พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1352 คิดทบทวน
วันนั้นตอนที่อยู่ในป่าหมอก ถ้าไม่ใช่เพราะหลิงซีชนกระแทกรพีพงษ์ที่ถูกนีย์จับตัวไว้แน่น รพีพงษ์ก็คงไม่ตกหน้าผา แน่นอนว่าก็จะไม่พบเจอถ้ำที่จอมมารชูร่าเคยอยู่อาศัยมาก่อน ดังนั้นก็ไม่มีทางที่จะฝึกวิชาดูดวิญญาณ และรวบรวมพลังทิพย์
“รพีพงษ์ คุณทำให้ฉันเปลี่ยนมุมมองใหม่ที่มีต่อคุณจริงๆ” นีย์พูดกล่าวอย่างจริงใจ
ถ้าหากพูดถึง ครั้งก่อนที่มาที่นี่ ตอนที่เผชิญหน้ากับรพีพงษ์ นีย์ยังสามารถที่จะปราบปรามรพีพงษ์ได้ แต่ตอนนี้ เผชิญหน้าของรพีพงษ์ นีย์ได้สูญเสียที่ว่างให้ต่อสู้กลับอย่างสิ้นเชิง
“ตอนนี้ ฉันรู้สึกเสียใจภายหลังแล้วจริงๆ ตอนที่อยู่ตระกูลลัดดาวัลย์ไม่ได้รีบจัดการฆ่าคุณให้ตาย” นีย์พูดกับตัวเอง
รพีพงษ์ก็เผยรอยยิ้มเล็กน้อย : “เรารู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว ไปมาหาสู่กันก็กว่าหลายครั้ง ฉันล่ะอยากรู้มากจริงๆ ทำไมก่อนหน้านี้ คุณถึงไม่ลงมือจัดการกับฉัน ทำไม คิดว่าฉันเป็นภัยคุกคามคุณไม่มากพองั้นเหรอ?”
นีย์พยักหน้าแล้ว : “เป็นเช่นนี้แหละ แต่ตอนนั้นฉันใช้พละกำลังของฉันมุ่งเน้นไปกับการตามหาแหล่งพลังทิพย์ สำหรับคุณ สิ่งที่คิดก็คือพยายามสกัดกั้นคุณ จนกระทั่งฉันได้เจอแล้วคุณก็เติบโตจนน่ากลัวมาก ตอนที่คิดอยากจะทำลายคุณอีกครั้ง ฉันก็ไม่สามารถทำได้แล้ว ”
“เพราะงั้นจึงพูดได้ว่า โอกาสมีเพียงแค่ครั้งเดียว ก็ดูที่ว่าคุณจะสามารถคว้าไว้ได้ไหม” รพีพงษ์พูดแล้ว มองไปยังนีย์อย่างเยือกเย็น: “ตอนนี้ โอกาสที่จะฆ่าคุณได้มาวางไว้ตรงหน้าของฉันแล้ว คุณคิดว่า ฉันจะพลาดเหรอ?”
“รพีพงษ์ คุณ!”
หลังจากที่นีย์ได้ยินแล้ว ขมวดคิ้วแน่น : “ฉันได้บอกวิธีการสร้างร่างกายขึ้นใหม่ให้กับคุณแล้ว”
รพีพงษ์ยกมุมปากขึ้นเบาๆ : “พูดตามตรงนะ ปรมาจารย์แดนเทพสองท่านนี้บวกกับคุณที่เป็นองค์หญิงน้อยของทวีปโอชวิน ความดีความชอบในการสู้รบที่วางอยู่ตรงหน้าอย่างนี้ หากไม่คว้าไว้ก็ค่อนข้างจะไม่เข้าท่านะ”
“รพีพงษ์!คุณ……คุณช่างไร้ยางอายสิ้นดี!” นีย์พูดกล่าวอย่างโมโห น้ำตาคลอเบ้า
“เหอะ หากเทียบเรื่องความไร้ยางอาย ใครจะสามารถเทียบกับทวีปโอชวินอย่างพวกคุณได้ล่ะ!” รพีพงษ์เอ่ยพูด
นีย์กัดริมฝีปาก แววตาของเธอเต็มไปด้วยเส้นเลือดที่แดงก่ำ
“รพีพงษ์ ถ้าหากคุณอยากจะฆ่าล่ะก็ ก็ฆ่าฉันแค่คนเดียวเถอะ ฉันขอร้องคุณล่ะ ปล่อยพวกเขาสองคนไป” นีย์พูดกล่าว
รพีพงษ์มองไปยังเธอ พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น : “พวกเขาสองคนเป็นปรมาจารย์แดนเทพ ถ้าหากฉันปล่อยพวกเขาสองคนไปล่ะก็ ใครจะไปรู้ว่าต่อไปในโลกใบนี้ของเราจะต้องมีคนตายในเงื้อมมือของพวกเขาสองคนเท่าไหร่!”
