พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1355 แผนการร้ายของฉันท์ชนก
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1355 แผนการร้ายของฉันท์ชนก
“เรื่องอะไร?” นีย์เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ
ชาคริตขมวดคิ้วแน่น สีหน้าแสดงถึงความกระวนกระวายอย่างมากขึ้นมาทันที
“เมื่อกี้ที่ได้ยินองค์หญิงน้อยพูดมานั้น องค์หญิงใหญ่ไม่พอใจคุณ ขนาดที่ว่าอยากจะฆาตกรรมคุณ ใช่ไหม?” ชาคริตพูดถาม
“ใช่ เรื่องนี้ฉันรับรองได้เลย นี่ก็เป็นเหตุผลที่ฉันหาโอกาสมายังโลกใบนี้ ถ้าไม่งั้นอยู่ที่ทวีปโอชวิน ก็ไม่รู้ว่าเธอจะจัดการกับฉันยังไง มาอยู่ที่นี่ ฉันก็สามารถอยู่อย่างเงียบสงบได้” นีย์พูดกล่าวความจริง
“งั้นก็ยิ่งแย่แล้ว”
ชาคริตพูดอย่างเป็นกังวล ลุกขึ้นจากบนเตียง : “องค์หญิงน้อย คุณลองคิดดูนะ วันนั้นผมกับเมฆทำลายแผนการที่องค์หญิงใหญ่จะฆ่าคุณ คุณคิดว่า ด้วยนิสัยขององค์หญิงใหญ่แล้ว จะปล่อยพวกเราสองคนไปเหรอ? ”
เมื่อได้ยินชาคริตพูดแบบนี้แล้ว เหงื่อก็ไหลออกมาจากแผ่นหลังของเมฆแล้ว เขารู้สึกหนาวที่กระดูกสันหลังขึ้นมาทันที
“ที่ชาคริตพูดถูก องค์หญิงใหญ่เป็นคนที่ผูกพยาบาท เรื่องแบบนี้ เธอไม่มีทางที่จะปล่อยเราไปอย่างแน่นอน”
นีย์แค่คิดรอบคอบก็เกิดความกลัวแล้ว สายตาตื่นตระหนก : “ในเมื่อพูดแบบนี้ สองวันก่อนตอนที่อยู่ทวีปโอชวิน ฉันท์ชนกให้พวกคุณสองคนมาที่นี่เป็นเพื่อนฉัน หรือว่าตั้งใจจะทำแบบนี้?”
“ตอนนี้ดูแล้ว มีความเป็นไปได้สูงมาก” ชาคริตเอ่ยพูด
“ดูเหมือนว่า เธอคิดอยากจะฆ่าพวกเราให้สิ้นซากโดยเร็ว!” เมฆพูดกล่าวเช่นกัน
นีย์ขมวดคิ้วเข้าหากัน ก้าวเท้าเดินอย่างช้าๆภายในห้องที่ไม่ได้ใหญ่มากนี้
“แต่ว่า ที่นี่ก็ไม่ใช่ทวีปโอชวินนะ แม้ว่าเธออยากจะลงมือจัดการพวกเราพร้อมกันสามคน เกรงว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่ง่ายดายขนาดนั้นนะ”
นีย์พูดตามหลังมาอีกว่า : “ยิ่งไปกว่านั้น การฝึกบำเพ็ญตนของพวกเราสามคนแม้ว่าจะถูกปิดผนึกแล้ว แต่ว่าคนของทวีปโอชวินกลับว่าไม่รู้เรื่องนี้ พวกคุณทั้งสองคนเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพ ยิ่งไปกว่านั้นอาเมฆก็เข้าสู่แดนเทพขั้นกลางแล้ว อยากจะจัดการพวกเรา ก็จะต้องส่งคนที่บำเพญตนแดนเทพมา อีกอย่างอย่างน้อยก็ต้องส่งคนมาประมาณสามคนพร้อมกัน ถึงจะมีโอกาสจัดการเราให้สิ้นซากได้”
“ที่องค์หญิงน้อยพูดก็ถูก ถ้าหากองค์หญิงใหญ่อยากจะระดมพลผู้แข็งแกร่งแดนเทพมามากมายขนาดนั้น แน่นอนว่าจะต้องผ่านการยินยอมของเจ้าทวีปกิตติ์ ผมคิดว่า เจ้าทวีปกิตติ์คงไม่น่าตัดสินใจทำเรื่องที่โง่เขลาเช่นนี้แน่” เมฆพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
นีย์พยักหน้า : “ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่ทวีปโอชวินจะทำลายช่างทางผ่าน ดึงตัวเหล่าผู้แข็งแกร่งแดนเทพมามากมายเช่นนี้ พ่อเขาคงไม่ยินยอมแน่ ”
เมื่อพูดประโยคนี้แล้ว นีย์และเมฆทั้งสองคนก็วางใจลงแล้ว ก็ใช่ อยากจะดึงตัวผู้แข็งแกร่งแดนเทพมาสักสามสี่คนมายังโลกใบนี้นั้น จะต้องผ่านการยินยอมของเจ้าทวีปกิตติ์
อย่างไรก็ตาม ชาคริตกลับว่ายังคงหน้านิ่วคิ้วขมวด
“พวกคุณวางใจแล้วจริงๆงั้นเหรอ?ผมกลับรู้สึกว่า ในเมื่อองค์หญิงใหญ่ยินยอมที่จะจัดการแบบนี้ งั้นเธอจะต้องมีทางหนีทีไล่อย่างแน่นอน ไม่แน่ เธอยังมีคนที่แอบปลูกฝังไว้อย่างลับๆก็ไม่แน่นะ” ชาคริตพูดกล่าว
“คุณว่าอะไรนะ คนที่แอบปลูกฝังเหรอ?” มองไปยังเมฆอย่างตกอกตกใจอย่างมาก
นีย์มาอยู่ข้างกายของเขา พูดอย่างโล่งใจว่า : “ลุงคริต คุณคิดมากไปแล้ว ตั้งแต่ที่พ่อสร้างทวีโอชวินขึ้นก็ได้พูดกฏเหล็กอยู่หนึ่งข้อ คนของทวีปโอชวินไม่อนุญาตให้แอบปลูกฝังกำลังคนของตัวเองเป็นการส่วนตัว เมื่อพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็จะถูกประหารชีวิตทันที ฉันคิดว่า แม้ว่าฉันท์ชนกจะใจกล้ามากแค่ไหน เกรงว่าก็ไม่น่าจะทำแบบนี้หรอกนะ เว้นแต่ว่าเธอจะไม่อยากมีชีวิตแล้ว!”
