พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1192 โจซี่กร่างสุดขีด
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1192 โจซี่กร่างสุดขีด
ไหนเลยจะรู้ว่า โจซี่ไม่แคร์เลยสักนิด หล่อนแค่ส่งซิกให้ศักดาที่อยู่ข้างกายเท่านั้น
ศักดาได้รับสัญญาณ ก็ยิ้มรับ และเดินหน้าขึ้นไปผลักชุติเทพกระเด็นอย่างไม่แคร์ “ไอ้แก่ กล้าเสียมารยาทกับนีย์เอ๋อร์ หาเรื่องตายซะแล้ว!”
ชุติเทพอายุใกล้แปดสิบแล้ว มีหรือจะทานทนแรงผลักของศักดาได้
ทำเอาเขาเกือบล้มคะมำลงพื้น
ท่ามกลางผู้คน ไอ้อ้วนรีบเข้ามาพยุงชุติเทพไว้ได้ทันก่อนที่เขาจะล้มลง
“จะบอกให้นะ ถ้ากล้าเสียมารยาทกับนีย์เอ๋อร์อีก ฉันจะฆ่าแกซะ!” ศักดาพูดเสียงดัง
“แม่ง ศักดา แกใจกล้าไม่เบานะ เพื่อผู้หญิงคนนี้ กล้าผลักหมอชุติเทพเลย? จะบอกแกให้นะ ถ้าไม่เห็นแก่หน้าพี่รพีพงษ์ วันนี้ปู่อ้วนของแกน่ะจะส่งแกลงนรกเอง!” ไอ้อ้วนบอก
ศักดาประกายตาโกรธแค้น เขารู้ว่า คนอย่างไอ้อ้วนนี่ จะฆ่าตนนั้นง่ายซะยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือซะอีก
“รพีพงษ์! ถ้านายยังไม่มาล่ะก็ ฉันจะโยนพ่อตาแม่ยายนายออกไปแล้วนะ!”
ไอ้อ้วนใช้พลังลมปราณส่งเสียงดังก้องกังวาน เชื่อว่าทั่วทั้งคฤหาสน์บ้านลัดดาวัลย์ ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนซอกไหนก็ต้องได้ยินชัดเจนแน่
ศักดาเห็นดังนั้นก็ตกใจรีบหลบหลังโจซี่
จากนั้นกลับไม่มีแม้แต่เงาร่างรพีพงษ์อยู่ดี
“ฮะฮะ!”
โจซี่หัวเราะร่วน มองทุกคนอย่างเยาะหยัน “ลืมบอกพวกคุณไปอย่าง วันนี้ฉันนี่แหละที่เรียกพวกคุณมารวมตัวกันที่นี่!”
“อะไรนะ หล่อนหรอ?”
ทุกคนตกตะลึง
“ศักดา! เมื่อกี้แกบอกว่านายน้อยเรียกพวกเรามาไม่ใช่หรือไง นี่มันเรื่องอะไรกันแน่!” หมอชุติเทพโกรธตะคอกดัง
“เชอะ ฉันก็แค่พูดไปงั้นๆแหละ ใครจะรู้ว่าพวกแกหลอกง่ายขนาดนี้ ดูท่าคนบ้านลัดดาวัลย์ก็แค่นี้เองนี่นา!” ศักดาบอกอย่างไม่ยี่หระ
“ดี ฉันจะจำบัญชีนี้ไว้ รอติดต่อนายน้อยได้ ไม่ว่ายังไง พวกแกต้องโดนลงโทษ!”
หมอชุติเทพพูดพลางลุกยืนตรง และหันไปทางทุกคน “ทุกคนแยกย้ายกันเถอะ กลับไปทำงานของตัวเองต่อ ส่วนสองคนนี้รอนายน้อยมาจัดการ”
คนบ้านลัดดาวัลย์ ถือเป็นใหญ่ในประเทศจีน
ส่วนโจซี่กับศักดา นอกจากพวกเขาจะเป็นพ่อตาแม่ยายของรพีพงษ์แล้ว พวกเขาไม่มีค่าอะไรในสายตาคนบ้านลัดดาวัลย์เลย
เพราะอย่างนั้นพอได้ยินหมอชุติเทพพูดแบบนั้น แต่ละคนเตรียมตัวกันแยกย้ายกลับ
“พวกคุณจะไปกันแล้วหรอ?”
โจซี่ถามอย่างเย็นชา
“ไม่ไปแล้วยังไงล่ะ รอดูหล่อนเป็นบ้าตรงนี้หรอ!” ไอ้อ้วนตอบแบบไม่แยแส
โจซี่แค่นเสียงเย็นว่า “ถ้าวันนี้พวกคุณก้าวเท้าออกไป ฉันรับประกันว่าพวกคุณต้องเสียใจแน่!”