“รพีพงษ์……”
นีย์ทรุดตัวลงอย่างสิ้นเชิง เผชิญหน้ากับรพีพงษ์ เธอรู้สึกถึงความรู้สึกที่ไร้เรี่ยวแรงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“ทำไม ทำไมในทวีปโอชวินพ่อของฉันถึงได้เย็นชากับฉัน ยิ่งไปกว่านั้นพี่สาวก็เล่นงานฉันไปทุกที่!ตอนนี้ฉันก็แค่อยากจะหาสถานที่สงบๆในชีวิตนี้ กลับว่าต้องมีจุดจบเช่นนี้!” นีย์ร้องไห้พร้อมพูดกล่าว
ยิ่งเป็นผู้ที่มีอำนาจบาตรใหญ่ก็จะเป็นผู้ที่ไร้ซึ่งความปรานีที่สุด ถ้าโทษก็ต้องโทษที่ นีย์ดันมาเป็นองศ์หญิงน้อยของทวีปโอชวิน อีกอย่าง เธอก็ยังเป็นองค์หญิงน้อยที่ถูกทอดทิ้ง!
รพีพงษ์มองไปยังนีย์ที่คุกเข่าร้องไห้กับพื้น ความเย็นชาในแววตาค่อยๆจางหายไป
คำพูดทั้งหมดเมื่อตะกี้นี้ รพีพงษ์ล้วนแต่กำลังหยั่งเชิงอีกฝ่าย ตอนนี้รพีพงษ์แน่ใจแล้ว นีย์คนนี้ไม่ได้พูดเท็จ ครั้งนี้ที่เธอมายังโลกใบนี้ ก็เพียงแค่อยากจะหลบหนีจากทวีปโอชวินเท่านั้น
“ปล่อยพวกคุณไป ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้” รพีพงษ์พูดอย่างราบเรียบ
นีย์เงยหน้ามองอย่างแปลกใจ : “รพีพงษ์ คุณ……คุณอย่าหลอกฉันนะ ฉันถูกหลอกมามากพอแล้ว!”
“ขอโทษ ผู้หญิงที่ชำนาญด้านการวางแผนแบบคุณ ฉันจะต้องยืนยันความคิดที่แท้จริงของคุณซะก่อน ถึงจะทำการตัดสินใจครั้งสุดท้ายได้” รพีพงษ์พูดกล่าว
นีย์ไม่ได้พูดอะไร หากคิดในมุมกลับกันล่ะก็ ถ้าหากเธอเป็นคนจับตัวรพีพงษ์ได้ เกรงว่าก็คงจะทำแบบนี้เช่นกัน
“งั้นคุณยินยอมที่จะปล่อยพวกเราสามคนไปจริงๆใช่ไหม?” นีย์พูดกล่าว
“ได้” รพีพงษ์มองไปยังนีย์อย่างแน่วแน่พร้อมพูดว่า: “คุณต้องจำไว้นะ ฉันไม่เหมือนกับพวกสารเลวนั่นของทวีปโอชวินของพวกคุณ ฉันพูดคำไหนคำนั้น ไม่ผิดคำพูดอย่างแน่นอน”
“รพีพงษ์……” นีย์มองไปยังรพีพงษ์ ถ้าหากเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน รพีพงษ์กล้าที่จะมาดูถูกทวีปโอชวิน เธอจะต้องพยายามต่อสู้ด้วยเหตุผลอย่างแน่นอน
แต่ว่า ตั้งแต่วิชาเศษวิญญาณรอดหนีในครั้งนี้ หลังจากที่ย้อนกลับสู่ทวีปโอชวินอีกครั้ง ในช่วงเวลานี้นีย์ ถือว่าได้รับรู้สถานะของตัวเองในทวีปโอชวินโดยสิ้นเชิง และก็ถือว่าจดจำหน้าตาที่น่ากลัวของฉันท์ชนกได้อย่างแม่นยำ
ที่รพีพงษ์พูดมาไม่ผิดเลยสักนิด ทวีปโอชวินมีผู้คนมากมาย ล้วนแต่เป็นคนเลว
นีย์เริ่มคิดทบทวน เธอค่อยๆรู้สึกว่า ความเชื่อของตัวเองที่มีก่อนหน้านี้ทั้งหมดค่อยๆพังทลายลงทีละนิด
จริงด้วย พลังทิพย์เหล่านี้แท้ที่จริงเป็นของบนโลก ทวีปโอชวินแย่งชิงไปอย่างไม่หยุดหย่อน สำหรับโลกแล้ว นี่เป็นการรุกรานไม่ใช่เหรอ?
