พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1322 วรันธรและแม่
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1322 วรันธรและแม่
ทางฝั่งนี้ รพีพงษ์ก็เดินไปพร้อมกับวรันธร
ยิ่งเดินก็ยิ่งรู้สึกว่า ทางเส้นนี้มันไม่ใช่เส้นทางที่ไปยังตึกของวรันธร
หรือว่า ผลทิพย์จะซ่อนอยู่ที่อื่น?
รพีพงษ์ฉงนใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เดินไปประมาณ8นาที วรันธรก็หยุดเดิน
“ผลทิพย์อยู่ที่นี่งั้นหรือครับ?”
รพีพงษ์ถาม แล้วก็มองไป ที่นี่มันเห็นได้ชัดว่าเป็นสุสาน
วรันธรพยักหน้า แล้วพูดเบาๆ ว่า “แม่ของฉันถูกฝังอยู่ที่นี่ ส่วนผลทิพย์ที่คุณต้องการนั้น ก่อนหน้านี้แม่ของฉันเป็นคนดูแลมันอยู่ ดังนั้นวันที่แม่สิ้นลมไป ผลทิพย์ก็ถูกบูชาอยู่หน้าป้ายวิญญาณมาโดยตลอด”
รพีพงษ์ก็แสดงทีท่าเข้าใจความหมาย เอาสิ่งของที่ผู้ตายชอบฝังไปด้วยพร้อมกัน นี่มันเป็นวัฒนธรรมจีนโบราณที่สืบทอดต่อกันมา
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นผมก็ไม่เอาผลทิพย์แล้วล่ะ เพราะถึงอย่างไรต้องให้เกียรติผู้เสียชีวิต ในเมื่อแม่ของคุณรักผลทิพย์นั้นมาก ผมก็ไม่ควรไปแย่งของรักของใคร” รพีพงษ์กล่าว
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ คุณรพี”
วรันธรยิ้มเบาๆ “ก่อนแม่ฉันตายเคยบอกไว้ว่า ผลทิพย์นั้นแทบจะไม่มีประโยชน์กับพวกเราที่นี่เลย แต่มันมีค่ากับพวกนักฝึกวิชาในโลกภายนอกมาก ก่อตายแม่บอกไว้ว่า ผลทิพย์นี้จะต้องให้แก่คนที่มีวาสนาด้วยเท่านั้น และคนคนนั้นจะต้องมาจากโลกภายนอกเท่านั้น ตอนนี้ดูเหมือนว่า หลายปีมานี้คุณก็คือคนที่แม่ของฉันรอคอย”
รพีพงษ์ยิ้มเบาๆ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ตนเองก็จะปฏิเสธไม่ได้แล้ว
เขาเดินมาทางหน้าป้ายวิญญาณของวรันธร แล้วทำความเคารพ3ครั้ง
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ขอบคุณคุณวาวมากหัวไหล่ครับ” รพีพงษ์พูดไป จากนั้นก็มองไปยังผลทิพย์ที่ถูกกล่องคริสทัลใส่ไว้ยังด้านหน้าป้ายวิญญาณ
พอเห็นแวบแรก รพีพงษ์ก็รับรู้ได้ถึงความไม่ธรรมดาของผลทิพย์
รูปร่างคล้ายๆแอปเปิล แต่มันมีสีทองเปล่งออกมา และรอบๆ ของผลทิพย์ก็มีควันหมุนปกคลุมอยู่
ควันพวกนี้ ก่อนหน้านี้รพีพงษ์เคยเห็นบนยาเม็ดมาก่อน
หรือว่า ผลทิพย์นี้จะคล้ายๆ กับยาชั้นเลิศ?
รพีพงษ์คิดในใจ แต่ว่ายาเม็ดมันเล็กมาก ส่วนผลทิพย์นี้มันมีขนาดใหญ่
พอคิดถึงสรรพคุณที่สามารถให้นักฝึกวิชาได้เพิ่มพลังให้ตนเองได้ รพีพงษ์ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก
ตอนที่รพีพงษ์จะเข้าไปหยิบผลทิพย์นั้น ก็เห็นว่า วรันธรน้ำตาคลอเบ้า และกำลังจ้องมองป้ายวิญญาณของแม่ตนเองอย่างลึกซึ้ง
รพีพงษ์รู้ว่า วันนี้วรันธรเจอเรื่องแย่ๆ ในใจคงอึดอัดไม่น้อย พอได้เข้ามาในสุสานของแม่ตนเอง ก็เลยใจไม่ดีมากกว่าเดิม
“คุณวาว คุณมีสภาพแบบนี้ แม่ของคุณเห็นเข้าก็จะเสียใจไปด้วยนะครับ” รพีพงษ์เอามือตบไหล่พูดปลอบใจอยู่ข้างๆ
วรันธรพูดเบาๆ ว่า “ตั้งแต่เด็กแม่ก็ดีกับฉันมาก ตอนที่ฉันอายุ5ขวบ แม่ก็จากไป และหลังจากที่แม่เสียไปแล้วนั้น นิสัยของพ่อฉันก็เปลี่ยนไปมาก กลายเป็นคนใช้อารมณ์ไร้เหตุผล ก่อนหน้านี้ไม่ใช่คนแบบนี้”
“แม่คุณเสียตอนคุณอายุ5ขวบหรือครับ? ไม่ทราบว่าป่วยหนักด้วยอาการอะไรหรือเปล่า?” รพีพงษ์ถาม
วรันธรส่ายหัว “ตอนนั้นฉันยังเด็ก เหตุการณ์ตอนนั้นก็จำได้รางๆ แต่ฉันรู้ว่า แม่ของฉันไม่ได้เสียเพราะโรคร้าย แต่เป็นเพราะ…….”
