พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1298 แผนการของนฤชัย
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1298 แผนการของนฤชัย
บนเกาะแห่งหนึ่งที่อยู่เหนือท้องทะเลอันกว้างใหญ่
เพื่อจะไปถึงที่หมายโดยเร็วที่สุด ครั้งนี้รพีพงษ์ไม่ได้นั่งเรือประมงแต่เลือกที่จะนั่งเรือสปีดโบ๊ทหรูไปยังเกาะแห่งนี้
เขาขับสปีดโบ๊ทในท่ามกลางน้ำทะเลที่ถูกคลื่นซัด!
เมื่อเห็นตัวเกาะอยู่ไม่ไกลจากสายตา รพีพงษ์ก็สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันที
บนเกาะแห่งนี้ วฤนท์ธมอาจารย์ที่เขาเคยนับถือที่สุด ซึ่งก็คือชัชพิสิฐที่มาบนโลกนี้จากทวีปโอชวิน!
แต่สิ่งที่ทำให้รพีพงษ์รู้สึกแย่ก็คือ เขาได้พยายามทำสิ่งต่างๆ เพื่อชัชพิสิฐตั้งมากมายแล้ว แต่ในที่สุดชัชพิสิฐกลับต้องการสิงร่างเขา
ภาพในสุสานกษัตริย์ฉินยังคงติดตารพีพงษ์อยู่เสมอ เขากำหมัดไว้แน่นๆ แม้ว่าตอนนี้จะคาดเดาอะไรไม่ได้ แต่ในใจของเขามีลางสังหรณ์ว่าทวีปโอชวินน่าจะมีส่วนเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับพี่น้องสำนักสยบเซียนของเขาไม่มากก็น้อย!
จากนั้นรพีพงษ์กระโดดเบาๆ และได้เข้าสู่ชายฝั่งของเกาะแห่งนี้
จากครั้งที่แล้วที่รพีพงษ์มาเยือน แม้จะเป็นเกาะร้าง แต่วิวก็ยังถือว่าใช้ได้ แต่ในครั้งนี้ บรรยากาศของเกาะแห่งนี้กลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งการสังหาร
ในขณะที่รพีพงษ์กำลังรบรวมพลังจิตเพื่อจะเข้าสู่สุสานกษัตริย์ฉิน ทันใดนั้นพลังจิตของเขาก็สัมผัสถึงเสียงของเครื่องยนต์ที่แล่นมาจากด้านหลังเขา
เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นเรื่อย ๆ และดูเหมือนว่ามีบางอย่างกำลังแล่นมาที่เกาะแห่งนี้
รพีพงษ์หันมองกลับไป จากตำแหน่งที่เขาสามารถมองเห็น มีจุดสีดำเล็กๆ ปรากฏขึ้นที่ปลายขอบทะเลอันกว้างใหญ่
ซึ่งในครั้งนี้ความสามารถของรพีพงษ์แตกต่างจากครั้งก่อนแล้ว พลังจิตของเขาสามารถสัมผัสถึงสิ่งผิดปกติในระยะหลายกิโลเมตรได้
เขารู้สึกแปลกประหลาดมาก เพราะเกาะแห่งนี้ต้องใช้แผนที่ของชัชพิสิฐถึงจะมาถึงที่หมายได้ และเส้นทางมันก็ซับซ้อนมากพอ
ถ้าเป็นเช่นนั้น แล้วเรือที่กำลังมุ่งหน้าเข้ามาจะค้นพบเกาะนี้ได้อย่างไร?
