พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1324 ทุกคนต้องตาย
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1324 ทุกคนต้องตาย
หลังจากที่พชรรู้พลังที่แท้จริงของชายตรงหน้าแล้วนั้น ก็ไม่ได้อวดเก่งอะไรขึ้นมาอีก
ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน หรือว่าพลังฝีมือ รพีพงษ์ก็มีมากกว่าเขาหลายขุม ยิ่งกว่านั้น ต่อให้เป็นแดนลับ ที่ไม่สามารถใช้พลังบำเพ็ญได้ แต่ขอเพียงรพีพงษ์ยินยอม ก็สามารถฆ่าฝั่งตรงข้ามได้ง่ายๆ
“พี่คะ ไม่ต้องสนใจฉัน พี่รีบหนีไป!”
นรียาตะโกนเสียงดังพูดกับพชร
“พี่…….ไม่ไปไหนทั้งนั้น” พชรกล่าว แล้วก็มองไปยังรพีพงษ์ “ประมุกรพี ทั้งหมดนี้มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ปล่อยน้องสาวผมเถอะ มีอะไรพวกเราก็มาคุยกันดีๆ”
“พูดกันดีๆๆ งั้นหรือ?” รพีพงษ์ยิ้มเย็น “เมื่อครู่นี้น้องสาวของคุณมาลอบโจมตีผม พอไม่สำเร็จก็มาจับคุณวาวไว้เป็นตัวประกัน คุณคิดว่า เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันงั้นหรือ?”
พชรมองนรียาด้วยสายตาสับสน “น้องพี่ พี่บอกแล้วไง ให้ตามประมุกรพีไปอย่างเดียว แล้วพูดกับประมุกรพีดีๆ ถ้าเขาไม่ยอมให้ผลทิพย์ เธอก็ไม่เห็นจะต้องทำร้ายประมุกรพีเลยนี่!”
นรียาก็ทำหน้าฉงน ตอนที่ตนเองเดินออกมานั้น พี่ชายตนไม่ได้บอกแบบนี้กับตนเลยนะ
“ประมุกรพีเป็นใครรู้ไหม เขาเป็นถึงยอดคนแห่งประเทศจีน เป็นคนที่เธอกับฉันจะต่อกรได้ด้วยไหวหรือ? เธอนี่นะ ทำเรื่องอะไรก็ไม่ใช่หัวคิดเสียหน่อยเลย”
เกลียดตัวกินไข่ พชรหันมามองรพีพงษ์ “ประมุกรพี คุณเอาน้องสาวไม่เอาคนนี้มาให้ผมเถอะ เดี๋ยวผมจะสั่งสอนเธอแทนคุณเอง!”
นรียาก็เลยเข้าใจความหมายพชรที่ทำลงไป ที่เขาพูดแบบนั้น ก็เพื่อช่วยตนเองออกมาจากเงื้อมมือของรพีพงษ์
ที่นี้ เธอก็ยิ่งเชื่อใจพชรมากกว่าเดิม
รพีพงษ์ไม่เฟยสีหน้า แต่พูดเบาๆ ว่า “พชร คุณก็แสดงละครเก่งไม่เบาเลยนะ ให้ผมคืนน้องสาวให้คุณ คุณคิดว่ามันเป็นไปได้หรือ?”
“เอ่อ……..”
พชรมองนรียาอย่างทำอะไรไม่ถูก
เนื้อตัวของตนเองก็ยังบาดเจ็บ ต่อให้แข็งแรงเป็นปกติทุกอย่าง ตนเองก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของรพีพงษ์ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้เลย
“น้องพี่ พี่ทำเต็มที่แล้วนะ อย่าโทษพี่ก็แล้วกัน” พชรพูดออกมา
นรียาน้ำตาคลอ แล้วพยักหน้าพูดว่า “ฉันรู้ค่ะพี่ ชีวิตนี้พี่ทำดีกับฉันที่สุด พี่รีบหนีออกไปจากที่นี่เถอะ”
พชรพยักหน้า แล้วกันตัวไปโดยไม่ลังเล
“รอเดี๋ยว!”
รพีพงษ์พูดเสียงเย็นอยู่ด้านหลังเขา
พชรหันหน้ากลับมา แล้วเห็นใบหน้าที่ยิ้มไม่เหมือนยิ้มของรพีพงษ์พอดี
“จะไปง่ายๆ แบบนี้เลยหรือ หรือว่าคุณจะไม่ยอมช่วยน้องสาวคุณหน่อยหรือ?” รพีพงษ์ถาม
“ช่างเถอะ รพีพงษ์ คุณไม่คิดจะปล่อยฉันไปอยู่แล้ว งั้นก็ปล่อยพี่ชายฉันไปเถอะ จะฆ่าก็ฆ่า จะพูดมากไปทำไมกัน!” นรียากล่าว
พชรกัดฟัน สายตาก็มองไปยังฝั่งของรพีพงษ์
ในเมื่อรพีพงษ์ไม่ให้ตนเองไป งั้นต่อให้ตนเองหนี ก็คงจะทำไม่ได้แน่
รพีพงษ์มีสีหน้านิ่ง แล้วมองพชรพูดว่า “วันนี้ พวกคุณสองคน ใครก็อย่าหวังว่าจะหนีไปได้!”