“รพีพงษ์ ที่คุณพูดมามันก็ถูก คุณวางใจได้ ครั้งนี้คุณปล่อยพวกเราสามคนไป ฉันนีย์ขอสาบานต่อพระเจ้า แม้ว่าในอนาคตทวีปโอชวินจะมีการต่อสู้กับพวกคุณ ฉันจะไม่เข้าร่วมอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นก็จะไม่เป็นผู้ประสานงานอยู่ภายในของทวีปโอชวิน!” นีย์พูดกล่าว
ในฐานะที่เป็นองค์หญิงน้อยของทวีปโอชวิน เธอสามารถพูดแบบนี้ออกมาได้ แค่คิดก็รู้แล้ว ว่าเธอตัดสินใจแน่วแน่มากแค่ไหน แต่นี่ก็หมายความว่า เธอก็มีความเสียใจอย่างมากต่อทวีปโอชวินที่เธอเคยปกป้องมาทั้งหมดก่อนหน้านี้
แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบนี้ รพีพงษ์ก็ไม่วางใจ
ในฐานะผู้นำโลกใบนี้ในการต่อกรกับการมีอยู่ของทวีปโอชวิน รพีพงษ์ไม่ยินยอมที่จะให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆทั้งสิ้น อย่างที่รู้กัน เพียงแค่เกิดข้อผิดพลาดใดๆก็ตามแต่สิ่งที่มีความเป็นไปได้สูงมากก็คือสูญเสียคนทางฝั่งของรพีพงษ์ พ่ายแพ้ย่อยยับ
“ฉันเชื่อในคำพูดทุกคำของคุณ แต่ว่าหากพวกคุณทั้งสามอยากจะออกไปจากที่นี่ จะต้องรับปากเงื่อนไขของฉันหนึ่งข้อ” รพีพงษ์พูดกล่าว
“เงื่อนไขอะไร” นีย์เอ่ยถาม
รพีพงษ์มองไปที่เธอ ในขณะเดียวกันก็มองไปยังผู้แข็งแกร่งแดนเทพที่บาดเจ็บสาหัสทั้งสองคน เอ่ยพูดทันที : “ฉันต้องการพวกคุณ ละทิ้งการฝึกบำเพ็ญตนของพวกคุณทั้งหมด! ”
“อะไรนะ คุณ……คุณจะให้พวกเรายอมละทิ้งการฝึกบำเพ็ญตนทั้งหมด?” นีย์ตกใจอย่างมาก
“ใช่ คุณอยากเป็นคนปกติทั่วไปไม่ใช่เหรอ งั้นก็พอดีเลย ละทิ้งการบำเพ็ญตน คุณก็จะได้เป็นคนธรรมดา” รพีพงษ์พูดอย่างแน่วแน่
ร่างกายของนีย์อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนครู่หนึ่ง ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นแดนดั่งเทพชั้นยอดที่แข็งแกร่ง ความแข็งแกร่งอย่างนี้ใช่ว่าจะฝึกบำเพ็ญตนให้สำเร็จได้เพียงชั่วข้ามคืนนะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ชาคริตและเมฆทั้งสองคนยิ่งไปกว่านั้นก็เป็นถึงการฝึกบำเพ็ญตนของแดนเทพ ถ้าหากจะให้พวกเขายอมปล่อยทิ้งไป เกรงว่าพวกเขายอมไปตายซะดีกว่า!
