พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1198 ยาชั้นเทพ
รพีพงษ์เงยหน้าขึ้นไปมอง หินก้อนใหญ่ที่มารวมตัวกัน ทำให้รพีพงษ์ไม่มีทางหนีออกมาได้เลย
หินใหญ่จากท้องฟ้า ทุกชิ้นหนักหลายตัน แถมที่น่ากลัวยิ่งไปกว่านั้นคือ ทุกก้อนพกปราณทิพย์ของโจซี่มาด้วย
โดนหินแบบนี้ทับ ไม่ว่าก้อนไหนก็ตาม ด้วยพลังของรพีพงษ์ในตอนนี้ก็ทำเขากระดูกแหลกละเอียดได้แล้ว
“นี่…คือพลังของแดนเทพชั้นสูงสุด?”
รพีพงษ์อึ้งเล็กน้อย ตอนนี้เองภาพของอารียาผุดขึ้นมาในสมองเขา คนที่ยืนข้างอารียาคือหนูลินลูกสาวที่น่ารักของเขา
รพีพงษ์หลับตาลงช้าๆ
ดูท่าคงได้แต่ปกป้องพวกเธอสองแม่ลูกชาติหน้าแทนแล้ว
หลังจากโจมตีครั้งนี้ไป ฤทธิ์ยาหมดลง โจซี่เริ่มมีเหงื่อผุดที่หน้าผาก
พลังเธอกลับไปอยู่ที่ฮั่วจิ้งอีกครั้ง แต่เธอเชื่อว่า รพีพงษ์ไม่มีทางรอดแน่แล้ว
“รพีพงษ์ ตายด้วยน้ำมือฉันถือว่าเป็นวาสนาของแกแล้ว” โจซี่แอบคิดในใจ
ทันใดนั้น เกิดแสงสีขาวปราดเข้ามาในท้องฟ้า
ความเร็วนั่นเร็วกว่าก้อนหินใหญ่ที่ร่วงหล่นซะอีก
“นี่มัน?”
การเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึงนี่ ทำให้โจซี่งุนงงมาก
พอมันเริ่มเข้ามาใกล้ขึ้น โจซี่ถึงพบว่า สิ่งที่บินเข้ามาอย่างรวดเร็วนั่นเป็นคุณปู่เคราขาวคนหนึ่ง
“เขาเป็นใคร?” โจซี่แอบคิดในใจ ดูจากฝีมือของตาแก่นี่ น่าจะเข้าแดนเทพไปแล้ว
ตอนนี้เป้าหมายของผู้อาวุโสคือรพีพงษ์
ในจังหวะที่ก้อนหินมหึมาจะทับลงบนตัวรพีพงษ์ ผู้อาวุโสใช้มือเดียวดึงร่างรพีพงษ์ออกมา ในเวลาเดียวกัน อีกมือหนึ่งก็ตวัดฟาดไปที่ก้อนหิน
ก้อนหินหนักหลายตัน ด้านบนยังมีปราณทิพย์ของแดนเทพชั้นสูงสุด
แต่ผู้อาวุโสใช้แค่มือเดียวก็ยกก้อนหินใหญ่นี่ขึ้นมาได้
“ธี……ธีรพัฒน์?” รพีพงษ์เบิกตากว้างมองผู้อาวุโสคนนี้
“ที่นี่อันตราย พวกเรารีบไปกัน!”
ธีรพัฒน์พูดอย่างรวดเร็วเท้าเขาเหยียบลงพื้น มือหนึ่งดึงรั้งรพีพงษ์ ความเร็วเขายังไม่ลดลงเลยสักนิด
ก้อนหินใหญ่กระแทกลงกับพื้นเกิดเสียงกระแทกดังสนั่น
จนผ่านไปสองนาทีเต็มๆ ถึงกลับสู่ความสงบอีกครั้ง
เพียงแต่ว่า สภาพแวดล้อมของที่นี่ เทียบกับตอนที่โจซี่กับรพีพงษ์พึ่งมา สภาพมันเปลี่ยนแปลงไปมากเลย แม้แต่ตำแหน่งของยอดเขาก็เปลี่ยนแปลงไปเหมือนกัน
“รพีพงษ์!”
