อนหน้านั้นอารียาปรากฏตัวที่หน้าประตูโรงแรมนี้ ก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนแล้ว ถ้าอย่างนั้นรพีพงษ์ปรากฏตัวที่หน้าประตูโรงแรมแห่งนี้ในเวลานี้ ก็ยิ่งดึงดูดความสนใจมากขึ้น
เนื่องจากโรงแรมอย่างชั้นนำแบบนี้ และเสื้อผ้าทั้งชุดที่รพีพงษ์สวมใส่อยู่ แม้แต่พวกพนักงานทำความสะอาดของโรงแรมยังดีกว่าเขาหลายร้อยเท่า
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูไม่ลังเลแม้แต่น้อย ขวางรพีพงษ์ไว้ที่ด้านนอกประตู
“นายไม่สามารถเข้าไปในโรงแรมนี้ได้”
เมื่อรพีพงษ์ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วทันที ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเยือกเย็นเอ่ยปากพูดว่า
“ถอยออกไป!”
และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะกล้าพูดแบบนี้กับเขา เนื่องจากเขาสามารถที่จะเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรมแห่งนี้ได้ ซึ่งเป็นงานที่ดีมากในสายตาของคนรอบข้าง
เนื่องจากมีผู้คนมากมายแย่งกันแทบเป็นแทบตายก็อยากจะเข้ามาก็ไม่มีสิทธิ์นี้ แต่ไม่นึกเลยว่ารพีพงษ์จะกล้าพูดจาแบบนี้กับเขา
ตอนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนิ่งอึ้ง รพีพงษ์ก็ตรงเข้าไปที่ประตูใหญ่ของโรงแรมแบบนี้
“ขวางเขาไว้! รีบขวางไอ้หมอนั่นไว้ให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
ในที่สุดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ดึงสติกลับมาได้แล้วตะโกนเสียงดังขึ้นมาในโรงแรม ในไม่ช้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนก็รายล้อมไว้ทั้งหมด โดยขวางรพีพงษ์อยู่ที่เดิม
“พวกคุณได้โปรดถอยออกไปให้ฉันเดี๋ยวนี้”
รพีพงษ์พยายามควบคุมความโกรธในใจของตัวเอง และเอ่ยปากพูดว่า
“ฉันรีบมาก”
เขาไม่อยากพูดจาไร้สาระกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ตรงหน้าเหล่านี้
“ฮ่าๆ เด็กเวรอย่างแกนะเหรอ หรือว่าแกยังต้องการเข้าไปในโรงแรมของพวกเราเหรอ? ไม่งั้นแกบอกฉันมาว่าแกจะไปชั้นไหน?”
เมื่อได้ยินคำพูดของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย รพีพงษ์เอ่ยปากพูดในทันที
“ฉันจะไปห้องวีไอพีของชั้นบน”
และเมื่อเห็นคำตอบของรพีพงษ์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่รอบๆก็หัวเราะกันลั่นออกมาอย่างฉับพลัน
“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันตลกจะตายอยู่แล้วจริงๆ เด็กคนนี้ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเกินไปแล้ว ไม่นึกเลยว่าเขาจะบอกว่าจะไปชั้นบน!”
และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหนึ่งในนั้นก็พูดกับรพีพงษ์ด้วยใบหน้าที่เต็มไปความเหยียดหยาม
“ทางที่ดีแกรีบไสหัวออกให้พ้น ฉันเกรงว่าแกคงจะไม่รู้ว่าแขกผู้มีเกียรติอย่างไรที่สามารถขึ้นไปที่ห้องวีไอพีได้!”
