พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1362 เครื่องรางทิพย์แหลกสลาย
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1362 เครื่องรางทิพย์แหลกสลาย
ที่ทวีปโอชวิน ในเทือกเขาหลังตำหนัก ฉันท์ชนกก็กำลังดูวิญญาณทิพย์อีก5คนที่กำลังฝึกวิชาอยู่ในพื้นที่เทือกเขาที่เต็มไปด้วยพลังทิพย์
สายตาของเธอแฝงไปด้วยความโอหัง ลูกน้องของตนเองเป็นถึงยอดฝีมือระดับแดนเทพทั้ง10คน ขอเพียงฝึกวิชาอีกไม่กี่วัน รอให้ยอดฝีมือที่จงรักภักดีพวกนี้มีพลังวิชาที่เพิ่มสูงขึ้น แล้วมีพลังถึงระดับแดนเทพขั้นกลางล่ะก็ ก็จะกลายเป็นพลังที่แม้แต่ทวีปโอชวินก็ยากที่จะรับมือไหว
พอถึงตอนนั้น แผนการทุกอย่างของเธอก็จะสามารถเริ่มดำเนินการอย่างจริงจังขึ้นมาได้
ในตอนนี้เอง เครื่องรางทิพย์ทั้ง10อันที่วางไว้ข้างๆ เพื่อแสดงถึงวิญญาณทิพย์ทั้ง10คน ก็ได้ขยับขึ้นอย่างผิดปกติ
ฉันท์ชนกก็รีบเข้าไปดู
“ห้ะ!นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน!” ฉันท์ชนกตกใจ
วิญญาณทิพย์อีก5คนที่ฝึกวิชาอยู่ที่เทือกเขาก็นึกว่าฉันท์ชนกถูกข่มขู่ ก็เลยรีบเข้ามาที่นี่
พอพวกเขาเห็นเครื่องรางทิพย์ทั้ง10อันผิดปกติ แต่ละคนก็พูดออกมาไม่ออกเลย
เพราะว่า 5ใน10ก้อน มันได้แหลกสลายไปหมดแล้ว!
พวกนี้ก็เลยนิ่งเงียบไป พวกเขารู้ดีว่า เครื่องรางทิพย์แหลกสลายมันหมายความว่าเช่นไร
เครื่องรางทิพย์พวกนี้ถูกฉันท์ชนกเชื่อมต่อวิญญาณเทพของพวกเขาแต่ละคนเข้าไว้ด้วยกัน พอเครื่องรางทิพย์แหลกสลาย ก็หมายความว่า5คนนั้นได้ตายไปหมดแล้ว
ฉันท์ชนกฟุบนั่งลงที่พื้น เพื่อที่จะชุบเลี้ยงคนพวกนี้ เธอได้เสียงแรงกายแรงใจไปอย่างมากเพื่อทำให้พวกเขาได้พัฒนาฝีมือ
อีกอย่าง เพื่อที่จะไม่ให้จิรกิตติ์และคนอื่นๆ รู้ว่าตนเองแอบสร้างทีมอย่างลับๆ ฉันท์ชนกถึงขนาดลงทุนซื้อเทือกเขานี้มา เพื่อเป็นที่ดินส่วนตัว บอกได้เลยว่า ในแต่ละวัน เธอต้องกังวลใจอยู่ตลอดเวลา ราวกับกำลังเดินอยู่บนเส้นลวด
ตอนนี้ น้ำพักน้ำแรงของเธอก็จะตอบแทนให้เธอแล้ว แต่ตอนนี้ ทั้ง5คนที่เดินทางไปยังโลกได้ตายหมดแล้ว มันถือเป็นการโจมตีทางจิตใจของฉันท์ชนกอย่างแรงมาก
“ให้ตายเถอะ!ใครเป็นคนทำ!”