ณ เวลานี้ เรือลำนั้นก็เข้าใกล้ฝั่งมากขึ้น เริ่มแรกเห็นเพียงจุดสีดำเท่านั้น แต่ในตอนนี้สามารถมองเห็นโครงร่างของเรือลำนี้ได้อย่างชัดเจนแล้ว
รพีพงษ์มองดูเรือสีดำลำนั้น ซึ่งบนเรือใบมีธงสีดำโบกสะบัดตามสายลมอยู่ และในธงใบนั้นเป็นรูปเสื้อคลุมสีขาวที่เห็นได้อย่างชัดเจน
ทันใดนั้น รพีพงษ์ก็เข้าไปซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ข้างๆ หลังจากที่เรือเทียบท่าแล้ว กลุ่มคนเจ็ดถึงแปดคนก็กระโดดลงมาจากเรือ
คนเหล่านั้นแต่งกายด้วยชุดสีดำกันทุกคน ใบหน้าในหลังแว่นดำของทุกคนนั้นเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นที่ดูน่ากลัวมาก
ซึ่งเป็นการยากที่จะจินตนาการถึงสิ่งที่คนเหล่านี้เคยประสบมาก่อน แต่มองแวบแรกก็สามารถรู้ได้ว่าต้องเป็นกลุ่มคนที่ล้มลุกคลุกคลานจากใบมีดที่แหลมคมมาแล้ว
“พี่ใหญ่ให้เรามาเกาะนี้ แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ไหน”
“นั่นสิ ยังบอกว่าจะทำให้พวกเราแข็งแกร่งขึ้นได้ ไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหนกัน แต่อย่าให้พวกเราเสียเที่ยวก็พอ”
“เบาๆ หน่อย เดี๋ยวพี่ใหญ่ได้ยินเข้าพวกนายต้องตายแน่”
“เหอะ ก็แค่หุ่นเชิดตนหนึ่ง รอระดับฝีมือของกูเพิ่มขึ้นก่อน คอยดูว่ากูจะฟังเขาอยู่ไหม?”
“พอได้แล้ว พวกนายไม่รู้สึกว่าเกาะนี้มันจะเงียบไปหน่อยเหรอ?”
ทันใดนั้นหัวหน้ากลุ่มก็พูดขึ้น และทำให้ทุกคนเงียบไป
รพีพงษ์ที่หลบอยู่ในพุ่มไม้ได้ยินบทสนทนาของคนกลุ่มนี้ได้อย่างชัดเจน ดูเหมือนว่าคนกลุ่มนี้ตั้งใจมาหาหุ่นเชิดตนนั้นอย่างแน่นอน
เพียงแต่ว่าคนกลุ่มนี้เรียกหุ่นเชิดตนนั้นว่าหัวหน้า และหุ่นเชิดตนนั้นได้นัดพวกเรามาเจอกันที่เกาะนี้
รพีพงษ์ใช้พลังจิตอย่างลับๆ จากนั้นเขาต้องรู้สึกประหลาดใจ เพราะฝีมือของคนกลุ่มนี้ส่วนมากจะอยู่ในแดนปรมาจารย์แล้ว และหัวหน้าของพวกเขายังอยู่ใกล้แดนดั่งเทพแล้วด้วย
แต่สำหรับรพีพงษ์แล้ว ถ้าต้องเผชิญกับคนกลุ่มยังไม่ใช่อุปสรรคใดๆ เพียงแต่ว่าเป้าหมายหลักในตอนนี้คือพี่น้องของเขาที่ยังอยู่ในสุสานกษัตริย์ฉิน
ดังนั้นรพีพงษ์จึงไม่ได้สนใจคนกลุ่มนี้และรีบตรงไปยังปากทางเข้าของสุสานกษัตริย์ฉิน
ณ สุสานกษัตริย์ฉินในขณะนี้
ตำแหน่งตรงกลางสุดของห้องโถงอันวิจิตรงดงามในหลุมฝังศพนั้น มีศพของวฤนท์ธมที่เคยถูกชัชพิสิฐใช้มาก่อนถูกวางไว้บนแท่นหิน
และในบริเวณห้องโถงที่ติดกับกำแพง ในฐานะลูกศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักสยบเซียนนั้น อาการของนฤชัยสาหัสที่สุด
ส่วนทั้งสองด้านของเขานั้นคือนิศมากับบาวัน ทั้งสองคนสีหน้าเคร่งเครียด เนื่องจากแขนขาถูกมัดไว้ และด้วยอาการบาดเจ็บ ทั้งสองจึงช่วยอะไรไม่ได้
“เจ้าหนู นี่เป็นครั้งที่สามแล้วนะที่นายท้าทายข้า นายคิดว่าฝีมือของนายจะสู้ข้าได้จริงๆ งั้นเหรอ?”