“โธ่ ลูกพี่อย่าไปพูดจาไร้สาระกับไอ้หมอนี่ คาดว่าไม่แน่ไอ้หมอนี่อยากจะเข้าไปขโมยของ เนื่องจากพวกเราก็รู้ดีว่าคนที่สามารถพอที่จะทานอาหารอยู่ที่ชั้นสุดได้ก็เป็นเจ้านายใหญ่ที่มีชื่อเสียงที่โด่งดังมาก”
รพีพงษ์ไม่อยากจะสนใจคนเหล่านี้ที่อยู่ตรงหน้า เนื่องจากถ้าหากเขาไปสาย อารียาคงจะตำหนิเขาอย่างแน่นอน
เขาผลักเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ตรงหน้าออกไปทันที และเดินไปที่บันได
“ไม่นึกเลยว่าไอ้หมอนี่จะกล้าลงมือ! ไม่ต้องเกรงใจเขาแล้ว รีบฆ่าเขาให้ตายซะ!”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนรีบวิ่งพุ่งเข้าหารพีพงษ์ แต่เพียงแค่ชั่วอึดใจเดียว พวกเขาทั้งหมดก็กลับบินออกมาและล้มลงกับพื้นคร่ำครวญขึ้นมา
ในชั้นบนของตึก ครอบครัวของจักรินกำลังพูดคุยกัน ครอบครัวของโสรญาไม่สามารถที่จะพูดแทรกไปได้แม้แต่คำเดียว ทำได้เพียงนั่งที่มุมโต๊ะ และมองดูการแสดงของครอบครัวของจักรินที่อยู่ตรงหน้า
สายตาของวิลเลียมกลับมองไปที่อารียาเป็นครั้งเป็นคราว
ในขณะที่มอง ในใจของวิลเลียมก็ตัดสินได้ วันหนึ่งไม่ช้าก็เร็วตัวเองจะต้องกดทับหญิงสาวคนนี้ไว้ใต้ร่างกายอย่างแน่นอน!
“ขอโทษด้วยจริงๆที่ฉันมาสาย”
ในขณะนี้รพีพงษ์เปิดประตูเดินเข้ามา แต่เสียงขอโทษของเขานี้ เพียงแค่ให้อารียาได้ยินคนเดียว
โสรญาที่เดิมทีที่ตกอยู่ในความเงียบโดยตลอด เมื่อได้ยินเสียงของรพีพงษ์ ก็ตะโกนด้วยความโกรธขึ้นมาในทันที
“ตอนนี้แกเพิ่งจะรู้ว่าขอโทษ ไม่นึกเลยว่าจะสายขนาดนี้เพิ่งมาถึง ทำให้พวกเราขายหน้ามากจริงๆ!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า รพีพงษ์ นายมาสายจริงๆ นายต้องดื่มลงโทษตัวเองสามแก้ว ฉันได้ยินมาว่าความสามารถในการดื่มของนายดีมาก!”
ซูโก๋ลุกขึ้นยืนพูดกับรพีพงษ์ทันที
ถ้าหากคนที่ไม่ทราบว่าความเกลียดชังระหว่างสองครอบครัวนี้ลึกซึ้งเพียงใดในเวลานี้ เมื่อเห็นฉากตรงหน้านี้คงจะคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัวนี้ดีเป็นอย่างมาก
ในขณะนี้รพีพงษ์ไม่ได้ตั้งใจจะพูดอะไร นั่งตรงลงไปที่ข้างๆอารียาทันที
ซูโก๋ไม่นึกเลยว่าจะเห็นรพีพงษ์กล้าที่จะไม่สนใจคำพูดของตัวเอง ก็เอ่ยปากตะโกนเสียงดังทันที
“แกคิดว่าช่วงนี้แกทำอะไรได้บ้างแล้ว ก็คิดว่าแกสามารถพอที่จะมาอวดดีต่อหน้าพวกเราแล้วเหรอ ตอนนี้พวกเรารู้จักกับคนของตระกูลวอลบิลซีเป่ย!”
เดิมทีซูโก๋ยังต้องการจะบอกว่า พวกเขาสามารถอาศัยตระกูลวอลบิลทำอะไรบ้าง แต่รพีพงษ์กลับเพียงแค่เขม็งตาใส่ซูโก๋อย่างโหดๆแวบหนึ่ง ซูโก๋ก็หวาดกลัวจนตัวสั่นเทาขึ้นมา และไม่กล้าที่จะพูดต่อแม้แต่คำเดียว
เนื่องจากเขาเคยได้ยินมาว่าลูกน้องของรพีพงษ์โหดมากแค่ไหน และในขณะนี้อารียาหันหน้าไปถามรพีพงษ์เบาๆว่า
“ทำไมนายมาช้าขนาดนี้ รถติดเหรอ?”
รพีพงษ์กำลังจะตอบ ก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างนอกอย่างฉับพลัน