พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1276 คุณภาพไม่เพียงพอ
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1276 คุณภาพไม่เพียงพอ
“ไอจิรภัทร คุณว่าครั้งนี้รพีพงษ์จะใช้เวลาเท่าไรถึงจะกลั่นยาเสร็จ?”
ปยุตที่อยู่ด้านล่างก็ถามขึ้นมา พวกคนในสำนักเทพยาเซียนก็มั่นใจกับรพีพงษ์มาก
ถ้าจะบอกว่า การแข่งขันครั้งนี้ ฝั่งสำนักเทพยาเซียนมีโอกาสชนะได้มาก ก็ต้องเป็นเพราะรพีพงษ์เท่านั้น!
“ยาชั้นเลิศที่มีชี่ยา รพีพงษ์ทำออกมาได้ตั้งนานแล้ว ทักษะความสามารถของเขาได้ก้าวล้ำพวกเราไปมากแล้ว”
จิรภัทรพูดอย่างยอมรับ
“ใช่น่ะสิ เวลาเพียง3วันก็สามารถกลั่นยาชั้นเลิศออกมา30กว่าเม็ด ทั้งยังล้วนมีชี่ยาด้วย มันน่าอัศจรรย์มากเลยทีเดียว ผมคิดว่า ในโลกนี้ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของรพีพงษ์ได้แล้ว ต่อให้เป็นชนุตร์ก็ไม่ใช่” ปยุตกล่าว
มุมปากของจิรภัทรแฝงรอยยิ้ม เห็นได้ชัดว่า เขาก็เห็นด้วยในสิ่งที่ปยุตพูด
“แต่ว่า ก็จะตัดสินเร็วไปก็ไม่ได้ เห็นชนุตร์แบบนี้ ก็คงจะเตรียมตัวมาพอสมควร อีกอย่าง คุณลืมสูตรยาทั้งสองแผ่นที่อาจารย์ทิ้งไว้ให้แล้วหรือยัง?”
ปยุตได้ยินก็ยิ้มพูดว่า “ไอจิรภัทร คนอย่างคุณนี่ก็ระแวงเกินไปหน่อยนะ สูตรยาทั้งสองแผ่นที่อาจารย์ทิ้งไว้ให้ มันก็เป็นแค่สูตรที่ในตำนานเท่านั้น ยาแบบนี้ ในโลกนี้ไม่มีใครสามารถกลั่นมันออกมาได้หรอก”
จิรภัทรส่ายหัวเบาๆ “ในเมื่อมันมีอยู่ ก็แสดงว่ามันต้องค่าอะไรสักอย่างที่ทำให้มันคงอยู่ได้ ไม่งั้นล่ะก็ ตอนชนุตร์ทรยศสำนักเทพยาเซียนนั้น ทำไมถึงไม่เอาพวกสูตรยาดีๆ แพงๆ ไปด้วยล่ะ แต่กลับเอาแค่สูตรยาสองสูตรนั้น?”
ปยุตเบ้ปาก แล้วก็ไม่พูดอะไรมาก สายตาก็จ้องมองแท่นหินด้านบน
จิตวิญญาณเทพออกท่องเที่ยว รพีพงษ์ที่นั่งอยู่บนแท่นหิน กลับไม่ได้มีความกังวลอะไร แต่กลับกัน กลับรู้สึกว่าสบายตัวมาก
ได้ฝึกฝนอยู่ที่หน้าผา ทำให้รพีพงษ์ได้คุ้นเคยกับการกลั่นยาในสภาพแวดล้อมต่างๆ มานานแล้ว
แท่นหินสูงแบบนี้ ไม่ได้น่ากลัวอะไรหรอก!
