พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1388 คัมภีร์ทิพย์
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1388 คัมภีร์ทิพย์
ปล่อยพลังจิตวิญญาณออกมา ฉันท์ชนกไม่พบอะไรผิดปกติ แต่คนระมัดระวังอย่างเธอ ก็ยังเอียงตัวเข้าไป ในมือก็เรียกตะขอเหล็กสีเงินออกมา
ตะขอเหล็กค่อยๆ เปิดช่องลับนั้นออก ฉันท์ชนกจ้องมองไปดู ก็ดีใจอย่างมาก
ด้านในมีคัมภีร์ที่เก่าจนออกสีเหลือง และที่หน้าปกเขียนอักษรสีทองไว้ว่า คัมภีร์ทิพย์!
คัมภีร์ทิพย์ ตอนที่ฉันท์ชนกได้ยินชื่อวิชาลับนี้ครั้งแรกนั้น ก็ตอนที่เธอเด็กๆ
พ่อรู้ว่าความอัศจรรย์ของหนังสือเล่มนี้ หลังจากที่ได้ฝึกวิชาแขนงนี้แล้วนั้น ก็สามารถรวบรวมพลังทิพย์ได้ในเวลาไม่นาน และสามารถเอาพลังทิพย์ไหลเวียนทะลุทะลวงไปทั่วทั้งร่างกาย
และผู้ฝึกวิชานี้สามารถเพิ่มพลังของตนเองได้ในเวลาอันสั้น เพื่อเข้าสู่ขั้นแดนเทพขั้นพีคโดยเร็ว
ฉันท์ชนกก็นั่งข้างๆ นั้น คัมภีร์ทิพย์เล่มนี้ดีกว่าคัมภีร์กู่หลิงในมือของนีย์เยอะเลย
หลังจากเปิดหน้าแรกไป ฉันท์ชนกก็อดใจที่จะเริ่มฝึกวิชาขึ้นมาไม่ได้
ทันใดนั้น ในวัดแห่งนี้ ก็เต็มไปด้วยพลังจิตวิญญาณแบบต่างๆ และคนของทวีปโอชวินหลายสิบคน ก็สงบจิตฝึกวิชา เงียบลงไปอย่างเห็นได้ชัด
พวกเขาคิดว่า วัดแห่งนี้อยู่ที่ชายแดนของทวีปโอชวิน คงจะไม่มีใครมารบกวน และไม่มีใครมาพบเห็นได้
แต่ไม่รู้ว่า สิ่งที่พวกเขาทำลงไปทั้งหมด เพราะพุทธรูปใบหน้าสงบนิ่งเคร่งขรึมองค์นี้ เห็นทุกอย่างทั้งหมด!
……
ในกลุ่มสิงโต รพีพงษ์ก็นัดพบกับธีรพัฒน์และธัชธรรม
พวกเขาสามคนมายังยอดเขาคุนหลุน ก่อนหน้านี้ไม่นาน ที่นี่เพิ่งเกิดเหตุการณ์ต่อต้านทวีปโอชวินไป สุดท้ายทางฝั่งของกลุ่มสิงโตก็ได้รับชัยชนะในที่สุด
“ผมคิดไว้ว่าจะชนะ แต่ไม่คิดเลยว่าจะชนะได้อย่างง่ายดายแบบนี้” ธัชธรรมยิ้มพูดเบาๆ
“นั่นน่ะสิ ผมเองก็ได้เตรียมสละชีวิตไว้เลย” ธีรพัฒน์ก็พูดแบบเดียวกัน
รพีพงษ์ก็มองดวงอาทิตย์ที่เพิ่งโผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมา “ก่อนหน้านี้อาจจะคิดว่าสงครามครั้งสำคัญจะเกิดขึ้นที่สำนักเทพยาเซียน แต่ไม่คิดเลยว่า พวกเราจะสามารถจัดการฆ่าพวกทวีปโอชวินได้ทั้งหมดที่เขาคุนหลุนแห่งนี้ พวกมันไม่ได้เข้าใกล้แหล่งพลังทิพย์เลยด้วยซ้ำ จะว่าไปแล้ว นี่ก็เกินความคาดหมายของผมเหมือนกัน!”