ชายวัยกลางคนสวมชุดคลุมสีขาวและใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเครายืนพูดกับพวกเขาด้วยน้ำเสียงชา
ถ้าสังเกตดีๆ จะสามารถมองออกว่าชายวัยกลางคนคนนี้เป็นเพียงหุ่นเชิดเท่านั้น แต่สิ่งที่เขาแตกต่างจากชยนต์กับแม่นางทอผ้านั้น เขาจะดูเหมือนมนุษย์ทั่วไปมากกว่า
นฤชัยที่ล้มลงนอนอยู่บนพื้นในขณะนี้เลือดไหลออกมาเต็มปาก
ในฐานะที่เป็นศิษย์พี่ใหญ่ เขาทำได้เพียงกัดฟันสู้เพื่อศิษย์น้องของเขา เพียงแต่ว่าครั้งนี้เขาสู้อย่างเต็มที่แล้ว แต่ไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้จริงๆ
ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ คู่ต่อสู้เคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเขาก็ไม่อาจต้านทานได้แล้ว
“ศิษย์พี่……”
นิศมาและคนอื่นๆ รู้สึกกังวลมากเมื่อเห็นนฤชัยสู้อย่างไม่ยอมแพ้
“ยอมเถอะศิษย์พี่”
“นั่นสิ ขืนสู้ต่อไปมันอาจจะฆ่าศิษย์พี่ได้นะ!”
……
นฤชัยขมวดคิ้วและพยายามเสกดาบออกมาเพื่อประคองร่างกายของเขาให้ลุกขึ้นสู้ต่อ
จากนั้นเขาเช็ดคราบเลือดออกจากปากและกลืนเลือดในปากเข้าไป
เมื่อหันหน้าเข้าหาหุ่นเชิดตนนั้น เขาพยายามยืนให้นิ่งและชี้ดาบไปที่คู่ต่อสู้
“ไม่ว่าแกจะเป็นใครมาจากไหน ถ้ากล้าบุกเข้ามาในถิ่นของเรา ข้าจะหยุดแกให้ได้!”
หุ่นเชิดที่นั่งอยู่บนแท่นหิน เมื่อได้ยินคำพูดนี้ก็หัวเราะอย่างเย็นชาแล้วกระโดดลงมาอีกครั้ง
“ว่าไงนะ นายคิดว่าที่นี่เป็นที่ของพวกนายงั้นเหรอ? ตลกสิ้นดี ตอนข้าอยู่ในเกาะแห่งนี้พวกนายยังไม่เกิดด้วยซ้ำ!”
จากนั้นเขาพูดต่อด้วยอารมณ์ความโกรธ “บอกมาเดี๋ยวนี้ กล่องยาเอาไปซ่อนไว้ที่ไหน! ไม่อย่างนั้นพวกนายต้องตายกันทุกคน!”
นฤชัยแสดงสีหน้าเย็นชา หลังจากที่รพีพงษ์ออกจากเกาะนี้ พวกเขาคิดว่ายากล่องเหล่านี้มันมีค่ามากเกินไป ดังนั้นจึงนำออกไปซ่อนไว้ในเกาะ เพราะเกรงว่าเก็บไว้ในสุสานแห่งนี้จะไม่ปลอดภัย
“อยากรู้นักใช่ไหม? เข้ามาสิ เดี๋ยวข้าจะบอกแกเอง!” นฤชัยหรี่ตาพูดกับศัตรู
“ศิษย์พี่ อย่าบอกมันนะ!”
