พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1337 ทุ่มสุดตัว
“ท่านอาจารย์!”
ธัชธรรมตะโกนเรียก เมื่อผู้คนโดยรอบในสำนักเห็นคนในตำนานอย่างธีรพัฒน์เป็นอย่างนี้ ทุกคนต่างตื่นตระหนกกันหมด
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยรอบทำให้รพีพงษ์รู้สึกใจหายด้วยเช่นกัน
เมื่อตอนที่เขากำลังฟื้นฟูผนึกของจอมมารชูร่านั้น เขารู้สึกได้ว่าอีกด้านของช่องทางนี้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของทวีปโอชวิน ได้มีพลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งกว่าของเขากำลังทำลายผนึกอย่างต่อเนื่อง
อันที่จริง แม้ทั้งสองฝ่ายต่างก็ยังไม่ได้พบกัน แต่การต่อสู้ระหว่างรพีพงษ์กับฝั่งของทวีปโอชวินนั้นได้เริ่มขึ้นตั้งแต่วันนี้แล้ว!
แต่ รพีพงษ์รู้ดีว่าภายในห้าวันนี้ผนึกของช่องทางนี้จะถูกเปิดออกอย่างแน่นอน
“ไม่ได้ เราต้องหาวิธีแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด!”
รพีพงษ์คิดในใจ ทันใดนั้น เขานึกขึ้นได้ว่าตอนที่เขาอยู่เกาะต่างประเทศ นรเศรษฐ์ได้มอบยาวิเศษที่มีผลต่อจิตวิญญาณที่ถูกทำขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญด้านพลังจิตวิญญาณ
จากนั้นเขาก็เกิดความคิดบางอย่างและมองไปที่ธีรพัฒน์อย่างมีความหวัง
ซึ่งในขณะนี้ ธีรพัฒน์อ่อนแอกว่าครั้งที่แล้วที่รพีพงษ์ได้พบกับเขา!
รพีพงษ์ไม่รอช้าอีกต่อไป เขาลืมเรื่องผนึกไปก่อนและนำกล่องเล็กๆ ออกมากล่องหนึ่ง
ซึ่งกล่องนี้เขาแย่งมาจากมือของนรเศรษฐ์ในเกาะต่างประเทศ ด้านในกล่องจะมียาเม็ดสีดำอยู่หกเม็ด
“ท่านผู้อาวุโสธีรพัฒน์ครับ ท่านกินยานี้เข้าไปก่อนหนึ่งเม็ดครับ”
รพีพงษ์พูดและคิดในใจว่า ในตอนนี้ธีรพัฒน์ก็เป็นวิญญาณ ซึ่งยานี้ที่ทำขึ้นโดยพลังจิตวิญญาณอาจมีประโยชน์ต่อเขาเองก็ได้
ธีรพัฒน์ที่อ่อนแอมองไปที่ยาเม็ดสีดำที่อยู่ในมือของรพีพงษ์ ด้วยความประหลาดใจมาก
“นั่นมัน……เจ้าได้มาอย่างไร?”
รพีพงษ์ไม่ได้พูดอะไรมาก เมื่อเห็นปฏิกิริยาของธีรพัฒน์แล้ว เขาก็รู้ว่าธีรพัฒน์น่าจะรู้ที่มาของยานี้ด้วยเหมือนกัน
หลังจากรับยามาจากรพีพงษ์แล้ว ธีรพัฒน์ก็กลืนมันลงไปโดยที่ไม่ได้คิดอะไรอีก
ทุกคนมองด้วยความสงสัยและตั้งตารอดูผลที่จะเกิดขึ้น
ซึ่งพวกเขาต่างก็ไม่เคยเห็นยาสีดำแบบนี้มาก่อนเลย แล้วทำไมธีรพัฒน์ถึงกลืนยาลงไปโดยไม่คิดอะไรเลยล่ะ?
แต่ทันใดนั้น ร่างกายของธีรพัฒน์ก็เปลี่ยนไป
รพีพงษ์และทุกคนเห็นว่าวิญญาณที่อ่อนแอของเขาได้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง และพลังของเขาก็ค่อยๆ กลับมาเป็นเหมือนเดิม
ธีรพัฒน์ที่ดูอ่อนล้าในก่อนหน้านี้ แต่ในตอนนี้ร่างกายของเขาก็ฟื้นคืนพลังกลับมาอีกครั้ง
“อัศจรรย์มาก!”
