พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1323 ต้องชิงไหวชิงพริบ
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1323 ต้องชิงไหวชิงพริบ
“เหอะ คุณคิดว่าคุณมีอะไรมาต่อรองพูดกับฉันแบบนี้ห้ะ?”
นรียายิ้มเย็น “เมื่อครู่พวกคุณสองคนคุยเข้ากันได้ดี รพีพงษ์ คุณคงจะชอบผู้หญิงคนนี้เข้าให้แล้วสินะ”
“นี่เธออย่ามาพูดมั่วๆ นะ ฉันกับคุณรพีนั้น……”
“ฉันให้แกพูดแล้วหรือไงห้ะ? ฉันกำลังถามรพีพงษ์อยู่!” นรียาออกแรงไปที่มือเพิ่ม วรันธรก็เผนสีหน้าเจ็ปบวดจนพูดอะไรไม่ออก
รพีพงษ์ก็มีสายตาจริงจัง จ้องมองนรียาไม่ละสายตา “คุณวาวมีรูปร่างหน้าตาโดดเด่นกว่าใคร ได้รับการอบรมสั่งสอนมาเป็นอย่างดี ถามหน่อยว่าชายคนไหนบ้างจะไม่ชอบ? ส่วนคุณ นิสัยป่าเถื่อนเอาแต่ใจ ใจไม้ไส้ระกำ หรือผมต้องไม่ชอบเธอ แล้วมาชอบคุณแทนล่ะห้ะ?”
“เหอะ รพีพงษ์ คุณอย่าคิดว่าผู้ชายบนโลกใบนี้จะเป็นเหมือนคุณหมดทุกคนนะ พี่ชายของฉันไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก” นรียากล่าว
“งั้นหรือ? ถ้าคุณคิดแบบนั้นจริงๆล่ะก็ ผมก็บอกได้เพียงว่า ไม่เพียงใจไม้ไส้ระกำ แถมยังมีปัญหาทางด้านความคิดอีกด้วย” รพีพงษ์กล่าว
“เดิมทีก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว!”
นรียาพูดเสียงดัง “เมื่อวานพี่ชายฉันบอกกับฉันเองว่า ที่เขาเข้าร่วมการประลองในครั้งนี้ก็เพื่อผลทิพย์และทรัพย์สินในทั้งหมด พอทำสำเร็จ ก็จะรีบพาฉันออกไปจากที่นี่ทันที!”
“ฮ่าๆๆ คำพูดผีๆ แบบนี้ ก็แค่เอามาหลอกสาวน้อยผู้ไม่รู้เรื่องแบบคุณเท่านั้นแหละ” รพีพงษ์หัวเราะลั่น
ทั้งสองคนยืนห่างกันไม่เกิน5เมตร รพีพงษ์ก็คิดในใจว่าสามารถจัดการกับฝั่งตรงข้ามได้ในพริบตา
แต่ว่าตอนนี้ ปัญหาเดียวที่สำคัญที่สุดก็คือ นรียาจับตัวของวรันธรไว้อยู่ และนรียาก็มีประสบการณ์การต่อสู้มาพอสมควร ตัวท่อนบนก็หลบไปทางด้านหลังของวรันธร แบบนี้ถ้ารพีพงษ์จะลงมือล่ะก็ เธอก็จะสามารถปลิดชีพวรันธรได้โดยพริบตา
นี่เป็นสิ่งที่รพีพงษ์ไม่อยากเห็นมากที่สุด
หลังจากที่นรียาได้ยินในสิ่งที่รพีพงษ์พูดออกมาแล้วนั้น สีหน้าความโกรธบนใบหน้าก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น “เดิมทีก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว อย่าคิดว่าพี่ชายฉันจะเหมือนคุณนะ สิ่งที่เขาพูดกับฉันล้วนแล้วแต่ออกมาจากใจจริง ไม่มีทางหลอกลวงฉันแน่นอน”
“อ๋องั้นหรือ?”
