พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 117
บทที่ 117นภทีปังป่วย
“อารี ไม่ลองคิดดูหรอ นั่นคือบริษัทใหญ่นะ พวกเขายอมหาลูกไป ก็แปลว่าความสามารถของ ลูกถึงที่เขาต้องการ ถ้าไปทำงานที่นั่น จะต้องได้ เงินเยอะแน่ๆ”
ระหว่างทางที่ไปวิลล่าศศินัดดาพูดไม่หยุด
“แม่บ้าไปแล้วหรอ ตอนนี้ปู่ป่วยหนัก ถ้าหนูรับ งานไปคนในบ้านจะดูหนูยังไง่?” อารียาพูด
ศศินัดดาได้ยินแบบนี้ ก็รู้สึกว่ามีเหตุผลจากนั้น ก็พูดว่า “งั้นก็รอให้ปูพื้นค่อยว่ากัน แต่ไม่รู้ว่าถึง เวลาทางบริษัทใจยังเอาหนูอยู่ไหม”
“แค่เธออยากไปทางบริษัทก็จะต้อนรับเธอ เสมอ” รพีพงษ์ ที่ขับรถอยู่พูด
ศศินัดดา รีบจิกตาให้รพีพงษ์ “แกไม่ต้องมาพูด ทางบริษัทใหญ่จะเอาลูกสาวฉันไปเพราะเห็นความ สามารถของลูกสาว แต่แกน่ะสิไม่มีอะไรคู่ควรกับ ลูกสาวฉันเลยถ้าไม่ใช่เพราะเวลาอยู่ภายใต้ชื่อ ของแก ฉันของไล่แกออกจากบ้านแล้ว”
รพีพงษ์ เงียบเงียบไม่พูด ปล่อยให้ศศินัดดาด่าว่าเขา
“แม่ ไม่ต้องพูดแล้ว หนูไม่มีทางไป ถึงแม้ปู่จะ ไม่ยุติธรรมกับหนู แต่หนูก็เป็นคนในตระกูลยังไม่ ถึงขั้นที่จะต้องไปจากที่นี่ หนูจะทำงานที่นี่ต่อ ” อารี ยาพูด
ศศินัดดา เงียบไปทันที สิ่งที่เธอเห็นคือเงิน เดือนที่จะได้ แต่ถ้าอารียาไม่ยอม เธอก็ทำอะไรไม่ ได้
รพีพงษ์ ดูอารียา ผ่านกระจก ที่บริษัทจะรับ เถอะเขาทำงานเขาเป็นคนวางแผนเอง
แต่ถ้าไม่ยอมไปเขาก็ไม่บังคับ
แต่ถ้าอยากทำงานที่บริษัทในตระกูล นั้นจะ ช่วยให้เป็นตำแหน่งผู้จัดการ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ต้อง เป็นคนที่มีอำนาจจะได้ไม่ถูกคนอื่นรังแก ในใจของ รพีพงษ์แอบพูด
ไม่นานคนทั้งครอบครัวก็มาถึงที่วิลล่า ที่ประตู
เวลามีรถจอดมากมายเป็นคนที่มาดูอาการนภที่ป์ ทั้งนั้น ครั้งนี้นภทีป์ อาการสาหัสมีหมอจำนวนไม่น้อย
มาดูแล้ว แต่ก็ไม่มีวิธีดีๆอะไร
มีคนไม่น้อยคิดว่าเหลือชีวิตอีกไม่นานแล้ว ก็ เลยรีบมาดูหน่อย เพื่อถึงเวลาตอนแบ่งสมบัติจะได้เยอะ
คนที่มีความสุขมากที่สุดก็คือธายุกร พ่อของ เขาอยู่ต่างถิ่นไม่มีเวลากลับมา ถ้านภทีป์ ไม่ สามารถที่จะจัดการเรื่องของตระกูลได้ เขาก็จะได้ ขึ้นครองเป็นคนที่ดูแลตระกูล
แน่นอนว่าจะต้องให้นภทีปตายก่อน ถ้านภทีป์ ยังมีชีวิตอยู่เขาก็จะต้องรอ
ศศินัดดา เพิ่งเดินเข้าวิลล่า พวกญาติๆก็มองมา ด้วยสายตาที่ดุร้าย กำลังไปที่อารียาด้วยสายตาที่ เต็มไปด้วยความแขน
“ลุงป้าน้าอาครั้งนี้ที่ปู่อาการหนัก เป็นเพราะผู้ หญิงคนนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะหล่อนทรยศตระกูลเรา ไปทำงานที่บริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป ปู่ก็คงไม่เป็น แบบนี้ หล่อนคือคนที่ทำให้ปู่เป็นแบบนี้” ชรินทร์ ทิพย์ เป็นแกนนำพูดก่อน
ผู้คนเริ่มด่าว่าอารียา
“ใช่ เพราะนางนี่เอง ไม่อย่างนั้นคุณท่านจะ ปล่อยได้ยังไง”
“ตอนนี้ทุกคนในบ้านกำลังรอให้ของท่านเป็น คนนำอยู่ โปรเจคก็ได้หยุดลง แถมท่านปู่ยังป่วย หนักอีก ตอนนี้เป็นตอนที่ตระกูลเราตกอยู่ใน สภาวะวิกฤต ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะเธออารียา”
“ถ้าคุณท่านเสียไปเพราะต้องทำยังไงตระกูล เราจะต้องทำยังไง? อารียาเธอรับผิดชอบไหว หรอ?”
