พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1259 ที่เดียวเท่านั้น
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1259 ที่เดียวเท่านั้น
แรดโบราณพารพีพงษ์ไปที่ใจกลางป่าหมอกด้วยความเร็วตลอดทาง
รพีพงษ์รู้สึกทึ่งกับดอกไม้ พืช และต้นไม้ที่สูงตระหง่านทั้งสองข้าง
“พวกเรากำลังจะไปไหน? เราควรทำอย่างไร ถ้าเจอสัตว์เซียนอยู่ระหว่างทาง?” รพีพงษ์ถามด้วยความกังวล
ตามความเข้าใจของรพีพงษ์ ยิ่งเข้าไปในป่าหมอกลึกเท่าไร ยิ่งมีพลังทิพย์มากเท่านั้น และสัตว์เซียนที่พบก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น
ถ้าพบสัตว์เซียนที่มีความแข็งแกร่งชั้นสูง ถึงแม้ว่าตนเองจะบวกกับแรดโบราณ ก็อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย
“อย่ากังวลไปเลย ระหว่างทางพวกเราจะไม่พบสัตว์เซียนอีกต่อไปแล้ว” แรดโบราณกล่าวขณะหายใจหอบ
“อ้อ?”
ดูเหมือนว่าการคาดเดาของตนเองจะผิด แต่นั่นก็ดี อย่างน้อยเขาก็จะไม่ถูกสัตว์เซียนอื่นโจมตี
หลังจากขี่อยู่บนหลังแรดโบราณไปประมาณหนึ่งชั่วโมง ความเร็วของแรดโบราณก็ค่อยๆ ช้าลง
รพีพงษ์ได้กลิ่นอากาศที่อยู่ตรงนั้น แล้วพลังทิพย์ก็พุ่งตรงเข้ามาที่จมูกของเขา
หนึ่งคน หนึ่งสัตว์ป่า และในที่สุดพวกเขาก็หยุดอยู่ตรงหน้าหินก้อนใหญ่
“ที่นี่คือ……”
รพีพงษ์กระโดดลงมาจากหลังของแรดโบราณ และเดินมาถึงหน้ากำแพงหิน
เขาเงยหน้าขึ้น ราวกับว่ายอดก้อนหินลอยขึ้นไปในก้อนเมฆ ทำให้เขาไม่สามารถมองเห็นยอดหินเลย
“คุณรอสักครู่”
แรดโบราณก้าวถอยหลังไปหลายสิบก้าวและตะโกน “รพีพงษ์ คุณถอยออกไปก่อน!”
เมื่อรพีพงษ์ได้ยิน ก็รีบถอยออกห่างจากก้อนหินทันที
ขณะนี้ แรดโบราณรวบรวมพลังทั้งหมดของตนเอง ถอยหลังตั้งหลักแล้วพุ่งไปข้างหน้าอย่างดุเดือด ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งราวกับกำแพง แล้วกระแทกเข้ากับก้อนหินทันที
แรงกระแทกนั้นรุนแรงมาก รพีพงษ์คิดเองว่า ถ้าความแรงนี้ปะทะกับร่างกายของตนเอง ถ้าไม่ตายก็คงพิการ
เสียงดังสนั่น แรดโบราณกระแทกก้อนหินอย่างรุนแรง ทำให้เกิดฝุ่นบินตลบไปทั่ว!
แต่ว่า ก้อนหินใหญ่ไม่มีความเสียหายใด ๆ ซึ่งเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าก้อนหินนั้นมีต้นกำเนิดที่ไม่ธรรมดา และมีความแข็งที่หาตัวจับยาก
ขณะที่รพีพงษ์กำลังสงสัย ทันใดนั้น พื้นด้านหลังก้อนหินก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ จากนั้นรอยแตกก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
รพีพงษ์มองทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ ไม่คิดว่าหลังจากที่แรดโบราณกระแทกก้อนหินขนาดใหญ่อย่างรุนแรง หินก้อนใหญ่นั้นไม่เป็นอะไร แต่พื้นข้างหลังก้อนหินใหญ่ดูเหมือนจะเปิดออก
“นี่ก็คือเหตุผลที่สัตว์เซียนอย่างพวกเรารออยู่ที่นี่มาหลายร้อยปี!”
แรดโบราณกล่าว
รพีพงษ์เดินไปข้างหน้าสองก้าวอย่างระมัดระวัง ในเวลานี้ พื้นดินได้เปิดออกอย่างสมบูรณ์ ราวกับว่าประตูแห่งนรกถูกเปิดออก
รพีพงษ์มองเข้าไปข้างใน ทันใดนั้น ก๊าซสีฟ้าอ่อนก็พ่นออกมาทันที!
“นี่คือ พลังทิพย์!”
รพีพงษ์กล่าวเสียงแหบ เขาไม่เคยคิดว่า จะมีพลังทิพย์มากมายเช่นนี้
พลังทิพย์เปล่งประกายมากจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าโดยตรง
ในโลกใบนี้ ยงมีสิ่งมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่อีกเท่าไร?