“รพีพงษ์ คุณก็เป็นนักฝึกวิชา ก็น่าจะรู้ว่าการละทิ้งการบำเพ็ญตนไม่ใช่แค่พูดออกไปแล้วทำได้เลยเท่านั้น ถึงแม้ว่าฉันอยากจะทำ ก็ไม่สามารถที่จะทำได้ เว้นแต่ว่าคุณจะตัดแขนขาของพวกเราทั้งหมด แต่ว่า ถ้าเป็นแบบนี้ สู้คุณฆ่าฉันซะดีกว่านะ” นีย์พูดกล่าว
“คุณวางใจ ฉันมีวิธีของฉัน” รพีพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า: “ฉันก็แค่จะปิดผนึกการฝึกบำเพ็ญตนของพวกคุณทั้งหมด เวลาประมาณ 1ปี หลังจากหนึ่งปี การบำเพ็ญตนของพวกคุณก็จะค่อยๆฟื้นตัว”
“ยังมีวิธีแบบนี้ด้วย?วิธีแบบนี้ที่คุณพูด แม้แต่คนอย่างทวีปโอชวินอย่างเราก็ไม่เคยทำได้” นีย์ถามอย่างสงสัย วิธีการอย่างนี้ เป็นเรื่องแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย
รพีพงษ์พยักหน้า พูดอย่างดูถูกว่า : “ทวีปโอชวินจะถือว่าเป็นอะไรเชียว ตอนนั้นไม่ใช่ว่าโดนจอมมารชูร่าในโลกของเราจัดการจนเผ่นหนีไปหมดหรอกเหรอ เรื่องที่พวกคุณทำไม่ได้ คุณคิดว่าพวกเราจะทำไม่ได้เหมือนกันงั้นเหรอ!”
นีย์อึ้งอยู่กับที่ แต่ไหนแต่ไรมา ในใจขอเธอก็จะมีความได้เปรียบกว่าโดยธรรมชาติ เพราะว่าตัวเองเป็นคนของทวีปโอชวิน เพราะงั้นภายในก้นบึ้งของหัวใจจึงดูถูกนักฝึกวิชาเหล่านี้ที่อยู่บนโลกใบนี้
อย่างไรก็ตาม คำพูดนี้ของรพีพงษ์ปลุกให้เธอตื่นโดยสมบูรณ์แล้ว ใช่ไง ตอนนั้นจิรกิตติ์พวกเขาไม่ใช่เพราะหลังจากถูกจอมมารชูร่าจัดการจนเผ่นหนีไป ถึงจะสร้างทวีปโอชวินเหรอ?พูดขึ้นมาแล้ว พวกเขาต่างหากที่เป็นผู้พ่ายแพ้!
“ฉันบอกเธอได้อย่างไม่กลัวเลยนะ ฉันได้รับการสืบทอดต่อจากจอมมารชูร่าทั้งหมดแล้ว ในการสืบทอดของเขา มีวิชาลับอยู่อย่างหนึ่ง สามารถควบคุมการบำเพ็ญตนของพวกคุณไว้ได้ทั้งหมด” รพีพงษ์พูดกล่าว
ในเวลานี้นีย์พูดจาไม่ออก ปิดผนึกบำเพ็ญตนของตัวเอง นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีวิชาลับอย่างนี้ด้วย?
“ตอนนี้ คุณลองคิดดูได้นะ จะเป็นหรือจะตาย แค่คุณพูดประโยคเดียวเท่านั้น” รพีพงษ์พูดอย่างเยือกเย็น
นีย์มองไปยังสองคนที่ล้มลงกับพื้น แล้วก็คิดถึงทุกสิ่งอย่างที่เคยประสบพบเจอที่ทวีปโอชวิน
ช่างเถอะ ตัวเองอยากมีชีวิตที่เงียบสงบต่อไปไม่ใช่เหรอ ทวีปโอชวินอะไรกัน จิรกิตติ์ ฉันท์ชนก ล้วนแต่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเองทั้งนั้น
“โอเค ฉันเห็นด้วย” นีย์พูดกล่าว และในขณะเดียวกันก็หันไปมองสองคนนั้นที่กำลังหายใจรวยริน คิดในใจว่า: หวังว่าตอนที่พวกเขาสองคนตื่นขึ้นมา จะไม่โทษฉันนะ