“เสียใจ? เหอะ ผู้หญิงอย่างหล่อนนี่อวดดีเกินไปแล้ว ถ้าไม่เห็นแก่หน้ารพีพงษ์ ฉันต่อยหล่อนไปนานแล้ว!” ไอ้อ้วนมองอย่างหยามหยัน
โจซี่มองไอ้อ้วนด้วยสายตาเย็นชา “หมาอย่างแกยังมีหน้ามาเห่าหอนต่อหน้าฉัน”
“แกว่าไงนะ?” ไอ้อ้วนเบิกตากว้างมองดูโจซี่ไฟความโกรธลุกโชนในใจ
คนที่ออกมาจากคุกที่ห้า ไม่เคยมีใครเป็นคนดีกันทั้งนั้น
ไอ้อ้วนปกติโผงผาง แท้ที่จริงแล้วเป็นคนชอบเอาชนะ แถมฝีมือลมปราณของเขาเพียงพอรับมือคนธรรมดาแล้ว มีหรือจะเคยโดนว่าแบบนี้มาก่อน
“ดีนี่แก วันนี้ฉันจะสั่งสอนแกแทนรพีพงษ์ ดูสิว่าจะยังกร่างได้อยู่ไหม!”
ระหว่างพูด ไอ้อ้วนยกมือขึ้นกำหมัดหนักราวหม้อเหล็ก
เดิมเขาแค่กะจะขู่โจซี่เท่านั้น ให้หล่อนอย่ากร่างให้มันมากไปนัก เลยไม่ได้คิดจะออกเต็มแรง
เพราะเกิดทำใครตายขึ้นมา ก็ยุ่งยากอีก!
ทุกคนหยุดชะงักฝีเท้า หันกลับไปดู หลังจากโดนศักดากับโจซี่หลอกแล้ว พวกเขาเองก็รอให้มีคนก้าวออกมาสั่งสอนผู้หญิงคนนี้เหมือนกัน
บรึ้ม!
เสียงดังสนั่น
ทุกคนอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง
พวกเขายังไม่ทันได้สติกลับมา ก็เห็นร่างไอ้อ้วนลอยละลิ่วไปกระแทกกับกำแพงฝั่งตรงข้ามราวกับว่าวที่สายขาด
“นี่…เป็นไปได้ยังไง?”
หมอชุติเทพมองตะลึงอ้าปากค้าง ยังไงเขาก็คิดไม่ถึงเลยว่า โจซี่จะมีฝีมือแบบนี้ด้วย
แค่กระบวนท่าเดียว ก็เอาชนะไอ้อ้วนที่มีเน่ยจิ้งชั้นต้นแล้ว
“เหอะ มดตัวนิดเท่านั้นเอง”
โจซี่พูดอย่างหยามหยัน พลางกวาดสายตามองทุกคน “พวกคุณ ยังกล้าจะไปกันอีกไหม?”
ทุกคนต่างตกอยู่ในภวังค์ตะลึงที่เห็นไอ้อ้วนโดนโจมตีลอยละลิ่วไป มีหรือจะกล้าจากไปท่ามกลางสายตาเย็นชาเสียดแทงกระดูกของโจซี่จับจ้องอยู่นี่
“ขยะพวกนี้นี่ ตระกูลลัดดาวัลย์แท้ๆ นอกจากรพีพงษ์แล้ว กลับไม่มียอดฝีมืออยู่เลย น่าเบื่อจริงๆ” โจซี่ดูถูก
ทุกคนสีหน้าเคร่งเครียด มองไปทั่วประเทศจีน ยังไม่มีใครกล้าว่าตระกูลลัดดาวัลย์แบบนี้เลย คนที่กล้าพูดตายลงหลุมไปนานแล้ว
“โจซี่ เธอนี่คมในฝักจริงนะ พวกเรามองเธอพลาดไปจริงๆ” หมอชุติเทพพูดเสียงเย็น
“แต่ว่า วันนี้ถ้าเธอกล้ามาก่อเรื่องที่นี่ ต่อให้ต้องเอากระดูกผุๆของฉัน ฉันก็จะยับยั้งเธอให้ได้!”
พอเห็นหมอชุติเทพก้าวออกมาอย่างไม่ห่วงชีวิต คนอื่นในตระกูลก็เปลี่ยนเป็นฮึกเหิมขึ้นมาด้วย
“หมอชุติเทพ รีบติดต่อนายน้อยเลยครับ พวกเราลุยด้วยกัน”
“ใช่ ลุยด้วยกัน ผมไม่เชื่อหรอกว่า พวกเราหลายคนยังต้องกลัวหล่อนอีก!” วัยรุ่นหลายคนในตระกูลพูดขึ้น
“เด็กน้อยไม่ประสาเอ๊ย อยู่ต่อหน้าฝีมือจริง พวกเยอะพวกน้อยมันจะเป็นอะไร ก็แค่หาเรื่องตายเท่านั้นแหละ!” โจซี่เย้ยเข้าให้
“ไป ไปติดต่อนายน้อย!” หมอชุติเทพบอก
มีคนหนึ่งในห้องโถงหยิบมือถือออกมา คิดจะโทรหารพีพงษ์
ฮะฮะฮะ!