“นี่มันคือยาอะไร ทำไมมันถึงมีผลอัศจรรย์เช่นนี้!”
“เจ้าสำนัก ท่านช่างเก่งจริงๆ ยังมีพลังวิเศษแบบนี้ด้วยเหรอ!”
ทุกคนต่างก็พูดถึงมัน
แต่รพีพงษ์กลับขมวดคิ้วอย่างเงียบๆ ในความคิดของเขา นรเศรษฐ์ที่เป็นหุ่นเชิดหลังจากกินยานี้เข้าไป ร่างกายของเขาก็ดูไม่ต่างอะไรจากคนทั่วไปเลย
แต่ตอนนี้ แม้ว่าพลังของธีรพัฒน์จะเพิ่มขึ้น รวมไปถึงพลังจิตวิญญาณของเขาก็แข็งแกร่งขึ้น แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าร่างกายของเขาไม่ได้แข็งแรงเหมือนตอนที่ยังเป็นเนื้อหนังอยู่
“รพีพงษ์ ขอบคุณเจ้ามากนะ” ธีรพัฒน์พูดด้วยรอยยิ้ม
“ท่านผู้อาวุโสธีรพัฒน์ ผมเคยเห็นประสิทธิภาพของยาเม็ดนี้แล้ว แต่ดูเหมือนว่าท่านจะยังฟื้นฟูไม่สมบูรณ์เลยครับ” รพีพงษ์พูดอย่างตรงไปตรงมา
ธีรพัฒน์พูดอย่างเคร่งขรึมว่า “การสร้างร่างใหม่เป็นเรื่องที่ยากมาก เท่าที่ข้ารู้ มีเพียงแค่ทวีปโอชวินเท่านั้นที่มีวิชาลับนี้ อีกทั้งยาเม็ดภูติผีพวกนี้ ดูเหมือนซ่อมแซมร่างกายฝ่ายเนื้อหนังได้จริง แต่มันไม่ได้สมบูรณ์แบบขนาดนั้นหรอกนะ”
“ยาเม็ดภูติผี?” รพีพงษ์มองไปที่เม็ดยาสีดำที่เหลืออยู่ และถามด้วยความสงสัย
“ใช่ ถ้าข้าเดาไม่ผิด ยาเม็ดพวกนี้เจ้าน่าจะได้มาจากคนของทวีปโอชวินนะ” ธีรพัฒน์พูด “เมื่อสองร้อยปีก่อน ในทวีปโอชวินเคยมีนักหลอมโอสถวิญญาณที่มีพรสวรรค์คนหนึ่ง ซึ่งยาเหล่านี้ก็น่าจะเป็นผลงานของเขา”
รพีพงษ์พยักหน้า “ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง แต่ทำไมยาเม็ดนี้ถึงไม่มีผลอะไรมากมายกับท่านเลยครับ?”