ฉันท์ชนกตะโกนออกมาเสียงดัง พลังที่ยิ่งราวกับจะทำให้ป่านี้สั่นสะเทือน
เธอสงสัยในตัวเมฆและชาคริตเป็นอันดับแรก แต่ไม่นาน เธอก็สงบนิ่งลงแล้วกลับมาคิดว่าเป็นไปได้หรือไม่
ถึงแม้เมฆชาคริตจะมีฝีมือระดับแดนเทพแล้ว แต่คนของเธอก็เป็นถึงยอดฝีมือระดับแดนเทพตั้ง5คน 2ต่อ5 ฝั่งตนเองมีแนวโน้มว่าจะชนะถึงจะถูก
“เจ้านายครับ ให้พวกเราไปดูไหม ไปตรวจสอบความจริง แล้วก็ลงมือฆ่าคนทำไปเสียเลย!” ชายชุดดำคนหนึ่งพูดขึ้นมา
ฉันท์ชนกตาแดงเป็นเลือด แล้วพูดเสียงเย็นว่า “ไม่ต้อง ฉันว่าเรื่องนี้มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เมฆกับชาคริตไม่ใช่คู่ต่อสู้ของทั้ง5คนนั้นแน่ ส่วนยัยนีย์นั่น ก็มีพลังฝีมือแค่ระดับแดนดั่งเทพชั้นยอดเท่านั้น แบบนี้ล่ะก็ บอกได้อย่างเดียวว่า บนโลกนั้นน่าจะมีคนยื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องนี้แน่นอน!”
จากนั้น ฉันท์ชนกก็ครุ่นคิดพูดว่า “หมายความว่า คนที่สามารถฆ่ายอดฝีมือทั้ง5คนในครั้งเดียวได้ แสดงว่าคนคนนั้นจะต้องมีพลังฝีมืออยู่ในระดับแดนเทพขั้นกลางขึ้นไป ฉันคิดว่า คนที่ทำแบบนี้ได้ และอยู่บนโลกด้วย คงจะมีแต่จอมมารชูราเท่านั้น!”
จอมมารชูรา 4คนนี้โผล่ออกมา ทุกคนก็อึ้งไป
ฉันท์ชนกยิ้มมุมปาก “เหอะ ก่อนหน้านี้ยัยนั่นยังไม่ยอมบอกว่าจอมมารชูรายังมีตัวตนอยู่ แต่ไม่คิดว่าฉันสู้ไปสู้มา แล้วจะค้นพบเอง เพียงแต่ข้อแลกเปลี่ยนที่ต้องเสียไปนี้มันมากไปหน่อย”
“เจ้านายครับ พวกเราจะทำอย่างไรกันต่อดี?” วิญญาณทิพย์คนหนึ่งพูดขึ้นมา
ฉันท์ชนกทำสีหน้านิ่งเย็น “พวกแก5คนเป็นความหวังสุดท้ายของฉัน ตอนนี้แทบจะตัดสินได้แล้วว่า ดวงจิตของจอมมารชูรายังไม่ถูกทำลายไป ถ้าพวกแก่บุ่มบ่ามเข้าไปล่ะก็ จุดจบอาจจะเหมือนกับ5คนก่อนหน้านี้ก็ได้ เดิมพันแบบนี้ ฉันไม่ยอมทำแน่”
“พวกเราจะจะคอยรับใช้องค์หญิงใหญ่เอง ไม่ว่าองค์หญิงใหญ่สั่งให้พวกเราไปทำอะไร ไม่ว่าจะบุกน้ำลุยไฟ พวกเราก็ไม่ย่อท้อถอยหนี!” ทั้ง5คนพูดพร้อมกัน!
ฉันท์ชนกพยักหน้า “ตอนนี้ที่พวกแกควรทำ ก็คือรีบเพิ่มพลังของตนเองเสีย ไม่ช้าก็เร็วคงจะได้ใช้งานพวกแก พวกแกเป็นไพ่ใบสุดท้ายของฉัน เมื่อใช้งานพวกแกก็จะต้องได้รับชัยชนะเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ให้ฉันจัดการเอง”
“น้อมรับคำสั่ง!”