“ใช่ ศิษย์น้องชาคริต คุณวางใจเถอะ” เมฆพูดกล่าว: “อีกอย่าง ผมและคุณสองคนก็อุทิศเพื่อทวีปโอชวินไม่น้อยเลยนะ ผนึกของช่องทางการติดต่อก่อนหน้านี้นับว่าเราสองคนเป็นที่ออกแรงมากที่สุด ผมคิดว่า หากองค์หญิงใหญ่คำนึกถึงทวีปโอชวิน คงไม่ทำอะไรกับพวกเราหรอก”
“พี่กฤติกา แม้ว่าคุณจะบำเพ็ญตนสูงกว่าผม แต่สายตาที่เฉียบในการมองคนนั้นคุณยังสู้ผมไม่ได้”ชาคริตพูดอย่างเป็นกังวลว่า : “ก่อนหน้านี้องค์หญิงน้อยมาที่โลกใบนี้เป็นเวลานานกว่านี้ ถึงขนาดที่ว่าค้นพบแหล่งพลังทิพย์นี่เป็นสิ่งที่พวกเราล้วนแต่ใฝ่ฝันอยากจะได้มา เพื่อทวีปโอชวิน สุดท้ายเธอก็ทำได้เพียงหลงเหลือเศษวิญญาณ การอุทิศตนอย่างนี้สำหรับทวีปโอชวินแล้ว ไม่ได้ยิ่งใหญ่งั้นเหรอ?แต่ว่าคุณลองดูนะ องค์หญิงใหญ่เคยพิจารณาถึงสิ่งเหล่านี้ไหม?กระทั่ง องค์หญิงน้อยเพื่อที่จะหลบหลีกองค์หญิงใหญ่ มาอยู่ที่นี่อย่างไม่ลังเล ถึงขั้นถูกปิดผนึกการบำเพ็ญตนแล้ว! ”
“ผมคิดว่า องค์หญิงใหญ่น่ากลัวว่าที่เรารู้จักอีก!” ชาคริตพูดกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า : “ผมรู้สึกอยู่เสมอว่า สิ่งของที่เธออยากได้ไม่เพียงเท่านี้ ”
“ไม่เพียงเท่านี้เหรอ?เธอ……เธอยังอยากจะทำอะไร?” เมฆพูดถาม
ชาคริตกัดริมฝีปาก แววตามองไปยังนีย์และเมฆที่อยู่ตรงหน้าอย่างเคร่งขรึม ความคิดที่น่ากลัวเกิดขึ้นภายในสมองของชาคริต
“ผมคิดว่า เรื่องที่เธอคิดจะทำคือการครอบครองทุกสิ่งอย่าง ยืดและเข้าแทนที่เจ้าทวีปกิตติ์!”
“อะไรนะ!”
“นี่มันเป็นไปไม่ได้!”