โจซี่กัดฟันเรียก
การปรากฏตัวของธีรพัฒน์มาพารพีพงษ์ไปจากที่นี่ ตอนนี้โจซี่ไม่มีแรงไล่ตามไปแล้ว
แน่นอนว่า มียอดฝีมือแดนเทพคอยช่วย โจซี่ก็ไม่กล้าไล่ตามไปหรอก
“รพีพงษ์ ครั้งนี้แกโชคดีไป แต่ฉันเชื่อว่า พวกเราต้องได้เจอกันอีกแน่ ไว้ถึงตอนนั้นแกต้องจำฉันไม่ได้แล้วแน่!”
บนยอดเขา สะท้อนเสียงโจซี่ที่ส่อแววไม่พอใจไปมา ร่างเธอเปลี่ยนเป็นเซ็กซี่ ตามแบบลักษณะสาวน้อยเลย ใบหน้าสวยงาม เหมือนกับปฏิมากรรมชั้นยอด ลมอ่อนพัดมา ทำเอาผมสีเงินพลิ้วไสว….
“ผู้อาวุโสธีรพัฒน์ ขอบคุณมากครับที่ช่วย”
ริมฝั่งแม่น้ำ รพีพงษ์มองไปทางธีรพัฒน์ที่ยืนอยู่ด้านข้าง สถานการณ์เมื่อกี้อันตรายมาก ถ้าไม่ใช่ธีรพัฒน์มาทันเวลา ตนคงไม่รอดแน่
ธีรพัฒน์พูดยิ้มๆ “ไม่ต้องเกรงใจ ผมสามารถกลับมาที่โลกได้ เป็นเพราะความช่วยเหลือของคุณนี่แหละ ถ้าไม่มีคุณให้ไม้เทพกับผมมากขนาดนั้น ตอนนี้ผมก็คงยังเร่ร่อนติดอยู่ในกำแพงเป็นแน่”
รพีพงษ์พยักหน้า ก่อนหน้านี้ที่ให้ไม้เทพกับธีรพัฒน์ เพราะว่าเขาตั้งใจจริง เพราะการที่โลกนี้จะมียอดฝีมือแดนเทพเพิ่มขึ้นอีกคนเป็นเรื่องดี
“ผู้อาวุโส เมื่อกี้ทำไมไม่ค้างอยู่ตรงนั้น แล้วจัดการฆ่าผู้หญิงของทวีปโอชวินคนนั้นซะเลย” รพีพงษ์ถาม
ธีรพัฒน์พูดเสียงขรึม “ฝีมือผู้หญิงคนนี้น่ากลัวมาก สามารถเคลื่อนย้ายภูเขาได้ นั่นน่ะเป็นฝีมือระดับแดนเทพชั้นสูงสุดแล้วนะ แต่ว่า ผมกลับชื่นชมคุณนะ สามารถต่อกรกับยอดฝีมือแดนเทพชั้นสูงสุดแล้วยังรอดมาจนถึงตอนนี้ได้ เหนือกว่าที่ผมคาดไว้มากเลย”
“อย่างหล่อนเป็นแดนเทพชั้นสูงสุดที่ไหนกัน ก็แค่ฮั่วจิ้งชั้นสูงสุดเท่านั้นเอง!” รพีพงษ์บอก
เขาแอบเซ็งเล็กน้อย เพราะการมาของธีรพัฒน์ เมื่อกี้แค่รอให้ก้อนหินหล่นหมดก็สามารถฆ่าโจซี่ได้อย่างง่ายดายแล้ว
“ฮั่วจิ้งชั้นสูงสุด? เป็นไปได้ยังไงกัน?” ธีรพัฒน์ขมวดคิ้ว “รพีพงษ์ นายไม่ควรจะโกหกผู้อาวุโสนะ ตาบอดหรือเปล่า มีแต่แดนเทพชั้นสูงสุดเท่านั้นแหละถึงจะสามารถเคลื่อนย้ายภูเขาได้”
“อีกอย่าง ถ้าเป็นฮั่วจิ้งชั้นสูงสุดจริง ผมเชื่อว่าคุณไม่แยแสเธอในสายตาแน่” ธีรพัฒน์พูดอย่างชื่นชม
“ผมไม่ได้หลอกคุณ” รพีพงษ์บอก “ผู้หญิงคนนั้นกินยาเข้าไป”
“กินยา?”
“ใช่ หล่อนหยิบยาสีทองออกมาหนึ่งเม็ด จากนั้นฝีมือเพิ่มขึ้นถึงระดับแดนเทพชั้นสูงสุดเลย” รพีพงษ์รายงานตามจริง
“คุณว่าไงนะ! ยาสีทอง!”