ถึงแม้ปากจะไม่ยอมแต่ในใจก็ดีใจไปหมด โปร เจคได้หยุดลงเป็นการสูญเสียของตระกูล ก่อนหน้า นี้ที่ลงทุนทำให้ตระกูลไม่สามารถที่จะหมุนตัวทัน
และถ้าตอนนี้คุณท่านตายไปเพราะเขาก็แบ่ง สมบัติกันเลย ถ้านภทีป์ ออกเงินมาแก้วิกฤติของ บริษัท พวกเขาก็ไม่ยอม
อารียามองหน้าไปที่ทุกคนยังไงก็คิดไม่ถึงว่า เธอจะกลายเป็นคนที่ทำให้นภทีป์เป็นแบบนี้ “ไว้หน้าตัวเองหน่อยได้ไหม? ที่ปู่เป็นแบบนี้
เพราะการหยุดงานของโปรเจคเกี่ยวไรกับฉัน” อารี ยาพูด “โก โปรเจคนั้นก็เกี่ยวข้องกับเธอ ต้องเป็น
เพราะเธอคุยกับทางบริษัทไว้แน่แน่ไม่อย่างนั้น ทำไมเพราะเขาจะหยุดโปรเจคนี้ไป แล้วยังให้เธอ ไปทำงานที่นั่นอีก ทำไมพวกเขาไม่เรียกธายุไป” ชรินทร์ทิพย์ พูดอย่างไรเหตุผล
อารียา ไม่รู้จะพูดอะไร ในใจของทุกคนก็รู้ว่า ทำไมเขาถึงไม่เรียกธายุกรไป
แล้วในตอนนี้ธายุกรก็ลงจากบันไดพอดี พอได้ยินคำพูดของชรินทร์ทิพย์บนใบหน้าของเขาก็เตม ไปด้วยความอาย
ถึงแม้เขาเองก็อยากจะเห็นชรินทร์ทิพย์ทำให้ อารียาลำบากใจ แต่เขาไม่อยากให้พูดถึงเรื่องนี้ เพราะผู้อำนวยการบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปบอกว่า เขาเป็นคนไร้ประโยชน์ เขาไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่อง นี้
“พ่อแล้ว ปู่ยังไม่ตาย ทำไมพูดแบบนี้ที่นี่? อยากให้ตายเร็วหรอ?” ธายุกรพูด
เงียบไปทันที
“ปูให้พวกเธอขึ้นไป ถ้าใครทำให้อาการของ ท่านแย่กว่าเดิมนั่นก็คือคนมีโทษของตระกูลเรา!” ธายุกร ทำตัวเหมือนเป็นคนที่ใหญ่ที่สุดในบ้าน ทุก คนต่างก็ดูออกว่าเขาเป็นคนที่อยากให้นภทีปัตาย ที่สุด
นภทีป์ นอนอยู่บนเตียงพร้อมกับฉีดน้ำเกลือ หมอส่วนตัวที่หามากำลังตรวจเช็คร่างกายอยู่ “อาการของคุณท่านแย่มากแต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว
จะดีไม่ดีผมก็ไม่รู้ ความสามารถของผม มีขีดจำกัด
ผมทำได้เพียงเท่านี้”
หมอพูด
“คุณคือหมอที่เก่งที่สุดในเมืองริเวอร์แล้ว ถ้า
LEGO ทุกคนขึ้นไปชั้นบนไปที่ห้องนอนของนภทีป์คุณรักษาไม่ได้….” ชรินทร์ทิพย์พูด
หมอรีบจิกตาไปทางเธอไม่ให้เธอพูด ชรินทร์ ทิพย์ เงียบไปทันที
“คุณท่าน ญาติมาหมดแล้ว ฉวยโอกาสที่ท่าน
ยังมีสติ มีอะไรที่จะพูดก็พูดไปเถอะ” หมอพูดกับ
นภทีป์
นภทีป์ พยายามนั่ง หน้าของเขาซีดไปหมด