รพีพงษ์หยุดอยู่ตรงนี้ ภายใต้รอยแตกขนาดใหญ่ มีพลังทิพย์ฟ้าอ่อนหมุนขึ้นหมุนลงอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้รพีพงษ์รู้สึกว่าตนเองเล็กมาก เมื่ออยู่หน้าต่อหน้าพลังทิพย์มหาศาลนี้
ประมาณห้านาทีต่อมา พื้นดินที่แยกจากเดิมก็ถูกปิดอีกครั้ง พลังทิพย์ก็ถูกซ่อนอยู่ในพื้นดินอีกครั้ง และทุกสิ่งรอบตัวก็กลับคืนสู่ความสงบ
แรดโบราณเดินไปหารพีพงษ์ “คุณรับรู้ได้ไหม ถึงพลังทิพย์มหาศาลเช่นนี้?”
รพีพงษ์พยักหน้า เขาไม่สามารถสงบสติลงได้เป็นเวลานาน
“รู้ไหมว่าทำไม ยิ่งเข้าไปในป่าลึกมาก แต่กลับไม่มีสัตว์เซียนปรากฏตัวออกมา?”
แรดโบราณเห็นรพีพงษ์ส่ายศีรษะ จึงกล่าวว่า “ถึงแม้ว่าที่นี่จะมีพลังทิพย์มาก แต่ว่าสัตว์เซียนไม่สามารถฝึกฝนอยู่ที่นี่ได้เลย เพราะถ้าควบคุมไม่ดี ร่างกายจะดูดพลังทิพย์เข้าไปมากจนเกินไป และในที่สุดก็จะระเบิดแล้วตายทันที”
“ที่แท้เป็นเช่นนี้นี่เอง นี่คือวิถีแห่งสวรรค์ ยับยั้งคนจากกิเลส ทุกอย่างจะต้องสมดุลกัน กุญแจสำคัญคือการควบคุมไว้ให้ดี” รพีพงษ์กล่าว
“คุณสามารถตระหนักถึงสิ่งนี้ ก็สมแล้วที่ได้รับสืบทอดจากเจ้านายเก่าทั้งหมด” แรดโบราณกล่าวขณะที่เดินเข้ามาหารพีพงษ์
“ทำไม ที่นี่ถึงได้มีพลังทิพย์มากมายเช่นนี้?” รพีพงษ์หันหลังไปถาม
แรดโบราณย้อนกลับไปในความทรงจำ โดยกล่าวว่า “เมื่อหลายร้อยปีก่อน โลกของเราเต็มไปด้วยพลังทิพย์ และมีทิวทัศน์ที่สวยงามมาก มีเสียงนกร้องและดอกไม้บาน เหมือนเป็นสวรรค์ของจักรวาลทั้งมวล ที่นี่มีคนธรรมดาอาศัยอยู่อย่างมีความสุข และในเวลาเดียวกัน มันก็เหมาะสำหรับผู้ฝึกเซียนที่ต้องการปรับปรุงพัฒนาตนเอง จนกระทั่งคนของทวีปโอชวินได้ปรากฏตัวขึ้น!”
รพีพงษ์ขมวดคิ้ว เขารู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว
คนของทวีปโอชวินได้เผา สังหาร และปล้นทรัพยากรของชาวโลก และนำพลังทิพย์ไปเป็นจำนวนมาก
หากไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวของจอมมารชูร่า ที่ใช้พลังความสามารถของตนเองขับไล่พวกเขากลับไปที่ทวีปโอชวินได้ เกรงว่าพลังทิพย์บนโลกคงจะหายไปหมดแล้ว
แรดโบราณกล่าวต่อไปอีกว่า “เมื่อสองร้อยปีก่อน ยังมีสถานที่อีกห้าแห่งบนโลกที่มีพลังทิพย์มากเหมือนกับป่าหมอก”
“ห้าแห่ง?” รพีพงษ์รู้สึกประหลาดใจ “ห้าแห่งไหน?”
“สถานที่ทั้งห้าแห่งนี้ถูกพบหลังจากความอุตสาหะของเจ้านายเก่า เป็นความลับสุดยอดของโลก ดังนั้นขณะที่เจ้านายเก่ากำลังจะตาย เขาจึงได้จัดให้ผู้ที่มีพลังความแข็งแกร่งคอยปกปักรักษาสถานที่ทั้งห้าแห่งนี้ และต้องอยู่ปกปักรักษาสถานที่นั่นตลอดไป แต่ว่า……” เมื่อพูดถึงตรงนี้ แรดโบราณรู้สึกสลดใจ
“แต่ว่าอะไร?”