พอได้ยินดังนั้น พชรก็เผยสีหน้าหวาดกลัวออกมาทันที เขารีบปัดมือพูดว่า “ประมุกรพี คุณหมายความว่าอย่างไร แต่เรื่องทั้งหมดมันไม่เกี่ยวกับผมเลยนะ ทำไมถึงรวมผมเข้าไปด้วยล่ะ”
“พี่คะ อย่าไปกลัวมัน แค่ก็ตาย วันนี้ได้ตกอยู่ในเงื้อมมือของรพีพงษ์ ก็ถือว่าพวกเราดวงซวย ชาตินี้ไม่มีวาสนาได้อยู่ด้วยกัน งั้นพวกเราก็มาตายด้วยกันเถอะ!” นรียาพูดด้วยท่าทางจริงจัง
พอพชรได้ยิน ก็พูดเสียงดังออกมา “ยัยผู้หญิงโง่ อยากตายก็ไปตายคนเดียวสิ กูเป็นถึงนายน้อยของโฮมสเตย์คัมแบคในอนาคต จะไปตายกับแกทำไมล่ะ!”
“พี่คะ นี่พี่…….” นรียามีสายตาที่ตกใจ “ทำไมพี่พูดออกมาแบบนี้ล่ะ? ก่อนหน้านี้พี่บอกเองไม่ใช่หรือว่า ต่อไปนี้เราจะตายไปด้วยกัน? หรือว่า พี่ลืมที่ตัวเองพูดไว้แล้ว”
“พี่พูดออกไปตั้งมากมาย จำได้ที่ไหนกัน!” พชรกล่าว “เธอก็เป็นแค่ญาติพี่น้องจนๆ จากแดนไกลเท่านั้น คงไม่คิดว่าพี่จะสู่ขอเธอแต่งงานจริงๆ หรอกนะ?”
“พี่คะ!” นรียาน้ำตานองอาบสองแก้ม “ถึงแม้ฉันจะเป็นญาติห่างๆ แต่ตั้งแต่เด็กก็เข้ามาอยู่ในโฮมสเตย์คัมแบคแล้ว พวกเราสองคนก็ไปไหนมาไหนด้วยกันทั้งวัน ไม่ระแวงอะไรกัน ความสัมพันธ์มันก็พัฒนามาเรื่อยๆ หรือว่า ทุกอย่างมันการเสแสร้งหรือคะ?”
“พูดมาก!”
พชรสะบัดมืออย่างแรง แล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า “อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้นะ ว่าบ้านของเธอมีแผนชั่วอะไร มาอยู่บ้านพีตั้งแต่เด็ก ก็แค่อยากได้วิชาการต่อสู้ของบ้านพี่มากกว่า”
“นี่…..ทำไมพี่พูดแบบนี้” นรียากล่าว
พชรยิ้มเย็น “จิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างเธอน่ะ ตั้งแต่วันที่มาถึงบ้านพี่ ก็มีแผนในใจแล้ว อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้ว่าเธอคิดจะทำอะไร ก็แค่อยากจะได้โฮมสเตย์คัมแบคของพวกเราล่ะสิ!”
“พชร!”
นรียาตะโกนอย่างโมโห “ฉันจริงใจกับพี่ แต่พี่มาพูดกับฉันแบบนี้ ฉัน ฉันเกลียดพี่!”