ธีรพัฒน์ที่เมื่อกี้สุขุมนุ่มลึก กลับตื่นเต้นจนกระโดดขึ้นมา
รพีพงษ์สงสัย พยักหน้าถาม “ใช่ครับ ผมว่ายาเม็ดนั้นแปลกมาก ตามหลักแล้ว มันเป็นยาชั้นเลิศที่แรงที่สุดงั้นหรือ?”
ธีรพัฒน์ได้ยินอย่างนั้นยิ้มเศร้า ส่ายหัวพลางว่า “ยาชั้นเลิศน่ะเวลาอยู่ต่อหน้ามันยังต้องชิดซ้ายเลย”
“หา?” รพีพงษ์มองธีรพัฒน์อย่างตกใจ “หรือ….หรือว่ายังมียาที่เหนือกว่ายาชั้นเลิศอยู่อีก?”
“แน่นอน”
ธีรพัฒน์พยักหน้า “ถ้าผมเดาไม่ผิดล่ะก็ ยาที่เธอกินคงจะเป็น ยาเม็ดระดับเทพเซียน”
“ระดับเทพเซียน!”
รพีพงษ์อ้าปากค้างอย่างเหลือเชื่อ
ทวีปโอชวินยังมียาเม็ดระดับเทพเซียนอยู่อีก นี่มัน…น่ากลัวเกินไปแล้ว!
“ใช่ ยาที่เธอกินลงไปต้องเป็นยาเม็ดระดับเทพเซียนแน่” ธีรพัฒน์พูดเสียงเรียบ
“แบบนี้เท่ากับว่า ยาชั้นเลิศของพวกเราธรรมดามากที่ทวีปโอชวิน?” รพีพงษ์บอก
นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าทวีปโอชวินน่ากลัวแค่ไหน และในเวลาเดียวกันก็รู้สึกว่า สิ่งที่ตนต้องพบเจอต่อไปบางทีอาจจะยิ่งอันตรายมากขึ้น
พอเห็นสีหน้ารพีพงษ์ ธีรพัฒน์ยิ้มตบบ่ารพีพงษ์แผ่วเบา “ผ่อนคลาย ยาชั้นเลิศไม่ได้แย่อย่างที่คุณคิด และการทำยาเม็ดระดับเทพเซียนมันยากมาก ยากกว่าที่คุณจะคิดออกมากนัก”
“ตอนแรก คนของทวีปโอชวินเก็บปราณทิพย์โลกเราไปมากมาย แต่การจะสามารถผลิตยาเม็ดระดับเทพเซียนออกมาได้ อย่างมากไม่น่าเกินสิบเม็ด”
“สิบเม็ด?” รพีพงษ์ถามขึ้น ในใจคิด แค่สิบเม็ดก็เพียงพอพลิกสถานการณ์ได้แล้ว
“แน่นอนว่า การจะผลิตยาเม็ดระดับเทพเซียนออกมาได้ เงื่อนไขของนักกลั่นยาสูงมาก ไม่ใช่ใครจะสามารถทำอาชีพนี้ได้หรอกนะ” ธีรพัฒน์บอก
รพีพงษ์พยักหน้า
แน่นอนว่า อาชีพนักกลั่นยานี่ไม่ใช่แค่คุณฝึกวิชาตบะแก่กล้าแล้วจะทำได้ มันไม่เพียงต้องการการรับประกันของฝีมือ ยิ่งไปกว่านั้นยังต้องการพรสวรรค์อีกด้วย”
“ผู้หญิงคนนี้สามารถมียาชั้นเทพหนึ่งเม็ดได้ แสดงให้เห็นแล้วว่า ตำแหน่งที่ทวีปโอชวินของเธอไม่ต่ำแน่!” ธีรพัฒน์วิเคราะห์
รพีพงษ์พยักหน้า สามารถกลืนยาเม็ดระดับเทพเซียนลงไปได้ โจซี่จะเป็นคนธรรมดาได้ยังไง
“หนุ่มน้อย ต่อไปเจอผู้หญิงคนนี้ ต้องระวังตัวนะ” ธีรพัฒน์พูดอย่างจริงจัง
รพีพงษ์พยักหน้า แน่นอนล่ะ เขาเองก็รู้ดีว่า ตัวเองในตอนนี้ต้องพัฒนาฝีมืออย่างมากเลย
ใครจะรู้ว่า คราวต่อไปที่เจอโจซี่ ผู้หญิงคนนี้จะไม่ควักยาเม็ดระดับเทพเซียนออกมา