ยาเม็ดไป่หลิงนั้น ตั้งแต่ที่มีสูตรออกมาในโลกนี้ ก็ยังไม่มีใครสามารถกลั่นออกมาได้เลย
หลักๆ ก็เป็นเพราะว่า ตัวยาที่ชื่อยาผงหลิงซีนั้นหายากมาก
แต่หลังจากที่ได้เข้าไปในป่าหมอกมาหนึ่งเที่ยว รพีพงษ์ก็ได้รับรู้ความลับด้านในที่ซ่อนเร้นไว้ แล้วแรดโบราณตัวใหญ่ ก็คือสัตว์พาหนะของจอมมารชูร่าในสมัยนั้น
ในฐานะที่เป็นผู้สืบทอดของจอมมารชูร่าเพียงคนเดียว รพีพงษ์ก็เลยสามารถได้ของดีอย่างยาผงหลิงซี ออกมาจากตัวของแรดโบราณได้อย่างง่ายดาย
กำลังจะเริ่มหลอมรวมยาเม็ด มุมปากของรพีพงษ์ก็อมยิ้ม แล้วก็หันมามองข้างๆ
ห่างจากรพีพงษ์ไม่ไกล ชนุตร์ก็กำลังนั่งตัวตรง ตรงหน้าเขา ก็มียาสมุนไพรวางอยู่หลายชนิดเหมือนกัน
หลายวันมานี้ รพีพงษ์นอกจากจะกลั่นยาแล้ว ก็ยังอ่านคัมภีร์โบราณที่จิรภัทรเอามาไว้ในห้องตนเองจนทะลุปรุโปร่ง หลังจากที่เขาเห็นชนุตร์เอายาสมุนไพรมาวาง เขาก็ตกใจมาก
เพราะว่า ยาสมุนไพรพวกนี้ ตามที่คัมภีร์โบราณบันทึกไว้ น่าจะหายสาบสูญไป100กว่าปีแล้ว
“หรือว่า ที่คัมภีร์บันทึกไว้จะเป็นความเท็จงั้นหรือ?”
รพีพงษ์ก็ไม่ค่อยเข้าใจ แต่พอหันกลับมาคิด บางทีอาจจะเป็นเพราะตนเองมองผิดไป
เพราะถึงอย่างไร สมุนไพรบางชนิด ถ้าไม่รวบรวมมาตรวจสอบดีๆล่ะก็ ก็อาจจะจำผิดได้
รพีพงษ์ไม่ได้สนใจอะไรมาก เขาก็หยิบรูปของแคลร์และของหนูลินออกมา มองรอยยิ้มของทั้งสองคนในรูป แล้วก็ใส่กระเป๋ากลับไป
จุดประสงค์ที่มาสำนักเทพยาเซียน ก็เพื่อมาหาวิธีรักษาอารียาให้หายดี
ตอนนี้ ขั้นตอนทุกอย่างก็ได้เตรียมไว้หมดแล้ว ก็แค่รอยาเม็ดไป่หลิงเม็ดแรก ออกมาให้โลกนี้ได้ยลโฉม
ในมือจับยาสมุนไพรไว้สองชนิด จากนั้นจิตวิญญาณเทพสีฟ้าอ่อนๆ ก็มารวมอยู่ที่มือ
รพีพงษ์ในตอนนี้ ดวงตาทั้งสองผิดสนิท ในหัวของเขา มนุษย์ทองคำก็ได้ตื่นขึ้นมา
“ตื่นได้แล้ว มาทำงานได้แล้ว!”
รพีพงษ์คิดในใจ
มนุษย์ทองคำนั้น ก็เหมือนจะฟังรู้เรื่อง หลังจากที่บิดขี้เกียจแล้ว ก็เริ่มควบคุมการเคลื่อนไหวของรพีพงษ์
เพียงแต่มนุษย์ทองคำที่เป็นตัวแทนจิตวิญญาณเทพในตอนนี้ ได้แข็งแกร่งกว่าตอนที่เพิ่งปรากฏตัวขึ้นมาอย่างมาก แสงสีทองบนตัวก็ได้สว่างกว่าเดิมมาก
ยาชั้นเลิศติดต่อกัน ถึงแม้จะเหนื่อยมาก แต่ว่า สำหรับการจะฝึกฝนจิตวิญญาณเทพนั้น มันเทียบกันไม่ได้เลย!
มนุษย์ทองคำสั่งควบคุมการเคลื่อนไหวของตนเอง รพีพงษ์ก็ปล่อยวางตนเอง แล้วให้จิตวิญญาณเทพควบคุม
ยาสมุนไพรสองตัวในมือของรพีพงษ์ ก็เกิดการเปลี่ยนแปลง
คนด้านล่างเห็นแล้ว ก็ตื่นเต้นตามกัน
เมื่อเทียบกับการแข่งขันสองรอบก่อนหน้านี้ ฝีมือของนายน้อยตระกูลลัดดาวัลย์ เห็นได้ชัดว่ายอดเยี่ยมกว่ามาก
โคบายาชิจุนอิจิก็แอบโล่งอก โชคดีที่ตนเองยกเลิกการลงมือเสียก่อน ไม่งั้นล่ะก็ ถ้าสั่งให้ชายใส่แว่นไปทำอะไรกับอุเอสึงิ ฮารุล่ะก็ แล้วรพีพงษ์รู้เข้า ตนเองก็จะได้ร้ายมากกว่าดีแน่ๆ
คนแบบนี้ จะไปหาเรื่องด้วยไม่ได้!