“เกลียดก็เกลียดไปเถอะ”
พชรพูดเสียงขรึม “ประมุกรพี ผู้หญิงคนนี้ก็ให้คุณจัดการก็แล้วกัน จะฆ่าจะแกงก็ตามใจเลย ส่วนผลทิพย์ ผมก็ไม่คิดจะอยากได้มันอีกแล้วล่ะ ขอเพียงวันพรุ่งนี้พวกเราสามารถออกไปได้อย่างปลอดภัย หลังจากนี้ โฮมสเตย์คัมแบคของพวกเราจะรับฟังคำสั่งของตระกูลลัดดาวัลย์”
“จะเป็นลูกน้องของตระกูลลัดดาวัลย์ โฮมสเตย์คัมแบคของพวกคุณยังไม่คู่ควร” รพีพงษ์ตอบไปอย่างเย็นชา
พชรก็พูดไม่ออก
ความยิ่งใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ ทรัพย์สินที่มากมาย ทั้งประเทศจีนก็ไม่มีใครกล้าเปรียบ
เมื่อเทียบกับตระกูลลัดดาวัลย์ของพวกเขาแล้ว โฮมสเตย์คัมแบคจะเป็นแค่ตัวอะไรกัน
พชรก็สามารถรับรู้ได้ถึงความแตกต่างนี้ แต่ตอนนี้สถานการณ์มันบังคับ และรพีพงษ์ก็เพิ่งบอกไปว่าจะไม่ปล่อยตนเองไป เขาก็เลยจำเป็นต้องทำทุกวิถีทางให้รพีพงษ์ดีใจ
ส่วนทางฝั่งนี้ นรียาก็เศร้าสร้อย ไม่คิดเลยว่า พชรจะพูดออกมาแบบนี้
“ประมุกรพี ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร คุณถึงจะยอมปล่อยผมไปจากที่นี่ อาการบาดเจ็บบนตัวผมต้องการพักฟื้น” พชรพูดกับรพีพงษ์อย่างน่าสงสาร
รพีพงษ์ก็ไม่ได้รู้สึกดีอะไรกับผู้ชายตรงหน้า
“ถ้าพวกคุณอยากมีชีวิตรอด จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธีนะ” รพีพงษ์กล่าว “แต่ว่า มันต้องอาศัยการตัดสินใจของพวกคุณด้วย”
พอได้ยินรพีพงษ์พูดแบบนั้น พชรก็รู้ว่าทุกอย่างมันยังมีทางรอด เขาก็เลยรีบพูดว่า “ประมุกรพี คุณรีบบอกมาเลย ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟผมก็ยอม ขอเพียงวันนี้คุณยอมปล่อยผมไปก็พอ”
รพีพงษ์ไม่ได้พูดอะไร ก็แค่หมาตัวหนึ่งที่กระดิกหางเท่านั้น ตนเองไม่ต้องไปสนใจอะไร
ทางนี้ รพีพงษ์ก็ยื่นมือไปทางหน้าอกของนรียา
“คุณจะทำอะไรน่ะ!” นรียาจะปกป้องหน้าอกตนเองโดยสัญชาตญาณ แต่ทว่า อาการบาดเจ็บที่หัวไหล่ทำให้เธอยกมือได้แค่ข้างเดียว มืออีกข้างขยับไม่ได้เลย
“นี่พี่ เอามือลงเดี๋ยวนี้!”
พชรพูดอยู่ข้างๆ เขาเห็นรพีพงษ์ทำท่าทางแบบนี้ออกมา ก็เลยนึกว่ารพีพงษ์สนใจในตัวของนรียา แล้วมาลองใจกับตนเองเท่านั้น
ก็แค่เสียสละนรียาไปเท่านั้น พชรไม่สนอะไรอยู่แล้ว
ขอเพียงได้ออกไปจากแดนลับนี้ ด้วยความสามารถและชาติตระกูลของตนเองนั้น จะหาผู้หญิงแบบไหนก็ได้
พอเห็นว่าพี่ชายตนเองไม่สนใจว่าตนเองจะถูก “รังแก” แต่กลับให้ตนเองเอามือลงห้ามตอบโต้ นรียาก็ยิ่งเศร้าใจมากกว่าเดิม
“ตอนนี้ เห็นรึยังว่าพี่ชายของเธอนั้นเป็นคนแบบไหน” รพีพงษ์พูดเสียงต่ำกับนรียา
นรียาก็มองรพีพงษ์นิ่งๆ “ตอนนี้คุณก็เหมือนกับเขาไม่ใช่หรือไงล่ะ หน้าไม่อาย!”
รพีพงษ์ยิ้มเย็นที่มุมปาก “คุณคิดมากไปแล้วล่ะ ผมเคยบอกไว้ ว่าผมไม่สนใจในตัวคุณ”
พูดไป รพีพงษ์ก็ขยับอย่างรวดเร็ว พุ่งไปยังกระเป๋าเสื้อของเธอ
จริงด้วย ยาพิษเม็ดเมื่อคืนที่จะเอาวางยาให้ตนเองนั้น ตอนนี้มันก็ได้มาอยู่ในมือของรพีพงษ์
พอมองๆ ไป รพีพงษ์ก็ตัดสินได้ว่า ยาพิษเม็ดนี้เป็นเพียงยาระดับต่ำเท่านั้น
ส่วนตนเองได้เป็นถึงกายซูร่า ยาพิษระดับนี้ ไม่เกิดผลอะไรกับตนเองหรอก
“ยาพิษเม็ดนี้ คุณคุ้นๆ มันไหม?” รพีพงษ์หยิบมันไว้ แล้วพูดกับพชร
พชรก็หน้าเสีย แล้วก็ไม่รู้จะพูดอะไร
รพีพงษ์โยนยาพิษในมือเล่นไปมา แล้วมองทั้งสองคนอย่างสนุก “พิษของยาเม็ดนี้ คาดว่าทั้งสองท่านคงจะรู้ดี วันนี้พวกคุณทั้งสองคน จะรอดไปได้แค่คนเดียว จะเป็นหรือตาย พวกคุณตัดสินเอาเองแล้วกัน”
พูดไป เขาก็เอายายื่นใส่มือของนรียา “คุณกินมันเอง หรือว่าคุณจะให้เขากินแทน คุณตัดสินใจแล้วกัน”