แรดโบราณถอนหายใจและกล่าวว่า “สถานที่ห้าแห่งที่พลังทิพย์มาบรรจบกัน ได้แก่ธาตุทอง ธาตุไม้ ธาตุน้ำ ธาตุไฟ และธาตุดิน ป่าหมอกของเราเป็นธาตุไม้ อีกสี่แห่งอยู่ในสี่มุมของโลก แต่ว่าคนที่รับปากเจ้านายเก่าว่าจะคอยปกปักรักษาสถานที่ทั้งสี่แห่งนั้น ถูกคนของทวีปโอชวินฆ่าตายจนหมด ตอนนี้บนโลกใบนี้ มีป่าหมอกเพียงแห่งเดียวที่ยังเหลืออยู่”
รพีพงษ์โกรธมากหลังจากได้ยินเรื่องนี้ “ไอ้พวกทรยศละทิ้งซึ่งคุณธรรม แล้วพวกทวีปโอชวินรู้ตำแหน่งสถานที่เหล่านี้ได้อย่างไร?”
แรดโบราณถอนหายใจและกล่าวว่า “หลังจากที่เจ้านายเก่าสั่งเสียทุกอย่างแล้ว เขาก็กลายเป็นกลลวงตาวิญญาณและดำดิ่งลงสู่ก้นทะเลสาบ ในบรรดาคนที่เขาไว้ใจ บางคนรู้สึกว่าเมื่อเจ้านายเก่าตายไป โลกก็กำลังจะหมดสิ้น ฉะนั้นเลยบอกเรื่องพวกนี้กับคนของคนของทวีปโอชวิน ดังนั้นสถานที่ทั้งสี่แห่งจึงถูกคนของทวีปโอชวินปล้นจนไม่เหลืออะไรอีกเลย!”
“พวกคนเลวทรามต่ำช้า!”
รพีพงษ์ด่า และคิดอยู่ในใจ บางครั้ง ผู้คนก็ไม่น่าไว้ใจเท่าสัตว์เซียน
“ตามที่กล่าวมา ความลับของป่าหมอก คนของทวีปโอชวินน่าจะรู้แล้ว?” รพีพงษ์ถามอย่างประหม่า
แรดโบราณส่ายศีรษะ “สถานที่ห้าแห่งได้แก่ ธาตุทองไม้ ธาตุน้ำ ธาตุไฟ และธาตุดิน มีเพียงธาตุไม้ที่อยู่ในประเทศจีน และอีกสี่แห่งอยู่ในประเทศอื่น ๆ ในโลก เพราะเจ้านายเก่าให้ความสำคัญกับธาตุไม้ ดังนั้นตอนที่สั่งเสียพวกเขารู้เพียงแต่ว่าพลังทิพย์ของธาตุไม้อยูในประเทศจีน แต่ไม่รู้ตำแหน่งสถานที่ที่แน่นอน นั่นเป็นสาเหตุที่ป่าหมอกสงบสุขมาหลายร้อยปี”
รพีพงษ์แสดงถึงความเข้าใจ และคิดเองว่า มิน่าคนของทวีปโอชวินที่ตนเองเคยพบ ล้วนอยู่ในประเทศจีน ดูเหมือนว่าพวกเขารู้เพียงว่ามีพลังทิพย์ซ่อนอยู่ในเมืองจีน แต่พวกเขาไม่รู้ว่าสถานที่นั้นอยู่ที่ไหน?
“แต่ว่า ไม่ช้าก็เร็วคนของทวีปโอชวินจะค้นพบที่นี่ เพราะว่าที่นี่เต็มไปด้วยพลังทิพย์ แม้แต่สำนักเทพยาเซียนก็ได้รับผลประโยชน์ด้วย เป็นการยากที่จะไม่ปลุกความสนใจของคนที่หมายปอง”
แรดโบราณกล่าวอย่างเคร่งขรึม “แต่นายน้อยไม่ต้องกังวล ผมอยู่ที่นี่เป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว ถ้ามีคนจากทวีปโอชวินเข้ามารุกราน ผมจะต่อสู้เพื่อปกป้องอย่างสุดชีวิต และจะไม่บอกพวกเขาว่าแหล่งกำเนิดพลังทิพย์อยู่ที่ไหน!”
รพีพงษ์มองดูแรดโบราณที่มีผิวหนังแห้งและแก่ ด้วยความรู้สึกประเดประดังเข้ามาพร้อมกันหมด
หลายร้อยปีในการคอยปกปักรักษา โดดเดี่ยวและเดียวดาย และนี่เป็นเพียงการทำตามคำปฏิญาณของตนเองที่มีต่อจอมมารชูร่า
“คุณวางใจเถอะ ถ้าหากทวีปโอชวินเข้ามารุกราน ไม่เพียงแต่คุณเท่านั้น ผมก็จะปกป้องมันด้วยชีวิต เพราะนี่คือสมบัติในโลกของพวกเรา และจะไม่อนุญาตให้คนของทวีปโอชวินนำมันไปได้!”
ร่างกายของรพีพงษ์เปล่งประกายพลังออกมา พร้อมดวงตาที่แน่วแน่
สิ่งที่จอมมารชูร่าสามารถทำได้ในตอนนั้น ผมรพีพงษ์ ก็ต้องทำได้อย่างแน่นอน!