“แค่นี้ข้าก็พอใจแล้ว เพราะข้าก็เป็นแดนเทพเหมือนกันนะ ฉะนั้นยาเม็ดสำหรับข้าแล้วมันต้องมีขีดจำกัดในระดับหนึ่งอย่างแน่นอน”
รพีพงษ์เข้าใจว่า นรเศรษฐ์เป็นเพียงหุ่นเชิดของแดนดั่งเทพชั้นยอด ดังนั้นยาเม็ดนี้จึงเพิ่มประสิทธิภาพให้เขาได้มาก แต่ธีรพัฒน์นั้นอยู่ในแดนเทพมานานแล้ว และยังอยู่ในแดนเทพขั้นกลางอีกด้วย
ฉะนั้นฝีมือในระดับนี้ และยาเม็ดภูตผีสามารถทำให้วิญญาณของเขากลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งก็ดีแค่ไหนแล้ว
ของที่เหมือนกัน แต่ใช้กับคนที่แตกต่างกัน ผลที่ได้มันก็ย่อมแตกต่างกันอยู่แล้ว
“ข้าสามารถฟื้นจากห้วงเวลาที่อ่อนแอได้ แค่นี้ข้าก็พอใจมากแล้ว” ธีรพัฒน์พูดต่อ “เราลุยกันต่อดีกว่า”
ด้วยเหตุนี้ ธีรพัฒน์ตัดสินใจจะซ่อมแซมผนึกเส้นทางนี้อีกครั้ง
“ไม่ครับ” รพีพงษ์ปฏิเสธ
เขารู้ว่า ถ้าธีรพัฒน์กลับไปปิดผนึกอีกครั้ง ท้ายที่สุดแล้วเขาก็จะกลายเป็นเหมือนเดิมอีก
“โลกของเราจำเป็นต้องมีผู้แข็งแกร่งเช่นท่านนะครับ ดังนั้นถ้ามีผมอยู่ทั้งคน ผมจะไม่ยอมปล่อยให้วิญญาณของท่านถูกทำลายอย่างแน่นอนครับ”
รพีพงษ์มองไปที่ธีรพัฒน์แล้วพูดอีกครั้ง “ท่านธีรพัฒน์ครับ ก่อนหน้านี้ท่านเคยช่วยชีวิตผม และท่านเคยช่วยชีวิตภรรยาของผมโดยที่ไม่คำนึงถึงร่างกายของท่านเลย ฉะนั้น วันนี้ถึงเวลาที่ผมจะตอบแทนพระคุณของท่านแล้วครับ”
จากนั้น รพีพงษ์ก็นำยาเม็ดภูตผีออกมาอีกครั้ง “ทานอีกเม็ดนะครับ”
“หือ?”
ธีรพัฒน์พูดด้วยความประหลาดใจ “รพีพงษ์ เจ้ารู้หรือไม่ว่ายาพวกนี้มันล้ำค่าแค่ไหน? และข้าก็คิดว่าทั้งโลกใบนี้คงเหลือแค่ห้าเม็ดนี้แล้วล่ะ”
รพีพงษ์ยิ้มจางๆ “ยาพวกนี้มันล้ำค่าก็จริงครับ แต่ในความหมายเดียวกัน บนโลกใบนี้ก็ไม่สามารถหาธีรพัฒน์คนที่สองได้อีกแล้วเช่นกันครับ”
ธีรพัฒน์มองไปที่รพีพงษ์ จากนั้นไม่กี่วินาที รอยยิ้มอันอบอุ่นก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นของเขา
“ฮ่า ๆ เจ้าพูดถูกนะ ข้าอยู่บนโลกมาหลายร้อยปีแล้ว คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีข้าคนที่สองในโลกใบนี้อีก ถ้าอย่างนั้น ข้าก็จะไม่เกรงใจอีกแล้วนะ ขอบคุณเจ้ามาก”
เมื่อพูดจบ ธีรพัฒน์ก็หยิบยาเม็ดขึ้นมาเม็ดหนึ่งและกินมันลงไป ซึ่งในครั้งนี้ ร่างกายของธีรพัฒน์ก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด เนื้อหนังของเขาก็ค่อยๆ เห็นได้ชัดขึ้น
รพีพงษ์และคนอื่นๆ ต่างก็รู้สึกดีใจมาก
ผลของยาสองเม็ดนี้ ดูเหมือนจะเห็นผลมากกว่าไม้เทพเพลิงอาทิตย์จริงๆ
“ผมว่า ทานอีกสักเม็ดไหมครับ?” รพีพงษ์พูด เขาอยากรู้ว่าถ้ากินยานี้เข้าไปสามเม็ด ไม่แน่ธีรพัฒน์อาจจะกลับมาเป็นขั้นสุดยอดอีกครั้งก็ได้