นีย์และเมฆทั้งสองคนแทบจะพูดออกมาในเวลาเดียวกัน
“นี่เป็นเพียงจินตนาการอย่างหนึ่งของผม ส่วนเรื่องที่ผมพูดนี่จะถูกหรือเปล่านั้น ดูว่าครั้งนี้องค์หญิงใหญ่จะจัดการกับเราอย่างไรก็น่าจะเข้าใจชัดเจนแล้ว” ชาคริตพูดกล่าว
ทั้งสามคนเงียบสงบพร้อมกัน หลายปีมานี้ ฉันท์ชนกใช้ทุกวิถีทางเพื่อเอาอกเอาใจจิรกิตติ์และคุณลุงคุณอาทั้งสอง และบีบองค์หญิงน้อยนีย์ให้ออกไปได้สำเร็จ สถานะของทวีปโอชวินค่อยๆยกระดับสถานะเดียวกับธีภพและฉันชนก
“หรือพวกคุณคิดว่า หลายปีมานี้เจ้าทวีปกิตติ์ มีเพียงคุณกับองค์หญิงใหญ่สองคนเท่านั้นที่เป็นลูก ไม่มีลูกคนอื่นๆงั้นเหรอ?” ชาคริตพูดถาม
นีย์รู้สึกประหลาดใจ พูดตามหลักเหตุผล ด้วยสถานะของจิรกิตติ์ ทวีปโอชวินไม่เหมือนในโลกด้านนี้ ในฐานะที่เป็นกษัตริย์ของทวีปโอชวิน เรื่องมีภรรยาเยอะก็เป็นเรื่องปกติ
แต่ว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ เธอกลับว่าไม่รู้เลยว่าพ่อของตัวเองไปแต่งงานกับผู้หญิงอีกสองคน แต่ไม่รู้ว่าทำไม ผู้หญิงคนนี้กลับว่าไม่ได้ให้กำเนิดลูกชายหรือว่าลูกหญิงมาให้เขาเลย
“ลุงคริต หรือว่าคุณรู้แล้ว?” นีย์ถามอย่างไม่เข้าใจ
ชาคริตพูดกล่าว : “จริงๆแล้วผมก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ เพียงแค่ ผมและปัถย์แพทย์ลือชื่อเซิ่งโส่วแห่งทวีปโอชวินเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ผมเคยได้ยินเขาพูดว่า ผู้หญิงสองคนนั้นก่อนหน้านี้เคยตั้งครรถ์มาก่อน แต่ว่าไม่รู้เป็นอย่างไร สุดท้ายไม่สามารถรักษาไว้ได้ เพียงแค่สิ่งที่อัศจรรย์มากกว่านั้นคือ ยารักษาครรถ์นั่นปัถย์จัดเตรียมมาเองกับมือ เพราะงั้นในเรื่องนี้ แม้แต่ปัถย์ก็ยังสงสัยมาก เพราะว่า คนที่เรียกร้องให้ดูแลผู้หญิงสองคนนั้น เป็นองค์หญิงใหญ่ ฉันท์ชนก!”
“อะไรนะ?นี่……” แววตาของนีย์เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัว ถ้าหากนี่เป็นเรื่องจริงล่ะก็ สามารถพูดได้เพียงว่า ฉันท์ชนกคนนี้เพื่อให้ถึงเป้าหมายของตัวเอง ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ยอมที่จะทำทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชั่วร้ายอะไรก็ทำออกมาได้ทั้งนั้น!
“เพียงแค่เวลานั้น ผมไม่ได้คิดมากอะไร ยังคิดด้วยว่าบางทีผู้หญิงสองคนนั้นไม่ควรมีลูกในชีวิต ตอนนี้กลับมาคิดดูแล้ว น่ากลัวอย่างมากเลย!” ชาคริตพูดกล่าว
ทันใดนั้นเมฆก็ไม่เงียบสงบเหมือนเมื่อก่อนแล้ว : “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เรารีบออกไปจากที่นี่เถอะ ต้องโทษที่พวกเราสองคนบาดเจ็บสาหัส ต้องมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ถึงสามวัน ไม่อย่างงั้น โลกที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ขอเพียงแค่เราออกไปจากที่นี่ พวกเขาอยากจะหาพวกเรา ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายเลย”
นีย์ได้ยินสิ่งที่ชาคริตพูดทั้งหมด ก็ยิ่งตระหนักถึงระดับความรุนแรงของเรื่องราวมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
“อาเมฆ ลุงคริต พวกคุณเก็บบัตรธนาคารไว้ให้ดีแล้วหนีออกไปซะ!” นีย์พูดกล่าว
“ไม่ องค์หญิงน้อย ที่ครั้งนี้พวกเราตามคุณมาที่นี่ ก็เพื่อปกป้องคุณ!” เมฆพูดกล่าว
“อาเมฆ ลุงคริต เราสามคนอยู่ด้วยกันเป้าหมายก็ใหญ่เกินไป ถ้าหากฉันท์ชนกจัดส่งคนมาจริงๆ ก็จะพบเจอพวกเราสามคนได้อย่างง่ายดาย เพราะงั้น ฉันคิดว่า แยกย้ายกันน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด” นีย์พูดกล่าว
แม้ว่าในสามคนนี้ เธอจะมีอายุน้อยมากที่สุด แต่การตัดสินใจของเธอนั้นแม่นยำอย่างมาก
“ที่องค์หญิงน้อยพูดนั้นถูกต้อง เราทำแบบนี้แล้วกัน” ชาคริตพูดกล่าวอย่างเฉียบขาด
“อย่ามัวชักช้าอยู่เลย เรารีบไปกันเถอะ”
พูดแล้ว นีย์และพวกเขาทั้งสามคนก็มาถึงลานด้านนอก ตอนที่ทั้งสามคนเตรียมจะแยกย้ายกัน ทันใดนั้น เงาสีดำวาบเข้ามาอย่างรวดเร็ว