รพีพงษ์ขมวดคิ้วเล็กน้อย จะเข้าไปแย่งชิงตัวตอนนี้ก็คงไม่ได้ จะต้องใช้ไหวพริบแล้วล่ะ
“แต่ว่าคุณวาวไม่ได้กับผมแบบนี้นะ”
“อะไรนะ? คุณวาวงั้นหรือ? คุณหมายถึงวรันธรใช่ไหม?” นรียาถาม
รพีพงษ์พยักหน้า แล้วมองวรันธร จากนั้นก็พูดว่า “คุณวาวครับ คุณบอกกับผมเองไม่ใช่หรือว่า เมื่อกลางดึกคืนก่อน พชรเขียนจดหมายรักให้คุณไม่ใช่หรือครับ?”
วรันธรทำตาโตมองใส่รพีพงษ์
จดหมายรักอะไรกัน? ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องเลยนะ?
โชคดีที่นรียายืนอยู่ด้านหลังของวรันธร ก็เลยไม่ได้เห็นสีหน้าของวรันธร ไม่อย่างนั้นล่ะก็ อาจจะถูกจับไต๋ได้ง่ายๆ
“งั้นคุณก็ลองพูดเนื้อความในจดหมายให้คนข้างหลังคุณฟังหน่อยแล้วกัน ให้เธอได้รู้จักนิสัยใจคอของพี่ชายเธอเสียหน่อย”
รพีพงษ์ก็พูดต่อไปโดยไม่สนใจอะไร “แต่จะว่าไปแล้ว ถ้าผมเป็นพชรล่ะก็ ก็คงจะเลือกคุณนี่แหละ แต่ไม่ไปเลือกลูกพี่ลูกน้องที่มีนิสัยป่าเถื่อนแบบนี้หรอก”
“นี่คุณ…..พูดอะไรน่ะ!”
นรียาได้ยินแล้วก็โมโหหนัก “จดหมายรักอะไร? เมื่อคืนพี่ชายฉันักผ่อนอยู่ในห้องตลอดเวลา จะไปส่งจดหมายรักให้นังชั่วนี่ได้อย่างไรกัน?”
“เหอะๆ ที่บอกว่าจะพักผ่อนก็เป็นแค่ข้ออ้างเพื่อที่จะปลีกตัวคุณออกไปไงล่ะ จะว่าคุณโง่ คุณก็โง่จริงอย่างว่าเลยนะ” รพีพงษ์หัวเราะเยาะ
นรียาขมวดคิ้ว ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย
“วรันธร ฉันถามหน่อย เมื่อคืนพี่ชายฉันเขียนจดหมายรักให้เธอจริงหรือเปล่า รีบบอกมาสิ!ฉันจะบอกให้นะ ถ้าเธอกล้าหลอกฉันล่ะก็ ฉันก็จะทุ่มสุดตัวเพื่อฆ่าเธอให้ตายเลยคอยดู!” นรียากล่าว
รพีพงษ์ก็ส่งสายตาให้กับวรันธร เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้เธอ
เหมือนกับที่ตนเองคิดไว้ไม่ผิด ถึงแม้นรียาคนนี้จะร้าย แต่ก็รักพี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับตนเอง แถมยังเป็นผู้หญิงที่ขี้โมโหและอิจฉาริษยาคนอื่นง่ายๆด้วย
ผู้หญิงแบบนี้พออิจฉาใครขึ้นมา ก็จะสูญเสียสติการตัดสินใจอะไรง่ายๆไป
นรียาก็คือคนจำพวกนี้
วรันธรก็เฉลียวฉลาด เข้าใจความหมายของรพีพงษ์ในทันควัน
เธอทนกับความเจ็บที่ลำคอของตนเอง แล้วพูดเสียงต่ำออกมา “กลางดึกเมื่อคืนนี้ พชรได้…….เอาจดหมายรักมาให้ฉันจริง”
“แกพูดมั่ว!” นรียาพูดอย่างโมโห “พี่ชายฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแกนอนอยู่ห้องไหน แล้วเขาจะเอาจดหมายรักไปให้แกได้อย่างไรกัน?”