แต่ครั้งนี้ ธีรพัฒน์กลับส่ายหัวตอบ “รพีพงษ์ ยาเม็ดภูตผีนี้ ต่อให้ข้ากินมากกว่านี้มันก็มีผลเท่ากัน มันจะไม่เกิดผลอะไรมากไปกว่านี้แล้ว อีกอย่างตอนนี้ข้าก็กลับไปเป็นเหมือนตอนที่ดูดซับพลังของไม้เทวดา แค่นี้ข้าก็พอใจแล้ว”
ในตอนนี้ รพีพงษ์ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาก็รู้ว่าการที่ใช้ยามากเกินขนาด ท้ายที่สุดแล้วมันก็จะเกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายอย่างแน่นอน
“รพีพงษ์ เรามาเริ่มกันเลย”
ธีรพัฒน์พูด และสีหน้าของเขาก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
รพีพงษ์พยักหน้า และมือกับธีรพัฒน์
ในชั่วพริบตา พลังจิตวิญญาณอันทรงพลังก็แผ่ออกมาจากร่างของธีรพัฒน์ และทุกคนต่างก็ประหลาดใจมาก
แต่สำหรับรพีพงษ์แล้ว แม้จิตวิญญาณเทพจะถูกปลุกให้ตื่นพร้อมกับพลังเทพ แต่พลังของเขาก็ไม่ได้ด้อยกว่าธีรพัฒน์เลย
ด้วยพรสวรรค์ที่แข็งแกร่งของทั้งสอง จึงเพียงพอที่จะหาผนึกที่ถูกทำลายและซ่อมแซมผนึกด้วยพลังจิตวิญญาณที่ถูกต้องและแม่นยำมากขึ้น
ส่วนธัชธรรมและคนอื่นๆ ในสำนัก เมื่อพวกเขาเห็นเช่นนี้ทุกคนต่างก็รู้สึกไม่คาดคิด เพราะสถานการณ์แบบนี้พวกเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อนเลยจริงๆ
“ท่านธัชธรรม สำหรับหมอนี่แล้ว ผมว่าคุณเลือกถูกคนเลยจริงๆ นะครับ” ตปธนที่อยู่ข้างๆ พูดขึ้น
ธัชธรรมมองไปที่ตปธนและพูดว่า “นั่นสิ การที่รับเขาเข้ามาในกลุ่มสิงโตของเรา และปล่อยให้เขาได้ปกป้องโลกของเรา คงเป็นการตัดสินใจที่ประสบความสำเร็จที่สุดในชีวิตของข้าแล้วล่ะ”
ตปธนเงยหน้าขึ้นมองแล้วพูดเบาๆ ว่า “ถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ผมว่าเราน่าจะยื้อเวลาของฝั่งทวีปโอชวินได้อีกสักพักเลยล่ะ”
“เอิ่ม ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ แค่ท่านอาจารย์คนเดียวอาจจะยื้อได้ไม่นานจริงๆ แต่ตอนนี้มีรพีพงษ์แล้ว ผมว่าทุกอย่างมันก็ดีขึ้น อีกอย่างคนของทวีปโอชวินคงไม่สามารถข้ามมาได้ภายในเร็วๆ นี้หรอกนะ” ธัชธรรมพูด
ขณะที่ทุกคนรู้สึกโล่งใจอยู่นั้น ในทันใดนั้น ธีรพัฒน์กับรพีพงษ์ทั้งสองก็ขมวดคิ้วและมองขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกัน
ส่วนธัชธรรม ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาคนที่เหลืออยู่ก็พบเห็นสิ่งผิดปกติได้ในทันที
“พวกสารเลวทวีปโอชวิน ดูเหมือนว่าพวกมันจะเพิ่มความเสียหายให้กับช่องทางอีกครั้งแล้ว!”
ธีรพัฒน์กัดฟันพูด
ซึ่งในขณะนี้ เขากับรพีพงษ์สัมผัสถึงสิ่งผิดปกติได้ในเวลาเดียวกัน ผนึกที่กำลังจะซ่อมแซมให้เสร็จอย่างราบรื่นในก่อนหน้านี้ได้ถูกคนของทวีปโอชวินเร่งทำลายอีกครั้งแล้ว ที่มากไปกว่านี้คือ ความเร็วในการทำลายล้างของพวกเขามันมากกว่าความเร็วในการฟื้นฟูของรพีพงษ์กับธีรพัฒน์
ถ้าขืนเป็นแบบนี้ คงไม่ต้องรอให้ซ่อมผนึกเสร็จ คนของทวีปโอชวินอาจจะทะลวงช่องทางมาได้ก่อนแน่