“ฮ่าๆ ไม่ว่าอย่างไร เรื่องมันก็จบแล้ว หลังจากนี้ พวกเราก็ไม่ต้องไปกังวลกับทางทวีปโอชวินแล้ว” ธีรพัฒน์จับเคราของตนเอง แล้วพูดอย่างพอใจ
“นั่นสิทุกอย่างมันจบแล้ว พวกเราก็ควรจะเกษียณอายุได้แล้ว ไปหาสถานที่ในป่าเงียบๆ นั่งสงบจิตฝึกวิชาดีกว่า” ธัชธรรมก็พูดขึ้นมาเหมือนกัน
“ถูกต้อง พอถึงตอนนั้นพวกเราศิษย์อาจารย์สองคนก็ไปด้วยกัน กังฟูเสนเล่มนั้นล้ำลึกมาก ส่วนครึ่งหลังของเล่ม พวกเรายังไม่ได้เริ่มฝึกเลย” ธีรพัฒน์ยิ้มพูดกับธัชธรรม
เห็นได้ชัดว่า ยอดฝีมือแดนเทพสองคนนี้ ไม่มองทวีปโอชวินอยู่ในสายตาแล้ว
แต่ว่าคิดดูก็ใช่อยู่ ตามความคิดปกติแล้ว ยอดฝีมือระดับแดนเทพขั้นพีคทั้งสามคนถูกฆ่าตายหมด ตอนนี้ฝั่งทวีปโอชวินคงไม่กล้าจะมาท้าทายกับนักฝึกวิชาในประเทศจีนอีกแล้ว
แต่ทว่ารพีพงษ์ยังเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด “ท่านผู้อาวุโสธีรพัฒน์ ท่านธัชธรรม วันนี้ผมนักพวกคุณมา ก็เพื่อเรื่องนี้แหละครับ”
“เรื่องไหน?” ธัชธรรมถามรพีพงษ์อย่างไม่เข้าใจ
“รพีพงษ์ก็บอกว่า “ท่านทั้งสองคงยังจำได้ แสงสีแดงประหลาดในวันสงครามนั้น มันผนึกพลังจิตวิญญาณของสามพี่น้องจิรกิตติ์ไว้ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ พวกเราก็คงไม่เอาชนะมาได้อย่างง่ายดายแบบนี้”
“อืม ก็จริง พลังของแสงสีแดงนั้นแข็งแกร่งไม่เบา ผมเองก็ชื่นชม” ธีรพัฒน์พูดจากใจ
“ถูกต้องครับ ท่านผู้อาวุโสธีรพัฒน์ แสดงสีแดงนั่น ก็คือพลังจากหินลั่วหงที่ผมพกติดตัวไว้ มันแสดงพลังออกมา พูดง่ายๆ ก็คือ มีภูติปีศาจสาวคนหนึ่งด้านในนั้น เป็นคนปล่อยแสงออกมา” รพีพงษ์กล่าว
“ภูติปีศาจสาวงั้นหรือ?”
ธีรพัฒน์และธัชธรรมมองรพีพงษ์อย่างตกใจ
รพีพงษ์ก็อมยิ้มพูดว่า “ทั้งสองท่านวางใจเลยครับ ตอนนี้ภูติปีศาจสาวคนนี้เหมือนจะไม่ได้คิดร้ายอะไร เมื่อคืนนี้ เธอกลายร่างออกมาพบผม แล้วพูดเรื่องสำคัญกับผมเรื่องหนึ่ง”
“เรื่องอะไร?” ธีรพัฒน์ถาม
รพีพงษ์พูดเสียงขรึมว่า “ตอนนี้ สามพี่น้องจิรกิตติ์ได้ตายไปแล้ว และยอดฝีมือระดับแดนเทพของทวีปโอชวิน ก็ได้ถูกพวกเราฆ่าตายไปจนหมด ตามหลักแล้ว หลังสงครามนี้ พลังของทวีปโอชวินก็จะถดถอยไปมาก ไม่ต้องกังวลอะไร”
“แต่ว่า พวกแมลงร้อยขาพวกนี้ ตายแล้วแต่ยังไม่หมดสิ้น ไม่ทราบว่าทั้งสองท่านเคยได้ยินหรือไม่ว่า ในทวีปโอชวินมีเขตต้องห้าม!”