เขามองไปที่ผู้คนและพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ว่า “พวกเธอทุกคนคงอยากจะให้ฉันตายนะสิ? นอกจากธายุไม่มีใครดีเลย”
ทุกคนก้มหน้าลง ในใจก็พูดว่าธายุเป็นคนที่ชั่ว
ที่สุด
“ครั้งนี้ที่ฉันอาการสาหัสของเหลือเวลาไม่เยอะ ถึงแม้จะมีเวลาเพียงสั้นๆแต่ฉันก็รู้ร่างกายของฉันดี ดังนั้นก่อนที่ฉันจะหมดสติไปฉันจะทำพินัยกรรมไว้ ต่อไปจะได้ไม่ลำบากเพราะเธอ” นภที่ป์พูด
ทุกคนตาสว่าง ไม่คิดว่านมที่ปัจะทำพินัยกรรม ง่ายขนาดนี้ เพราะเขาคิดไม่ถึงเลย
“ปู่ พูดอะไรเนี่ย ร่างกายของปู่แข็งแรงดี ใช้ ชีวิตอีก 100 ปีก็ไม่เป็นปัญหา” ธายุกรพูด นกที่ป์มองไปทางธายุกรอย่างภาคภูมิใจ ในลูกหลานมากมายมีแต่ธายุกรที่จะทำให้เขามีความ สุข
“ใช่ ร่างกายของคุณปู่แข็งแรงดี แค่นี้ไม่เป็นไร หรอก” รพีพงษ์ก็พูดกะทันหัน
ทุกคนมองไปทางรพีพงษ์ เมื่อวานเขายัง ทะเลาะกันเลยทำไมวันนี้มาพูดประจบแบบนี้
นกที่ป์มองไปทางรพีพงษ์ “รพีพงษ์อย่าคิดว่า พูดคำดีดีฉันก็จะแบ่งสมบัติให้ ฉันจะไม่ให้อะอะไร แกทั้งนั้น”
“รพีพงษ์ แกไม่มีสิทธิ์ที่จะยืนอยู่ที่นี่ ออกไป เดี๋ยวนี้ เดี๋ยวปูเห็นแล้วจะโกรธ! ” ชรินทร์ทิพย์
พูดพึมพำ
ทุกคนอยากจะไล่รพีพงษ์ออกไป
ศศินัดดา มองไปทางรพีพงษ์ อย่างไม่พอใจ โกรธที่เขาจะพูดทำไม ถ้าเพราะเขาคนเดียวทำให้ นภทีปไม่แบ่งสมบัติให้ เธอจะฆ่าเขาให้ตาย
“รพีพงษ์ รีบออกไปอย่าทำให้เสียหน้า! ” ศศิ นัดดาพูด รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันไม่ได้ประจบ ความ
หมายของฉัน คือโรคนี้รักษาได้” “รพีพงษ์ ไม่ต้องมาพูดมั่วเลย หมอบอกหรอกว่ารักษาไม่ได้” ชรินทร์ทิพย์โต้กลับทันที
สีหน้าของนภทีป์เปลี่ยนไปทันทีชรินทร์ทิพย์ แสดงอาการชัดเกินไป
หน้าของคิมหัตต์เปลี่ยนไปทันทีรีบเอามือไป
ปิดที่ปากของชรินทร์ทิพย์ “เธอพูดอะไรเนี่ย
หุบปากเดี่ยวนี้! ”
“หมอรักษาไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าคนอื่น รักษาไม่ได้ ฉันรู้จักคนคนหนึ่งเขาสามารถรักษา ได้” รพีพงษ์พูด
ธายุกรยิ้มเยือกเย็นทันที “รพีพงษ์ อย่าบอก เลยว่าคนคนนี้คือหมอเทวดาชุติเทพ จะให้เขามา ดูแลรักษาให้ยากยิ่งกว่าจากคุณสวัสดิ์”
“ใช่ ชุติเทพ” รพีพงษ์พูด