“เมื่อคืน……ฉันนอนไม่หลับ ก็เลยดีดพิณเล่นตอนกลางคืน ฉันคิดว่าคุณชายพชรน่าจะเดินตามเสียงดนตรีเข้ามา”
“อะไรนะ? เสียงพิณงั้นหรือ?” นรียาน้ำตาคลอเบ้า แล้วถามอย่างไม่เลิกรา “แต่ว่า…….ทำไมพี่ชายฉันไม่เคยบอกกับฉันเรื่องนี้เลยล่ะ? พวกแกหลอกฉันอยู่แน่ๆ”
“คุณก็บ้ารึไง ถ้าพี่ชายคุณบอกคุณไป แล้วคุณยังจะมาแย่งผลทิพย์กับผมเพื่อเอาไปให้เขาอีกงั้นหรือ?” รพีพงษ์ยิ้มเย็น
“คุณหมายความว่า ที่พี่ชายฉันทำทุกอย่างนี้ ก็เพื่อหลอกใช้ฉันงั้นหรือ?” นรียาถามอย่างอึ้งๆ
“แน่นอน พชรวางแผนได้แนบเนียนมาก ถ้าสามารถเอาชนะในการประลอง และได้คุณวาวกับผลทิพย์มาครอบครองก็คงจะดีมาก แต่ถ้าเอาชนะไม่ได้ อย่างน้อยก็ยังน้องสาวผู้โง่เขลาคอยช่วยเหลืออยู่ แทบไม่มีอะไรต้องเสีย” รพีพงษ์ก็พูดอีกว่า “สรุปแล้ว ผมเชื่อว่า ถ้าวันข้างหน้าเขาได้พบกับผู้หญิงดีๆ อีกล่ะก็ ก็คงจะถีบคุณให้กระเด็นออกไปอย่างแน่นอน”
“คุณพูดจริงหรือนี่?” นรียาถาม “งั้นฉันถามหน่อย ทำไมคุณถึงไม่ยอมเอาชนะแล้วได้ตัววรันธรไปล่ะ?”
“บ้าสิ ผมแต่งงานมีลูกมีเมียแล้ว และรักเดียวใจเดียวกับเมียคนนี้มาก ไอ้คนบ้ากามแบบนั้นมาเทียบกับผมได้อย่างไรกันล่ะ?” รพีพงษ์พูดเสียงดัง สายตาก็แฝงไปด้วยความตั้งมั่น
นรียาก็ตัวแข็งทื่อไป ในหัวของเธอมีแต่เรื่องในห้องโถงเมื่อวาน สายตาที่พชรมองวรันธรไปนั้น จ้องมองจนตาเป็นมัน
สายตาแบบนี้ เธอไม่เคยเห็นพชรใช้มองกับตนเองเลย
“ถ้าคุณนรียาไม่เชื่อ ก็สามารถไปที่ตึกพักพร้อมกับฉันได้ จดหมายฉบับนั้นฉันยังเก็บไว้อยู่” วรันธรก็พูดออกมา
กระพือลมโหมใส่ไฟ คำพูดนี้ของวรันธรได้กดความสงสัยในใจของนรียาไว้จนหมดสิ้น
“ใครจะอยากไปดูจดหมายรักบ้าบออะไรของแกล่ะ!”
นรียาตะโกนออกมา “เดิมทีฉันก็ไม่อยากมาที่บ้าๆ แบบนี้หรอก แต่พชรอยากจะมาให้ได้ ทีนี้ล่ะจบกัน ถูกยัยจิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างแกใช้มารยาหลอกเข้าให้ ฉันจะฆ่าแก!ฉันจะฆ่าแก!”
พอเห็นว่าตอนนี้นรียาควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้แล้ว รพีพงษ์ก็กำหมัดแน่นทั้งสองมือ ตอนนี้เป็นโอกาสเหมาะที่จะลงมือ!