สายลมยามค่ำคืนพัดมา ผ่านไปแล้วประมาณ10นาที ชนุตร์ก็เริ่มลงมือแล้ว
“ยื้อเวลาตั้งนานกว่าจะลงมือหลอมรวม ผู้อาวุโสชนุตร์ของสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุคนนี้ เริ่มกลัวแล้วหรือเปล่า”
“ใครจะรู้ล่ะ ในเมื่อเขาเป็นถึงผู้อาวุโสชนุตร์ ก็คงจะมีดีอยู่แหละ”
ทุกคนก็ถกเถียงกันเบาๆ
มีแต่จิรภัทร ที่มีใบหน้ากังวลอยู่ลึกๆ
เขารู้ว่าชนุตร์มีพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดา
10นาทีเมื่อครู่นี้ ถึงแม้เขาจะยังไม่ได้เริ่มหลอมรวมตัวยา นั่นก็เพราะว่า 10นาทีนี้ เขาได้เรียบเรียงขั้นตอนทุกอย่างไว้ในหัวหมดแล้วหนึ่งรอบ
แบบนี้ ทำให้ตอนที่เขาเริ่มหลอมรวมจริงๆ นั้น สามารถทำได้ดั่งใจนึกและคล่องมือ
ดวงตาดั่งนกอินทรีก็ลืมขึ้น จากนั้น ก็มีหมอกสีขาวเหมือนควันลอยขึ้นมา
พลังจิตแบบนี้ มากกว่าของจิรภัทรและปยุตรวมกันเสียอีก แทบจะใกล้เคยงกับพลังจิตวิญญาณเทพของรพีพงษ์เลย
เพียงแต่ ตั้งแต่ที่ชนุตร์ลืมตา ก็ยังสามารถเห็นความกังวลเล็กๆ ได้
ฝ่ามือทั้งสองที่แก่ชราแต่ยังมีแรงนั้น ได้หยิบตัวยาสมุนไพร2อย่าง
จากนั้น พลังจิตที่เข้มข้นก็ถูกปลดปล่อยไปยังบนสมุนไพรทั้ง2ชนิดอย่างไม่มีกั๊ก
นี่เป็นเพียงขั้นตอนแรกเท่านั้น ก็ใช้พลังจิตมากมายขนาดนี้แล้ว บนหน้าผากของชนุตร์ ก็มีเหงื่อไหลซึมออกมา
จิรภัทรและปยุตก็มองหน้ากันด้วยความสงสัย ตามหลักแล้ว ขั้นตอนแรกของการกลั่นยาชั้นเลิศ สำหรับชนุตร์ที่มีระดับขนาดนี้แล้วนั้น ไม่น่าจะต้องกินแรงขนาดนี้นะ
“ผมคิดว่า รพีพงษ์คงจะกดดันเขามาก เขาก็เลยต้องออกแรงมากหน่อย ไม่งั้นล่ะก็ ถ้าทั้งสองคนล้วนกลั่นยาชั้นเลิศที่มีชี่ยาออกมาได้ทั้งสองคนล่ะก็ ใครที่ใช้เวลาน้อยที่สุด ก็จะชนะไป” จิรภัทรกล่าว
ปยุตพยักหน้า คำอธิบายนี้ ก็ดูจะถูกต้องกับสถานการณ์ตรงหน้า
เพียงแต่ ความเร็วของรพีพงษ์นั้นก็เร็วมาก
หลายวันนี้ก็เอาแต่กลั่นยาชั้นเลิศ ยิ่งทำยาในระดับเดียวกันแล้วด้วย รพีพงษ์ก็ยิ่งคล่องมือ
ขั้นตอนแรกเสร็จเรียบร้อย ภายใต้การรับรู้ของจิตวิญญาณเทพ ไม่มีร่องรอยความเสียหายอะไรเลย
“ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว”
รพีพงษ์หายใจเข้าอย่างลึก เขาที่มีจิตวิญญาณเทพอันแก่กล้าก็สัมผัสได้ว่า ตนเองได้ควบคุมยาเม็ดไป่หลิงเม็ดนี้ไว้หมดแล้ว แต่ตอนนี้ ความคิดบางอย่างก็เข้ามาในหัวของรพีพงษ์