“เพราะอะไรครับ?” รพีพงษ์ถาม แต่พอเห็นเธอสีหน้าเศร้าโศก ก็รู้สึกว่าตนเองสอดรู้มากเกินไป จนไปพูดเรื่องเสียดแทงทางอารมณ์ของคนอื่นเข้า
“จะว่าไปแล้วก็น่าขำ แม่ของฉันนั้น ถูกฟ้าผ่าใส่จนตาย ตายคาที่เลย” วรันธรเล่า
ถูกฟ้าผ่างั้นหรือ?
รพีพงษ์คิ้วขมวด สถิติการเกิดเหตุการณ์แบบนี้ มันไม่ต่างอะไรกับถูกหวยเลยนะ
“นี่……นี่มันค่อนข้างเกินธรรมชาติไปหน่อยนะครับเนี่ย” รพีพงษ์กล่าว
“ตอนนั้นฉันอยู่ข้างหน้านั้น ถ้าไม่เห็นกับตาตนเอง ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อ วันนั้นท้องฟ้าเปลี่ยนสี เมฆดำปลิวหมุน ตอนนั้นพ่อกับแม่ก็กังวลกันมาก ตอนนั้นฉันยังเล็ก แต่ว่าฉันสามารถรับรู้ได้ว่า แม่ของฉันมีลางสังหรณ์อะไรสักอย่าง ว่าวันนี้มันจะมาถึง” วรันธรกล่าว
รพีพงษ์ก้มหน้าครุ่นคิด เขารู้ว่า ถ้าคนคนหนึ่งที่เจ็บป่วยมานาน ก็มักจะมีลางสังหรณ์ของวันสุดท้ายในชีวิตตนเอง แต่ถ้าเป็นคนธรรมดา ก็จะไม่รู้เลยว่าตนเองจะมีวันที่ถูกผ่าตายด้วย
นอกเสียจาก………
ทัณฑ์สวรรค์!
ในหัวของรพีพงษ์ก็นึกถึงภาพตอนที่ตนเองกลั่นยาเม็ดระดับเทพเซียนในสำนักเทพยาเซียน
วันนั้น ตอนที่ยาเม็ดระดับเทพเซียนกำลังจะถูกหลอมรวมสำเร็จนั้น ท้องฟ้าก็เกิดการเปลี่ยนแปลง ฟ้าร้องอึกทึก
หรือว่า แม่ของวรันธรจะเป็นนักกลั่นยา?