ทุกคนพูดพร้อมกัน แล้วก็กลับไปฝึกวิชาที่เทือกเขาต่อ
ฉันท์ชนกก็เผยสายตาที่มีรังสีการฆ่า ยอดฝีมือทั้ง5คนตายในครั้งเดียว เป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจเธอไม่น้อย
แต่ตอนนี้ มีเรื่องที่สำคัญกว่าที่เธอจะต้องไปทำ
ในเมื่อสถานการณ์มันเปลี่ยนไป งั้นก็ต้องเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ด้วย ถ้าจะนั่งรอความตาย ก็ไม่สู้ออกไปสู้ให้รู้ดำรู้แดง
ความคิดชั่วช้าก็ผุดขึ้นมาในหัวของฉันท์ชนก เธอหันหลังแล้วเดินไปทางตำหนัก……
ในกลุ่มสิงโต หลังจากที่ได้เห็นรพีพงษ์อุ้มร่างไร้วิญญาณของเต่าเข้ามา ทุกคนก็อ้าปากค้างไปตามกัน
“ใครเป็นคนทำ ใคร!”
มังกรเดินเข้ามาใกล้ร่างของเต่าแล้วตะโกนขึ้น พยัคฆ์ก็ขมวดคิ้วอยู่ข้างๆ มือก็กำหมัดแน่น
“หงส์ นี่มันเกิดอะไรขึ้น เต่าไปเก็บเห็ดกับเธอไม่ใช่หรือไง? ทำไมถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ได้” พยัคฆ์ถามเสียงเย็น
หงส์ก้มหน้า แล้วสะอื้นไห้พูดว่า “เป็นเพราะฉันเอง วันนี้ฉันไม่ควรเรียกให้เต่าไปด้วยเลย ฉันผิดเอง พวกคุณฆ่าฉันเพื่อชดใช้เถอะ”
มังกรและพยัคฆ์ รวมทั้งคนอื่นๆ ในกลุ่มสิงโตเห็นหงส์โทษตัวเอง ในใจก็รู้ดี ถ้าจะพูดถึงความเจ็บปวด ในใจของหงส์เองก็เจ็บปวดไปไม่น้อยกว่าตนเองหรอก แถมอาจจะเจ็บปวดกว่าเสียด้วยซ้ำ
นีย์ก็ยืนขึ้นพูดจากด้านข้าง “พวกคุณอย่าไปโทษเขาเลย จะว่าไปแล้ว เต่าไปเจอกับคนของทวีปโอชวินเข้า ก็เลยเกิดเรื่องแบบนี้”
“ไปเจอคนของทวีปโอชวินงั้นหรือ? นี่มันเกิดอะไรขึ้น!คุณบอกผมมาเดี๋ยวนี้!” มังกรทำตาโตพูดกับนีย์ สายตาก็เผยรังสีการฆ่า
“ใช่ บอกพวกเรามา!”
ทุกคนในกลุ่มสิงโตพูดเป็นเสียงเดียวกัน
นีย์เผชิญกับคนที่มีใจเป็นศัตรูต่อตนเอง ภายใต้แรงกดดันของคนพวกนี้ เธอก็กัดปากแน่น และไม่รู้จะพูดอะไรออกมาเหมือนกัน
“เรื่องนี้มันเป็นเรื่องบังเอิญ วันหลังเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง ตอนนี้ที่พวกเราควรทำก็คือ ทำพิธีฝังศพให้กับเต่าให้เรียบร้อย” รพีพงษ์กล่าว “สรุปว่า พวกคุณจงจำไว้ เต่าได้สละชีพของเขาเพื่อกลุ่มสิงโตของพวกเรา และโลกใบนี้ของพวกเรา เขาเป็นนักสู้ที่เก่งกาจ ผมรพีพงษ์ภูมิใจที่มีเพื่อนพ้องแบบนี้!”