“เขตต้องห้ามงั้นหรือ?” ธีรพัฒน์ไม่เข้าใจ ธัชธรรมก็ยิ่งไม่รู้เรื่อง
รพีพงษ์พยักหน้า “นีย์เคยบอกไว้ ในเขตต้องห้ามนั้น เก็บรักษาสิ่งที่ทวีปโอชวินรอบรวมไว้หลายร้อยปี หนึ่งในนั้นก็มีวิชาลับที่สามารถเพิ่มพลังให้กับผู้ฝึกได้ในเวลาอันสั้น”
“อะไรนะ มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือนี่!”
ธีรพัฒน์ตกใจมาก ธัชธรรมก็ขมวดคิ้ว
“ทวีปโอชวินในตอนนี้ เจ้าทวีปก็คือพี่สาวของนีย์ ชื่อ ฉันท์ชนก ส่วนฉันท์ชนกเป็นคนอย่างไรนั้น จากที่เธอเคยส่งคนมาฆ่าน้องสาวตนเองครั้งนั้น ก้น่าจะรู้ได้” รพีพงษ์กล่าว
“ถ้าฉันท์ชนกเปิดเขตต้องห้ามขึ้นมา แล้วให้คนของทวีปโอชวินทุกคนเข้าไปในเขตต้องห้าม จากนั้นก็ฝึกวิชาลับพวกนั้น ไม่นาน ผมคิดว่า ทวีปโอชวินก็จะกลับมาเป็นปรปักษ์กับโลกของเราอีกแน่นอน เพราะว่า ฉันท์ชนกไม่ได้แค่ต้องการทวีปโอชวิน แต่ต้องการทั้งโลกนี้!เธออำมหิตกว่าจิรกิตติ์ และโลภกว่ามาก!”
รพีพงษ์สายตาเฉียบคม ถึงแม้จะไม่เคยเห็นฉันท์ชนก และไม่เคยคุยกับเธอ แต่ว่า จากที่นีย์บรรยายให้ฟัง และจากที่เธอไม่เข้าช่วยเหลือจิรกิตติ์และพวกนักฝึกวิชาทั้งหลายของทวีปโอชวิน รพีพงษ์ก็ยิ่งรู้ได้ว่า ผู้หญิงคนนี้มีจิตใจอำมหิตมากแค่ไหน!
“งั้นก็แสดงว่า ตอนนี้ ตัวอันตรายที่สุดของพวกเรา ก็คือฉันท์ชนกใช่ไหม?” ธีรพัฒน์ถาม
“ถูกต้อง”
“เพียงแต่……”
ธัชธรรมพูดเสียงขรึมว่า “ตอนนี้พวกเราก็ทำได้แค่เพิ่มพลังของตัวเอง ถ้าฝั่งทวีปโอชวินบุกเข้ามาอีกล่ะก็ จะได้มีพลังไปต่อสู้!แต่ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็ มันจะเหมือนถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว จะต้องทำการตั้งรับฝ่ายศัตรูตลอดเวลา!”
รพีพงษ์ก็พูดนิ่งๆ “ท่านธัชธรรม คุณพูดถูกต้องครับ ตอนแรกผมก็คิดแบบคุณ แต่ตอนนี้ เหมือนว่าจะมีวิธีที่ดีกว่านี้”
“วิธีอะไร?”
ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน
“บุกโจมตีทวีปโอชวิน!” รพีพงษ์พูดเสียงดัง
“บุกโจมตีทวีปโอชวินงั้นหรือ?” ธัชธรรมตกใจมาก
ธีรพัฒน์นิ่งไปสักพักแล้วถามว่า “พูดถูกต้อง เพียงแต่ พวกเราจะบุกไปโจมตีอย่างไรล่ะ? หรือว่าคุณมีวิธีที่สามารถหลอกล่อให้คนของทวีปโอชวินมาที่นี่ได้งั้นหรือ?”