“แม่ของคุณ สามารถกลั่นยาได้ไหม?” รพีพงษ์ถาม
“ยาเม็ดงั้นหรือคะ?” วรันธรได้แล้วก็ส่ายหัวอย่างอึ้งๆ “แม่กลั่นยาไม่เป็นหรอก และฉันก็ไม่เคยได้ยินแม่พูดถึงด้วย เพียงแต่ ก่อนหน้านี้ฉันเคยไปกวนให้พ่อฉันเล่าเรื่องของแม่ฉันให้ฟัง พ่อฉันบอกไว้อย่างเดียว”
“บอกว่าอะไรครับ?” รพีพงษ์ถาม
“ฟ้าได้กำหนทุกอย่างไว้แล้ว” วรันธรพูดออกมาเบาๆ “นี่เป็นคำที่พ่อพูดอยู่หลายครั้ง จากนั้นก็ไม่ได้เล่าอะไรอีกเลย”
พอพูดจบ วรันธรก็หันตัวไปยังป้ายวิญญาณของแม่ตน แล้วพูดออกมาว่า “ถ้าแม่ยังอยู่บนโลกใบนี้ล่ะก็ แม่ก็คงจะไปเกลี้ยกล่อมให้พ่อยอมให้ฉันตัดสินใจงานแต่งของตนเองในครั้งนี้”
รพีพงษ์ยืนอยู่ข้าง ในใจก็มีความเห็นใจ
ถึงแม้แม่ของวรันธรจะอยู่กับเธอมาเพียงแค่5ปี แต่เมื่อเทียบกับตนเองแล้ว วรันธรถือว่ามีบุญวาสนามากแล้ว
แม่ของตนเองได้ร้ายกับตนเองมาก เพื่อที่จะให้น้องชายของเธอได้ขึ้นตำแหน่ง ถึงกับยอมหลอกลวงตระกูลลัดดาวัลย์ และคิดแผนทำร้ายตนเอง
มันแน่นอนอยู่แล้ว คนสองคนเมื่อเทียบกัน ก็มักจะมีอะไรหลายอย่างที่ไม่เหมือนกัน
“คุณรพี น่าอายไปหน่อยนะคะ ส่วนผลทิพย์นี้คุณก็เอาไปเถอะค่ะ”
วรันธรกล่าว
“ขอบคุณมากครับ” รพีพงษ์พูด แล้วก็ยื่นมือไปหยิบผลทิพย์ “ถ้าคุณเชื่อใจผมล่ะก็ คุณกับณรงค์ยังมีโอกาสอยู่นะครับ”
“อ๋า?” วรันธรอึ้งไป ไม่คิดเลยว่าในตอนนี้ รพีพงษ์จะพูดออกมาแบบนี้
“แต่ถึงจะพูดแบบนี้ จุดสำคัญก็ยังขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทั้งสองคน”
รพีพงษ์ก็พูดเสริมว่า “ขอเพียงคุณกล้าหน่อย พรุ่งนี้เช้าก็ออกไปจากแดนลับพร้อมกับผม!”
“ออกไปจากแดนลับ…..พร้อมกับคุณงั้นหรือ?” วรันธรก็งงๆ เธอไม่คิดเลยว่า รพีพงษ์จะคิดแผนแบบนี้ออกมาได้
“ถูกต้อง แดนลับจะถูกเปิดขึ้นอีกครั้งก็อีก10ปีข้างหน้า เวลานับสิบปี ผมคิดว่าพ่อของคุณคงจะคิดอะไรได้บ้างแล้ว” รพีพงษ์กล่าว
“คุณพูดถูก แต่ว่า……..” วรันธรก็ยังตัดสินใจในทันทีเลยไม่ได้
“ถ้าคุณคิดได้แล้ว คืนวันนี้ผมก็จะไปหาคุณที่ใต้ตึกเหมือนเดิม พอถึงตอนนั้นเราค่อยวางแผนกันก็ได้” รพีพงษ์กล่าว
“ได้ ถ้างั้นก็ทำตามที่คุณว่าเลยก็แล้วกัน” วรันธรกล่าว
ตอนที่ทั้งสองคนกำลังคุยกันนั้น นรียาก็แอบย่องเงียบเข้ามาในสุสานด้วย
ถ้าอยู่โลกภายนอก พลังจิตวิญญาณของรพีพงษ์ก็คงจะสามารถรับรู้ฝีเท้าของนรียาได้ แต่ทว่า ในแดนลับแห่งนี้ พลังจิตวิญญาณของตเนองไม่มีทางใช้การได้ บวกกับได้รู้จักกับนรียาอยู่แล้ว รพีพงษ์ก็เลยไม่ได้กังวลว่าด้านหลังจะมีใครตามมา และคิดว่าตอนนี้นรียาคงจะกำลังดูแลอาการของพชรมากกว่า
ในตอนนั้นเอง ลมแรงก็พัดผ่าน กริชของนรียาก็ปลิวออกมา พุ่งมายังรพีพงษ์
ดีที่รพีพงษ์ตอบสนองเร็ว รับรู้ได้ว่าด้านหลังมีลมพัด ก็เลยหลบออกไป กระโดดไปด้านข้าง
และในตอนนี้ นรียาก็ได้มายืนตรงหน้าของวรันธรแล้ว วรันธรไม่เป็นวิชาต่อสู้ ต่อหน้านรียา เธอก็ทำอะไรไม่ได้
“อย่าเข้ามานะ!”
นรียาก็พูดกับรพีพงษ์ที่กำลังพุ่งมาโจมตีเธอ ในตอนนี้ มือข้างหนึ่งของเธอได้บีบคอของวรันธรไว้แล้ว สายตาก็อำมหิต พร้อมพูดว่า “ส่งผลทิพย์มานี่!”
สายตาของรพีพงษ์เผยรังสีการฆ่า “คุณปล่อยเธอเสีย ผมจะให้คุณได้เป็นศพครบ32!