พูดถึงจุดนี้ รพีพงษ์ก็น้ำตาไหลออกมา
ทุกคนมองไปที่ร่างของเต่า แล้วก็น้ำตาไหลตามกัน ความเศร้าโศกเสียใจมันยากจะพูดออกมาได้
“ไอ้น้อง พี่จำได้ว่าเอ็งเคยพูดไว้ว่า หวังว่าถ้าตัวตายไปแล้ว จะได้ฝังร่างของตัวเองไว้ที่เทือกเขาคุนหลุน จะคอยปกป้องกลุ่มสิงโตอยู่ตลอดเวลา วางใจเถอะ ความฝันของเอ็งพวกเราจะช่วยทำมันให้สำเร็จ!” มังกรมองร่างของเต่าแล้วพูดออกมา
ทุกคนต่างเสียใจเหมือนกัน หงส์ก็ยิ่งซาบซึ้งจนน้ำตาไหล
ไม่คิดเลยว่า เต่าที่ปกติเป็นหัวเราะเฮฮา จะมีความฝันแบบนี้
นีย์และชาคริตกับเมฆที่อยู่ด้านข้างก็นิ่งไปไม่พูดอะไร พวกเขาเหมือนจะเข้าใจได้ว่า ทำไมคนของทวีปโอชวินถึงเอาชนะโลกนี้ไม่ได้สักที
ก็เป็นเพราะว่า มีคนที่ภักดีเหมือนกับเต่ายอมเสียสละให้นับไม่ถ้วน มีคนรักโลกนี้อยู่นับไม่ถ้วน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ก็จะไม่มีทางถูกโจมตีจนพ่ายแพ้ได้!
รพีพงษ์ก็ซาบซึ้งมาก เขาก็หยิบบัตรธนาคารออกมายื่นให้กับมังกร
“เรื่องงานพิธีฝังศพของเต่า คุณก็จัดการเองทั้งหมดเลยนะ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดผมออกเอง จัดให้ยิ่งใหญ่ที่สุด พอถึงตอนนั้น ทุกคนในกลุ่มสิงโต ไม่ว่าจะอยู่ที่นี่หรือคนที่รับหน้าที่อยู่ภายนอก จะต้องเข้าร่วมงานให้หมดทุกคน!” รพีพงษ์กล่าว
“รับทราบครับ เจ้าสำนัก!”
มังกรตอบรับเสียงดัง
ทุกคนก็รับเอาร่างของเต่า แล้วเดินเข้าไปในกลุ่มสิงโตด้านใน
วันนี้นั้น สำหรับคนของกลุ่มสิงโตทุกคนแล้ว นับว่าเป็นวันที่เจ็บปวดมาก ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็รับรู้ถึงความยากลำบากที่จะรับมือกับทวีปโอชวิน ถ้าทำไม่ดี ก็อาจจะมีคนตายได้
แต่ว่าตอนนี้ นักฝึกวิชาทั้งหลายในโลกนี้ ในใจล้วนโกรธแค้นทวีปโอชวิน ตอนนี้ พวกเขาคิดอยากจะแก้แค้นอย่างเดียว!
ในห้องที่ตกแต่งเรียบง่าย เหลือเพียงรพีพงษ์และนีย์
“ขอบคุณคุณมากที่รับพวกเราไว้” นีย์พูดเบาๆ
รพีพงษ์มองเธอ แล้วพูดนิ่งๆ ว่า “ตอนนี้ คุณก็เริ่มได้แล้ว เล่าเรื่องของที่เกี่ยวข้องกับทวีปโอชวินทั้งหมดมา!”
นีย์พยักหน้า แล้วตั้งใจพูดว่า “ในทวีปโอชวินนั้น คนที่มีพลังฝีมือระดับแดนเทพขั้นพีคนั้น มี3คน”
แค่ประโยคแรก ก็เล่นเอารพีพงษ์ใจตกไปที่ตาตุ่ม…..