ครั้งนี้โจซี่หัวเราะร่าอย่างเหิมเกริมกว่าเก่า
“นายน้อยของพวกคุณน่ะ ตอนนี้น่าจะตายแล้วล่ะ!” โจซี่บอก
ประหนึ่งสายฟ้าฟาดลงมา
ทุกคนที่ได้ยินข่าวนี้ไม่มีใครไม่ตะลึง หมอชุติเทพเองยังตัวสั่นเทาไปหมด
“เธอ…เธอว่าไงนะ? นายน้อยตายแล้ว?” หมอชุติเทพพูดด้วยเสียงสั่นเทา
“แน่นอนสิ โดนพิษยาเปลี่ยนวิญญาณเข้าไป ต้องตายแหงอยู่แล้ว แต่ว่าก่อนตายได้สุขสมไปรอบหนึ่งก็ถือว่าเขาโชคดีแล้วนะ” โจซี่บอกกลั้วหัวเราะ
“แก…ผู้หญิงสารเลวอย่างแกกล้าทำร้ายนายน้อย ตระกูลลัดดาวัลย์ไม่ขออยู่ร่วมโลกกับแกแน่!” หมอชุติเทพตะโกนอย่างโกรธจัด
“ไม่ขออยู่ร่วมโลกแล้วยังไงล่ะ! ในสายตาฉัน ตระกูลลัดดาวัลย์ของพวกแกก็แค่ขยะเท่านั้นเอง!”
โจซี่ประกาศก้องด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดใส่ทุกคนว่า “ฉันจะประกาศ ต่อไปนี้ทรัพย์สินธุรกิจทุกอย่างของตระกูลลัดดาวัลย์จะสืบทอดต่อโดยศักดา ใครกล้าคัดค้าน!”
“อะไรนะ ศักดา?”
ทุกคนตกตะลึง ไม่คิดมาก่อนว่า วันนี้โจซี่มาด้วยจุดประสงค์แบบนี้
เพียงแต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือ ศักดาโดนวิชาพิษกู่ เขาต้องเชื่อฟังโจซี่ทุกอย่าง
“ผมคัดค้าน!”
หนุ่มน้อยคนหนึ่งที่พูดขึ้นมาชื่อว่าหลินอวี้หาง เขาลุกขึ้นยืนพรวดด้วยความโกรธ “เรื่องของตระกูลลัดดาวัลย์เรา ยังไม่ต้องให้คนนอกมาสอด พวกแกสองคนตอนนี้ไสหัวออกไปเลย!”
“คนหนุ่มอายุน้อย เลือดลมเดินสะดวกดีนะ!” โจซี่ยิ้มเย็นบอก “แต่ว่า ในเมื่อเธอคัดค้าน งั้นก็ไปตายซะเถอะ!”ระหว่างพูด เธอก็ขยับชายเสื้อ
พลังลมปราณระลอกหนึ่งพุ่งตรงหาหลินอวี้หาง
โจซี่ที่มีฝีมือระดับฮั่วจิ้ง แค่กระบวนท่าเดียวมันก็มากเกินพอที่คนปกติจะทานรับไหวแล้ว
ร่างของหลินอวี้หางโดนลมปราณพัดลอยขึ้นมาซัดไปทางประตูเหล็กตรงข้าม
ทุกคนต่างรู้ดีว่า ด้วยความเร็วในกระแทกแบบนี้ หลินอวี้หางต้องตายแน่
โจซี่สีหน้ายิ้มละไม การฆ่าคนสำหรับเธอแล้วไม่มีอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้น ในสายตาเธอแล้วคนพวกนี้แทบไม่มีค่าเลย
“เชือดไก่ตัวหนึ่งให้ลิงดู ดูสิใครจะกล้าคัดค้านอีก!” โจซี่แอบคิด
ในตอนที่ทุกคนกำลังสิ้นหวังกัน ทันใดนั้น มีแสงสีดำสะท้อนเข้ามา ร่างสูงใหญ่ลอยลงมาจากฟ้ามายืนกั้นหน้าประตูเหล็ก
ผู้ชายร่างโปร่งคนหนึ่ง ไม่มีร่องรอยเลือดสักนิด ในจังหวะที่หลินอวี้หางจะกระแทกเข้ากับประตูเหล็ก เขาใช้แค่สองมือก็สลายพลังที่เกาะกุมตัวหลินอวี้หางไว้จนหมดสิ้น จากนั้นก็ค่อยๆประคองเขาลงพื้น
“อะไรกัน? เป็นไปได้ยังไง?”
โจซี่ตกใจกับการเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึงนี้มาก เธอจับจ้องมองผู้ชายแปลกหน้าอย่างตะลึง
คนตระกูลลัดดาวัลย์เองก็สงสัยอย่างมากว่า คนคนนี้เป็นใคร พวกเขาไม่มีใครรู้จักเลย
ในตอนนี้เองมีเสียงคุ้นเคยดังขึ้นที่ปากทางเข้าห้องโถง
“ขอโทษทุกคนด้วยนะที่ให้รอนาน!”