“ศิษย์พี่ ไอ้หมอนี่มันร้ายกาจเกินไป ห้ามบอกมันเด็ดขาดนะ!”
“หลังจากรพีพงษ์จากที่นี่ไป กล่องยาเหล่านั้นมันมีค่ามากแค่ไหน ศิษย์พี่ลืมไปแล้วเหรอ?”
……
เหล่าสาวกของสำนักสยบเซียนต่างก็ไม่เห็นด้วยกับนฤชัยที่จะบอกตำแหน่งของที่ซ่อนยาเหล่านั้นให้กับหุ่นเชิดตนนี้
“นฤชัย คุณ……ถ้าคุณบอกมัน เราจะไม่สนใจคุณอีก!” นิศมาพูดด้วยความโกรธและน้ำตาคลอเบ้า
นฤชัยไม่ได้สนใจคำพูดของใครอีก เขาได้แต่พูดกับหุ่นเชิดตนนี้ว่า “ถ้าข้าบอกตำแหน่งที่ซ่อนยาให้แก แล้วแกสัญญาว่าจะปล่อยคนของเราใช่ไหม?”
“แน่นอน” หุ่นเชิดพูดอย่างเย็นชา
“ได้สิ ข้าเชื่อแก เขามาสิ ข้าจะบอกแกตอนนี้” นฤชัยพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนล้า
หุ่นเชิดขยับเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่เขาหยุดลงก่อนที่จะถึงตัวของนฤชัยเพียงสองก้าว
“ว่ามา” หุ่นเชิดพูด
“ไม่นะ ศิษย์พี่!”
บาวันตะโกนอย่างเศร้าใจ เธอพยายามจะดิ้นให้หลุดแต่กลับทำอะไรไม่ได้
นฤชัยไม่ได้สนใจคนที่อยู่ข้างหลังเขาเลย เขาได้แค่ขยับริมฝีปาก แต่เนื่องจากร่างกายที่บาดเจ็บอย่างสาหัส เขาจึงพูดเสียงเบามาก
“นายว่ายังไงนะ พูดดังๆ หน่อย!” หุ่นเชิดเริ่มอารมณ์เสียอีกครั้ง
“ข้า……ข้าพูดดัง ดังที่สุดแล้ว ช่วย……ขยับเข้ามาอีก” นฤชัยพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา
จากนั้นหุ่นเชิดก็เดินเข้าไปอีกสองเก้า และมายืนอยู่ตรงหน้านฤชัย
“ว่ามา ใกล้ขนาดนี้คงได้ยินชัดเจนแล้วนะ ถ้าไม่อยากตายอย่าคิดตุกติกเชียวล่ะ!”
นฤชัยพยักหน้าเบาๆ เพื่อบอกให้ศัตรูเข้าใกล้เขาอีกนิด
เมื่อได้จังหวะที่พอเหมาะ รอยยิ้มจางๆ ก็ปรากฏขึ้นนัยน์ตาของนฤชัย
“กล่อง……ยา ถูกซ่อนไว้……”
“ซ่อนไว้ที่ไหน บอกมาเดี๋ยวนี้!”
“ถูกซ่อนไว้ใน……”
ทันใดนั้น ดาบของนฤชัยก็ออกมาจากฝัก เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีเพื่อเอาดาบแทงไปที่ศัตรู
ทุกคนที่อยู่ข้างหลังเมื่อเห็นเหตุการณ์กะทันหันนี้ต่างก็พากันตกใจกลัว
ที่แท้แล้วทั้งหมดนี้เป็นแผนการของนฤชัย จุดประสงค์ก็คือสังหารเขาในระยะใกล้
“ไปตายซะ!” นฤชัยตะโกนพูด
“ไอ้สารเลว กล้าหลอกข้างั้นเหรอ!”