ก่อนหน้านี้ กริชเล่มนั้นที่พุ่งเข้ามาตกอยู่ไม่ไกล รพีพงษ์ใช้เท้าซ้ายเตะเข้ามา แล้วใช้เท้าสะบัดมันขึ้น จากนั้นก็หมุนตัวเตะเข้าไปที่ด้ามของกริชเล่มนั้น
กริชเล่มนั้นก็พุ่งเหมือนคันศรที่ออกจากสาย พุ่งไปยังนรียา
ตอนนี้นรียาก็กำลังถูกความอิจฉาริษยาในใจกัดกินอยู่ โดยไม่สนใจว่าตรงหน้ากำลังเกิดอะไรขึ้น ในหัวของเธอคิดแต่เรื่องที่ว่าทำไมพี่ชายตนเองจะต้องหลอกตนเองด้วย ไปไหนมาไหนด้วยกันมาสิบกว่าปี ยังเทียบกับผู้หญิงที่เห็นกันไม่กี่ครั้งไม่ได้เลย
กริชเล่มนั้นก็พุ่งเข้าไปแทงที่หัวไหล่ของนรียา รพีพงษ์ก็รีบก้าวเข้าไป เพียงชั่วหายใจก็มายังตรงหน้าของวรันธรแล้ว
ใช้มือดึงตัววรันธรออกมา ส่วนนรียาก็ได้ล้มลงพื้น
รพีพงษ์ยืนตรงหน้าเธอ แล้วมองเธอนิ่งๆ
ในตอนนี้ นรียาสีหน้าดูไม่จืด ตอนนี้ก็เพิ่งตั้งสติขึ้นมาได้ “พวกแก เมื่อครู่พวกแกหลอกฉันใช่ไหม?”
รพีพงษ์ทำสีหน้านิ่ง แล้วก็ลูบจมูกพูดว่า “ที่หลอกคุณได้ก็เพราะคุณนั้นโง่ คุณก็ไม่คิดหน่อยหรือ ว่าคุณวาวมีฐานะสูงส่ง ต่อให้พชรจะเขียนจดหมายรักให้เธอจริงๆ เธอก็คงจะต้องขยำโยนทิ้งถังขยะโดยไม่อ่านแม้สักตัวเดียว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะเก็บจดหมายนั้นไว้หรอก”
“นี่พวกแก!”
นรียาโมโหออกมา และพยายามจะลุกขึ้น แต่หัวไหล่เจ็บปวดเหลือทน เธอก็ได้แต่ใช้สายตาจ้องมองรพีพงษ์ เพื่อแสดงความไม่พอใจของตนเอง
“ฉันว่าแล้ว พี่ชายของฉันไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก ต่อให้วันนี้ฉันต้องตายอยู่ที่นี่ ฉันก็พอใจแล้ว” นรียายิ้มเย็นพูดออกมา
“” ช่างเถอะ ที่นี่เป็นสุสานของแม่คุณวาว คุณไม่สมควรจะได้อยู่ที่นี่
รพีพงษ์พูดดูถูกว่า “ในเมื่อคุณรู้จักตัวตนของพชรดีแล้ว งั้นผมก็จะสนองคุณ”
พูดไป เขาก็ใช้มือจับข้อมือของเธอไว้ อีกมือก็ลากนรียาลุกขึ้น
“รพีพงษ์。”
สายตาของวรันธรเริ่มสับสน
รพีพงษ์ก็หันมาพูดว่า “ขอบคุณสำหรับผลทิพย์ เชิญคุณกลับไปก่อน แล้วไปทำตามที่ผมบอกไว้”
วรันธรพยักหน้า จากนั้นก็เดินไปตึกพัก
รพีพงษ์ก็ลากตัวนรียาเดินไปทางห้องพักที่เคยพักก่อนหน้านี้
พอเดินมาถึงครึ่งทาง ก็เจอกับพชรที่กำลังจะกลับไปพักฟื้นที่ห้องพัก
พอเขาเห็นรพีพงษ์และนรียาบาดเจ็บที่หัวไหล่นั้น ก็เข้าใจทุกอย่างขึ้นมาได้
“รพีพงษ์ คุณปล่อยน้องสาวผมได้ไหม”
พชรพูดอย่างร้อนรน