รพีพงษ์ยิ้มมุมปาก “วิธีนี้ผมไม่มีหรอก แต่ว่าในเมื่อพวกมันไม่ยอมเข้ามา งั้นพวกเราก็บุกเข้าไปเองเลย!”
“บุกเข้าไปเองงั้นหรือ?”
“ถูกต้อง ในเมื่อพวกมันสามารถผ่านทางเชื่อมเข้ามายังที่นี่ได้ อย่างนั้นพวกเราก็สามารถผ่านทางเชื่อมไปยังทวีปโอชวินของพวกมันได้!”
รพีพงษ์พูดเสียงดัง
“เอ่อ……..” ธัชธรรมรู้สึกว่าลำบากใจขึ้นมา แล้วก็หันไปมองอาจารย์ของตนเอง
ธีรพัฒน์พูดเสียงขรึมว่า “รพีพงษ์ คุณยังไม่รู้สินะว่า ตอนแรกที่ทางเชื่อมนี้ถูกค้นพบ พวกของจิรกิตติ์รีบร้อนผ่านทางเชื่อมเข้าไปในทวีปโอชวิน ตอนนั้น ความคิดของจอมมารชูราก็เหมือนกับคุณ อยากจะผ่านทางเชื่อมนี้เข้าไปยังทวีปโอชวินเหมือนกัน แต่ใครจะรู้ จนบัดนี้ก็ยังทำไม่สำเร็จ”
“ไม่สำเร็จหรือครับ? เพราะอะไรล่ะ? ในเมื่อพวกของจิรกิตติ์ก็เข้าไปได้ แล้วทำไมจอมมารชูราถึงเข้าไปไม่ถึงล่ะครับ?” รพีพงษ์ถาม
“จะว่าไปแล้ว ทางเชื่อมนี้มันอัศจรรย์มาก ส่วนพวกของจิรกิตติ์ก็ถือว่าโชคช่วย รีบเข้าไปจนถึงทวีปโอชวินตอนเวลาเปิดทางเชื่อมพอดี แต่จากที่จอมมารชูราคำนวน ทางเชื่อมที่จะย้อนกลับเข้าไปในทวีปโอชวิน จะเปิดทุกๆ หนึ่งพันปี”
ธีรพัฒน์ก็พูดอีกว่า “ตอนนี้ เวลาเพิ่งผ่านไป200กว่าปีเอง ยังห่างจากช่วงเวลาที่จะไปถึงทวีปโอชวินอีก800ปีเต็มๆ”
รพีพงษ์ขมวดคิ้ว เขานึกถึงตอนที่ก่อนหน้านี้เข้าไปในแดนลับสระมังกร มันก็เหมือนทางเชื่อมแบบนี้ ประตูของแดนลับก็จะหลายปีเปิดหนึ่งครั้ง
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ แล้วทำไมคนของทวีปโอชวิน ถึงลงมาอยู่ที่นี่ แล้วสามารถกลับขึ้นไปทวีปโอชวินได้ล่ะ?” รพีพงษ์ถามอีกครั้ง
ธีรพัฒน์ก็ขมวดคิ้ว “หลายปีมานี้ ผมก็คิดเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ต่อได้จากการได้ฆ่าคนของทวีปโอชวินไปคนหนึ่งถึงรู้ได้ว่า ที่ทวีปโอชวินมีวิชาลับอย่างหนึ่ง สามารถดูดเศษวิญญาณไปได้ แบบนี้ก็สามารถทำให้คนพวกนี้สามารถกลับไปยังทวีปโอชวินได้”
รพีพงษ์ก็เข้าใจทุกอย่างขึ้นมาได้ ถึงว่าคนของทวีปโอชวินมักจะเหลือเศษวิญญาณหลบหนีไป แล้วค่อยสร้างกายเนื้อขึ้นมาใหม่อีก ก็จะสามารถกลับมามีชีวิตใหม่ได้
เพียงแต่ การจะสร้างกายเนื้อขึ้นมาใหม่ ต้องใช้พลังทิพย์จำนวนมาก และก็คือเหจุผลที่ว่า ทำไมคนของทวีปโอชวินถึงอยากได้พลังทิพย์ของโลกนี้มากนัก!