“คุณปู่ รีบพูดเรื่องพินัยกรรมเลย อยากฟังไอ้นี่ พูดมั่ว เขาจะรู้จักหมอเทวดาได้ยังไง” ธายุกร
นกที่ป์มองไปทางรพีพงษ์ ไม่ได้พูดเรื่อง พินัยกรรม แต่ถามว่า “เรียกชุติเทพมาได้จริง?? ”
รพีพงษ์ พยักหน้าอย่างจริงจัง
ทุกคนต่างก็มองไปทางรพีพงษ์ด้วยสายตาที่ จะฆ่าคน ดูจากท่าทีแล้วคุณท่านเอาความหวัง ทั้งหมดไปไว้รพีพงษ์ที่ตัวของ
เพราะนภทีปไม่อยากตาย ถึงแม้จะมีความหวัง แค่เศษเสี้ยวเดียว เขาก็ไม่อยากจะยอมแพ้
“รพีพงษ์ อย่ามาหลอกปู่เลย ถ้าเชิญมาไม่ได้ก็ จะทำให้ถ่วงเวลาการรักษาของปู่ แกจะรับผิดชอบ ไหวหรอ? ” ธายุกรพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ผมไปเชิญหมอเทวดาชุคงไม่ถ่วงเวลาการ รักษาของปู่มั้ง? ไม่อยากให้ผมไปเชิญขณะนี้ มี ความคิดอย่างอื่นหรอ? ” รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูด
ธายุกร รีบจิกตาไปที่เขา
“รพีพงษ์ ไม่ต้องมาพูดมั่ว รู้ว่าคุณปู่รักผม ผม จะอยากให้คุณปู่ไปไวได้ยังไง? ” ธาตุกรพูด
“ผมไม่ได้พูดว่าอยากให้ไปเร็วๆ นายเป็นคน พูดเอง ดูสิ เผลอพูดความในใจออกมาหมดเลย” รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูด เขาไม่คิดว่าธายุกรจะโง่ขนาดนี้ พูดความในใจ
ออกมาตรงๆแบบนี้
ธายุกร รู้สึกหน้าร้อนแดงทันทีอยากจะไปชก หน้ารพีพงษ์จริงๆ
“พอแล้ว ถ้ารพีพงษ์สามารถเชิญหมอเทวดาชุ มาได้ก็ให้เขาลองดู พินัยกรรมค่อยทำทีหลังก็ไม่ เป็นไร” นกที่พูด
ทุกคนต่างก็เริ่มกลัวกัน เพราะคิดว่าวันนี้จะได้ แบ่งสมบัติกัน ไม่คิดว่าจะถูกไอ้โง่นี่มาทำให้เรื่อง เสีย
“โง่จริงๆ เลย ทำให้เรื่องของเราพังไปหมด เขา คิดว่าเขาคือใคร จะเชิญหมอเทวดาชุมาได้ยังไง”
“เชี่ย รพีพงษ์มาหาเรื่องชัดๆ อาการของคุณ ท่านจะดีขึ้นได้ยังไง หมอก็บอกแล้วว่ารักษาไม่ได้ ถึงแม้จะเป็นชุติเทพก็คงรักษาไม่ได้มั้ง”
“งั้นก็ให้ใช้ชีวิตอีกสองสามวันเถอะทุกเวลา เชิญมาไม่ได้ คุณท่านก็ยังจะทำพินัยกรรมเหมือน เดิม หลังจากที่แบ่งสมบัติเสร็จ จะดูว่าเขาจะใช้ ชีวิตยังไง”
รพีพงษ์เห็นนภที่ป์แล้วพูดต่อว่า “ชุติเทพ ฉัน สามารถเชิญมาได้ แต่ถ้าจะให้เขามารักษาให้ฉันมี ข้อแม้หนึ่งข้อ”
นกที่ป์มองไปทางรพีพงษ์ ถามว่า “เขาไม่ อะไร?
“ถ้าชุติเทพรักษาหาย เริ่มตั้งแต่วันนี้ให้อารียา เป็นผู้จัดการของบริษัทตระกูลฉัตรมงคล”